พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 425 กลับสำนักเต๋าสวรรค์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 425 กลับสำนักเต๋าสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงได้มาถึงเรือนของหลิงฟ่างหัวเรียบร้อยแล้ว

และเมื่อหลิงฟ่างหัวได้ยินพ่อของนางตะโกนเรียก นางจึงรีบออกไปพาหลิงตู้ฉิงเข้ามาในเรือนทันที

“ท่านพ่อ พึ่งไปหาพี่สองมาใช่ไหม? อาการของนางดีขึ้นรึยัง?” หลิงฟ่างหัวยิงคำถามก่อนทันที

“นางดีขึ้นบ้างแล้ว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

“ท่านพ่อ เราต้องคุยกันเรื่องของไอ้เลวนั่นก่อน ต่อให้ท่านไม่ยินยอมแต่ข้าจะฆ่าไอ้เลวนั่นให้ได้” หลิงฟ่างหัวพูดด้วยสีหน้าเคียดแค้น “พวกเราพี่น้องไม่เคยถูกใครดูหมิ่นแบบนี้มาก่อน ข้าสาบานว่าข้าจะทำให้มันต้องเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “พ่อได้รับปากกับว่านถิงไปแล้ว ว่าจะให้นางเป็นผู้ตัดสินชีวิตของคนผู้นั้นว่าจะอยู่หรือว่าจะตาย ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องครั้งนี้มันกระทบกับจิตใจของพี่สาวของเจ้ามากเกินไป ดังนั้นหากเจ้าเข้าไปแทรกแซงก่อนเวลาอันควร เรื่องนี้มันจะกลายเป็นทัณฑ์ทางโลกของนาง!”

หลิงฟ่างหัวกลอกตาและพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่สนใจทัณฑ์ทางโลกอะไรนั่น ข้าแค่อยากฆ่ามัน”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง! สาวน้อย ครั้งนี้พ่อไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและได้อะไรดี ๆ กลับมาให้เจ้า นี่คือสายเลือดของหนอนมิติตราบใดที่เจ้าดูดซับและเข้าใจในความสามารถของมัน ต่อให้เจ้าจะติดอยู่ในอาณาเขตสวรรค์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ เจ้าก็ยังสามารถเจาะผ่านมิติหนีออกมาได้ หรือให้พูดอีกอย่างก็คือตราบใดที่เจ้าไม่ถูกฆ่าตายภายในทันที เจ้าก็จะสามารถหนีออกมาจากสถานการณ์คับขันทุกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบขวดเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ดึงเลือดออกมาจากหนอนมิติที่อยู่ด้านในขวด

หลิงฟ่างหัวจ้อมมองมันด้วยสายตาตื่นเต้น “ขอบคุณท่านพ่อ ข้าล่ะถูกใจกับของที่ท่านเอามาให้ข้าจริง ๆ! นี่ถ้าก่อนหน้านี้ข้ามีมันนะ ข้าคงไม่ถูกพวกไอ้คนพวกนั้นต้อนจนเหนื่อยแน่นอน ฮี่ฮี่ฮี่ คราวนี้ล่ะ ข้าจะได้เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้อิสระอย่างแท้จริงและถ้าหากข้าเจอไอ้คนพวกนั้นอีกเมื่อไหร่ล่ะก็ ฮึ่ม!”

“เดี๋ยวก่อนนะ ฟ่างหัว! เจ้าอย่าได้คิดอะไรประมาทแบบนั้น!” หลิงตู้ฉิงรีบเตือน “เพียงเพราะเจ้าสามารถเจาะผ่านอาณาเขตสวรรค์ได้ มันไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้ แค่แรงกดดันจากพลังจิตของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้า นอกจากนี้หากเจ้าพบกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันหรือสูงกว่า เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีพวกเขาเหล่านั้นได้เลยเช่นกัน เพราะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันสามารถใช้เจตจำนงของพวกเขาในการเปลี่ยนแปลงกฎได้”

“ข้าเข้าใจท่านพ่อ ข้าจะไม่ไปยั่วโมโหพวกเขา!” หลิงฟ่างหัวรีบพูด

“อืม เอาล่ะ อันดับแรกเจ้าจงดูดซับเลือดของหนอนมิติก่อนแล้ว จากนั้นก็จงทำความเข้าใจกับความลับในสายเลือดของมัน อ๋อ เอาประตูมิติของเจ้าออกมาด้วย พ่อจะช่วยปรับแต่งมันให้อีกสักเล็กน้อยด้วยวัสดุที่พ่อได้มาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ซึ่งมันน่าจะทำให้ประตูของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

เนื่องจากวิชาที่เขาถ่ายทอดให้หลิงฟ่างหัวนั้นด้อยกว่าของผู้อื่นมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงมีเรื่องที่ต้องพิจารณามากมายเกี่ยวกับการพัฒนาความแข็งแกร่งให้กับหลิงฟ่างหัว

“ท่านพ่อ นี่สำหรับท่าน ท่านต้องทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกเยอะเลยนะ!” หลิงฟ่างหัวนำประตูมิติออกมามอบให้กับหลิงตู้ฉิงพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นนางก็เริ่มดูดซับสายเลือดของหนอนมิติเข้าไปในร่างกายของนาง

หลิงตู้ฉิงเมื่อได้รับประตูมิติมาแล้ว เขาจึงเดินจากไปเพื่อไปที่เรือนของหลิงไช่หยุนต่อ

ในขณะนี้หลิงไช่หยุนกำลังสนทนาอย่างออกรสกับเสี่ยวเยว่เฟิงและเสี่ยวหลิงเฟิง

แต่เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาถึง หลิงไช่หยุนก็ถามกับพ่อของนางทันที “ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าอยู่ระดับ 13 ของขอบเขตประสานทะเลปราณแล้ว ข้ายังต้องบ่มขอบเขตประสานทะเลปราณต่อไปอีกไหม?”

หลังจากที่นางยกระดับการบ่มเพาะของนางจนถึงระดับ 13 นางก็ไม่แน่ใจว่านางควรจะทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตรวมแสงดาราดีหรือเปล่า

“เจ้ารู้สึกว่าเจ้าสามารถฝึกฝนไปจนถึงระดับที่ 14 ได้รึเปล่า?” หลิงตู้ฉิงถามด้วยรอยยิ้ม

หลิงไช่หยุนมุ่ยหน้า “ข้ารู้สึกได้ถึงระดับ 14 เหมือนกัน แต่ข้าคิดว่าข้าคงต้องใช้ความพยายามมาก ๆ เลยถึงจะสามารถบรรลุไปถึงระดับนั้นได้”

หลิงตู้ฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม “แต่เดิมเจ้าไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะไปถึงระดับ 14 เพราะระดับที่ 14 สำหรับเจ้ามันอาจจะไม่ได้สำคัญเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่พ่อก็หวังว่าเจ้าจะลองพยายามไปถึงระดับที่ 14 ดูเพราะไม่ว่าจะยังไงมันก็จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้ อ๋อ แล้วอีกอย่าง พ่อได้นำของดีกลับมาให้เจ้าด้วย ของชิ้นนี้มันจะช่วยประหยัดเวลาการบ่มเพาะของเจ้าได้มากเชียวล่ะ”

หลิงไช่หยุนถอนหายใจและพูดว่า “เฮ้อ ข้าจะลองดูก็ได้ แต่มันน่าเบื่อจริง ๆ ที่ต้องนั่งบ่มเพาะทุกวัน ข้าอยากออกไปเล่นข้างนอกบ้าง”

หลิงตู้ฉิงพูดเสริมขึ้นทันที “ไช่หยุน เจ้าคือหนึ่งในไม่กี่คนของบรรดาพี่น้องของเจ้าที่สามารถบ่มเพาะไปจนถึงระดับที่ 14 ได้ ดังนั้นพ่ออยากให้เจ้าลองพยายามดูสักหน่อย ส่วนของที่พ่อนำมาให้เจ้าก็คือ เพลิงคงกระพัน และ สะเก็ดเพลิงศักดิ์สิทธิ์”

“แต่ด้วยความร้อนแรงของสะเก็ดเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีสายเลือดที่พิเศษมาก ๆ แต่เจ้าก็ยังไม่สามารถสัมผัสมันได้ในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รับอันตรายได้ ดังนั้นพ่อจะใส่มันลงไปในกงล้อเบญจธาตุ เพื่อให้เจ้าเข้าใจมันด้วยตาเปล่าไปก่อน”

“ท่านพ่อ ของสิ่งนี้ท่านจะให้มันกับข้าเลยใช่ไหม?” หลิงไช่หยุนพูดอย่างมีความสุขในขณะที่นางรับกงล้อเบญจธาตุมาไว้ในมือ

หลิงตู้ฉิงลูบหัวของหลิงไช่หยุน และหัวเราะ “กงล้อเบญจธาตุ นี้เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดเชียวล่ะ แต่น่าเสียดายที่พ่อไม่สามารถมอบให้เจ้าได้ เนื่องจากมันไม่เหมาะกับเจ้า ไว้ในอนาคตพ่อจะหาสิ่งที่เหมาะสมกว่าให้เจ้าอีกที เมื่อไหร่ที่เจ้าเข้าใจเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในกงล้อแล้วพ่อจะเอามันคืน”

กงล้อเบญจธาตุประกอบด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้น ซึ่งเป็นตัวแทนของห้าธาตุแรกกำเนิดของโลก บนโลกนี้หากไม่ใช่หลิงตู้ฉิงแล้วคงมีตัวตนอีกไม่กี่ตัวตนที่สามารถใช้มันได้

“ก็ได้ ข้าจะคืนให้ท่านพ่อหลังจากที่ข้าเข้าใจมัน” หลิงไช่หยุนยิ้มและพูดขึ้น “แต่ท่านต้องรับปากกับข้ามาก่อนว่าในรอบหน้าหากท่านจะออกไปสถานที่ไหนที่น่าสนใจท่านต้องพาข้าไปด้วย!”

“ได้เลย!” หลิงตู้ฉิงตกลงอย่างช่วยไม่ได้

ลูกสาวของเขาคนนี้ก็มีอายุปาเข้าไปหลายสิบปีแล้ว แต่นางก็ยังคงทำตัวซุกซน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกเหนื่อยใจ

อย่างไรก็ตาม หลิงไช่หยุนก็เหมือนกับอี้ลั่วเอ๋อ ด้วยประสบการณ์ทางโลกอันน้อยนิดของพวกนาง มันจึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่ถึงแม้ว่านางจะชอบความสนุกสนาน แต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะควบคุมมัน และปล่อยให้หลิงไช่หยุนค่อย ๆ เติบโตขึ้นด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากเรือนของหลิงไช่หยุน และส่งคนไปตามหลิงยี่เทียนให้มาพบ

แต่ก่อนที่หลิงยี่เทียนจะมาถึง ซือโถวเหวินหยวนกลับเป็นผู้ที่หาเขาก่อน

เมื่อซือโถวเหวินหยวนได้เข้ามาถึง เขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคียดแค้น “นายท่านข้าได้ยินมาว่ามีคนรังแกนายหญิงของข้า? โปรดนายท่านบอกกับข้าทีว่าคนเหล่านั้นมันเป็นใครกัน? เมื่อข้ากลับไปสำนักเต๋าสวรรค์ ข้าจะได้รายงานเรื่องนี้ไปยังเหล่าบรรพบุรุษของข้าให้มาทำลายพวกเขาซะ!”

หลิงว่านถิงนับได้ว่าเป็นตัวตนที่ล้ำค่าที่สุดของสำนักเต๋าสวรรค์ของพวกเขา ตอนนี้นางถูกรังแกเขาย่อมโกรธแค้นเป็นอย่างมาก

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่ซือโถวเหวินหยวน และพูดว่า “เจ้ามาได้ถูกเวลาจริง ๆ ข้าเองกำลังจะให้คนไปตามเจ้าเข้ามาพอดี ข้าต้องการให้เจ้ากลับไปที่สำนักเต๋าสวรรค์เพื่อให้เจ้าไปตามคนที่มีความสามารถพอของสำนักเจ้ามาที่นี่ เพื่อให้คนผู้นั้นคุ้มกันว่านถิงไปที่สำนักของพวกเจ้า”

“นายท่านอนุญาตให้เรามารับนายหญิงแล้วงั้นเหรอ?” ซือโถวเหวินหยวนประหลาดใจ เท่าที่เขาเคยคิดหลิงตู้ฉิงจะฝึกฝนหลิงว่านถิงให้ถึงในระดับหนึ่งก่อนที่จะส่งตัวนางไปที่สำนักของเขา เขาไม่คาดคิดว่าหลิงตู้ฉิงจะส่งนางในตอนนี้

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างชัดเจนว่า “ตอนนี้ว่านถิงมีอารมณ์ที่ไม่มั่นคงและนางก็อยากจะออกไปท่องโลกภายนอก ดังนั้นข้าจึงคิดว่าการให้นางไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้านั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากคนที่สำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้าส่งมานั้นไม่มีความสามารถเพียงพอจนทำให้ในระหว่างการเดินทางลูกของข้าต้องประสบปัญหาใด ๆ ก็ตาม พวกเจ้าจงเตรียมใจเอาไว้เลยว่าข้าจะไปคิดบัญชีกับพวกเจ้าแน่ ๆ พูดตามตรงนอกจากวิธีการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมแล้วสำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้ามันก็ไม่มีอะไรที่ดูน่าสนใจมากไปกว่านั้นเลย”

ซือโถวเหวินหยวนรู้สึกผิดและพูดว่า “นายท่าน สำนักเต๋าสวรรค์ของเรายังคงมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่น่าสนใจ…”

“ไปจัดการเรื่องนี้ให้ดี แล้วข้าจะให้ผลประโยชน์บางอย่างแก่เจ้าเมื่อถึงเวลา!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น

“ขอบคุณ นายท่าน!” ซือโถวเหวินหยวนรีบพูด

“ไปได้แล้ว!” หลิงตู้ฉิงโบกมือให้เขาออกไป

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าและหันหลังจากไปทันที ขณะนี้ในใจของเขาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการพาหลิงว่านถิงไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ ส่วนปัญหาของหลิงว่านถิง หลังจากที่เขารายงานให้เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเต๋าสวรรค์ทราบแล้วเขามั่นใจว่าสำนักของเขาจะต้องส่งคนมาจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 425 กลับสำนักเต๋าสวรรค์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 425 กลับสำนักเต๋าสวรรค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงได้มาถึงเรือนของหลิงฟ่างหัวเรียบร้อยแล้ว

และเมื่อหลิงฟ่างหัวได้ยินพ่อของนางตะโกนเรียก นางจึงรีบออกไปพาหลิงตู้ฉิงเข้ามาในเรือนทันที

“ท่านพ่อ พึ่งไปหาพี่สองมาใช่ไหม? อาการของนางดีขึ้นรึยัง?” หลิงฟ่างหัวยิงคำถามก่อนทันที

“นางดีขึ้นบ้างแล้ว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า

“ท่านพ่อ เราต้องคุยกันเรื่องของไอ้เลวนั่นก่อน ต่อให้ท่านไม่ยินยอมแต่ข้าจะฆ่าไอ้เลวนั่นให้ได้” หลิงฟ่างหัวพูดด้วยสีหน้าเคียดแค้น “พวกเราพี่น้องไม่เคยถูกใครดูหมิ่นแบบนี้มาก่อน ข้าสาบานว่าข้าจะทำให้มันต้องเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “พ่อได้รับปากกับว่านถิงไปแล้ว ว่าจะให้นางเป็นผู้ตัดสินชีวิตของคนผู้นั้นว่าจะอยู่หรือว่าจะตาย ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องครั้งนี้มันกระทบกับจิตใจของพี่สาวของเจ้ามากเกินไป ดังนั้นหากเจ้าเข้าไปแทรกแซงก่อนเวลาอันควร เรื่องนี้มันจะกลายเป็นทัณฑ์ทางโลกของนาง!”

หลิงฟ่างหัวกลอกตาและพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่สนใจทัณฑ์ทางโลกอะไรนั่น ข้าแค่อยากฆ่ามัน”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างหมดหนทาง “เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง! สาวน้อย ครั้งนี้พ่อไปที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและได้อะไรดี ๆ กลับมาให้เจ้า นี่คือสายเลือดของหนอนมิติตราบใดที่เจ้าดูดซับและเข้าใจในความสามารถของมัน ต่อให้เจ้าจะติดอยู่ในอาณาเขตสวรรค์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ เจ้าก็ยังสามารถเจาะผ่านมิติหนีออกมาได้ หรือให้พูดอีกอย่างก็คือตราบใดที่เจ้าไม่ถูกฆ่าตายภายในทันที เจ้าก็จะสามารถหนีออกมาจากสถานการณ์คับขันทุกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็หยิบขวดเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ดึงเลือดออกมาจากหนอนมิติที่อยู่ด้านในขวด

หลิงฟ่างหัวจ้อมมองมันด้วยสายตาตื่นเต้น “ขอบคุณท่านพ่อ ข้าล่ะถูกใจกับของที่ท่านเอามาให้ข้าจริง ๆ! นี่ถ้าก่อนหน้านี้ข้ามีมันนะ ข้าคงไม่ถูกพวกไอ้คนพวกนั้นต้อนจนเหนื่อยแน่นอน ฮี่ฮี่ฮี่ คราวนี้ล่ะ ข้าจะได้เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้อิสระอย่างแท้จริงและถ้าหากข้าเจอไอ้คนพวกนั้นอีกเมื่อไหร่ล่ะก็ ฮึ่ม!”

“เดี๋ยวก่อนนะ ฟ่างหัว! เจ้าอย่าได้คิดอะไรประมาทแบบนั้น!” หลิงตู้ฉิงรีบเตือน “เพียงเพราะเจ้าสามารถเจาะผ่านอาณาเขตสวรรค์ได้ มันไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ได้ แค่แรงกดดันจากพลังจิตของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้า นอกจากนี้หากเจ้าพบกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันหรือสูงกว่า เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีพวกเขาเหล่านั้นได้เลยเช่นกัน เพราะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันสามารถใช้เจตจำนงของพวกเขาในการเปลี่ยนแปลงกฎได้”

“ข้าเข้าใจท่านพ่อ ข้าจะไม่ไปยั่วโมโหพวกเขา!” หลิงฟ่างหัวรีบพูด

“อืม เอาล่ะ อันดับแรกเจ้าจงดูดซับเลือดของหนอนมิติก่อนแล้ว จากนั้นก็จงทำความเข้าใจกับความลับในสายเลือดของมัน อ๋อ เอาประตูมิติของเจ้าออกมาด้วย พ่อจะช่วยปรับแต่งมันให้อีกสักเล็กน้อยด้วยวัสดุที่พ่อได้มาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ซึ่งมันน่าจะทำให้ประตูของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง” หลิงตู้ฉิงยิ้ม

เนื่องจากวิชาที่เขาถ่ายทอดให้หลิงฟ่างหัวนั้นด้อยกว่าของผู้อื่นมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงมีเรื่องที่ต้องพิจารณามากมายเกี่ยวกับการพัฒนาความแข็งแกร่งให้กับหลิงฟ่างหัว

“ท่านพ่อ นี่สำหรับท่าน ท่านต้องทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นอีกเยอะเลยนะ!” หลิงฟ่างหัวนำประตูมิติออกมามอบให้กับหลิงตู้ฉิงพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นนางก็เริ่มดูดซับสายเลือดของหนอนมิติเข้าไปในร่างกายของนาง

หลิงตู้ฉิงเมื่อได้รับประตูมิติมาแล้ว เขาจึงเดินจากไปเพื่อไปที่เรือนของหลิงไช่หยุนต่อ

ในขณะนี้หลิงไช่หยุนกำลังสนทนาอย่างออกรสกับเสี่ยวเยว่เฟิงและเสี่ยวหลิงเฟิง

แต่เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาถึง หลิงไช่หยุนก็ถามกับพ่อของนางทันที “ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าอยู่ระดับ 13 ของขอบเขตประสานทะเลปราณแล้ว ข้ายังต้องบ่มขอบเขตประสานทะเลปราณต่อไปอีกไหม?”

หลังจากที่นางยกระดับการบ่มเพาะของนางจนถึงระดับ 13 นางก็ไม่แน่ใจว่านางควรจะทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตรวมแสงดาราดีหรือเปล่า

“เจ้ารู้สึกว่าเจ้าสามารถฝึกฝนไปจนถึงระดับที่ 14 ได้รึเปล่า?” หลิงตู้ฉิงถามด้วยรอยยิ้ม

หลิงไช่หยุนมุ่ยหน้า “ข้ารู้สึกได้ถึงระดับ 14 เหมือนกัน แต่ข้าคิดว่าข้าคงต้องใช้ความพยายามมาก ๆ เลยถึงจะสามารถบรรลุไปถึงระดับนั้นได้”

หลิงตู้ฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม “แต่เดิมเจ้าไม่จำเป็นต้องบ่มเพาะไปถึงระดับ 14 เพราะระดับที่ 14 สำหรับเจ้ามันอาจจะไม่ได้สำคัญเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่พ่อก็หวังว่าเจ้าจะลองพยายามไปถึงระดับที่ 14 ดูเพราะไม่ว่าจะยังไงมันก็จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้ อ๋อ แล้วอีกอย่าง พ่อได้นำของดีกลับมาให้เจ้าด้วย ของชิ้นนี้มันจะช่วยประหยัดเวลาการบ่มเพาะของเจ้าได้มากเชียวล่ะ”

หลิงไช่หยุนถอนหายใจและพูดว่า “เฮ้อ ข้าจะลองดูก็ได้ แต่มันน่าเบื่อจริง ๆ ที่ต้องนั่งบ่มเพาะทุกวัน ข้าอยากออกไปเล่นข้างนอกบ้าง”

หลิงตู้ฉิงพูดเสริมขึ้นทันที “ไช่หยุน เจ้าคือหนึ่งในไม่กี่คนของบรรดาพี่น้องของเจ้าที่สามารถบ่มเพาะไปจนถึงระดับที่ 14 ได้ ดังนั้นพ่ออยากให้เจ้าลองพยายามดูสักหน่อย ส่วนของที่พ่อนำมาให้เจ้าก็คือ เพลิงคงกระพัน และ สะเก็ดเพลิงศักดิ์สิทธิ์”

“แต่ด้วยความร้อนแรงของสะเก็ดเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีสายเลือดที่พิเศษมาก ๆ แต่เจ้าก็ยังไม่สามารถสัมผัสมันได้ในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รับอันตรายได้ ดังนั้นพ่อจะใส่มันลงไปในกงล้อเบญจธาตุ เพื่อให้เจ้าเข้าใจมันด้วยตาเปล่าไปก่อน”

“ท่านพ่อ ของสิ่งนี้ท่านจะให้มันกับข้าเลยใช่ไหม?” หลิงไช่หยุนพูดอย่างมีความสุขในขณะที่นางรับกงล้อเบญจธาตุมาไว้ในมือ

หลิงตู้ฉิงลูบหัวของหลิงไช่หยุน และหัวเราะ “กงล้อเบญจธาตุ นี้เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดเชียวล่ะ แต่น่าเสียดายที่พ่อไม่สามารถมอบให้เจ้าได้ เนื่องจากมันไม่เหมาะกับเจ้า ไว้ในอนาคตพ่อจะหาสิ่งที่เหมาะสมกว่าให้เจ้าอีกที เมื่อไหร่ที่เจ้าเข้าใจเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในกงล้อแล้วพ่อจะเอามันคืน”

กงล้อเบญจธาตุประกอบด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้น ซึ่งเป็นตัวแทนของห้าธาตุแรกกำเนิดของโลก บนโลกนี้หากไม่ใช่หลิงตู้ฉิงแล้วคงมีตัวตนอีกไม่กี่ตัวตนที่สามารถใช้มันได้

“ก็ได้ ข้าจะคืนให้ท่านพ่อหลังจากที่ข้าเข้าใจมัน” หลิงไช่หยุนยิ้มและพูดขึ้น “แต่ท่านต้องรับปากกับข้ามาก่อนว่าในรอบหน้าหากท่านจะออกไปสถานที่ไหนที่น่าสนใจท่านต้องพาข้าไปด้วย!”

“ได้เลย!” หลิงตู้ฉิงตกลงอย่างช่วยไม่ได้

ลูกสาวของเขาคนนี้ก็มีอายุปาเข้าไปหลายสิบปีแล้ว แต่นางก็ยังคงทำตัวซุกซน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกเหนื่อยใจ

อย่างไรก็ตาม หลิงไช่หยุนก็เหมือนกับอี้ลั่วเอ๋อ ด้วยประสบการณ์ทางโลกอันน้อยนิดของพวกนาง มันจึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่ถึงแม้ว่านางจะชอบความสนุกสนาน แต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะควบคุมมัน และปล่อยให้หลิงไช่หยุนค่อย ๆ เติบโตขึ้นด้วยตัวเอง

หลังจากนั้นเขาก็ออกจากเรือนของหลิงไช่หยุน และส่งคนไปตามหลิงยี่เทียนให้มาพบ

แต่ก่อนที่หลิงยี่เทียนจะมาถึง ซือโถวเหวินหยวนกลับเป็นผู้ที่หาเขาก่อน

เมื่อซือโถวเหวินหยวนได้เข้ามาถึง เขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคียดแค้น “นายท่านข้าได้ยินมาว่ามีคนรังแกนายหญิงของข้า? โปรดนายท่านบอกกับข้าทีว่าคนเหล่านั้นมันเป็นใครกัน? เมื่อข้ากลับไปสำนักเต๋าสวรรค์ ข้าจะได้รายงานเรื่องนี้ไปยังเหล่าบรรพบุรุษของข้าให้มาทำลายพวกเขาซะ!”

หลิงว่านถิงนับได้ว่าเป็นตัวตนที่ล้ำค่าที่สุดของสำนักเต๋าสวรรค์ของพวกเขา ตอนนี้นางถูกรังแกเขาย่อมโกรธแค้นเป็นอย่างมาก

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่ซือโถวเหวินหยวน และพูดว่า “เจ้ามาได้ถูกเวลาจริง ๆ ข้าเองกำลังจะให้คนไปตามเจ้าเข้ามาพอดี ข้าต้องการให้เจ้ากลับไปที่สำนักเต๋าสวรรค์เพื่อให้เจ้าไปตามคนที่มีความสามารถพอของสำนักเจ้ามาที่นี่ เพื่อให้คนผู้นั้นคุ้มกันว่านถิงไปที่สำนักของพวกเจ้า”

“นายท่านอนุญาตให้เรามารับนายหญิงแล้วงั้นเหรอ?” ซือโถวเหวินหยวนประหลาดใจ เท่าที่เขาเคยคิดหลิงตู้ฉิงจะฝึกฝนหลิงว่านถิงให้ถึงในระดับหนึ่งก่อนที่จะส่งตัวนางไปที่สำนักของเขา เขาไม่คาดคิดว่าหลิงตู้ฉิงจะส่งนางในตอนนี้

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างชัดเจนว่า “ตอนนี้ว่านถิงมีอารมณ์ที่ไม่มั่นคงและนางก็อยากจะออกไปท่องโลกภายนอก ดังนั้นข้าจึงคิดว่าการให้นางไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้านั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากคนที่สำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้าส่งมานั้นไม่มีความสามารถเพียงพอจนทำให้ในระหว่างการเดินทางลูกของข้าต้องประสบปัญหาใด ๆ ก็ตาม พวกเจ้าจงเตรียมใจเอาไว้เลยว่าข้าจะไปคิดบัญชีกับพวกเจ้าแน่ ๆ พูดตามตรงนอกจากวิธีการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมแล้วสำนักเต๋าสวรรค์ของเจ้ามันก็ไม่มีอะไรที่ดูน่าสนใจมากไปกว่านั้นเลย”

ซือโถวเหวินหยวนรู้สึกผิดและพูดว่า “นายท่าน สำนักเต๋าสวรรค์ของเรายังคงมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่น่าสนใจ…”

“ไปจัดการเรื่องนี้ให้ดี แล้วข้าจะให้ผลประโยชน์บางอย่างแก่เจ้าเมื่อถึงเวลา!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น

“ขอบคุณ นายท่าน!” ซือโถวเหวินหยวนรีบพูด

“ไปได้แล้ว!” หลิงตู้ฉิงโบกมือให้เขาออกไป

ซือโถวเหวินหยวนพยักหน้าและหันหลังจากไปทันที ขณะนี้ในใจของเขาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการพาหลิงว่านถิงไปที่สำนักเต๋าสวรรค์ ส่วนปัญหาของหลิงว่านถิง หลังจากที่เขารายงานให้เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเต๋าสวรรค์ทราบแล้วเขามั่นใจว่าสำนักของเขาจะต้องส่งคนมาจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+