พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 536 ประลองกับรุ่นเยาว์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 536 ประลองกับรุ่นเยาว์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 536 ประลองกับรุ่นเยาว์

เช้าวันต่อมา

ทางด้านของเย่ชิงเฉิง ตอนนี้นางคุยกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเป็นกังวล “สามี ท่าทีของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ทำให้ข้าเป็นกังวลกับสถานการณ์ของสำนักข้า ข้าคิดว่าถ้าหากสำนักของข้าไม่มีปัญหาภายในเหมือนเช่นตอนนี้ สำนักวารีศักดิ์สิทธิ์คงไม่กล้าแสดงท่าทีเย็นชาแบบนี้กับข้าแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ต่อให้สำนักของเจ้ามีปัญหาจริง ๆ แม่ของเจ้าที่อยู่ในขอบเขตราชันขั้นกลางก็สามารถหนีออกมาได้โดยไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้านางไม่คิดสู้จนตัวตายน่ะนะ ส่วนพ่อของเจ้าก็ติดอยู่ในหมอกนั่นไม่ใช่รึไง?”

“แต่ข้าก็ยังกังวลว่า…” เย่ชิงเฉิงเอ่ยขึ้น

หลิงตู้ฉิงพูดแทรกขึ้น “มันก็แค่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นเอง หากมันถูกยึดไปเราก็ไปยึดคืนมาแค่นั้นก็จบปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอไง? ตราบใดที่ข้ายังอยู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก”

เย่ชิงเฉิงถอนหายใจ “เฮ้อ ถ้าหากระดับการบ่มเพาะสูงกว่านี้สักหน่อยก็คงดี”

นางรู้เป็นอย่างดีว่ายิ่งหลิงตู้ฉิงมีระดับการบ่มเพาะสูงมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสามารถนำเอาวิธีการต่าง ๆ ที่น่าอัศจรรย์ใจของเขาออกมาใช้ได้มากขึ้นเท่านั้น

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขามีระดับการบ่มเพาะอยู่เพียงแค่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13

“ระดับการบ่มเพาะของข้าในตอนนี้มันก็พัฒนาเร็วที่สุดแล้ว!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าคิดว่าอีกไม่นานข้าก็สามารถบรรลุไปถึงระดับ 14 ได้แล้วล่ะ”

“นี่ท่านสามารถบรรลุไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 ได้เลยงั้นเหรอ?” เย่ชิงเฉิงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ

มันมีคนจำนวนไม่มากนักที่สามารถบรรลุไปถึงระดับนั้นได้

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “ข้าจะด้อยกว่าชีวิตที่แล้วของข้าได้ยังไงจริงไหม?”

“สามี ท่านพอจะเล่าให้ข้าฟังบ้างได้ไหมว่าเมื่อก่อนท่านทำอะไรมาบ้าง? หรือไม่ถ้าให้ดีที่สุดท่านช่วยบอกข้าได้ไหมว่าจริง ๆ แล้วชีวิตที่แล้วท่านคือใครกันแน่?” เย่ชิงเฉิงมองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าคาดหวัง

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ในตอนนี้มันยังคงไม่เหมาะที่เจ้าจะรู้ว่าตัวตนของข้านั้นคือใคร ส่วนเรื่องที่ข้าเคยทำอะไรมาบ้างก็…ทุก ๆ วันข้าก็แค่ต่อสู้กับผู้คนเพื่อความอยู่รอดไปเรื่อย ๆ”

ในชีวิตที่แล้วของเขา หากเขาไม่ใช่ผู้ไล่ล่า เขาก็ถูกไล่ล่าแทนแต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นศัตรูของเขาทั้งหมดที่ตายลง

การฆ่าคือส่วนประกอบหลักในชีวิตที่แล้วของเขา

เย่ชิงเฉิงยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าท่านจะชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจสินะ”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “มันไม่ใช่ว่าข้าชอบต่อสู้หรอก แต่บังเอิญว่ามัน…”

เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรต่อไป เนื่องจากว่าในชีวิตที่แล้วของเขา เขาไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการบ่มเพาะและการฆ่า

ในระหว่างที่เขากำลังคิดคำตอบไม่ออก จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้คนจำนวนมากตะโกนโหวกเหวกอยู่ตรงชายหาดหน้าเกาะของพวกเขา

“มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเจ้าสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากการปิดด่านแล้ว?” เย่ชิงเฉิงรู้สึกงุนงง จากนั้นนางจึงรีบเดินออกไปดูสถานการณ์ที่ด้านนอกเรือนกับหลิงตู้ฉิง

จากนั้นเมื่อออกจากเรือน นางก็เห็นว่าในตอนนี้มีบรรดาศิษย์ของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์จำนวน 17 คนได้มายืนอยู่ตรงชายหาดบนเกาะของพวกเขา ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นชายหนุ่ม

ทันทีที่บรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์เห็นเย่ชิงเฉิง พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาและต่างรุมกันมอบของขวัญล้ำค่าให้กับนางและพูดว่า “คุณหนูเย่ พวกเรานึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าท่านจะให้เกียรติมาเยือนสำนักของพวกเราเช่นนี้ แต่ดูสิทำไมสำนักของข้าถึงได้จัดที่พักแบบนี้ให้กับคุณหนูเย่ก็ไม่รู้? เอาแบบนี้ไหมคุณหนูเย่ ข้าขอเสียสละเรือนของข้าให้ท่านไปพักที่เรือนของข้าเป็นการชั่วคราวก่อนจะดีกว่าไหม?”

“คุณหนูเย่ ข้านั้นชื่นชมในตัวคุณหนูมานานแล้ว ท่านจะรังเกียจไหมหากข้าขอเชิญท่านไปเที่ยวเล่นที่เกาะขอนไม้ที่ข้าอาศัยอยู่?”

“คุณหนูเย่ อันที่จริงแล้วข้าชอบท่าน!”

“…….”

เสียงของชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดต่างประดังประเดขึ้นพร้อม ๆ กันไปหาเย่ชิงเฉิง

เย่ชิงเฉิงมองไปที่ชายหนุ่มเหล่านี้ จากนั้นนางก็คล้องแขนหลิงต็ฉิง และพูดว่า “พวกเจ้าโปรดกลับไป ข้ามีสามีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่อยู่ สามีของข้าพอใจกับที่นี่แล้ว ดังนั้นข้าคงไม่ย้ายออกไปที่ไหนอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดก็หยุดพูดทันที พวกเขาต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตารังเกียจ

ชายร่างสูงผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น “ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่คุณหนูเย่มีสามีแล้ว ว่าแต่น้องชาย เจ้าเป็นใครกันงั้นเหรอ? สามารถแต่งงานกับคุณหนูเย่ได้ข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่ธรรมดาสินะ จะว่าอะไรไหมหากข้าจะขอแลกเปลี่ยนวิชากับเจ้าสักหน่อย แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้าในเรื่องของระดับการบ่มเพาะแน่นอน เดี๋ยวข้าจะลดระดับการบ่มเพาะของข้าให้เท่ากับเจ้าเอง!”

ชายหนุ่มร่างผอมอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเช่นกัน “ระดับการบ่มเพาะขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13? คนอย่างเจ้ามาแต่งงานกับคุณหนูเย่ได้ยังไง? มา! ออกมาเจอกับข้าหน่อย ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้ามีดีอะไร!”

ในตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดต่างพูดจายั่วยุท้าประลองหลิงตู้ฉิงกันยกใหญ่

หลิงตู้ฉิงหันมองไปยังเย่ชิงเฉิง และพูดว่า “เจ้าเห็นแล้วนะว่าข้าไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน”

เย่ชิงเฉิงแสดงสีหน้ากังวล และพูดว่า “สามี เดี๋ยวข้าจะให้โม่เอ๋อไล่พวกเขาไปเอง!”

อันที่จริงที่นางแสดงสีหน้ากังวล นางไม่ได้กังวลว่าหลิงตู้ฉิงจะเป็นอันตราย แต่นางกังวลว่าหลิงตู้ฉิงจะลงโทษสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นยังไงมากกว่า

โม่เอ๋อก้าวออกมาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยันทันที “พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถเอาชนะนายท่านของข้าได้ด้วยระดับการบ่มเพาะแค่นี้ของพวกเจ้างั้นเหรอ? จงกลับไปฝึกมาใหม่อีกสักหมื่นปีก่อนเถอะ!”

นางเตรียมพร้อมที่จะลงมือกับคนเหล่านี้แล้ว

แต่ก่อนที่โม่เอ๋อจะลงมือ บรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ก็เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว “เฮ้น้องชาย! อย่าบอกนะว่าเจ้าจะหลบอยู่หลังผู้หญิงแบบนี้ไม่กล้าออกมาสู้กับพวกข้า?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขายกมือขึ้นปรามโม่เอ๋อ และพูดว่า “เจ้าอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวข้าลงมือเอง”

เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะลงมือเองทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึง

“สามี ท่านจะฆ่าพวกเขาไม่ได้นะ!” เย่ชิงเฉิงรีบเอ่ยขึ้นกับเขาทางโทรจิต

“นายท่าน ด้วยสถานะของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองหรอก เดี๋ยวข้าจะจัดการกับพวกเขาให้ท่านเอง!” เสี่ยวเยว่เฟิงและหลงเฉินต่างก็เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมกัน

แม้แต่โม่เอ๋อและเย่หยูหลันก็รู้สึกพูดไม่ออก

ท่านเป็นตัวตนถึงระดับไหนกัน? มันจำเป็นที่ท่านจะต้องมานั่งออกแรงด้วยตัวเองกับเด็กพวกนี้ที่ระดับการบ่มเพาะยังไม่ถึงขอบเขตสวรรค์ด้วยซ้ำงั้นเหรอ?

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและเดินออกไปหาเหล่าศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ และพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าต้องการจะลองของ งั้นก็จงเข้ามาประลองกับข้าทีละคน แต่ข้าขอเตือนพวกเจ้าเอาไว้ก่อนข้าเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกลด้วย ดังนั้นจงระวังตัวเอาไว้สักหน่อยก็แล้วกัน”

หากเป็นในสถานการณ์อื่น เขาคงไม่ลงมือด้วยตัวเองแบบนี้ เพราะการประลองกับเด็กแบบนี้มันมีแต่เสียเวลา

แต่ในตอนนี้ที่เขาลงมือด้วยตัวเองก็เพราะว่าเขามีแผนอื่นในใจ เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะใช้ประโยชน์จากการประลองกับเด็กพวกนี้ดึงกฎแห่งสวรรค์และโลกขึ้นมาหาจุดที่เทพีหลิงเปาเคยใช้ในการบ่มเพาะในอดีต ซึ่งมันคือจุดที่เขาตั้งเป้าไว้ว่าเขาจะใช้มันบ่มเพาะร่างกายวารีของเขา

อันที่จริง หลิงตู้ฉิงสามารถหาจุดที่เทพีหลิงเปาเคยใช้ในการบ่มเพาะในอดีตได้ด้วยตัวเองได้ก็จริง แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีโอกาสใช้อีกวิธีที่มันง่ายกว่าเดิมดัง นั้นขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธมันไป

ทางด้านของบรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกล พวกเขาเริ่มรู้สึกกดดันทันที

เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกลนั้นไม่สามารถถูกวัดความแข็งแกร่งได้จากระดับการบ่มเพาะ ความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกลนั้นมันวัดจากความเข้าใจในกฎของสวรรค์และโลก ยิ่งมีความเข้าใจมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งก็ยิ่งมีมากขึ้นตาม ซึ่งต่อให้จะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เหนือกว่าตัวเองได้ถึง 2 ขอบเขต

ชายร่างสูงเอ่ยขึ้นก่อนคนแรก “ในเมื่อเจ้าเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกล งั้นข้าจะขอสู้กับเจ้าด้วยระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของข้า ข้ามีนามว่า จุนซี ระดับการบ่มเพาะขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 11!”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พร้อมเมื่อไหร่ก็ลงมือได้เลย ไม่ต้องรอสัญญาณจากข้า”

จุนซีตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ถ้างั้นข้าคงต้องขอล่วงเกินแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 536 ประลองกับรุ่นเยาว์

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 536 ประลองกับรุ่นเยาว์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 536 ประลองกับรุ่นเยาว์

เช้าวันต่อมา

ทางด้านของเย่ชิงเฉิง ตอนนี้นางคุยกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเป็นกังวล “สามี ท่าทีของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ทำให้ข้าเป็นกังวลกับสถานการณ์ของสำนักข้า ข้าคิดว่าถ้าหากสำนักของข้าไม่มีปัญหาภายในเหมือนเช่นตอนนี้ สำนักวารีศักดิ์สิทธิ์คงไม่กล้าแสดงท่าทีเย็นชาแบบนี้กับข้าแน่นอน”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ต่อให้สำนักของเจ้ามีปัญหาจริง ๆ แม่ของเจ้าที่อยู่ในขอบเขตราชันขั้นกลางก็สามารถหนีออกมาได้โดยไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้านางไม่คิดสู้จนตัวตายน่ะนะ ส่วนพ่อของเจ้าก็ติดอยู่ในหมอกนั่นไม่ใช่รึไง?”

“แต่ข้าก็ยังกังวลว่า…” เย่ชิงเฉิงเอ่ยขึ้น

หลิงตู้ฉิงพูดแทรกขึ้น “มันก็แค่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นเอง หากมันถูกยึดไปเราก็ไปยึดคืนมาแค่นั้นก็จบปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอไง? ตราบใดที่ข้ายังอยู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก”

เย่ชิงเฉิงถอนหายใจ “เฮ้อ ถ้าหากระดับการบ่มเพาะสูงกว่านี้สักหน่อยก็คงดี”

นางรู้เป็นอย่างดีว่ายิ่งหลิงตู้ฉิงมีระดับการบ่มเพาะสูงมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสามารถนำเอาวิธีการต่าง ๆ ที่น่าอัศจรรย์ใจของเขาออกมาใช้ได้มากขึ้นเท่านั้น

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขามีระดับการบ่มเพาะอยู่เพียงแค่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13

“ระดับการบ่มเพาะของข้าในตอนนี้มันก็พัฒนาเร็วที่สุดแล้ว!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าคิดว่าอีกไม่นานข้าก็สามารถบรรลุไปถึงระดับ 14 ได้แล้วล่ะ”

“นี่ท่านสามารถบรรลุไปถึงขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 14 ได้เลยงั้นเหรอ?” เย่ชิงเฉิงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ

มันมีคนจำนวนไม่มากนักที่สามารถบรรลุไปถึงระดับนั้นได้

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “ข้าจะด้อยกว่าชีวิตที่แล้วของข้าได้ยังไงจริงไหม?”

“สามี ท่านพอจะเล่าให้ข้าฟังบ้างได้ไหมว่าเมื่อก่อนท่านทำอะไรมาบ้าง? หรือไม่ถ้าให้ดีที่สุดท่านช่วยบอกข้าได้ไหมว่าจริง ๆ แล้วชีวิตที่แล้วท่านคือใครกันแน่?” เย่ชิงเฉิงมองไปยังหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าคาดหวัง

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ในตอนนี้มันยังคงไม่เหมาะที่เจ้าจะรู้ว่าตัวตนของข้านั้นคือใคร ส่วนเรื่องที่ข้าเคยทำอะไรมาบ้างก็…ทุก ๆ วันข้าก็แค่ต่อสู้กับผู้คนเพื่อความอยู่รอดไปเรื่อย ๆ”

ในชีวิตที่แล้วของเขา หากเขาไม่ใช่ผู้ไล่ล่า เขาก็ถูกไล่ล่าแทนแต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นศัตรูของเขาทั้งหมดที่ตายลง

การฆ่าคือส่วนประกอบหลักในชีวิตที่แล้วของเขา

เย่ชิงเฉิงยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าท่านจะชอบการต่อสู้เป็นชีวิตจิตใจสินะ”

หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “มันไม่ใช่ว่าข้าชอบต่อสู้หรอก แต่บังเอิญว่ามัน…”

เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรต่อไป เนื่องจากว่าในชีวิตที่แล้วของเขา เขาไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการบ่มเพาะและการฆ่า

ในระหว่างที่เขากำลังคิดคำตอบไม่ออก จู่ ๆ ก็มีเสียงของผู้คนจำนวนมากตะโกนโหวกเหวกอยู่ตรงชายหาดหน้าเกาะของพวกเขา

“มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเจ้าสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากการปิดด่านแล้ว?” เย่ชิงเฉิงรู้สึกงุนงง จากนั้นนางจึงรีบเดินออกไปดูสถานการณ์ที่ด้านนอกเรือนกับหลิงตู้ฉิง

จากนั้นเมื่อออกจากเรือน นางก็เห็นว่าในตอนนี้มีบรรดาศิษย์ของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์จำนวน 17 คนได้มายืนอยู่ตรงชายหาดบนเกาะของพวกเขา ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นชายหนุ่ม

ทันทีที่บรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์เห็นเย่ชิงเฉิง พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาและต่างรุมกันมอบของขวัญล้ำค่าให้กับนางและพูดว่า “คุณหนูเย่ พวกเรานึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าท่านจะให้เกียรติมาเยือนสำนักของพวกเราเช่นนี้ แต่ดูสิทำไมสำนักของข้าถึงได้จัดที่พักแบบนี้ให้กับคุณหนูเย่ก็ไม่รู้? เอาแบบนี้ไหมคุณหนูเย่ ข้าขอเสียสละเรือนของข้าให้ท่านไปพักที่เรือนของข้าเป็นการชั่วคราวก่อนจะดีกว่าไหม?”

“คุณหนูเย่ ข้านั้นชื่นชมในตัวคุณหนูมานานแล้ว ท่านจะรังเกียจไหมหากข้าขอเชิญท่านไปเที่ยวเล่นที่เกาะขอนไม้ที่ข้าอาศัยอยู่?”

“คุณหนูเย่ อันที่จริงแล้วข้าชอบท่าน!”

“…….”

เสียงของชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดต่างประดังประเดขึ้นพร้อม ๆ กันไปหาเย่ชิงเฉิง

เย่ชิงเฉิงมองไปที่ชายหนุ่มเหล่านี้ จากนั้นนางก็คล้องแขนหลิงต็ฉิง และพูดว่า “พวกเจ้าโปรดกลับไป ข้ามีสามีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่อยู่ สามีของข้าพอใจกับที่นี่แล้ว ดังนั้นข้าคงไม่ย้ายออกไปที่ไหนอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดก็หยุดพูดทันที พวกเขาต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตารังเกียจ

ชายร่างสูงผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น “ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่คุณหนูเย่มีสามีแล้ว ว่าแต่น้องชาย เจ้าเป็นใครกันงั้นเหรอ? สามารถแต่งงานกับคุณหนูเย่ได้ข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่ธรรมดาสินะ จะว่าอะไรไหมหากข้าจะขอแลกเปลี่ยนวิชากับเจ้าสักหน่อย แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้าในเรื่องของระดับการบ่มเพาะแน่นอน เดี๋ยวข้าจะลดระดับการบ่มเพาะของข้าให้เท่ากับเจ้าเอง!”

ชายหนุ่มร่างผอมอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเช่นกัน “ระดับการบ่มเพาะขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13? คนอย่างเจ้ามาแต่งงานกับคุณหนูเย่ได้ยังไง? มา! ออกมาเจอกับข้าหน่อย ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้ามีดีอะไร!”

ในตอนนี้ชายหนุ่มทั้งสิบเจ็ดต่างพูดจายั่วยุท้าประลองหลิงตู้ฉิงกันยกใหญ่

หลิงตู้ฉิงหันมองไปยังเย่ชิงเฉิง และพูดว่า “เจ้าเห็นแล้วนะว่าข้าไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน”

เย่ชิงเฉิงแสดงสีหน้ากังวล และพูดว่า “สามี เดี๋ยวข้าจะให้โม่เอ๋อไล่พวกเขาไปเอง!”

อันที่จริงที่นางแสดงสีหน้ากังวล นางไม่ได้กังวลว่าหลิงตู้ฉิงจะเป็นอันตราย แต่นางกังวลว่าหลิงตู้ฉิงจะลงโทษสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นยังไงมากกว่า

โม่เอ๋อก้าวออกมาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยันทันที “พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถเอาชนะนายท่านของข้าได้ด้วยระดับการบ่มเพาะแค่นี้ของพวกเจ้างั้นเหรอ? จงกลับไปฝึกมาใหม่อีกสักหมื่นปีก่อนเถอะ!”

นางเตรียมพร้อมที่จะลงมือกับคนเหล่านี้แล้ว

แต่ก่อนที่โม่เอ๋อจะลงมือ บรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ก็เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว “เฮ้น้องชาย! อย่าบอกนะว่าเจ้าจะหลบอยู่หลังผู้หญิงแบบนี้ไม่กล้าออกมาสู้กับพวกข้า?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขายกมือขึ้นปรามโม่เอ๋อ และพูดว่า “เจ้าอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวข้าลงมือเอง”

เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะลงมือเองทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึง

“สามี ท่านจะฆ่าพวกเขาไม่ได้นะ!” เย่ชิงเฉิงรีบเอ่ยขึ้นกับเขาทางโทรจิต

“นายท่าน ด้วยสถานะของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองหรอก เดี๋ยวข้าจะจัดการกับพวกเขาให้ท่านเอง!” เสี่ยวเยว่เฟิงและหลงเฉินต่างก็เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมกัน

แม้แต่โม่เอ๋อและเย่หยูหลันก็รู้สึกพูดไม่ออก

ท่านเป็นตัวตนถึงระดับไหนกัน? มันจำเป็นที่ท่านจะต้องมานั่งออกแรงด้วยตัวเองกับเด็กพวกนี้ที่ระดับการบ่มเพาะยังไม่ถึงขอบเขตสวรรค์ด้วยซ้ำงั้นเหรอ?

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและเดินออกไปหาเหล่าศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ และพูดว่า “ในเมื่อพวกเจ้าต้องการจะลองของ งั้นก็จงเข้ามาประลองกับข้าทีละคน แต่ข้าขอเตือนพวกเจ้าเอาไว้ก่อนข้าเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกลด้วย ดังนั้นจงระวังตัวเอาไว้สักหน่อยก็แล้วกัน”

หากเป็นในสถานการณ์อื่น เขาคงไม่ลงมือด้วยตัวเองแบบนี้ เพราะการประลองกับเด็กแบบนี้มันมีแต่เสียเวลา

แต่ในตอนนี้ที่เขาลงมือด้วยตัวเองก็เพราะว่าเขามีแผนอื่นในใจ เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะใช้ประโยชน์จากการประลองกับเด็กพวกนี้ดึงกฎแห่งสวรรค์และโลกขึ้นมาหาจุดที่เทพีหลิงเปาเคยใช้ในการบ่มเพาะในอดีต ซึ่งมันคือจุดที่เขาตั้งเป้าไว้ว่าเขาจะใช้มันบ่มเพาะร่างกายวารีของเขา

อันที่จริง หลิงตู้ฉิงสามารถหาจุดที่เทพีหลิงเปาเคยใช้ในการบ่มเพาะในอดีตได้ด้วยตัวเองได้ก็จริง แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีโอกาสใช้อีกวิธีที่มันง่ายกว่าเดิมดัง นั้นขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธมันไป

ทางด้านของบรรดาศิษย์หนุ่มของสำนักวารีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และก็ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญค่ายกล พวกเขาเริ่มรู้สึกกดดันทันที

เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกลนั้นไม่สามารถถูกวัดความแข็งแกร่งได้จากระดับการบ่มเพาะ ความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกลนั้นมันวัดจากความเข้าใจในกฎของสวรรค์และโลก ยิ่งมีความเข้าใจมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งก็ยิ่งมีมากขึ้นตาม ซึ่งต่อให้จะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถสู้กับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เหนือกว่าตัวเองได้ถึง 2 ขอบเขต

ชายร่างสูงเอ่ยขึ้นก่อนคนแรก “ในเมื่อเจ้าเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์และผู้เชี่ยวชาญค่ายกล งั้นข้าจะขอสู้กับเจ้าด้วยระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของข้า ข้ามีนามว่า จุนซี ระดับการบ่มเพาะขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 11!”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พร้อมเมื่อไหร่ก็ลงมือได้เลย ไม่ต้องรอสัญญาณจากข้า”

จุนซีตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ถ้างั้นข้าคงต้องขอล่วงเกินแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+