พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 301 คำสั่งชี้ตาย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 301 คำสั่งชี้ตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 301 คำสั่งชี้ตาย

ขณะนี้คนของสำนักอักขระวิญญาณ และอาณาจักรอี้จิ๋นกำลังทะเลาะกันอยู่บนท้องฟ้า สำนักอักขระวิญญาณ ไป๋หยูหมิง ตอนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์เดือดดาลและจ้องมองไปที่คนของอาณาจักรอี้จิ๋นด้วยสาตาเย็นชา

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ไร้นามผู้หนึ่ง กล้าที่จะสังหารผู้คนจากสำนักของเขาเองแถมยังขโมยสมบัติวิเศษระดับเซียนไปอีกต่างหาก ที่แท้ไอ้หลิงตู้ฉิงผู้นี้มันก็มีกองกำลังที่แข็งแกร่งหนุนหลังมันอยู่นั่นเอง!

เมืองเจินไห่นี้เป็นเพียงเมืองบ้านนอกเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับมีผู้เชี่ยวชาญมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่? ที่นี่มันมีทั้งผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญและผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำอีกเป็นฝูง ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้มันไม่น่าแปลกเลยที่สมบัติวิเศษระดับเซียนของพวกเขาถึงเอาไม่อยู่และกลับถูกชิงไปอย่างง่ายดาย

คนจากสำนักอักขระวิญญาณ ตอนนี้ต่างก็เข้าใจผิดเช่นกัน

เมื่อจ้องหน้ากันไปได้สักพัก ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มปะทะกันอย่างชุลมุนอยู่กลางเวหา เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มยุ่งเหยิง ผู้บัญชาการกองทหารอารักขา เหมาจิ๋นซุน จึงรีบเข้าไปในหมู่ตึกหยูอี่และพูดกับสีเป่ยเซียะว่า “องค์หญิง สำนักอักขระวิญญาณกำลังใกล้เข้ามาแล้ว แถมหนึ่งในพวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ กระหม่อมขอแนะนำให้องค์หญิงเตรียมตัว ออกจากที่นี่ทันทีจะดีกว่า”

สีเป่ยเซียะโบกมืออย่างใจเย็น “ไปแจ้งให้คนของเราหยุดต่อสู้กับคนของสำนักอักขระวิญญาณเอาไว้ก่อน อีกอย่างผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ ไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้าต้องถอยหนี และคุณชายหลิงกับข้ายังคุยกันไม่ได้ข้อสรุป รอให้ข้าคุยกับคุณชายหลิงให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวข้อจะสั่งการเจ้าอีกที”

เหมาจิ๋นซุน เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปทำตามคำสั่ง

ภายในหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะยิ้ม ขณะที่นางมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “คุณชายหลิง สำนักอักขระวิญญาณกำลังมาหาท่านแล้ว ข้าได้ยินมาว่าท่านได้ทำให้สำนักอักขระวิญญาณสูญเสียไปทั้งอัจฉริยะและผู้อาวุโสของพวกเขา และตอนนี้พวกเขาได้มาถึงที่นี่เพื่อชำระหนี้แค้นกับท่านแล้ว แถมดูเหมือนว่าทางฝั่งพวกเขาจะพาผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญมาด้วยอีกต่างหาก ซึ่งนี่คงไม่ใช่สิ่งที่ค่ายกลกระบี่ของท่านจะต้านทานได้ในตอนนี้ คุณชายควรพิจารณาเงื่อนไขของข้า”

“ถ้าท่านตกลง ข้าจะถือว่าท่านเป็นหนึ่งในคนของอาณาจักรอี้จิ๋นของข้าและจะถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่ออาณาจักรอี้จิ๋นลำดับต้น ๆ ฉะนั้นชีวิตของท่านที่อยู่ในอาณาจักรอี้จิ๋นนั้นจะมีแต่ความสุขสบาย แถมท่านยังไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับท่าทีของคนส่วนใหญ่ระหว่างอยู่ในอาณาจักรของข้าอีกต่างหาก แต่ถ้าท่านไม่ตกลง ข้าจะไม่ช่วยท่าน เนื่องจากยังไงซะท่านก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอาณาจักรของข้าตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว”

ตอนนี้ในใจของหลิงตู้ฉิงรู้สึกขัดแย้งและรำคาญเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถจัดการกับสำนักอักขระวิญญาณได้ แต่การลงมือของเขามันจะส่งผลรุนแรงต่อตัวของเขาเองในภายหลัง

เพราะถ้าหากเขาจะลงมือ เขาจำเป็นต้องให้หญิงสาวที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์ลงมือแทน ซึ่งเขาเองเป็นคนที่วาดนางขึ้นมา ฉะนั้นการสังหารที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดจากการใช้ยันต์สั่งสวรรค์มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการที่เขาลงมือสังหารคนเหล่านี้เองกับมือ

ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่เต็มใจที่จะใช้ยันต์สั่งสวรรค์เลยเพราะเมื่อไหร่ที่เขาเอามันออกมาใช้ นั่นก็หมายความว่ามันจะหายไปในทันที

อย่างไรก็ตามอำนาจของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่เขาสามารถสำแดงออกมาได้ในตอนนี้ มันก็ยังไม่มีเพียงพอที่จะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญได้

หรือว่านี่เขาจะต้องยอมหญิงสาวตรงหน้าให้แก้ปัญหาแทนเขาจริง ๆ?

แต่ทางเลือกนี้เขาก็ไม่ต้องการอีกเช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้ภูมิหลังของหญิงสาวผู้นี้มาบ้างแล้วแต่เขาก็ไม่ต้องการเช่นกัน

“ช่างมัน! อะไรที่มันผ่านไปแล้วมันก็ต้องปล่อยวาง!” หลิงตู้ฉิงแอบถอนหายใจอย่างลับ ๆ “ในเมื่อนางจากไปแล้ว ข้าก็ควรให้นางจากไปอย่างสงบ!”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นเย็นชาทันที และพูดกับสีเป่ยเซียะว่า “ไปจากที่นี่ซะ ข้าไม่ต้องการเจรจาอะไรกับเจ้าอีกต่อไป”

“คุณชายหลิง ท่านแน่ใจหรือว่าไม่ต้องการข้อเสนอของข้า?” สีเป่ยเซียะถามอย่างสงสัย

“ไสหัวไป!” อารมณ์ของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้ จู่ ๆก็ดิ่งลงเหวทันทีเมื่อได้ยินคำเซ้าซี้ของสีเป่ยเซียะ พร้อมกับเปิดใช้งานค่ายกลกระบี่เหินเมฆาทันทีเพื่อเตรียมพร้อม หากสีเป่ยเซียะโจมตีอย่างกะทันหัน

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านในอาคารเพื่อหามี่ไล

“ช่างเป็นชายที่น่ารังเกียจจริง ๆ!” หยูเอ๋อตะโกนด้วยความโกรธ

สีเป่ยเซียะขมวดคิ้ว และสั่งให้หยูเอ๋อหยุดพูดทันที จากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและค่อย ๆ เดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่

เมื่อครู่ที่หลิงตู้ฉิงโกรธขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางเองรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

ค่ายกลกระบี่นี่งั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้!

นางสามารถบอกได้ว่า ค่ายกลกระบี่นี้สามารถปลดปล่อยอำนาจที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญแน่นอน แต่มันก็คงยังไม่เพียงพอที่จะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญของสำนักอักขระวิญญาณได้ นอกจากนี้นางไม่เชื่อว่าสำนักอักขระวิญญาณที่ส่งผู้อาวุโสระดับนักบุญมาที่นี่ พวกเขาจะไม่นำสมบัติวิเศษระดับเซียนติดตัวมาด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงยังคงปฏิเสธนาง?

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงยันต์สั่งสวรรค์!

จากสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งเดียวที่เป็นไปได้คือยันต์สั่งสวรรค์!

สีหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนไป อะไรอยู่ในยันต์สั่งสวรรค์?

ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาหามี่ไลและพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “มอบนางมาให้ข้า”

มี่ไลตะลึงและรู้ทันทีว่ามันคืออะไร นางส่งยันต์สั่งสวรรค์ให้หลิงตู้ฉิงอย่างไม่เต็มใจ

อันที่จริงพวกนางก็ได้ยินเสียงที่อยู่ข้างนอกเช่นกัน แต่พวกนางไม่สนใจเพราะพวกนางต่างไว้ใจว่า หลิงตู้ฉิงจะสามารถคลี่คลายเหตุการณ์ทุกอย่างได้แน่นอนแม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาก็ตาม

แต่เมื่อเห็นท่าทีของหลิงตู้ฉิงเช่นนี้ พวกนางก็เริ่มตระหนักได้ว่าสถานการณ์ที่อยู่ด้านนอกมันวุนวายจนไปถึงระดับที่ หลิงตู้ฉิงถึงกับต้องใช้ยันต์สั่งสวรรค์เสียแล้ว

บนยันต์สั่งสวรรค์หญิงสาวที่อยู่ด้านในได้หันศีรษะมาจ้องมองที่หลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ

“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฆ่าพวกสวะด้านนอกให้หมด เจ้ามีเวลาครึ่งชั่วโมงในการฆ่าสำนักอักขระวิญญาณทั้งหมด! และทำลายสำนักของพวกมันด้วย จงทำให้พวกมันเสียใจที่ตัดสินใจทำสิ่งที่พวกมันทำอยู่ในตอนนี้ สำหรับเจ้า คำขอของข้านั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์มองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“เจ้าโกรธ!” หญิงสาวในภาพวาดพูดด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงไม่ได้พูดอะไรตอบโต้ เขามองไปที่นางอย่างเงียบ ๆ

“เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าที่เจ้ากำลังโกรธอยู่ เป็นเพราะว่าเจ้าถูกทำให้ขุ่นเคืองหรือเป็นเพราะที่ข้ากำลังจะหายตัวไป?” หญิงสาวในภาพวาดตั้งใจเอียงศีรษะเพื่อมองหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วพร้อมกับปล่อยกลิ่นอายสังหารอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ไอ้หยา! นี่ข้าสามารถทำให้เจ้ากังวลมากขนาดนี้ได้เลยงั้นเหรอ ฮึฮึ แค่ได้รู้เพียงเท่านี้ข้าก็มีความสุขมากแล้วแม้ว่าข้าจะต้องตาย!” หญิงสาวในภาพวาดพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ๆ เลิกทำหน้านิ่งได้แล้ว ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้เอง!”

หลิงตู้ฉิงผงกศีรษะเล็กน้อย จากนั้นเขาม้วนยันต์สั่งสวรรค์ ถือไว้ในมือและเดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่ทันที

มี่ไลและคนอื่น ๆ เดินตามเขาไปด้วยอาการหวาดหวั่น พวกนางรู้สึกได้ว่าแม้ หลิงตู้ฉิงจะมีสีหน้าสงบ แต่กลิ่นอายสังหารที่รายล้อมอยู่ในตัวเขาก็ทำให้พวกนางหนาวเหน็บไปถึงกระดูก

นี่มันเป็นไปได้งั้นเหรอที่สำนักใหญ่สำนักหนึ่งจะถูกทำลายลงด้วยคำสั่งเพียงคำสั่งเดียว?

แต่ตัวตนที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งได้ด้วยเพียงการมองแค่แว๊บเดียว แล้วมันจะน่ากลัวขนาดไหนกันถ้าหากตัวตนนั้นถึงขั้นลงมือออกกระบวนท่า?

บางทีนางอาจทำลายสำนักได้จริง ๆ?

ที่ด้านนอกหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะได้พบกับไป๋หยูหมิงแล้ว

ในที่สุด ไป๋หยูหมิงก็เข้าใจว่าเหตุใดหมู่ตึกหยูอี่จึงมีพลังเช่นนี้ เป็นเพราะองค์หญิงแห่งอาณาจักรอี้จิ๋นอยู่ที่นี่นั่นเอง

“ข้าไป๋หยูหมิงแห่งสำนักอักขระวิญญาณขอคารวะฝ่าบาท!” ไป๋หยูหมิงโค้งคำนับ “ผู้อาวุโสของสำนักของข้าถูกสังหารและสมบัติวิเศษระดับเซียนของสำนักก็ตกอยู่ในมือของฆาตกร ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาที่นี่เพื่อแสวงหาความยุติธรรมให้กับสำนักของข้า ข้าหวังว่าสำนักของข้าจะได้รับการเห็นชอบจากท่านเพื่อให้พวกเราได้สะสางหนี้แค้นครั้งนี้”

สีเป่ยเซียะพยักหน้าเล็กน้อย อาณาเขตนภาและดินแดนหยกปีกนกอยู่ใกล้กัน ดังนั้นนางจึงเคยได้ยินชื่อเสียงของไป๋หยูหมิงมาบ้าง

ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่า ทำไมสำนักอักขระวิญญาณถึงมาที่เมืองเจินไห่ด้วยท่าทางก้าวร้าวเช่นนี้ และแน่นอนว่านางก็เข้าใจแล้วเช่นกันว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงมีสมบัติวิเศษระดับเซียนอยู่ในครอบครองได้

แต่ในเมื่อวันนี้สำนักอักขระวิญญาณต่างยกขบวนคนกันมามากมายแถมยังนำสมบัติวิเศษระดับเซียนของพวกเขามาด้วยอีกต่างหาก การเตรียมพร้อมขนาดนี้ หลิงตู้ฉิงจะรอดไปได้อย่างไร?

และเมื่อหันหน้ากลับไปมองยังหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะก็เห็นหลิงตู้ฉิงกำลังเดินออกมาจากหมู่ตึกหยูอี่ โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ซึ่งมันทำให้นางอยากรู้จริง ๆ ว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างไร?

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 301 คำสั่งชี้ตาย

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 301 คำสั่งชี้ตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 301 คำสั่งชี้ตาย

ขณะนี้คนของสำนักอักขระวิญญาณ และอาณาจักรอี้จิ๋นกำลังทะเลาะกันอยู่บนท้องฟ้า สำนักอักขระวิญญาณ ไป๋หยูหมิง ตอนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์เดือดดาลและจ้องมองไปที่คนของอาณาจักรอี้จิ๋นด้วยสาตาเย็นชา

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ไร้นามผู้หนึ่ง กล้าที่จะสังหารผู้คนจากสำนักของเขาเองแถมยังขโมยสมบัติวิเศษระดับเซียนไปอีกต่างหาก ที่แท้ไอ้หลิงตู้ฉิงผู้นี้มันก็มีกองกำลังที่แข็งแกร่งหนุนหลังมันอยู่นั่นเอง!

เมืองเจินไห่นี้เป็นเพียงเมืองบ้านนอกเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับมีผู้เชี่ยวชาญมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่? ที่นี่มันมีทั้งผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญและผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำอีกเป็นฝูง ด้วยความแข็งแกร่งขนาดนี้มันไม่น่าแปลกเลยที่สมบัติวิเศษระดับเซียนของพวกเขาถึงเอาไม่อยู่และกลับถูกชิงไปอย่างง่ายดาย

คนจากสำนักอักขระวิญญาณ ตอนนี้ต่างก็เข้าใจผิดเช่นกัน

เมื่อจ้องหน้ากันไปได้สักพัก ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มปะทะกันอย่างชุลมุนอยู่กลางเวหา เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มยุ่งเหยิง ผู้บัญชาการกองทหารอารักขา เหมาจิ๋นซุน จึงรีบเข้าไปในหมู่ตึกหยูอี่และพูดกับสีเป่ยเซียะว่า “องค์หญิง สำนักอักขระวิญญาณกำลังใกล้เข้ามาแล้ว แถมหนึ่งในพวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ กระหม่อมขอแนะนำให้องค์หญิงเตรียมตัว ออกจากที่นี่ทันทีจะดีกว่า”

สีเป่ยเซียะโบกมืออย่างใจเย็น “ไปแจ้งให้คนของเราหยุดต่อสู้กับคนของสำนักอักขระวิญญาณเอาไว้ก่อน อีกอย่างผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ ไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้าต้องถอยหนี และคุณชายหลิงกับข้ายังคุยกันไม่ได้ข้อสรุป รอให้ข้าคุยกับคุณชายหลิงให้จบก่อนแล้วเดี๋ยวข้อจะสั่งการเจ้าอีกที”

เหมาจิ๋นซุน เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปทำตามคำสั่ง

ภายในหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะยิ้ม ขณะที่นางมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “คุณชายหลิง สำนักอักขระวิญญาณกำลังมาหาท่านแล้ว ข้าได้ยินมาว่าท่านได้ทำให้สำนักอักขระวิญญาณสูญเสียไปทั้งอัจฉริยะและผู้อาวุโสของพวกเขา และตอนนี้พวกเขาได้มาถึงที่นี่เพื่อชำระหนี้แค้นกับท่านแล้ว แถมดูเหมือนว่าทางฝั่งพวกเขาจะพาผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญมาด้วยอีกต่างหาก ซึ่งนี่คงไม่ใช่สิ่งที่ค่ายกลกระบี่ของท่านจะต้านทานได้ในตอนนี้ คุณชายควรพิจารณาเงื่อนไขของข้า”

“ถ้าท่านตกลง ข้าจะถือว่าท่านเป็นหนึ่งในคนของอาณาจักรอี้จิ๋นของข้าและจะถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่ออาณาจักรอี้จิ๋นลำดับต้น ๆ ฉะนั้นชีวิตของท่านที่อยู่ในอาณาจักรอี้จิ๋นนั้นจะมีแต่ความสุขสบาย แถมท่านยังไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับท่าทีของคนส่วนใหญ่ระหว่างอยู่ในอาณาจักรของข้าอีกต่างหาก แต่ถ้าท่านไม่ตกลง ข้าจะไม่ช่วยท่าน เนื่องจากยังไงซะท่านก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอาณาจักรของข้าตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว”

ตอนนี้ในใจของหลิงตู้ฉิงรู้สึกขัดแย้งและรำคาญเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถจัดการกับสำนักอักขระวิญญาณได้ แต่การลงมือของเขามันจะส่งผลรุนแรงต่อตัวของเขาเองในภายหลัง

เพราะถ้าหากเขาจะลงมือ เขาจำเป็นต้องให้หญิงสาวที่อยู่ในยันต์สั่งสวรรค์ลงมือแทน ซึ่งเขาเองเป็นคนที่วาดนางขึ้นมา ฉะนั้นการสังหารที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดจากการใช้ยันต์สั่งสวรรค์มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการที่เขาลงมือสังหารคนเหล่านี้เองกับมือ

ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่เต็มใจที่จะใช้ยันต์สั่งสวรรค์เลยเพราะเมื่อไหร่ที่เขาเอามันออกมาใช้ นั่นก็หมายความว่ามันจะหายไปในทันที

อย่างไรก็ตามอำนาจของค่ายกลกระบี่เหินเมฆาที่เขาสามารถสำแดงออกมาได้ในตอนนี้ มันก็ยังไม่มีเพียงพอที่จะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญได้

หรือว่านี่เขาจะต้องยอมหญิงสาวตรงหน้าให้แก้ปัญหาแทนเขาจริง ๆ?

แต่ทางเลือกนี้เขาก็ไม่ต้องการอีกเช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้ภูมิหลังของหญิงสาวผู้นี้มาบ้างแล้วแต่เขาก็ไม่ต้องการเช่นกัน

“ช่างมัน! อะไรที่มันผ่านไปแล้วมันก็ต้องปล่อยวาง!” หลิงตู้ฉิงแอบถอนหายใจอย่างลับ ๆ “ในเมื่อนางจากไปแล้ว ข้าก็ควรให้นางจากไปอย่างสงบ!”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นเย็นชาทันที และพูดกับสีเป่ยเซียะว่า “ไปจากที่นี่ซะ ข้าไม่ต้องการเจรจาอะไรกับเจ้าอีกต่อไป”

“คุณชายหลิง ท่านแน่ใจหรือว่าไม่ต้องการข้อเสนอของข้า?” สีเป่ยเซียะถามอย่างสงสัย

“ไสหัวไป!” อารมณ์ของหลิงตู้ฉิง ตอนนี้ จู่ ๆก็ดิ่งลงเหวทันทีเมื่อได้ยินคำเซ้าซี้ของสีเป่ยเซียะ พร้อมกับเปิดใช้งานค่ายกลกระบี่เหินเมฆาทันทีเพื่อเตรียมพร้อม หากสีเป่ยเซียะโจมตีอย่างกะทันหัน

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปด้านในอาคารเพื่อหามี่ไล

“ช่างเป็นชายที่น่ารังเกียจจริง ๆ!” หยูเอ๋อตะโกนด้วยความโกรธ

สีเป่ยเซียะขมวดคิ้ว และสั่งให้หยูเอ๋อหยุดพูดทันที จากนั้นนางก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและค่อย ๆ เดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่

เมื่อครู่ที่หลิงตู้ฉิงโกรธขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางเองรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

ค่ายกลกระบี่นี่งั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้!

นางสามารถบอกได้ว่า ค่ายกลกระบี่นี้สามารถปลดปล่อยอำนาจที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญแน่นอน แต่มันก็คงยังไม่เพียงพอที่จะสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญของสำนักอักขระวิญญาณได้ นอกจากนี้นางไม่เชื่อว่าสำนักอักขระวิญญาณที่ส่งผู้อาวุโสระดับนักบุญมาที่นี่ พวกเขาจะไม่นำสมบัติวิเศษระดับเซียนติดตัวมาด้วย

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงยังคงปฏิเสธนาง?

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงยันต์สั่งสวรรค์!

จากสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งเดียวที่เป็นไปได้คือยันต์สั่งสวรรค์!

สีหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนไป อะไรอยู่ในยันต์สั่งสวรรค์?

ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงเดินเข้ามาหามี่ไลและพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “มอบนางมาให้ข้า”

มี่ไลตะลึงและรู้ทันทีว่ามันคืออะไร นางส่งยันต์สั่งสวรรค์ให้หลิงตู้ฉิงอย่างไม่เต็มใจ

อันที่จริงพวกนางก็ได้ยินเสียงที่อยู่ข้างนอกเช่นกัน แต่พวกนางไม่สนใจเพราะพวกนางต่างไว้ใจว่า หลิงตู้ฉิงจะสามารถคลี่คลายเหตุการณ์ทุกอย่างได้แน่นอนแม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาก็ตาม

แต่เมื่อเห็นท่าทีของหลิงตู้ฉิงเช่นนี้ พวกนางก็เริ่มตระหนักได้ว่าสถานการณ์ที่อยู่ด้านนอกมันวุนวายจนไปถึงระดับที่ หลิงตู้ฉิงถึงกับต้องใช้ยันต์สั่งสวรรค์เสียแล้ว

บนยันต์สั่งสวรรค์หญิงสาวที่อยู่ด้านในได้หันศีรษะมาจ้องมองที่หลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ

“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฆ่าพวกสวะด้านนอกให้หมด เจ้ามีเวลาครึ่งชั่วโมงในการฆ่าสำนักอักขระวิญญาณทั้งหมด! และทำลายสำนักของพวกมันด้วย จงทำให้พวกมันเสียใจที่ตัดสินใจทำสิ่งที่พวกมันทำอยู่ในตอนนี้ สำหรับเจ้า คำขอของข้านั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”

หญิงสาวในยันต์สั่งสวรรค์มองไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ หลังจากนั้นไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“เจ้าโกรธ!” หญิงสาวในภาพวาดพูดด้วยรอยยิ้ม

อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงไม่ได้พูดอะไรตอบโต้ เขามองไปที่นางอย่างเงียบ ๆ

“เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าที่เจ้ากำลังโกรธอยู่ เป็นเพราะว่าเจ้าถูกทำให้ขุ่นเคืองหรือเป็นเพราะที่ข้ากำลังจะหายตัวไป?” หญิงสาวในภาพวาดตั้งใจเอียงศีรษะเพื่อมองหลิงตู้ฉิง

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วพร้อมกับปล่อยกลิ่นอายสังหารอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ไอ้หยา! นี่ข้าสามารถทำให้เจ้ากังวลมากขนาดนี้ได้เลยงั้นเหรอ ฮึฮึ แค่ได้รู้เพียงเท่านี้ข้าก็มีความสุขมากแล้วแม้ว่าข้าจะต้องตาย!” หญิงสาวในภาพวาดพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ๆ เลิกทำหน้านิ่งได้แล้ว ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้เอง!”

หลิงตู้ฉิงผงกศีรษะเล็กน้อย จากนั้นเขาม้วนยันต์สั่งสวรรค์ ถือไว้ในมือและเดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่ทันที

มี่ไลและคนอื่น ๆ เดินตามเขาไปด้วยอาการหวาดหวั่น พวกนางรู้สึกได้ว่าแม้ หลิงตู้ฉิงจะมีสีหน้าสงบ แต่กลิ่นอายสังหารที่รายล้อมอยู่ในตัวเขาก็ทำให้พวกนางหนาวเหน็บไปถึงกระดูก

นี่มันเป็นไปได้งั้นเหรอที่สำนักใหญ่สำนักหนึ่งจะถูกทำลายลงด้วยคำสั่งเพียงคำสั่งเดียว?

แต่ตัวตนที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งได้ด้วยเพียงการมองแค่แว๊บเดียว แล้วมันจะน่ากลัวขนาดไหนกันถ้าหากตัวตนนั้นถึงขั้นลงมือออกกระบวนท่า?

บางทีนางอาจทำลายสำนักได้จริง ๆ?

ที่ด้านนอกหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะได้พบกับไป๋หยูหมิงแล้ว

ในที่สุด ไป๋หยูหมิงก็เข้าใจว่าเหตุใดหมู่ตึกหยูอี่จึงมีพลังเช่นนี้ เป็นเพราะองค์หญิงแห่งอาณาจักรอี้จิ๋นอยู่ที่นี่นั่นเอง

“ข้าไป๋หยูหมิงแห่งสำนักอักขระวิญญาณขอคารวะฝ่าบาท!” ไป๋หยูหมิงโค้งคำนับ “ผู้อาวุโสของสำนักของข้าถูกสังหารและสมบัติวิเศษระดับเซียนของสำนักก็ตกอยู่ในมือของฆาตกร ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาที่นี่เพื่อแสวงหาความยุติธรรมให้กับสำนักของข้า ข้าหวังว่าสำนักของข้าจะได้รับการเห็นชอบจากท่านเพื่อให้พวกเราได้สะสางหนี้แค้นครั้งนี้”

สีเป่ยเซียะพยักหน้าเล็กน้อย อาณาเขตนภาและดินแดนหยกปีกนกอยู่ใกล้กัน ดังนั้นนางจึงเคยได้ยินชื่อเสียงของไป๋หยูหมิงมาบ้าง

ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่า ทำไมสำนักอักขระวิญญาณถึงมาที่เมืองเจินไห่ด้วยท่าทางก้าวร้าวเช่นนี้ และแน่นอนว่านางก็เข้าใจแล้วเช่นกันว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงมีสมบัติวิเศษระดับเซียนอยู่ในครอบครองได้

แต่ในเมื่อวันนี้สำนักอักขระวิญญาณต่างยกขบวนคนกันมามากมายแถมยังนำสมบัติวิเศษระดับเซียนของพวกเขามาด้วยอีกต่างหาก การเตรียมพร้อมขนาดนี้ หลิงตู้ฉิงจะรอดไปได้อย่างไร?

และเมื่อหันหน้ากลับไปมองยังหมู่ตึกหยูอี่ สีเป่ยเซียะก็เห็นหลิงตู้ฉิงกำลังเดินออกมาจากหมู่ตึกหยูอี่ โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ซึ่งมันทำให้นางอยากรู้จริง ๆ ว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างไร?

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+