พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 386 ลิงประหลาด

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 386 ลิงประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 386 ลิงประหลาด

หลิงตู้ฉิงออกจากป่ากระบี่และวิ่งไปตามทางที่เขาได้ข้อมูลมาจากตงฟางจุน ว่าเสี่ยวหลิงเฟิงควรอยู่ที่สถานที่ด้านหน้า

ส่วนคนอื่น ๆ เขายังไม่ได้รับข่าวใด ๆ

ดังนั้นในระหว่างที่เขาวิ่งไปข้างหน้า หากเขาเห็นใครก็ตามเขาจะรีบส่งคนผู้นั้นลงไปนอนและค้นหาความทรงจำของคนผู้นั้นในห้วงความฝันทันที โดยหวังว่าจะพบกับข้อมูลของมี่ไลและหลิงเทียนหยุน

น่าเสียดายที่แม้ว่าเขาจะพบกับผู้คนมากมายระหว่างทาง แต่เขาก็ยังไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ ของมี่ไลและลูกของเขาเลย

เขาพุ่งไปที่ทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และในที่สุดก็เห็นร่างของเสี่ยวหลิงเฟิง ซึ่งกำลังต่อสู้กับใครบางคนอยู่

“โชคของนางใช้ได้เลยทีเดียว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพึมพำกับตัวเอง “นางพบทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่แรกเข้ามาเลยสินะ ด้วยพลังธาตุไฟที่อยู่ในทะเลสาบนี่มันจะสามารถทำให้พลังเปลวเพลิงฟีนิกซ์ในร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีกระดับเลยทีเดียว ว่าแต่นางกำลังต่อสู้กับ…เผ่าอสูร?”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองไปที่คนที่ต่อสู้กับเสี่ยวหลิงเฟิง

ตรงข้ามเสี่ยวหลิงเฟิงคืออสูรรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่ดูเหมือนลิง

สาเหตุที่มันได้แค่คล้ายมนุษย์ก็เพราะมันมีแขนที่ยาวมากจนน่ากลัวว่าจะลากไปถึงพื้นแม้ว่ามันจะยืนตัวตรงด้วยสองขา ส่วนรูปร่างของมันนั้นเหมือนมนุษย์ไม่มีผิดเพี้ยนแต่หัวของมันกลับเป็นของลิง

ในเวลานี้ ‘ลิงแขนยาว’ กำลังหัวเราะอย่างน่ากลัว “ภูเขาฟีนิกซ์ของเจ้าเดิมทีสืบเชื้อสายมาจากเผ่าอสูรของข้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับกล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของกลุ่มอสูรของข้าและต่อต้านข้างั้นเหรอ? ก็ดีในเมื่อเจ้าดื้อด้านนัก มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเจ้าได้หรือไม่! และถ้าเจ้าแน่จริงก็อย่าทำลายอักขระและออกจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับไปก็แล้วกัน!”

เสี่ยวหลิงเฟิงพยายามอธิบายโดยไม่รู้ตัว “ภูเขาฟีนิกซ์ของข้าไม่มีทางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าอสูรของเจ้า! แต่ถ้าเจ้าจะฆ่าข้า เจ้าก็จงระวังตัวเองไว้ให้ดีก็แล้วกัน! ลิงโง่อย่างเจ้าที่กล้าสู้กับข้าใกล้กับทะเลสาบเพลิงนี้ ชะตากรรมของเจ้ามีแต่จะต้องพ่ายแพ้ให้กับข้า!”

อันที่จริงนางเองก็ไม่รู้ว่าเพลิงในทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้คืออะไร แต่นางสัมผัสได้ถึงพลังของมัน

แน่นอนว่าที่นางสัมผัสได้ถึงพลังของมันที่เกื้อหนุนนางอยู่ก็เพราะมันง่ายมากสำหรับนางที่จะใช้พลังเปลวไฟในร่างเมื่อนางอยู่ใกล้กับทะเลสาบเพลิงแห่งนี้

เป็นเพราะเหตุนี้ นางจึงสามารถที่จะสู้กับ ‘ลิงแขนยาว’ ตนนี้ที่อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ได้อย่างเท่าเทียมกันโดยที่นางยังอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 แต่ถึงแม้ว่านางจะสู้มันได้แต่นางก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ ซึ่งลิงตัวนี้ก็ไม่สามารถฆ่านางได้เช่นกัน

ลิงแขนยาวเยาะเย้ย “เผ่าฟีนิกซ์บ้าบออะไรกัน เผ่าของเจ้ามันคือเผ่าอสูร! มันไม่ใช่ว่าพวกเจ้ากำลังพยายามฝึกให้ร่างกายของเจ้าที่เป็นมนุษย์ได้กลายเป็นร่างของฟีนิกซ์ไม่ใช่เหรอไง? แล้วพอเจ้าฝึกมันสำเร็จพวกเจ้าก็ทิ้งร่างมนุษย์และก็ต้องกลายเป็นฟีนิกซ์จริงไหม? ดังนั้นร่างฟีนิกซ์ของพวกเจ้ามันก็คือร่างของอสูรดี ๆ นี่แหละ นังโง่เอ๊ย!”

เสี่ยวหลิงเฟิงในตอนนี้เริ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหหวั่นไหวจากคำพูดของมัน นางเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองตามคำพูดของมัน เนื่องจากนางเองก็ไม่แน่ใจว่าเผ่าพันธุ์ฟีนิกซ์ของนางนั้นคืออะไรกันแน่ ตอนนี้นางจึงเริ่มรู้สึกว่าคำพูดของ ‘ลิงแขนยาว’ นั้นมันสมเหตุสมผลขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลังจากที่ชนชั้นสูงในภูเขาฟีนิกซ์ควบแน่นร่างแท้ของฟีนิกซ์ได้สำเร็จ มันดูคล้ายกับอสูรอยู่เหมือนกัน

เมื่อนางคิดเช่นนี้ นางก็เริ่มมีความรู้สึกผิดในใจและนางรู้สึกราวกับว่าตระกูลฟีนิกซ์ของนางทรยศต่อเผ่าพันธุ์อสูร

ลิงพูดเยาะเย้ย “เป็นยังไงบ้าง แทงใจดำใช่รึเปล่าล่ะ? ถ้าสำนึกได้แล้วก็จงรีบมากับข้าแล้วกลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษของเรา ถ้าเจ้ายังดื้อดึงไม่ฟังข้าแล้วล่ะก็ เจ้าก็อย่าโทษข้าที่ฆ่าเจ้า เจ้ารู้ตัวดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า เจ้าต่อสู้ไปก็ไร้ประโยชน์ จงยอมแพ้ซะเดี๋ยวนี้!”

ยิ่งฟังไปเรื่อย ๆ เสี่ยวหลิงเฟิงก็ไม่รู้ว่าทำไมนางรู้สึกคล้อยตามลิงตัวนี้ไปทุกชั่วขณะและค่อย ๆ อยากจะยอมแพ้

อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ ก็มีประโยคหนึ่งดังขึ้น “เจ้าเชื่อคำโกหกที่มันพูดจริง ๆ เหรอ? ไอ้ตัวนี้มาจากเผ่าลิงกล่อมวิญญาณ ถ้าจิตใจของเจ้าไม่มั่นคง มันจะรู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร ต่อไปถ้าพบกับพวกมันอีก เจ้าจงทำแค่มุ่งมั่นและสู้กับมันไปเท่านั้นพอ แล้วพวกมันจะไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เจ้านึกคิดอะไรในใจของเจ้าได้”

หลิงตู้ฉิงที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างเห็นว่าสถานการณ์ของเสี่ยวหลิงเฟิงเริ่มดูไม่ดี เขาจึงตะโกนเตือนนางทันที

เมื่อเสี่ยวหลิงเฟิงได้สติ นางก็ได้เห็นลิงที่สู้กับนางอยู่เมื่อครู่นอนหลับไปแทบเท้าของหลิงตู้ฉิงเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนางจึงถามขึ้นด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน “นายท่าน ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าฟีนิกซ์ของเรากับเผ่าอสูรของพวกมันมีความเกี่ยวข้องกันจริง ๆ รึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่เสี่ยวหลิงเฟิงและพูดว่า “มันจะไปเกี่ยวข้องกันได้ยังไง? เผ่าอสูรก็คือเผ่าอสูร เผ่าฟีนิกซ์ก็คือเผ่าฟีนิกซ์ พวกเจ้าต่างมีที่มาแตกต่างกัน ส่วนร่างแท้ฟีนิกซ์ของพวกเจ้านั้นคือรูปแบบบรรพบุรุษของเจ้า ซึ่งมันช่วยทำให้พวกเจ้ามีความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิงได้ดีกว่าผู้อื่น”

ในขณะที่เขาค้นความทรงจำของลิงแขนยาว เขาก็ตอบคำถามของเสี่ยวหลิงเฟิงไปด้วย

เมื่อมองไปที่ฉากความทรงจำของลิงตัวนี้ หลิงตู้ฉิงก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ เขามองไปที่ลิงที่กำลังหลับใหลอยู่และเอ่ยคำพูดอย่างเป็นปริศนา “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้ายังคงสังหารเผ่ามนุษย์?”

เมื่อนึกถึงฉากเหล่านั้นที่เขาเห็น เขาหยุดชั่วขณะจากนั้นก็โยนลิงตัวนี้ไปยังเปลวเพลิงที่อยู่ตรงใจกลางทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์

‘ลิงแขนยาว’ ตัวนั้นเมื่อตกไปอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ร่างของมันก็ถูกไฟคลอกหายไปในทันทีโดยที่มันยังไม่ทันตื่นด้วยซ้ำ

“นายท่าน…” เสี่ยวหลิงเฟิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง

“การฆ่าอมนุษย์ไม่นับว่าเป็นอะไรได้!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “ไปเถอะ เราต้องตามหาคนของเราที่เหลือให้ครบ ถึงแม้ว่าทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้จะเหมาะกับเจ้ามากที่จะใช้ฝึกฝน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เราไม่มีเวลามากนัก ไว้รอหลังจากที่พวกเราอยู่กันครบแล้วข้าค่อยพาเจ้ากลับมาที่นี่เพื่อให้เจ้าค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับมัน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงจึงดึงแขนพาเสี่ยวหลิงเฟิงจากไปเพื่อเริ่มต้นค้นหาคนอื่น ๆ ต่อ

เสี่ยวหลิงเฟิงที่เฝ้าดูตัวเองถูกหลิงตู้ฉิงลากไปนู้นมานี่ไปทั่วในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ซึ่งสิ่งที่นางเห็นมันทำให้นางรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก เนื่องจากในเวลาที่หลิงตู้ฉิงเจอกับใครก็ตาม เขาจะรีบพุ่งตรงเข้าไปหาคนผู้นั้นทันทีและส่งคนหรือตนผู้นั้นเข้าสู่ห้วงนิทรา จากนั้นเขาก็ทำอะไรสักอย่างกับร่างของผู้โชคร้ายผู้นั้นสักพัก จากนั้นก็รีบไปที่อื่นต่อทันที

เสี่ยวหลิงเฟิงที่เห็นภาพเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นางก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว นางคิดว่าหากหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนจากการทำให้คนเหล่านั้นหลับแต่เป็นสังหารหมู่แทน มันคงจะทำให้เมื่อเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนี้จบลง ทั่วทั้งมหาพิภพไร้จุดจบคงได้สั่นสะเทือนอย่างแน่นอน เนื่องจากนางแน่ใจว่าเหล่าผู้คนที่เข้ามาอยู่ในนี้ได้ก็คือตัวแทนของคนใหญ่คนโตทั้งที่มาจากสำนักใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แล้วเมื่อลูกหลานพวกเขาตายหมดโดยไร้สาเหตุมันคงจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าขนลุกโดยแท้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากลิงเผ่าลิงกล่อมวิญญาณแล้ว หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้ฆ่าใครคนอื่นอีก

แต่มันอาจจะมีบ้างเป็นบางครั้งที่เขาจะโยนคนที่กำลังหลับบางคนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่แปลก ๆ

ซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลที่เขาโยนคนเหล่านั้นมันก็คล้าย ๆ กับเหตุผลที่เขาโยนตงฟางจุน

โดยที่ความตั้งใจของเขามันก็คือความหวังดี แต่ความหวังดีนั้นบางทีผู้รับก็ต้องทรมานสักหน่อย จนแทบอยากจะตายเท่านั้นเอง!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 386 ลิงประหลาด

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 386 ลิงประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 386 ลิงประหลาด

หลิงตู้ฉิงออกจากป่ากระบี่และวิ่งไปตามทางที่เขาได้ข้อมูลมาจากตงฟางจุน ว่าเสี่ยวหลิงเฟิงควรอยู่ที่สถานที่ด้านหน้า

ส่วนคนอื่น ๆ เขายังไม่ได้รับข่าวใด ๆ

ดังนั้นในระหว่างที่เขาวิ่งไปข้างหน้า หากเขาเห็นใครก็ตามเขาจะรีบส่งคนผู้นั้นลงไปนอนและค้นหาความทรงจำของคนผู้นั้นในห้วงความฝันทันที โดยหวังว่าจะพบกับข้อมูลของมี่ไลและหลิงเทียนหยุน

น่าเสียดายที่แม้ว่าเขาจะพบกับผู้คนมากมายระหว่างทาง แต่เขาก็ยังไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ ของมี่ไลและลูกของเขาเลย

เขาพุ่งไปที่ทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และในที่สุดก็เห็นร่างของเสี่ยวหลิงเฟิง ซึ่งกำลังต่อสู้กับใครบางคนอยู่

“โชคของนางใช้ได้เลยทีเดียว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพึมพำกับตัวเอง “นางพบทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่แรกเข้ามาเลยสินะ ด้วยพลังธาตุไฟที่อยู่ในทะเลสาบนี่มันจะสามารถทำให้พลังเปลวเพลิงฟีนิกซ์ในร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีกระดับเลยทีเดียว ว่าแต่นางกำลังต่อสู้กับ…เผ่าอสูร?”

หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองไปที่คนที่ต่อสู้กับเสี่ยวหลิงเฟิง

ตรงข้ามเสี่ยวหลิงเฟิงคืออสูรรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่ดูเหมือนลิง

สาเหตุที่มันได้แค่คล้ายมนุษย์ก็เพราะมันมีแขนที่ยาวมากจนน่ากลัวว่าจะลากไปถึงพื้นแม้ว่ามันจะยืนตัวตรงด้วยสองขา ส่วนรูปร่างของมันนั้นเหมือนมนุษย์ไม่มีผิดเพี้ยนแต่หัวของมันกลับเป็นของลิง

ในเวลานี้ ‘ลิงแขนยาว’ กำลังหัวเราะอย่างน่ากลัว “ภูเขาฟีนิกซ์ของเจ้าเดิมทีสืบเชื้อสายมาจากเผ่าอสูรของข้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับกล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของกลุ่มอสูรของข้าและต่อต้านข้างั้นเหรอ? ก็ดีในเมื่อเจ้าดื้อด้านนัก มาดูกันว่าข้าจะฆ่าเจ้าได้หรือไม่! และถ้าเจ้าแน่จริงก็อย่าทำลายอักขระและออกจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับไปก็แล้วกัน!”

เสี่ยวหลิงเฟิงพยายามอธิบายโดยไม่รู้ตัว “ภูเขาฟีนิกซ์ของข้าไม่มีทางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าอสูรของเจ้า! แต่ถ้าเจ้าจะฆ่าข้า เจ้าก็จงระวังตัวเองไว้ให้ดีก็แล้วกัน! ลิงโง่อย่างเจ้าที่กล้าสู้กับข้าใกล้กับทะเลสาบเพลิงนี้ ชะตากรรมของเจ้ามีแต่จะต้องพ่ายแพ้ให้กับข้า!”

อันที่จริงนางเองก็ไม่รู้ว่าเพลิงในทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้คืออะไร แต่นางสัมผัสได้ถึงพลังของมัน

แน่นอนว่าที่นางสัมผัสได้ถึงพลังของมันที่เกื้อหนุนนางอยู่ก็เพราะมันง่ายมากสำหรับนางที่จะใช้พลังเปลวไฟในร่างเมื่อนางอยู่ใกล้กับทะเลสาบเพลิงแห่งนี้

เป็นเพราะเหตุนี้ นางจึงสามารถที่จะสู้กับ ‘ลิงแขนยาว’ ตนนี้ที่อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 13 ได้อย่างเท่าเทียมกันโดยที่นางยังอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 12 แต่ถึงแม้ว่านางจะสู้มันได้แต่นางก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ ซึ่งลิงตัวนี้ก็ไม่สามารถฆ่านางได้เช่นกัน

ลิงแขนยาวเยาะเย้ย “เผ่าฟีนิกซ์บ้าบออะไรกัน เผ่าของเจ้ามันคือเผ่าอสูร! มันไม่ใช่ว่าพวกเจ้ากำลังพยายามฝึกให้ร่างกายของเจ้าที่เป็นมนุษย์ได้กลายเป็นร่างของฟีนิกซ์ไม่ใช่เหรอไง? แล้วพอเจ้าฝึกมันสำเร็จพวกเจ้าก็ทิ้งร่างมนุษย์และก็ต้องกลายเป็นฟีนิกซ์จริงไหม? ดังนั้นร่างฟีนิกซ์ของพวกเจ้ามันก็คือร่างของอสูรดี ๆ นี่แหละ นังโง่เอ๊ย!”

เสี่ยวหลิงเฟิงในตอนนี้เริ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหหวั่นไหวจากคำพูดของมัน นางเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองตามคำพูดของมัน เนื่องจากนางเองก็ไม่แน่ใจว่าเผ่าพันธุ์ฟีนิกซ์ของนางนั้นคืออะไรกันแน่ ตอนนี้นางจึงเริ่มรู้สึกว่าคำพูดของ ‘ลิงแขนยาว’ นั้นมันสมเหตุสมผลขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลังจากที่ชนชั้นสูงในภูเขาฟีนิกซ์ควบแน่นร่างแท้ของฟีนิกซ์ได้สำเร็จ มันดูคล้ายกับอสูรอยู่เหมือนกัน

เมื่อนางคิดเช่นนี้ นางก็เริ่มมีความรู้สึกผิดในใจและนางรู้สึกราวกับว่าตระกูลฟีนิกซ์ของนางทรยศต่อเผ่าพันธุ์อสูร

ลิงพูดเยาะเย้ย “เป็นยังไงบ้าง แทงใจดำใช่รึเปล่าล่ะ? ถ้าสำนึกได้แล้วก็จงรีบมากับข้าแล้วกลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษของเรา ถ้าเจ้ายังดื้อดึงไม่ฟังข้าแล้วล่ะก็ เจ้าก็อย่าโทษข้าที่ฆ่าเจ้า เจ้ารู้ตัวดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า เจ้าต่อสู้ไปก็ไร้ประโยชน์ จงยอมแพ้ซะเดี๋ยวนี้!”

ยิ่งฟังไปเรื่อย ๆ เสี่ยวหลิงเฟิงก็ไม่รู้ว่าทำไมนางรู้สึกคล้อยตามลิงตัวนี้ไปทุกชั่วขณะและค่อย ๆ อยากจะยอมแพ้

อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ ก็มีประโยคหนึ่งดังขึ้น “เจ้าเชื่อคำโกหกที่มันพูดจริง ๆ เหรอ? ไอ้ตัวนี้มาจากเผ่าลิงกล่อมวิญญาณ ถ้าจิตใจของเจ้าไม่มั่นคง มันจะรู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร ต่อไปถ้าพบกับพวกมันอีก เจ้าจงทำแค่มุ่งมั่นและสู้กับมันไปเท่านั้นพอ แล้วพวกมันจะไม่สามารถรับรู้สิ่งที่เจ้านึกคิดอะไรในใจของเจ้าได้”

หลิงตู้ฉิงที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างเห็นว่าสถานการณ์ของเสี่ยวหลิงเฟิงเริ่มดูไม่ดี เขาจึงตะโกนเตือนนางทันที

เมื่อเสี่ยวหลิงเฟิงได้สติ นางก็ได้เห็นลิงที่สู้กับนางอยู่เมื่อครู่นอนหลับไปแทบเท้าของหลิงตู้ฉิงเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนางจึงถามขึ้นด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน “นายท่าน ความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าฟีนิกซ์ของเรากับเผ่าอสูรของพวกมันมีความเกี่ยวข้องกันจริง ๆ รึเปล่า?”

หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่เสี่ยวหลิงเฟิงและพูดว่า “มันจะไปเกี่ยวข้องกันได้ยังไง? เผ่าอสูรก็คือเผ่าอสูร เผ่าฟีนิกซ์ก็คือเผ่าฟีนิกซ์ พวกเจ้าต่างมีที่มาแตกต่างกัน ส่วนร่างแท้ฟีนิกซ์ของพวกเจ้านั้นคือรูปแบบบรรพบุรุษของเจ้า ซึ่งมันช่วยทำให้พวกเจ้ามีความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิงได้ดีกว่าผู้อื่น”

ในขณะที่เขาค้นความทรงจำของลิงแขนยาว เขาก็ตอบคำถามของเสี่ยวหลิงเฟิงไปด้วย

เมื่อมองไปที่ฉากความทรงจำของลิงตัวนี้ หลิงตู้ฉิงก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ เขามองไปที่ลิงที่กำลังหลับใหลอยู่และเอ่ยคำพูดอย่างเป็นปริศนา “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้ายังคงสังหารเผ่ามนุษย์?”

เมื่อนึกถึงฉากเหล่านั้นที่เขาเห็น เขาหยุดชั่วขณะจากนั้นก็โยนลิงตัวนี้ไปยังเปลวเพลิงที่อยู่ตรงใจกลางทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์

‘ลิงแขนยาว’ ตัวนั้นเมื่อตกไปอยู่ท่ามกลางกองเพลิง ร่างของมันก็ถูกไฟคลอกหายไปในทันทีโดยที่มันยังไม่ทันตื่นด้วยซ้ำ

“นายท่าน…” เสี่ยวหลิงเฟิงมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยความงุนงง

“การฆ่าอมนุษย์ไม่นับว่าเป็นอะไรได้!” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “ไปเถอะ เราต้องตามหาคนของเราที่เหลือให้ครบ ถึงแม้ว่าทะเลสาบเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้จะเหมาะกับเจ้ามากที่จะใช้ฝึกฝน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เราไม่มีเวลามากนัก ไว้รอหลังจากที่พวกเราอยู่กันครบแล้วข้าค่อยพาเจ้ากลับมาที่นี่เพื่อให้เจ้าค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับมัน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงจึงดึงแขนพาเสี่ยวหลิงเฟิงจากไปเพื่อเริ่มต้นค้นหาคนอื่น ๆ ต่อ

เสี่ยวหลิงเฟิงที่เฝ้าดูตัวเองถูกหลิงตู้ฉิงลากไปนู้นมานี่ไปทั่วในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ซึ่งสิ่งที่นางเห็นมันทำให้นางรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก เนื่องจากในเวลาที่หลิงตู้ฉิงเจอกับใครก็ตาม เขาจะรีบพุ่งตรงเข้าไปหาคนผู้นั้นทันทีและส่งคนหรือตนผู้นั้นเข้าสู่ห้วงนิทรา จากนั้นเขาก็ทำอะไรสักอย่างกับร่างของผู้โชคร้ายผู้นั้นสักพัก จากนั้นก็รีบไปที่อื่นต่อทันที

เสี่ยวหลิงเฟิงที่เห็นภาพเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นางก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว นางคิดว่าหากหลิงตู้ฉิงเปลี่ยนจากการทำให้คนเหล่านั้นหลับแต่เป็นสังหารหมู่แทน มันคงจะทำให้เมื่อเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับนี้จบลง ทั่วทั้งมหาพิภพไร้จุดจบคงได้สั่นสะเทือนอย่างแน่นอน เนื่องจากนางแน่ใจว่าเหล่าผู้คนที่เข้ามาอยู่ในนี้ได้ก็คือตัวแทนของคนใหญ่คนโตทั้งที่มาจากสำนักใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แล้วเมื่อลูกหลานพวกเขาตายหมดโดยไร้สาเหตุมันคงจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าขนลุกโดยแท้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากลิงเผ่าลิงกล่อมวิญญาณแล้ว หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้ฆ่าใครคนอื่นอีก

แต่มันอาจจะมีบ้างเป็นบางครั้งที่เขาจะโยนคนที่กำลังหลับบางคนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่แปลก ๆ

ซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลที่เขาโยนคนเหล่านั้นมันก็คล้าย ๆ กับเหตุผลที่เขาโยนตงฟางจุน

โดยที่ความตั้งใจของเขามันก็คือความหวังดี แต่ความหวังดีนั้นบางทีผู้รับก็ต้องทรมานสักหน่อย จนแทบอยากจะตายเท่านั้นเอง!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+