พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 468 ถึงเวลาร่ำลา

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 468 ถึงเวลาร่ำลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 468 ถึงเวลาร่ำลา

ครึ่งเดือนต่อมา มีผู้คนจำนวนมากมาที่คฤหาสน์สราญรมย์

ทุกคนมาที่นี่เพื่อฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิง

การบรรยายนี้เร็วกว่าครั้งที่แล้วมาก

ถึงกระนั้นเขาก็ยังใช้เวลากว่าครึ่งเดือน

การบรรยายของหลิงตู้ฉิงสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนมากมายในอาณาจักรจันทราอีกครั้ง แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดคือผู้อยู่ในระดับสวรรค์สามัญขั้นสูงสุดเช่น โม่หยูถัง เสี่ยวเยว่เฟิง และคนอื่น ๆ อีกหลายคน

สิ่งที่พวกเขาขาดก็คือโอกาสที่จะบุกทะลวง

หลังจากการบรรยายจบลง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป ส่วนหลิงตู้ฉิงและเย่ชิงเฉิงก็เตรียมตัวออกเดินทางอีกครั้ง

แน่นอนว่าก่อนที่จะไป หลิงตู้ฉิงถูกเหลียงเฟ่ยเอ๋อเรียกให้ไปพบที่เรือนเพื่อรับหยดน้ำที่ควบแน่นจากหม้อเอกภพ และเนื่องจากมันมีเพียงหยดเดียว เย่ชิงเฉิงจึงไม่ได้รับมันไป

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็ทำอะไรไม่ถูก

อย่างไรก็ตามด้วยท่าทีที่แน่วแน่ของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ ดังนั้นเขาจึงยอมรับมันไว้

หลังจากนั้น หลงเฉิน เสี่ยวเยว่เฟิง หลิงตู้ฉิง เย่ชิงเฉิง หยุนจื่อรุ่ย และ เปียนเฉียวเฉียว ก็ออกจากทะเลชางหมาง

อันที่จริงตามความตั้งใจเดิมของหลิงตู้ฉิง เขาตั้งใจว่าจะไม่พาใครไปเพิ่มด้วยอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับการคะยั้นคะยอจากบรรดาภรรยาว่าให้เขาต้องนำหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวไปด้วย เพื่อคอยปรนนิบัตรรับใช้เขาตลอดทาง เขาเองก็จำใจต้องพาทั้งสองสาวน้อยนี้มาด้วย

สำหรับหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียว มันดูเหมือนว่าพวกนางได้รับคำแนะนำอะไรบางอย่างจากเหล่าภรรยาของหลิงตู้ฉิง ส่งผลให้ในขณะที่พวกนางเดินตามหลิงตู้ฉิงขึ้นไปบนรถม้า ในหน้าอันงดงามของพวกนางก็แดงซะจนเหมือนกับผลท้อและไม่กล้ามองไปที่หลิงตู้ฉิง

หลังจากนั้นภายใต้การตจ้องมองของทุกคน หลงเฉินก็ลากรถม้าคันเล็กมุ่งหน้าไปยังทางออกที่มีเมืองเจินไห่ดูแล

แน่นอนว่าเนื่องจากระยะทางของการเดินทางครั้งนี้นั้นไกล มันจึงไม่สะดวกที่จะนำรถม้าค้นเดิมที่แสนจะหนักอึ้งไปด้วย ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงใช้เพียงรถม้าวิเศษธรรมดาในการเดินทางเท่านั้น แน่นอนว่าการลากพาหนะวิเศษธรรมดาเช่นนี้มันทำให้ความเร็วของหลงเฉินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหลิงตู้ฉิงความเร็วของหลงเฉินก็ยังคงช้าเกินไป

“หลงเฉิน แสดงสายเลือดของเจ้าให้ข้าดูสิว่าเจ้าเป็นมังกรสายเลือดไหน” หลิงตู้ฉิงสั่ง

“รับทราบ นายท่าน!” หลงเฉินรีบตอบ

เมื่อเขาถูกจับมาที่นี่เพื่อลากรถม้า หลงเฉินรู้สึกโกรธจริง ๆ

แต่หลังจากการเดินทางไปยังอาณาจักรมังกรทะยานและการบรรยายในคฤหาสน์สราญรมย์ เขาเข้าใจแล้วว่าการที่ได้เป็นผู้ติดตามรับใช้หลิงตู้ฉิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแถมยังได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่น ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น เขาเองได้รับโอกาสในการฟังการบรรยายแถมยังได้รับคำชี้แนะในการบ่มเพาะในระดับหลุดพ้นสามัญที่ต่อให้บรรพบุรุษของเขามาอธิบายเองก็คงไม่ละเอียดและยอดเยี่ยมเท่าของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ถ้าตัวเขาในตอนนี้ถูกย้อนกลับไปให้เลือกอีกครั้งว่าจะยอมมาลากรถม้าหรือไม่ เขาจะตอบตกลงในทันทีโดยไม่มีทางลังเลแม้แต่พริบตาหรือต่อให้เขาต้องต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อได้ตำแหน่งลากรถม้าเขาก็ยอม

ดังนั้นในตอนนี้ เมื่อเขาได้รับคำสั่งจากหลิงตู้ฉิงไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เขาก็เชื่อฟังและตกลงอย่างว่าง่าย

หลิงตู้ฉิงเอาเลือดหนึ่งหยดจากหลงเฉินมาและศึกษามันสักพักก่อนจะพูดว่า “ไม่เลวนี่ สายเลือดมังกรสีคราม!”

หลงเฉินถามด้วยความประหลาดใจ “นายท่านเคยศึกษาสายเลือดของเผ่ามังกร?”

“ข้าได้ศึกษามาบ้างพอสมควร” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อเจ้ามีสายเลือดของมังกรสีคราม ดังนั้นข้าจะสอนเคล็ดวิชาบางอย่างให้กับเจ้า! เจ้าควรเข้าใจมันให้เร็วที่สุดและฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้จะสามารถปลุกพลังของสายเลือดมังกรสีครามของเจ้า ซึ่งมันจะทำให้ความเร็วของเจ้าไม่ด้อยไปกว่ากงหนิวมากนัก ไม่เช่นนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่กงหนิวสามารถทะลวงไปถึงระดับสวรรค์สามัญได้ ข้าจะให้กงหนิวมาแทนที่เจ้าหรือไม่ข้าก็อาจจะแวะไปที่ดินแดนทมิฬทางตอนเหนือ เพื่อจับปีศาจกระทิงอเวจีระดับสูงมาสักตัวเพื่อมาลากรถม้าให้ข้าแทนเจ้า”

หลงเฉินไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวเมื่อเขาได้ยินว่าเขาอาจจะถูกแทนที่

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากหลิงตู้ฉิง เพราะเขาไม่อยากที่จะต้องมาลากรถม้า!

แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิง แถมยังได้รับการถ่ายเคล็ดวิชาของมังกรสีครามให้ เขาก็เกือบที่จะกระดิกหางและร้องขอความเมตตาให้หลิงตู้ฉิงเก็บเขาไว้

ดังนั้นในความคิดของเขาตอนนี้ก็คือ เขาต้องทำความเข้าใจกับเคล็ดวิชาที่พึ่งได้รับการถ่ายทอดมาโดยเร็วที่สุดเพื่อเร่งความเร็วของเขาเอง! มิฉะนั้นเขาจะถูกเขี่ยทิ้งออกจากตำแหน่งของเขาแน่นอน

ในขณะเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงกำลังมุ่งหน้าออกจากทะเลชางหมาง ก็มีกลุ่มกองกำลังที่กำลังรอคำสั่งการเคลื่อนไหวอยู่ที่สันเขาหมื่นอสูร

ต่อหน้าฝูงชน ชายหนุ่มผู้หนึ่งได้พูดกับเหล่าสมาชิกของสันเขาหมื่นอสูร “คราวนี้มีเพียงภารกิจเดียวที่พวกเจ้าจะต้องทำในทะเลชางหมางก็คือการทำลายล้างทุกชีวิตที่อยู่ในนั้นทั้งหมด! พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจว่าไอ้พวกคนที่อยู่ในนั้นมันจะเป็นคนที่กำลังค้นหาขุมทรัพย์ในทะเลชางหมางหรือคนที่กำลังสำรวจความลับของทะเลชางหมาง ในเมื่อไอ้พวกมนุษย์ในนั้นมันกล้าที่จะกินเผ่าของข้า พวกมันจะต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด!”

“บุตรแห่งคุนเป้ง ข้าได้ยินมาว่าทะเลชางหมางนั้นได้รับการปกป้องโดยสำนักเบญจธาตุ เมืองปาเสี่ย สำนักแสงศักดิ์สิทธิ์และสำนักอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีผู้คนในทะเลชางหมางจำนวนไม่น้อยที่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา พวกเราจะไปทำให้พวกเขาขุ่นเคืองจริง ๆ งั้นหรือ?” อสูรหินร่างยักษ์พูดขึ้น

ด้วยผิวหนังของอสูรตนนี้ที่เต็มไปด้วยหินจนทั่วตัว ดังนั้นจึงไม่ต้องบอกเลยว่าเขาคือโกเล็มหินจากสันเขาหมื่นอสูร

ถ้าหวงเซียะอยู่ที่นี่ นางจะจำอสูรตนนี้ได้ทันที เนื่องจากว่ามันเป็นตัวเดียวกับที่เคยพูดล่วงเกินนางตอนอยู่ด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

บุตรแห่งคุนเป้งตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ผู้คนในอาณาเขตนภาเป็นเพียงสาขาเล็ก ๆ ของสำนักเหล่านั้นเท่านั้น พวกมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับสำนักของพวกมันสักเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้สันเขาหมื่นอสูรของเราเป็นฝ่ายถูกล่วงเกินก่อน ดังนั้นพวกมันจะตำหนิเราไม่ได้ถ้าหากโดนลูกหลงไปด้วย”

“การบุกในครั้งนี้ข้าจะให้หยินฮูเป็นผู้นำการบุกทั้งหมด ส่วนเจ้า ฉีฮ่าว ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำเผ่าโกเล็มหิน 300 ตนไว้คอยสนับสนุนหยินฮู นอกเหนือจากนั้นข้าจะส่งเผ่ามนุษย์ต้นไม้อีก 300 ตน และเผ่ามนุษย์วิหคอีก 300 ตน และชนชั้นสูงของทั้งเผ่าเสือและเผ่างูอีกเผ่าละ 50 ตน ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเจ้าจะมีกำลังรบกว่า 1,000 ชีวิต ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ หากพวกเจ้ายังไม่สามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้ ข้าคงจะต้องพิจารณาความสามารถของพวกเจ้าใหม่”

“พวกเราจะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน!” หยินฮูรีบพูดขึ้น

บุตรแห่งคุนเป้งโยนตราสัญลักษณ์เบา ๆ และรอให้หยินฮูจับมันได้ก่อนที่จะพูดว่า “เมื่อพวกเจ้าไปถึงอาณาเขตนภา จงใช้ตรานี้เพื่อติดต่อกับคนของเรา ไม่ว่าเจ้าจะฆ่าคนในทะเลชางหมางไปกี่คนก็ตาม ทั้งหมดจะไม่เป็นปัญหา”

“รับทราบ!” หยินฮูรีบพูด

“พวกเจ้าจงไปกันได้แล้ว!” บุตรแห่งคุนเป้งโบกมือ

เมื่อได้รับคำสั่ง สมาชิกเผ่าอสูรปีศาจกว่าพันตนก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นแต่ละตนก็ใช้พาหนะวิเศษของตนเองบินไปยังอาณาเขตนภาทันที

ในเวลาเดียวกันที่ภูเขาฟีนิกซ์ หวงเซียะก็กำลังพูดอยู่กับบรรดาชายชรากลุ่มหนึ่ง

“บรรพบุรุษ ที่ผ่านมาข้าได้รับการดูแลจากภูเขาฟีนิกซ์มากเกินไป ข้าจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบแทนภูเขาฟีนิกซ์บ้าง คราวนี้โปรดพวกท่านอนุญาตให้ข้าจัดการเรื่องเกี่ยวกับเมืองขนนกอัคคีด้วยเถอะ!” หวงเซียะพูดอย่างหนักแน่น

บรรดากลุ่มชายชราของภูเขาฟีนิกซ์ต่างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเด็กสาวคนนี้กลับมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ นางก็กลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่ความแข็งแกร่งของนางที่แตกต่างไปจากเดิมเท่านั้นที่น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่นางยังกลายเป็นคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในความตั้งใจของพวกเขานั้นหวังไว้เพียงแค่ให้หวงเซียะตั้งใจบ่มเพาะตามที่สมควร และรั้งอยู่ที่นี่เฉย ๆ เพื่อรอเวลาครอบครองมหาวิถีของสำนักในอนาคตเท่านั้นก็พอ

ถึงแม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่ถ้านางตายลงก่อนวัยอันควรทุกอย่างมันก็จะกลายเป็นสูญเปล่าทันที

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ เด็กสาวคนนี้กลับต้องการที่จะออกไปสืบสวนเรื่องของเมืองขนนกอัคคีด้วยความแน่วแน่ ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่มีใครรู้ว่าจะห้ามนางอย่างไรเพราะนางเองก็มีเหตุผลที่ดี

ชายชราถอนหายใจ “ในเมื่อเจ้าต้องการไป งั้นเจ้าก็จงนำองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย 500 นายเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเจ้า!”

“ขอบคุณมาก ท่านผู้อาวุโสสูงสุด!” หวงเซียะประสานมือขอบคุณ จากนั้นนางก็เดินจากไปพร้อมกับองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ 500 นาย และมุ่งหน้าไปที่เมืองขนนกอัคคีทันที

เมื่อเห็นว่าหวงเซียะบินจากไปแล้ว ชายชราสองคนต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นทั้งสองก็ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับทำให้ร่างของพวกเขาไม่สามารถถูกเห็นได้ด้วยตาเปล่าและบินตามหลังของหวงเซียะไป

หวงเซียะที่เพิ่งทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตนภาได้ไม่นานเท่าไหร่ ไม่รู้อะไรเลยว่าตอนนี้นางถูกคุ้มครองโดยผู้อาวุโสชั้นสูงอีกสองคนที่ติดตามนางไปอยู่ไม่ห่าง ในตอนนี้นางสนใจแต่เพียงว่านางต้องตรวจสอบเรื่องของเมืองขนนกอัคคีอย่างละเอียด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 468 ถึงเวลาร่ำลา

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 468 ถึงเวลาร่ำลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 468 ถึงเวลาร่ำลา

ครึ่งเดือนต่อมา มีผู้คนจำนวนมากมาที่คฤหาสน์สราญรมย์

ทุกคนมาที่นี่เพื่อฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิง

การบรรยายนี้เร็วกว่าครั้งที่แล้วมาก

ถึงกระนั้นเขาก็ยังใช้เวลากว่าครึ่งเดือน

การบรรยายของหลิงตู้ฉิงสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนมากมายในอาณาจักรจันทราอีกครั้ง แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดคือผู้อยู่ในระดับสวรรค์สามัญขั้นสูงสุดเช่น โม่หยูถัง เสี่ยวเยว่เฟิง และคนอื่น ๆ อีกหลายคน

สิ่งที่พวกเขาขาดก็คือโอกาสที่จะบุกทะลวง

หลังจากการบรรยายจบลง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป ส่วนหลิงตู้ฉิงและเย่ชิงเฉิงก็เตรียมตัวออกเดินทางอีกครั้ง

แน่นอนว่าก่อนที่จะไป หลิงตู้ฉิงถูกเหลียงเฟ่ยเอ๋อเรียกให้ไปพบที่เรือนเพื่อรับหยดน้ำที่ควบแน่นจากหม้อเอกภพ และเนื่องจากมันมีเพียงหยดเดียว เย่ชิงเฉิงจึงไม่ได้รับมันไป

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็ทำอะไรไม่ถูก

อย่างไรก็ตามด้วยท่าทีที่แน่วแน่ของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ ดังนั้นเขาจึงยอมรับมันไว้

หลังจากนั้น หลงเฉิน เสี่ยวเยว่เฟิง หลิงตู้ฉิง เย่ชิงเฉิง หยุนจื่อรุ่ย และ เปียนเฉียวเฉียว ก็ออกจากทะเลชางหมาง

อันที่จริงตามความตั้งใจเดิมของหลิงตู้ฉิง เขาตั้งใจว่าจะไม่พาใครไปเพิ่มด้วยอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับการคะยั้นคะยอจากบรรดาภรรยาว่าให้เขาต้องนำหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียวไปด้วย เพื่อคอยปรนนิบัตรรับใช้เขาตลอดทาง เขาเองก็จำใจต้องพาทั้งสองสาวน้อยนี้มาด้วย

สำหรับหยุนจื่อรุ่ยและเปียนเฉียวเฉียว มันดูเหมือนว่าพวกนางได้รับคำแนะนำอะไรบางอย่างจากเหล่าภรรยาของหลิงตู้ฉิง ส่งผลให้ในขณะที่พวกนางเดินตามหลิงตู้ฉิงขึ้นไปบนรถม้า ในหน้าอันงดงามของพวกนางก็แดงซะจนเหมือนกับผลท้อและไม่กล้ามองไปที่หลิงตู้ฉิง

หลังจากนั้นภายใต้การตจ้องมองของทุกคน หลงเฉินก็ลากรถม้าคันเล็กมุ่งหน้าไปยังทางออกที่มีเมืองเจินไห่ดูแล

แน่นอนว่าเนื่องจากระยะทางของการเดินทางครั้งนี้นั้นไกล มันจึงไม่สะดวกที่จะนำรถม้าค้นเดิมที่แสนจะหนักอึ้งไปด้วย ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงใช้เพียงรถม้าวิเศษธรรมดาในการเดินทางเท่านั้น แน่นอนว่าการลากพาหนะวิเศษธรรมดาเช่นนี้มันทำให้ความเร็วของหลงเฉินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหลิงตู้ฉิงความเร็วของหลงเฉินก็ยังคงช้าเกินไป

“หลงเฉิน แสดงสายเลือดของเจ้าให้ข้าดูสิว่าเจ้าเป็นมังกรสายเลือดไหน” หลิงตู้ฉิงสั่ง

“รับทราบ นายท่าน!” หลงเฉินรีบตอบ

เมื่อเขาถูกจับมาที่นี่เพื่อลากรถม้า หลงเฉินรู้สึกโกรธจริง ๆ

แต่หลังจากการเดินทางไปยังอาณาจักรมังกรทะยานและการบรรยายในคฤหาสน์สราญรมย์ เขาเข้าใจแล้วว่าการที่ได้เป็นผู้ติดตามรับใช้หลิงตู้ฉิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแถมยังได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่น ๆ มากมาย ยกตัวอย่างเช่น เขาเองได้รับโอกาสในการฟังการบรรยายแถมยังได้รับคำชี้แนะในการบ่มเพาะในระดับหลุดพ้นสามัญที่ต่อให้บรรพบุรุษของเขามาอธิบายเองก็คงไม่ละเอียดและยอดเยี่ยมเท่าของหลิงตู้ฉิง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ถ้าตัวเขาในตอนนี้ถูกย้อนกลับไปให้เลือกอีกครั้งว่าจะยอมมาลากรถม้าหรือไม่ เขาจะตอบตกลงในทันทีโดยไม่มีทางลังเลแม้แต่พริบตาหรือต่อให้เขาต้องต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อได้ตำแหน่งลากรถม้าเขาก็ยอม

ดังนั้นในตอนนี้ เมื่อเขาได้รับคำสั่งจากหลิงตู้ฉิงไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เขาก็เชื่อฟังและตกลงอย่างว่าง่าย

หลิงตู้ฉิงเอาเลือดหนึ่งหยดจากหลงเฉินมาและศึกษามันสักพักก่อนจะพูดว่า “ไม่เลวนี่ สายเลือดมังกรสีคราม!”

หลงเฉินถามด้วยความประหลาดใจ “นายท่านเคยศึกษาสายเลือดของเผ่ามังกร?”

“ข้าได้ศึกษามาบ้างพอสมควร” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อเจ้ามีสายเลือดของมังกรสีคราม ดังนั้นข้าจะสอนเคล็ดวิชาบางอย่างให้กับเจ้า! เจ้าควรเข้าใจมันให้เร็วที่สุดและฝึกฝนมันอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้จะสามารถปลุกพลังของสายเลือดมังกรสีครามของเจ้า ซึ่งมันจะทำให้ความเร็วของเจ้าไม่ด้อยไปกว่ากงหนิวมากนัก ไม่เช่นนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่กงหนิวสามารถทะลวงไปถึงระดับสวรรค์สามัญได้ ข้าจะให้กงหนิวมาแทนที่เจ้าหรือไม่ข้าก็อาจจะแวะไปที่ดินแดนทมิฬทางตอนเหนือ เพื่อจับปีศาจกระทิงอเวจีระดับสูงมาสักตัวเพื่อมาลากรถม้าให้ข้าแทนเจ้า”

หลงเฉินไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวเมื่อเขาได้ยินว่าเขาอาจจะถูกแทนที่

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้จากหลิงตู้ฉิง เพราะเขาไม่อยากที่จะต้องมาลากรถม้า!

แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ฟังการบรรยายของหลิงตู้ฉิง แถมยังได้รับการถ่ายเคล็ดวิชาของมังกรสีครามให้ เขาก็เกือบที่จะกระดิกหางและร้องขอความเมตตาให้หลิงตู้ฉิงเก็บเขาไว้

ดังนั้นในความคิดของเขาตอนนี้ก็คือ เขาต้องทำความเข้าใจกับเคล็ดวิชาที่พึ่งได้รับการถ่ายทอดมาโดยเร็วที่สุดเพื่อเร่งความเร็วของเขาเอง! มิฉะนั้นเขาจะถูกเขี่ยทิ้งออกจากตำแหน่งของเขาแน่นอน

ในขณะเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงกำลังมุ่งหน้าออกจากทะเลชางหมาง ก็มีกลุ่มกองกำลังที่กำลังรอคำสั่งการเคลื่อนไหวอยู่ที่สันเขาหมื่นอสูร

ต่อหน้าฝูงชน ชายหนุ่มผู้หนึ่งได้พูดกับเหล่าสมาชิกของสันเขาหมื่นอสูร “คราวนี้มีเพียงภารกิจเดียวที่พวกเจ้าจะต้องทำในทะเลชางหมางก็คือการทำลายล้างทุกชีวิตที่อยู่ในนั้นทั้งหมด! พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจว่าไอ้พวกคนที่อยู่ในนั้นมันจะเป็นคนที่กำลังค้นหาขุมทรัพย์ในทะเลชางหมางหรือคนที่กำลังสำรวจความลับของทะเลชางหมาง ในเมื่อไอ้พวกมนุษย์ในนั้นมันกล้าที่จะกินเผ่าของข้า พวกมันจะต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด!”

“บุตรแห่งคุนเป้ง ข้าได้ยินมาว่าทะเลชางหมางนั้นได้รับการปกป้องโดยสำนักเบญจธาตุ เมืองปาเสี่ย สำนักแสงศักดิ์สิทธิ์และสำนักอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีผู้คนในทะเลชางหมางจำนวนไม่น้อยที่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา พวกเราจะไปทำให้พวกเขาขุ่นเคืองจริง ๆ งั้นหรือ?” อสูรหินร่างยักษ์พูดขึ้น

ด้วยผิวหนังของอสูรตนนี้ที่เต็มไปด้วยหินจนทั่วตัว ดังนั้นจึงไม่ต้องบอกเลยว่าเขาคือโกเล็มหินจากสันเขาหมื่นอสูร

ถ้าหวงเซียะอยู่ที่นี่ นางจะจำอสูรตนนี้ได้ทันที เนื่องจากว่ามันเป็นตัวเดียวกับที่เคยพูดล่วงเกินนางตอนอยู่ด้านในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

บุตรแห่งคุนเป้งตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ผู้คนในอาณาเขตนภาเป็นเพียงสาขาเล็ก ๆ ของสำนักเหล่านั้นเท่านั้น พวกมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับสำนักของพวกมันสักเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้สันเขาหมื่นอสูรของเราเป็นฝ่ายถูกล่วงเกินก่อน ดังนั้นพวกมันจะตำหนิเราไม่ได้ถ้าหากโดนลูกหลงไปด้วย”

“การบุกในครั้งนี้ข้าจะให้หยินฮูเป็นผู้นำการบุกทั้งหมด ส่วนเจ้า ฉีฮ่าว ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำเผ่าโกเล็มหิน 300 ตนไว้คอยสนับสนุนหยินฮู นอกเหนือจากนั้นข้าจะส่งเผ่ามนุษย์ต้นไม้อีก 300 ตน และเผ่ามนุษย์วิหคอีก 300 ตน และชนชั้นสูงของทั้งเผ่าเสือและเผ่างูอีกเผ่าละ 50 ตน ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเจ้าจะมีกำลังรบกว่า 1,000 ชีวิต ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ หากพวกเจ้ายังไม่สามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้ ข้าคงจะต้องพิจารณาความสามารถของพวกเจ้าใหม่”

“พวกเราจะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน!” หยินฮูรีบพูดขึ้น

บุตรแห่งคุนเป้งโยนตราสัญลักษณ์เบา ๆ และรอให้หยินฮูจับมันได้ก่อนที่จะพูดว่า “เมื่อพวกเจ้าไปถึงอาณาเขตนภา จงใช้ตรานี้เพื่อติดต่อกับคนของเรา ไม่ว่าเจ้าจะฆ่าคนในทะเลชางหมางไปกี่คนก็ตาม ทั้งหมดจะไม่เป็นปัญหา”

“รับทราบ!” หยินฮูรีบพูด

“พวกเจ้าจงไปกันได้แล้ว!” บุตรแห่งคุนเป้งโบกมือ

เมื่อได้รับคำสั่ง สมาชิกเผ่าอสูรปีศาจกว่าพันตนก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นแต่ละตนก็ใช้พาหนะวิเศษของตนเองบินไปยังอาณาเขตนภาทันที

ในเวลาเดียวกันที่ภูเขาฟีนิกซ์ หวงเซียะก็กำลังพูดอยู่กับบรรดาชายชรากลุ่มหนึ่ง

“บรรพบุรุษ ที่ผ่านมาข้าได้รับการดูแลจากภูเขาฟีนิกซ์มากเกินไป ข้าจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบแทนภูเขาฟีนิกซ์บ้าง คราวนี้โปรดพวกท่านอนุญาตให้ข้าจัดการเรื่องเกี่ยวกับเมืองขนนกอัคคีด้วยเถอะ!” หวงเซียะพูดอย่างหนักแน่น

บรรดากลุ่มชายชราของภูเขาฟีนิกซ์ต่างอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเด็กสาวคนนี้กลับมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ นางก็กลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่ความแข็งแกร่งของนางที่แตกต่างไปจากเดิมเท่านั้นที่น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่นางยังกลายเป็นคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในความตั้งใจของพวกเขานั้นหวังไว้เพียงแค่ให้หวงเซียะตั้งใจบ่มเพาะตามที่สมควร และรั้งอยู่ที่นี่เฉย ๆ เพื่อรอเวลาครอบครองมหาวิถีของสำนักในอนาคตเท่านั้นก็พอ

ถึงแม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นกว่าคนอื่น แต่ถ้านางตายลงก่อนวัยอันควรทุกอย่างมันก็จะกลายเป็นสูญเปล่าทันที

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ เด็กสาวคนนี้กลับต้องการที่จะออกไปสืบสวนเรื่องของเมืองขนนกอัคคีด้วยความแน่วแน่ ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่มีใครรู้ว่าจะห้ามนางอย่างไรเพราะนางเองก็มีเหตุผลที่ดี

ชายชราถอนหายใจ “ในเมื่อเจ้าต้องการไป งั้นเจ้าก็จงนำองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย 500 นายเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเจ้า!”

“ขอบคุณมาก ท่านผู้อาวุโสสูงสุด!” หวงเซียะประสานมือขอบคุณ จากนั้นนางก็เดินจากไปพร้อมกับองค์รักษ์ปีกศักดิ์สิทธิ์ 500 นาย และมุ่งหน้าไปที่เมืองขนนกอัคคีทันที

เมื่อเห็นว่าหวงเซียะบินจากไปแล้ว ชายชราสองคนต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นทั้งสองก็ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับทำให้ร่างของพวกเขาไม่สามารถถูกเห็นได้ด้วยตาเปล่าและบินตามหลังของหวงเซียะไป

หวงเซียะที่เพิ่งทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตนภาได้ไม่นานเท่าไหร่ ไม่รู้อะไรเลยว่าตอนนี้นางถูกคุ้มครองโดยผู้อาวุโสชั้นสูงอีกสองคนที่ติดตามนางไปอยู่ไม่ห่าง ในตอนนี้นางสนใจแต่เพียงว่านางต้องตรวจสอบเรื่องของเมืองขนนกอัคคีอย่างละเอียด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+