ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 254 ชุดของหลีอ๋อง [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 254 ชุดของหลีอ๋อง [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 254 ชุดของหลีอ๋อง [รีไรท์]

“ข้าออกแบบลวดลายนี้ด้วยตนเอง และเชิญช่างที่มีฝีมือเฉพาะทางมาช่วย นับว่าเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลกจริงๆ”

ฉู่หลิวเยว่ส่งเสียง “อ่า” ออกมาหนึ่งคำสีหน้าดูแปลกใจเล็กน้อย

บทสนทนาของหรงซิวกับซือถูซิงเฉินนั้น นางได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว แล้วรู้ว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน

ซือถูซิงเฉินแอบรักหรงซิวอย่างลึกซึ้งขนาดนั้น ลวดลายของเสื้อผ้าตัวนั้น อาจจะเป็นนางที่แอบทำมาให้หรงซิวใส่ก็ได้

แต่เมื่อนางคิดเรื่องนี้ขึ้นมาในใจของนางก็รู้สึกไม่สบายใจ

หรงซิวยกยิ้มเล็กน้อย

“ขึ้นรถม้ามาก่อน ค่อยคุยกันระหว่างทาง”

เมื่อฉู่หลิวเยว่คิดว่าการแข่งขันจบแล้ว อีกเดี๋ยวผู้คนที่อยู่ในสนามก็น่าจะออกมาแล้ว หากพวกเขามาเห็นฉากนี้เข้าเกรงว่ามันจะเกิดการเข้าใจผิดได้

นางแค่นหัวเราะเสียงเบา และสาวเท้าขึ้นรถม้าไป

หรงซิวเดินตามเข้าไปอย่างใกล้ชิด เมื่ออยู่ในรถม้าแล้วเขาก็ปิดม่านลง

เยี่ยนชิงก็โบกแส้ในมือของเขา

“ย่ะ!” ม้าก็วิ่งออกไปตามทางทันที

ภายในรถม้าฉู่หลิวเยว่และหรงซิวนั่งกันคนละฝั่ง

“หลีอ๋องมีฐานะสูงส่ง มีเรื่องอันใดที่ต้องการให้ข้าช่วยเหลือหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วแล้วถามขึ้น

หรงซิวหัวเราะเสียงเบา

“เจ้ากำลังโกรธหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ นางหันมามองอีกฝ่ายด้วยสายตาราบเรียบเท่านั้น

“นอกจากเจ้าแล้ว ข้าไม่เคยมีความรู้สึกกับผู้หญิงคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้น…”

“ข้าเชื่อเจ้า” ฉู่หลิวเยว่พูดตัดบทอีกฝ่าย

หรงซิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

แต่การแสดงออกของฉู่หลิวเยว่กลับมั่นคง และดูเป็นธรรมชาติเช่นเดิม

“ในเมื่อพวกเราอยู่ด้วยกันแล้ว เช่นนั้นข้าจะต้องเชื่อใจเจ้า”

เมื่อเห็นท่าทางที่แน่วแน่ของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มบางๆ ก็ค่อยปรากฏขึ้นที่แววตาของหรงซิว

เขากุมมือของฉู่หลิวเยว่เบาๆ

“เจ้าเชื่อใจข้านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่ในเมื่อเรื่องนี้ทำให้เจ้าไม่พอใจเช่นนั้นข้าก็ยังต้องอธิบายให้เจ้าฟัง”

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจ และอ่อนโยนของหรงซิว ทันใดนั้นนางก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา

เขาทิ้งตัวคุกเข่าอธิบายให้นางฟังตั้งมากตั้งมายเพียงเพราะ…นางไม่พอใจ?

แน่นอนว่าหรงซิวชอบให้ฉู่หลิวเยว่หึงตนเอง แต่เขาก็ชอบที่นางมีความสุขเพราะเขามากกว่า ดังนั้นเรื่องขัดข้องใจเล็กน้อย เขาก็ไม่อยากให้นางแบกรับเอาไว้

เขาพลิกฝ่ามือตัวเองแล้วอธิบายขึ้น

“เจ้าดูให้ละเอียดสิ” ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงมองจากนั้นก็เห็นว่าด้านในของแขนเสื้อ มีลวดลายที่แปลกตา และละเอียดอ่อนอย่างมาก

ดูไปแล้วเหมือน…เถาวัลย์ต้นไม้ ด้านนอกมีลวดลายดอกท้อที่คล้ายกับก้อนเมฆ ด้านในเป็นเถาวัลย์ที่ดูเหมือนมีชีวิต นี่มัน…

แน่นอนว่าเถาวัลย์พวกนั้นปักด้วยด้ายสีทอง ดูไปแล้วเหมือนมีปราณเซียน

เพียงแค่หากมองให้ละเอียด ก็สามารถพบอย่างง่ายดาย..

“ข้าชอบลวดลายเหล่านี้มากเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของข้า จะมีลวดลายเช่นนี้ทั้งนั้น แต่เมื่อคนที่เจอข้าเพียงสองสามครั้ง ก็สามารถลอกเลียนแบบลวดลายนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ก็ลอกได้เพียงสามส่วนเท่านั้น”

น้ำเสียงของหรงซิวราบเรียบอย่างมาก แม้แต่ชื่อของซือถูซิงเฉินก็ขี้เกียจจะเอ่ยขึ้น

คนคนนั้นไม่ควรค่าแก่การอยู่ในสายตาด้วยซ้ำดังนั้นจึงไม่ได้พูดขึ้นมา

หากไม่ใช่เพราะนางทำให้ฉู่หลิวเยว่ไม่พอใจ เขาเองก็ไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยกับนางมากนัก

แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว

แต่ตอนนี้เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็นลวดลายเถาวัลย์ที่อยู่ด้านใน ความโมโหที่อยู่ในใจก็สลายหายไปครึ่งหนึ่งแล้ว และเมื่อได้ยินหรงซิวอธิบายอารมณ์ของนางก็เข้ามาสู่สภาวะปกติแล้ว

เดิมทีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรโกรธด้วยซ้ำ

แต่ซือถูซิงเฉินเองก็มีมือมีเท้า เวลาจะทำสิ่งใดคนรอบข้างไม่มีทางห้ามอยู่แล้ว

“ความจริงแล้วหากมองให้ละเอียด ลวดลายนี้ก็ดูไม่ค่อยเหมือนเท่าใด…”

บนเสื้อผ้าของหรงซิวเป็นลายเมฆ ทุกฝีเข็มมีความแม่นยำอย่างมากแม้กระทั่งดอกท้อก็เห็นได้จางๆ ราวกับว่ามันกำลังถูกลมพัดปลิวออกไปจนกระจายไปทั่วก้อนเมฆ

ซือถูซิงเฉินผู้นั้นเห็นว่ามีโครงร่างที่คล้ายกันเท่านั้น แต่ไม่ได้มีความสวยงามเลยไม่เหมือนดอกท้อ ไม่เหมือนก้อนเมฆ คล้ายๆ หัวมังกุฏท้ายมังกร

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปที่แขนเสื้อของเขา แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งทันใดนั้นนางก็อดหัวเราะออกมาได้

“นี่ข้าค่อนข้างใจแคบไปหน่อย…”

ริมฝีปากบางของหรงซิวก็ยกยิ้มขึ้น แม้แต่หางตา และคิ้วยังมีประกายความอ่อนโยน ที่น้อยคนนักจะได้เห็นมัน

“ใจแคบเช่นนี้ เจ้าทำได้เลยแต่คนอื่นไม่”

เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินเช่นนั้น นางก็มองไปที่เขาด้วยความโกรธ น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่ห้ามกันเลย

หรงซิวจ้องใบหน้าที่งดงามของนางครู่หนึ่งจนไม่สามารถกะพริบตาได้

ยิ้มก็ได้ โมโหก็ดี นางที่เป็นนาง ล้วนมีผลต่อจิตใจของเขาอย่างมาก

หลังจากที่จ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถอนสายตาออกมา และขยับไปด้านหลังเล็กน้อย

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่เห็นว่าเขาถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วเอาไปวางไว้ด้านข้าง จากนั้นก็เอนกายเล็กน้อย

เดิมทีเขาเป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่ เขาสูงกว่าฉู่หลิวเยว่มากกว่าหนึ่งช่วงหัว เมื่อนั่งด้วยตำแหน่งที่เสมอกันเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่สามารถเห็นลูกกระเดือกที่ปูดขึ้นมาของเขาได้อย่างชัดเจน และสันกรามที่เรียบเนียนเหมือนหยกที่สลักเอาไว้

หลีอ๋องหลีหวันที่สูงส่ง แน่นอนว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ต้องเป็นเสื้อผ้าที่หรูหรา ฉู่หลิวเยว่มองออกนั้นต้องทำมาจากไหมแสงจันทร์คุณภาพสูงแน่นอน มองครั้งแรกจะเห็นว่ามันเป็นแค่สีขาวธรรมดา แต่ว่ามันทั้งสะอาดและนุ่มเป็นพิเศษ แต่ถ้ามองดีๆ แล้ว จะเห็นแสงสว่างจางๆ ประกายออกเหมือนแสงจันทร์ที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน

ตรงหน้าอกของเขาก็มีรอยปักที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนอย่างมาก และยังมีหินเสี้ยวจันทร์ที่ปักประดับเอาไว้ แต่ในเวลานี้เขากลับยืดแขนออกพร้อมถอดเสื้อคลุมลายเมฆที่หรูหราเอาไว้ด้านข้างตามใจชอบ เสื้อคลุมด้านในของเขาก็มีลวดลายที่ปักเอาไว้อย่างละเอียดละออด้วยเช่นกัน ร่องรอยเหมือนแต่งเติมด้วยหิมะ

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง

“หรงซิว นี่เจ้า…”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *