ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 579 ไอ้หมอนี่ [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 579 ไอ้หมอนี่ [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 579 ไอ้หมอนี่ [รีไรท์]

“นี่มัน…แหวนเฉียนคุนหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ

เยี่ยนชิงพยักหน้า

หางตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย

หรือว่า…ที่เยี่ยนชิงรีบดั้นด้นมาอย่างรีบร้อนขนาดนี้ เพื่อแหวนเฉียนคุนวงนี้วงเดียวหรือ?

เหมือนเยี่ยนชิงจะมองความสงสัยของนางออก เยี่ยนชิงจึงกล่าวเสียงเบาว่า

“คุณหนูหลิวเยว่ นายท่านสั่งว่าจะต้องมอบแหวนวงนี้ให้ถึงมือท่านด้วยตนเองให้ได้ขอรับ”

ฉู่หลิวเยว่หยิบแหวนเฉียนคุนวงนั้นออกมา แหวนวงนี้ทั้งเรียบง่าย หรูหรา วัสดุที่ใช้ไม่ใช่ทั้งหยก และหิน แต่มันกลับสามารถส่องประกายแวววาวขึ้นมาได้ มองดูแล้วมันทั้งแวววาวและผุดผ่องอย่างมาก

นี่เหมือนว่า…คนที่ทำเป็นผู้ชายคนหนึ่ง?

ฉู่หลิวเยว่มองมันโดยละเอียดอีกรอบ จากนั้นก็เห็นว่าที่ด้านในของแหวน มีคำว่า “ซิว” สลักอยู่

นี่เป็นแหวนเฉียนคุนของหรงซิว?

“เขาได้บอกหรือไม่ว่า ให้เจ้านำของชิ้นนี้มาเหตุใด?” ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น

สีหน้าของเยี่ยนชิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหน้าเบาๆ

ความจริงแล้ว…

แม้ว่าเขาจะไม่เห็นลายมือนั้น แต่เขาก็พอจะเดาแผนการของนายท่านออกได้

แต่เรื่องนี้ เขาก็ไม่สามารถพูดออกไปได้

“บางที ถ้าท่านลองสวมดูก็อาจจะรู้”

เมื่อฉู่หลิวเยว่ถ่ายปราณลงไปแล้ว ก็พบว่าตราประทับที่มีอยู่นั้น ได้หายไปแล้ว

เมื่อนางเช่นนั้นแล้ว ก็เท่ากับว่าแหวนเฉียนคุนวงนี้กลายเป็นของนางแล้ว

เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นความตั้งใจของหรงซิว

แต่ว่าเหตุใดล่ะ…

ฉู่หลิวเยว่คิดไปพลาง และถ่ายปราณเข้าไปตรวจสอบด้วย

ทันใดนั้นเองนางก็ต้องชะงักไป ใบหน้าของนางแข็งค้างไปครู่หนึ่ง

แหวนเฉียนคุนวงนี้มีระดับสูงมาก พื้นที่มิติด้านในของแหวนเฉียนคุนวงนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่นางเคยเห็นมา

เมื่อเทียบกับแหวนเฉียนคุนของนางวงก่อน เหมือนว่าแหวนวงนั้นเป็นแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ที่ถือไม่ถนัดมือเท่านั้น

แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ…

ด้านในนั้นคาดไม่ถึงว่าจะเต็มไปด้วย…ผนึกศิลาขาว!?

เพราะว่ามันมีจำนวนมาก จนเกือบจะเป็นภูเขาผนึกศิลาขนาดหย่อมๆ ดังนั้นฉู่หลิวเยว่จึงไม่สามารถนับได้ว่า ด้านในนั้นมีเงินอยู่เท่าไรกันแน่

แต่..สรุปแล้วมันมีจำนวนเหลือจะคณานับ!

ความรู้สึกของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ กลับมาอย่างช้าๆ

ตอนนี้เพียงคำถามเดียวเท่านั้นที่คอยวนเวียนอยู่ในสมองของนาง

เหตุใดหรงซิวถึงได้รวยขนาดนี้เนี่ย?

“คุณหนูหลิวเยว่?”

เมื่อเยี่ยนชิงเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ชะงักไป เขาจึงอดที่จะพูดออกมาไม่ได้

จากนั้นฉู่หลิวเยว่ถึงค่อยได้สติกลับคืนมา นางมองไปที่แหวนเฉียนคุนด้วยแววตาสับสน

เสมือนว่า…นางไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายของตัวเองเสียเท่าไรเลย…

ในที่สุดตอนนี้นางเข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดหรงซิวถึงต้องให้เยี่ยนชิงมาที่นี่ด้วยตนเอง…เพราะแหวนเฉียนคุนวงนี้มันมีค่ามากเกินไป!

หรือว่าหรงซิวกลัวว่านางจะไม่มีเงินใช้?

นอกจากเรื่องนี้แล้วนางก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออกแล้ว…

“คุณหนูหลิวเยว่ ข้าส่งของเรียบร้อยแล้ว หากท่านไม่มีคำสั่งเพิ่มเติม เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวกลับก่อนนะขอรับ”

เยี่ยนชิงพูดขึ้น

เขารีบพูดขึ้นมา หากเขากลับไปช้า เขาอาจจะเห็นสถานการณ์ที่น่าหดหู่ของอวี๋มั่วได้

ฉู่หลิวเยว่ลูบแหวนเฉียนคุนที่อยู่บนมือ ราวกับว่าในใจมีอันใดบางอย่างกำลังจะพวยพุ่งออกมา

“ช้าก่อน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับหนึ่งกลับไปด้วย”

ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น จากนั้นก็รีบหมุนตัวกลับไปยังเรือนพักผ่อนของตนเอง

เยี่ยนชิงเดินตามไปทันที ก่อนจะรออยู่ที่ด้านนอกด้วยความเคารพ

ครั้งนี้ลู่จือเหยาไม่ได้ตามมาด้วย แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็สบตากันบ่อยมาก

ที่แท้เยี่ยนชิงผู้นี้ไม่ใช่คนรักของศิษย์น้องหญิง! แต่เป็นนายท่านของเขาใช่หรือไม่?

ศิษย์น้องหญิงของเขาเพิ่งจะอายุสิบสี่ เหตุใดถึงมีคนรักแล้วล่ะ?

ไม่รู้จริงๆ ว่าใครกันที่โชคดีขนาดนั้น…แต่จะว่าไปแล้ว เมื่อไรพวกเราจะได้เจอคนคนนั้นล่ะ? หากคนคนนั้นไม่เหมาะสมกับศิษย์น้องหญิงล่ะจะทำอย่างใด?

ไม่เห็นหรือว่าเยี่ยนชิงคนนั้นมีท่าทางดุร้ายเพียงใด? แรงกดดันของระดับพลังของเขา เกรงว่าฝีมือที่แท้จริงของเขาจะไม่ได้ด้วยไปกว่าพวกเราเลย! ส่วนนายท่านของเขา…ไม่ใช่ว่าต้องแข็งแกร่งกว่าเขาหรือ? เหมือนว่าศิษย์น้องหญิงคนนี้ดีทุกอย่าง สายตาของนางก็ต้องดีด้วยอย่างแน่นอน!

แล้วศิษย์น้องคนนั้นล่ะ จะทำอย่างใด?

อะแฮ่ม…

หรือว่าพวกเจ้ามองไม่เห็นหรอกหรือ ศิษย์น้องหญิงเห็นศิษย์น้องเป็นลูกคนหนึ่งไปแล้ว!

เดิมทีเยี่ยนชิงก็รอฉู่หลิวเยว่อยู่ที่หน้าประตูอย่างอดทน แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเขา เดินเข้าห้องนั้นไป

เขาชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมอง

เด็กคนนั้นมีรูปร่างผอมบาง ผมสั้นสีทอง ผิวขาวราวกับสามารถเรืองแสงได้

แม้ว่าจะเป็นการมองผ่านเพียงครู่เดียว แต่เขาก็สามารถมองออกได้ว่า โครงหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้น…งดงามมาก

แม้ว่าคำนี้จะไม่เหมาะกับการบรรยายลักษณะหน้าตาของเด็กหนุ่ม แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเขา ก็ต้องนึกถึงคำคำนี้ขึ้นมาคำแรก

เหมือนว่าเขาจะอายุสิบกว่าขวบเท่านั้น ยังมีรัศมีความอ่อนวัยอยู่มาก ในขณะเดียวกันก็มีรังสีของความดุร้ายป่าเถื่อนแผ่ออกมาจากร่างกายด้วย

ราวกับว่าคนคนนี้มีทั้งความซับซ้อน และบริสุทธิ์อยู่ในตัวเอง

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่แล้ว ก่อนจะช่วยนางฝนหมึก

ตั้งแต่ต้นจนจบเขายังไม่เอ่ยคำพูดออกมาเลยสักคำ ใบหน้าของเขาก็เย็นชาอย่างมาก

แต่ท่าทางการกระทำนั้นเป็นธรรมชาติอย่างมาก เหมือนว่าเคยทำมาหลายครั้งแล้ว

ฉู่หลิวเยว่มองเชียงหว่านโจวอย่างประหลาดใจเล็กน้อย

สายตาของเด็กคนนี้เฉียบคมตั้งแต่เมื่อไร?

ท่าทางของเขาดูคล่องอย่างมาก เหมือนว่าก่อนหน้านี้ก็เคยทำเรื่องเหล่านี้มาไม่น้อย…

นางเม้มริมฝีปากเบาๆ จากนั้นก็จุ่มพู่กันลงไปในแท่นหมึก หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจ ในที่สุดนางก็จรดปลายพู่กันลง

เยี่ยนชิงขมวดคิ้วเบาๆ

นี่มัน…เกิดอันใดขึ้นกันแน่?

ก่อนหน้านี้คุณหนูหลิวเยว่ติดตามเจี่ยนเฟิงฉือมายังเมืองซีหลิงไม่ใช่หรือ?

นอกจากเจี่ยนเฟิงฉือ และมู่ชิงเห่อแล้ว นางต้องไม่มีคนที่สนิทคุ้นเคยแล้วสิถึงจะถูก

แต่เด็กคนนี้ เหมือนว่าจะมีความสนิทสนมกับนางมากเป็นพิเศษ

ข้างกายของคุณหนูฉู่หลิวเยว่ มีไอ้หมอนี่ปรากฏกายมาตั้งแต่เมื่อใด?

ขณะที่เยี่ยนชิงกำลังลอบสังเกตอย่างระมัดระวัง

ในขณะที่กำลังบ่นพึมพำอยู่ว่า เดี๋ยวนี้เย่ว์หลิงทำงานไม่ได้เรื่องมากขึ้นทุกวัน ข่าวใหญ่ขนาดนี้ เหตุใดถึงไม่รายงาน

หากนายท่านรู้เรื่องนี้แล้วละก็…

แผ่นหลังของเยี่ยนชิงก็รู้สึกเสียววูบขึ้นมาทันที

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *