ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 295 ข่มขู่ [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 295 ข่มขู่ [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 295 ข่มขู่ [รีไรท์]

หรงซิวบ้าไปแล้วจริงๆ

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้หอคอยจิ่วโยวอันตรายถึงเพียงนี้ แต่นอกจากหรงซิวจะไม่อพยพหนีแล้วกลับยังเข้าไปในนั้นอีกด้วย!

แบบนี้เขาไม่ได้รนหาที่ตายหรอกรึ

เขากัดฟันเดินเข้าไปหน้าหน้า และคิดอยากจะไปพาหรงซิวออกมา

แต่เปลวไฟสีดำกลับพุ่งออกมาตรงหน้าเขา รั้งผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นให้อยู่ข้างนอก!

เขารีบหันหน้ามองไป กลับเห็นว่าเยี่ยนชิงไม่ได้ตามหรงซิวเข้าไปด้วย

เขากำลังจะตะโกนเรียกเยี่ยนชิง แต่กลับเห็นว่าจู่ๆ เยี่ยนชิงก็หันหลังเดินออกมาเสียก่อน! ก่อนจะหายไปในพริบตา!

นี่มัน…

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นไม่ทันได้สนใจอันใดมากนัก เมื่อทำอันใด…ทำได้เพียงเหาะขึ้นไปบนฟ้าเพื่อบอกกับซุนจ้งเหยียนว่า

“หรงซิวเข้าไปในหอคอยจิ่วโยวแล้ว!”

ซุนจ้งเหยียนขมวดคิ้ว

“ข้ารู้!”

ค่ายกลผนึกสวรรค์นี้เป็นของหอคอยจิ่วโยวโดยเฉพนะ หลังจากเปิดใช้งานแล้ว เขาก็สามารถรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหอคอยจิ่วโยวหมดแล้ว

แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ยังคงสามารถเห็นได้ถึงชั้นที่ห้าเท่านั้น

ฉะนั้น เขาจึงยังหาร่องรอยของฉู่หลิวเยว่ไม่เจอ

“เมื่อครู่นี้ข้าลองรั้งดูแล้ว แต่ก็รั้งเขาเอาไว้ไม่ได้”

ซุนจ้งเหยียนเหลือบมองไปยังเปลวไฟสีดำที่ลุกโชนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะเอ่ยปากด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นถึงกับตะลึง

“เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ได้?”

ซุนจ้งเหยียนถือสากเงินเอาไว้แล้วพลางควบคุมค่ายกลผนึกสวรรค์ทั้งหมด ถ้าเขาตั้งใจจะรั้งจริงๆ หรงซิวจะเข้าไปได้อย่างใด?

ซุนจ้งเหยียนไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอันใดอยู่ อันที่จริงแล้ว ในใจของเขาเองก็รู้สึกตกใจและสงสัยเช่นกันขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงพลังของหรงซิวนั้น เขาก็รู้ว่าไม่ดีนักจึงรีบแบ่งพลังมารั้งเอาไว้ทันที

แต่เหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับหรงซิวเลยสักนิด

จู่ๆ ซุนจ้งเหยียนเอ่ยปากด้วยความตกใจ

“หรงซิวเข้าไปถึงชั้นที่หนึ่งแล้ว”

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นอ้าปากค้าง และเป็นเพราะเขาตกใจมากเกินไปจนพูดจาติดๆ ขัดๆ

“เหตุใด…ประตูถึงไม่ปิด? แล้วเขาเข้าไปได้อย่างใด?”

เขาเห็นเองกับตาว่าประตูใหญ่ของหอคอยจิ่วโยวนั้นเปิดออกเอง

ตอนนั้นแม้แต่เขาก็ยังถูกกีดกัน แต่กับหรงซิวที่ไม่มีพลังอันใดสักอย่าง เหตุใดถึงได้เปิดประตูให้?

ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้ชั้นที่หนึ่งทั้งชั้นก็ยังถูกเผาไหม้อีกด้วย!

“ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขาเข้าไปแล้ว อีกอย่าง…ก็กำลังขึ้นไปข้างบนด้วย!”

ซุนจ้งเหยียนมองดูค่ายกลที่ส่องแสงสั่นไหวอยู่ตรงหน้า แล้วทั้งหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวล

ตอนนี้ทั้งสองคนที่อยู่ในหอคอยจิ่วโยวนั้น ห้ามเป็นเกิดเหตุอันใดทั้งนั้น!

อีกอย่างต่อให้เป็นการเห็นแก่ตัว เขาก็ขอให้ไม่เกิดอันใดขึ้นกับพวกเขาทั้งสองคน!

“บนตัวของหรงซิวมีอาวุธคุ้มกันประจำกายอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงสามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นก็คงอยู่ได้ไม่นาน…”

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นคิดไปสักพักก็รู้สึกว่าเหมือนจะมีแค่เหตุผลนี้ที่จะอธิบายใหเข้าใจได้

“แต่ไม่ว่าอย่างใด ก็ต้องหาวิธีพาพวกเขาออกมาให้ได้! พวกเขา…”

จู่ๆ ซุนจ้งเหยียนอ้าปากค้างทันที

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นเห็นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ในใจจึงเกิดความกังวลอย่างกะทันหัน!

“เขาขึ้นชั้นที่สองไปแล้ว!” ซุนจ้งเหยียนเอ่ยปากด้วยความตกใจ

“เป็นไปได้อย่างใด ร่างกายของเขาอ่อนแอ และยังไม่ได้ฝึกฝนวิชาด้วย สามารถเข้าชั้นที่หนึ่งได้ก็ถือว่าบังเอิญมากแล้ว เขาขึ้นไปชั้นที่สองได้ย่างใด? เขาไม่ได้มีทักษะต่อสู้ระดับสองเสียหน่อย!”

“หลิวเยว่ก็อยู่ระดับสองนี่ แค่เหตุใดไม่มีร่องรอยของนางในชั้นสองเลย!”

ซุนจ้งเหยียนกัดฟันพูด

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออก

สักพักเขาจึงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

“ถ้าอย่างงั้น…เจ้าก็หมายความว่า…นางอยู่สูงกว่าชั้นที่ห้ารึ?”

ซุนจ้งเหยียนหลับตาลง

ถ้ามิได้เห็นกับตา เขาไม่มีทางเชื่อแน่นอน

การจัดลำดับของหอคอยจิ่วโยวนั้นเข้มงวดสุดๆ ทุกๆ ชั้นจะมีรั้วกั้นอยู่ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครผ่านไปได้เลย

แต่ตอนนี้ความจริงอยู่ตรงหน้าถึงเพียงนี้ จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้

บูม!

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน เปลวไฟด้านใต้ของหอคอยจิ่วโยวก็ลุกโชนมากขึ้นไปอีก!

ซุนจ้งเหยียนระดมพลังจิตทั้งหมดในร่างกายของเขาและเทลงในสากเงิน!

ค่ายกลใหญ่ยักษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า เปล่งประกายมากขึ้น แรงข่มขู่ก็ทรงพลังมากขึ้น!

ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด!

เมื่อหอคอยจิ่วโยวเกิดความโกลาหลขึ้น ก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้แข็งแกร่งหลายคนในเมืองได้อย่างรวดเร็ว

มู่ชิงเห่อที่กำลังหลับพักผ่อนอยู่ก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะมองไปยังหอคอยจิ่วโยว!

เขามองด้วยแววตานิ่งเฉยสักพัก ก่อนจะบ่นพึมพำ

“ดูเหมือนอสูรดุร้ายกำลังจะปรากฏขึ้นบนโลกแล้ว…นึกไม่ถึงเลยว่าที่แห่งนี้จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่…”

แคว้นเย่าเฉินแห่งนี้มีความซับซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยจริงๆ

ทันใดนั้นปีศาจแดงที่อยู่อีกฝั่งก็บินมา! แล้วใช้แววตาที่แดงเหมือนอัญมณีจ้องหอคอยจิ่วโยวเอาไว้

มู่ชิงเห่อเหลือบมองมัน

ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากกลับมาจนถึงตอนนี้ ปีศาจแดงก็เอาแต่เศร้าซึมถามอันใดมันก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่มุดหัวอยู่ใต้ปีกและไม่ขยับ

มู่ชิงเห่อรู้ว่ามันชอบเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะปลอบแต่อย่างใด

อารมณ์ของปีศาจแดงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเขามักจะบ่นกับคนๆ นั้น ทำให้เขาต้องยอมไปหลายครั้ง

แต่ตอนนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว คนคนนั้นไม่อยู่ตั้งนานแล้ว ส่วนมันนั้นยังเป็นแบบนี้อยู่ ไม่ว่าอย่างใดก็ต้องก่อเรื่องวุ่นวายแน่นอน

ฉะนั้นในใจของมู่ชิงเห่อจึงตัดสินใจมุ่งเน้นไปทางตั้งใจดัดนิสัยของมันดีกว่า ด้วยความที่ปีศาจแดงไม่ขยับ เขาก็ไม่ทำอันใดปล่อยให้มันอารมณ์เสียไปแบบนั้น

เห็นปีศาจแดงกำลังตื่นตัวพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาหยุดไปสักพัก ก่อนจะขมวดคิ้ว

“ก่อนหน้านี้เจ้าไปที่ไหนมารึ?

ปีศาจแดงได้ยิน แต่กลับไม่สนใจเขา มันสะบัดปีกแล้วกำลังจะบินหนีไป

มู่ชิงเห่อเอามือกอดอก ก่อนจะพูดอย่างใจเย็น

“ดูเหมือนว่าการฝึกฝนของเจ้าจะลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้แม้แต่สัตว์ร้ายที่ถูกกดขี่ก็ยังสามารถทำร้ายเจ้าได้เลยด้วยซ้ำ”

ปีศาจแดงหันกลับไปก่อนจะจ้องเขาตาเขม็ง

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พูดๆ ไปเรื่อย

อสูรตัวนั้นถูกปราบปรามให้ไปอยู่ภายใต้หอคอยจิ่วโยว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันอ่อนแอ

อีกอย่างตอนนี้มันจะไม่ได้การเตรียมตัวป้องกันอันใด จึงถูกสัตว์เหล่านั้นทำร้ายได้ง่ายๆ ถ้าตามหลักความเป็นจริงแล้ว มันคงจะถูกสัตว์ร้ายนั้นโจมตีจนไหลไปกับแม่น้ำลำธารก็เป็นได้

มู่ชิงเห่อเห็นการตอบสนองของปีศาจแดงแล้วก่อนจะหรี่ตาลง

ปีศาจแดงมักหยิ่งผยอง และไม่แม้แต่จะมองดูสัตว์ทั่วไปด้วยซ้ำ

สามารถทำให้มันตอบสนองได้มากขนาดนี้ก็สามารถรับร้องได้แล้วว่าอสูรร้ายที่กักขังข่มขู่ไว้ต้องมีระดับสูงแน่นอน

ในใจของเขากระตุก แล้วเงาก็หายไปจากที่เดิมในพริบตา!

ปีศาจแดงลืมตาโต…เอาอีกแล้ว!

ไม่ให้มันไป แต่ตอนนี้ตัวเขาเองก็ไปแล้วไม่ใช่รึ!

บนตัวของปีศาจแดงมีเปลวไฟสีน้ำเงินลุกโชนอยู่ ก่อนจะพุ่งไปยังหอคอยจิ่วโยว

ฝากเอาไว้ก่อน ต้องแก้แค้นให้ได้แน่นอน!

อีกฝั่งหนึ่ง ฝูอวิ๋นซานและเฉิงหันก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

เมื่อเขารู้สึกว่าความเคลื่อนไหวนี้มาจากสำนักเทียนลู่ ก็ถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบไปที่นั่นทันที

พวกเขาไม่ได้เป็นห่วงว่าคนในสำนักจะต้องเจอกับอันตราย แต่เป็นเพราะตกใจกับความผันผวนนี้มากกว่า!

เมื่อพวกเขามาถึงนอกสำนัก ก็เห็นหอคอยจิ่วโยวที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นกำลังถูกเผาไหม้อย่างบ้าคลั่งอยู่!

เปลวไฟสีดำได้ห้อมล้อมชั้นด้านล่างของหอคอยจิ่วโยวไปหมดแล้ว มองไปแล้วรู้สึกเหมือนนรก!

ส่วนด้านบนของหอคอยจิ่วโยวก็มีพวกซุนจ้งเหยียนที่กำลังร่วมมือกันปราบปรามอยู่

เพียงแต่ค่ายกลที่ใหญ่ยักษ์นั้นกำลังจะพังทลายลงไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *