ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 519 นอกจากนาง [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 519 นอกจากนาง [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 519 นอกจากนาง [รีไรท์]

หยดน้ำนั้นปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของค่ายกลขนาดใหญ่อย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่ามันจะมีขนาดเล็กมาก

แต่ทั้งสองฝ่ายกลับปะทะกันอยู่

ฉู่หลิวเยว่รู้ว่า นี่คือการประลองของพลังแห่งสวรรค์ทั้งสองสาย!

นางอยากชนะ และอยากชนะภายในครั้งเดียว!

นางจ้องไปที่ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังปะทะกันไปมาอยู่

อินทรีสามตายืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา

พื้นที่ทั้งหมดเงียบสงัดจนน่ากลัว

เปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้ง!

แสงสว่างเจิดจ้าอย่างมาก จนทำให้คนมองไปตรงๆ ไม่ได้!

“ถอยหลังลงไปอีก!”

คนที่รออยู่ด้านนอกของหลุมยุบ ได้รับผลกระทบจากพลังนั้น จึงต้องถอยร่นลงไปอีกครั้ง!

แต่คนส่วนใหญ่ก็ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อย

“นี่มันสายฟ้าสายที่ยี่สิบเจ็ดของกระบี่หลงหยวนแล้วนะ และแรงกดดันก็ทรงพลังขนาดนี้ ถ้าให้ต้องรอให้เก้า เก้า แปดสิบเอ็ด[1]จบลง…แต่เกรงว่าจะไม่มีใครต้องแรงกดดันนั้นไหว! ถึงตอนนั้นพวกเราทุกคนจะต้องถูกส่งออกจากอาณาจักรเทียนลิ่งทั้งหมด!”

ชายร่างกายกำยำคนหนึ่งพูดขึ้น

ปราณกระบี่สีดำที่อยู่ในหลุมยุบนั้น ก็ยังคงไหลเข้าไปในกระบี่หลงหยวนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อมองลงไปรอบๆ แล้ว ด้านล่างก็กลายเป็นทะเลเพลิงสีทอง

“ไม่แน่นะ เจ้านายคนใหม่ที่ถูกกระบี่หลงหยวนเลือก อาจจะไม่ต้องทนแรงกดดันเหล่านั้นก็ได้”

ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขา ก็กระอักเลือดออกมา แล้วกัดฟันพูดขึ้น

เมื่อสิ้นเสียงนั้น ทุกคนก็เงียบเสียงลงไปทันที

ที่พวกเขายืนกรานที่จะรอที่นี่ ก็เพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ?

หยางเซิ่นเอ๋อร์กะพริบตาเล็กน้อย แล้วถามขึ้นมาเสียงเบาว่า

“ศิษย์พี่ทั้งสองบาดเจ็บสาหัสนัก ถ้าเช่นนั้น…หรือว่าพวกเราไม่ต้องรอแล้ว ดีหรือไม่?”

แต่ชายทั้งสองปฏิเสธพร้อมกัน

“ไม่ได้! ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย พวกเราไม่ยอมแพ้! สายฟ้าทุกๆ เก้าสายของกระบี่หลงหยวน จะเลือกเจ้านายคนใหม่หนึ่งครั้ง นี่ผ่านไปแล้วสามครั้ง ยังไม่มีคนถูกเลือก…พวกเรายังมีโอกาส”

“ถูกต้อง! หากเป็นเพราะหวาดกลัวแล้วหนีไปเช่นนั้นก็จะทำให้คนดูถูกแล้ว! เซิ่นเอ๋อร์ไม่ต้องกลัวมีศิษย์พี่อยู่ที่นี่ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!”

หยางเซิ่นเอ๋อร์ยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้ง

หนิงเจียวเจียวมองไปรอบๆ ด้วยความเย็นชา แววตายังมีประกายการเยาะเย้ยอยู่ด้วย

ในช่วงเวลานี้ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องอันตราย ผู้ชายสองคนนี้จะพุ่งไปที่ด้านหน้าก่อนเสมอ เพราะกลัวว่า

หยางซิ่นเอ๋อร์จะเป็นอันใดไป

จนมาถึงตอนนี้ ผู้ชายทั้งสองคนนั้นบาดเจ็บอย่างหนัก แต่หยางเซิ่นเอ๋อร์ผู้นั้นกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

หยางเซิ่นเอ๋อร์ผู้นี้ นับว่ามีฝีมือ

ไม่เช่นนั้น คงไม่มีทางทำให้ผู้ชายทั้งสองคนตายใจ และยอมเสียสละชีวิต ตายแทนนางได้

งานหมื่นทูรครั้งนี้ ก็เป็นแค่การประลอง แต่ดูจากพวกเขาสองคนแล้ว พวกเขาก็มาอยู่ในมือของหยางเซิ่นเอ๋อร์อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

หยางเซิ่นเอ๋อร์สัมผัสได้ถึงสายตาของหนิงเจียวเจียว จึงเงยหน้าไปมองนาง

ทั้งสองคนสบสายตากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ละสายตาไป

ในตอนนั้น สายฟ้าก็ได้ผ่าลงมาอีกสายแล้ว

แสงสีเงินสว่างวาบ!

พลังอันบ้าคลั่งพัดกระจายออกไป!

หนิงเจียวเจียวประสบภัยพิบัติคนแรก!

นางรีบเปลี่ยนใจแล้ววิ่งถอยหลังกลับไปทันที!

เดิมทีชายมีเคราที่ยืนอยู่ด้านหลังของนางก็มีความคิดที่จะถอยเหมือนกัน แต่ก็สะดุดไปเล็กน้อย ทำให้เดินเข้าไปหนึ่งก้าว

ต่อให้พลาดไปแค่หนึ่งก้าว ก็สามารถทำให้หนิงเจียวเจียววิ่งผ่านเขาไปได้!

กลายเป็นเขาที่ยืนอยู่ใกล้หลุมยุบมากที่สุด!

ในตอนนั้นเอง ชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิมแล้ว!

นั่นหมายความว่า เขาโดนคัดออกไปแล้ว!

หยางเซิ่นเอ๋อร์ส่งสายตาให้หนิงเจียวเจียวเป็นคำเตือน

มุมปากของหนิงเจียวเจียวยกขึ้นมาครู่หนึ่งจากนั้นก็หายไปทันที

“น่าเสียดายจริงๆ…”

ชายมีเคราได้รับบาดเจ็บสาหัส เดิมทีก็ไม่มีพลังในการต่อสู้หลงเหลืออยู่แล้ว ช่วยอันใดได้ไม่มากหรอก อยู่ที่นี่ไปก็เป็นการเกะกะสายตาเท่านั้น

ถ้าเช่นนั้นก็ส่งเขาไปแบบนี้จะดีกว่า

หนิงเจียวเจียวลูบหน้าตัวเองด้วยความพอใจ

ทันใดนั้นเองนางก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาที่เย็นชามองมาที่นาง

นางหันหลังกลับไปมอง

เป็นหนุ่มน้อยผมสีทองคนหนึ่งที่กำลังจ้องนางอยู่ สายตาของเขาเหมือนมีดที่แหลมคม

ภายใต้สายตาคู่นี้ เหมือนว่าเขามองการกระทำเมื่อครู่นี้ออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว!

หนิงเจียวเจียวเบนสายตาของตัวเองออกอย่างไม่รู้ตัว

แต่สายตานั้นก็ยังจดจ้องที่แผ่นหลังของนาง ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

นางจึงถามขึ้นมาลอยๆ ว่า

“เด็กหนุ่มผมทองคนนั้นเป็นใครกัน? เหตุใดถึงหน้าคุ้นๆ?”

หยางเซิ่นเอ่อร์หัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดอันใดออกมา ใบหน้ายังคงเสียใจกับการตกรอบของศิษย์พี่ตนเอง

ชายรูปร่างผอมสูงก็ตบบ่าของนางเป็นการปลอบใจ เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงเจียวเจียว เขาจึงหันไปมองครู่หนึ่ง

“คนคนนั้นเป็นคนที่กัดเด็กอีกคนไม่ใช่หรือ? เหมือนว่าจะชื่อ…ชื่อ…เชียงหว่านโจว?”

หนิงเจียวเจียวถึงได้นึกออก

“ที่แท้ก็เป็นเขานั่นเอง”

นางกับเขาไม่รู้จักกัน แต่เหตุใดถึงดูแค้นนางขนาดนี้ด้วยเล่า?

หนิงเจียวเจียวรู้สึกหดหู่ในใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะไปถามหาความ

นางไม่อยากพลาดกระบี่หลงหยวน เพราะเรื่องเล็กแค่นี้

หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ละสายตาออกมา นางถึงได้ลอบถอนหายใจเบาๆ

เวลาในการรอคอยนั้น มักยากเสมอ

โดยเฉพาะสิ่งที่มาพร้อมกับอันตราย ยิ่งทำให้คนรู้สึกลำบากใจ

เมื่อสายฟ้าสายที่สามสิบหกผ่าลงมา ก็ยังไม่มีใครถูกเลือกอยู่ดี แต่กลับมีสองคนทนแรงกดดันเหล่านั้นไม่ไหว จึงโดนไล่ออกไป

หนึ่งในนั้นก็เป็นชายร่างผอมสูงจากสำนักกระบี่เมฆาม่วง

ในที่สุดหยางเซิ่นเอ๋อร์ก็ทนต่อไปไม่ไหว จนเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของหนิงเจียวเจียว แล้วถามนางด้วยเสียงต่ำว่า

“นี่เจ้าคิดจะทำอันใด?”

หนิงเจียวเจียวหัวเราะเสียงเบา

“ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่น่ะสิ! ถ้าสองคนนั้นอยู่ที่นี่ เจ้าจะมีโอกาสได้แสดงฝีมือหรือ? ตอนนี้พวกเขาโดนคัดออกไปหมดแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว”

หยางเซิ่นเอ๋อร์แค่นหัวเราะเสียงเย็น

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอันใดอยู่?”

หนิงเจียวเจียวไม่สนใจ

นางไม่เชื่อ ว่าหยางเซิ่นเอ๋อร์คนนี้จะเสแสร้งจนถึงวินาทีสุดท้าย

ส่วนคนอื่นๆ ก็กังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

“นี่มันก็สี่รอบแล้ว เหตุใดกระบี่หลงหยวนถึงไม่เลือกเจ้านายคนใหม่..”

“รออีกหน่อยเถอะ! อาวุธศักดิ์สิทธิ์เพิ่งตื่น มันจะต้องเลือกเจ้านายคนใหม่แน่นอน”

“แต่ว่าเปลวไฟสีทองที่อยู่ด้านล่างมันคืออันใดกันแน่? ตำนานที่เกี่ยวกับกระบี่หลงหยวน เหมือนว่าจะไม่ได้พูดถึงของสิ่งนี้นะ…”

“ในสถานที่ลึกลับเช่นนี้ มันยังมีสิ่งพวกเราคาดเดาได้อีกหรือ? รออยู่เฉยๆ ก็พอแล้ว!”

จัตุรัสเสวียนจี

ตอนนี้เวลาก็ผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว

แต่คนที่อยู่ในจัตุรัสกลับมีมากกว่าเดิมเสียอีก

เจียงอวี่เฉิงยังคงยืนอยู่ในมุมอับอย่างสบายอกสบายใจเหมือนเดิม พร้อมมองดูสถานการณ์ในสนามไปด้วย

จนถึงตอนนี้ คนส่วนใหญ่ก็ถูกคัดออกมาแล้ว

แต่ในการแข่งขันโค้งสุดท้าย กลับยิ่งดุเดือดมากกว่าเดิม!

เขาหันไปมองที่กระดานหยกสีดำ

รายชื่อที่อยู่บนนั้น มีน้อยจนสามารถนับได้เลยทีเดียว

ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็จ้องอยู่ที่ชื่อชื่อหนึ่ง แล้วถามว่า

“ฉู่หลิวเยว่ยังอยู่ในนั้นหรือ?”

ชายที่ติดตามอยู่ด้านหลังก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า

“ใช่ขอรับ หากนับรวมนางแล้ว ทั้งหมดเหลือสิบสามคนขอรับ”

เจียงอวี่เฉิงเอามือไพล่หลัง ฝ่ามือค่อยๆ กำหมัดกร๊อด

ฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงแค่นักรบระดับสาม ต่อให้มีความอดทน ก็ควรจะถูกคัดออกมาแล้วสิถึงจะถูก

“คนที่เหลือในนั้น ระดับที่ต่ำที่สุดคือระดับห้าขั้นสูงใช่หรือไม่?”

“คุณชายใหญ่ปราดเปรือง อีกทั้ง…”

“อีกทั้งอันใด?” เจียงอวี่เฉิงถามต่ออย่างหมดความอดทน

ชายคนนั้นกดเสียงเบา

“อีกทั้ง…คนที่เหลือในกลุ่มนั้น นอกจากฉู่หลิวเยว่แล้ว พวกเขาล้วนมีชีพจรตี้จิงขั้นสูงทั้งสิ้น”

รูม่านตาของเจียงอวี่เฉิงหดตัวลง!

[1]เก้า เก้า แปดสิบเอ็ด หมายความว่า ทัณฑ์สายฟ้าเก้าระลอก ระลอกละเก้าครั้ง ทั้งหมดรวมเป็นแปดสิบเอ็ดครั้ง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *