ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 412 คู่สร้างคู่สม [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 412 คู่สร้างคู่สม [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 412 คู่สร้างคู่สม [รีไรท์]

อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง

“นั่นใคร?”

น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาเสมือนไร้ซึ่งผู้พูด และฟังดูราวกลับดังมาจากที่ไกลๆ

แต่อย่างใดเสียฉู่หลิวเยว่กลับได้ยินร่องรอยของความไม่พอใจแอบแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น ถึงจะดูเป็นเรื่องปกติที่อีกฝ่ายอาจไม่พอใจขึ้นมา แต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกประหลาดใจ…

ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากและพูดอย่างลังเล

“ก็แค่…คนที่บังเอิญหลุดเข้ามาพร้อมกันกับข้า”

นางเชื่อว่าด้วยทักษะของอีกฝ่ายแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้ว่านางหมายถึงใคร

“ดูเหมือนเขาจะปฏิบัติต่อเจ้าได้ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้เจ้ากลับต้องการช่วยเขาอย่างนั้นหรือ?”

ชายคนนั้นไม่ได้เห็นด้วยหรือปฏิเสธโดยตรง แต่กลับย้อนถามนางด้วยประโยคนั้นแทน

ฉู่หลิวเยว่ถึงกับผงะ

“ท่านรู้ได้อย่างใด ว่าเขาปฏิบัติต่อข้าเช่นใด?”

ชายคนนั้นหยุดชะงัก พลางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อทันที เป็นเพราะเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก แน่นอนว่าเขาต้องรู้ดีว่าเกิดอันใดขึ้นในสุสานแห่งนี้บ้าง

มีแวบหนึ่งที่ฉู่หลิวเยว่เกือบจะคิดว่า เถ้าแก่ใหญ่อาศัยอยู่ในสุสานของจักรพรรดิแห่งนี้ตลอดเวลา

แต่สุดท้าย นางก็รู้ว่ามันเป็นไม่ได้

เพียงแต่…เห็นได้ชัดว่าเขาเคยมาที่นี่มากกว่าหนึ่งครั้ง

ฉู่หลิวเยว่กำมือแน่นยิ่งขึ้น ลำคอของนางฝืดเคืองราวกับถูกบางสิ่งขวางกั้นไว้

อันที่จริงนางเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงพูดประโยคนั้นออกไป

เพราะไม่ว่าจะมองอย่างใด คนอย่างมู่ชิงเห่อก็ไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากนาง

ทว่า…ภาพที่เขาคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลอาบหน้า ยังคงติดตานางอยู่จนถึงตอนนี้

ไหนจะน้ำเสียงยามเรียก ‘ซั่งกวน’ อีก

นางไม่รู้ว่าภายใต้ความเศร้าโศกของเขานั้นมีความจริงใจซ่อนอยู่มากเพียงใด และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดเขาจึงทรยศนาง

เพียงแต่…

“สถานะของเขาพิเศษมาก ถ้าเขาตายอยู่ที่นี่ ข้าจะต้องเจอกับปัญหารุงรังอีกมากมาย” ฉู่หลิวเยว่พูดพร้อมกับก้มหน้าลง

เรื่องที่นางกับมู่ชิงเห่อลอบออกมา เจี่ยนเฟิงฉือเองก็รู้

หากมู่ชิงเห่อมาตายอยู่ที่นี่จริงๆ เช่นนั้นนางคงหนีไม่พ้น และโดนดึงไปสำเร็จโทษด้วยแน่ แต่ว่าตามนิสัยของเจี่ยนเฟิงฉือแล้ว เขาจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าทุกอย่างจะเสร็จสมดั่งใจปรารถนา

นอกจากนี้…นางก็ยังแอบหวังว่ามู่ชิงเห่อจะสามารถพานางกลับสู่ราชวงศ์เทียนลิ่งได้

“ฉะนั้นอย่างใดแล้ว ข้าก็อยากให้ท่านช่วย แต่หากว่าท่านไม่สะดวกใจ เช่นนั้นข้า…”

“นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่?”

ชายผู้นั้นโพล่งถามออกมา

“เจ้าขอความเมตตาจากข้า เพื่อตัวเจ้าหรือเพื่อเขาผู้นั้น?”

น้ำเสียงของเขายังคงราบเรียบ แต่เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ฟังกลับรู้สึกเย็นวาบตามแนวสันหลังอย่างอธิบายไม่ถูก พอฟังแล้วเหตุใดมันรู้สึกแปลกๆ?

ทว่าประโยคนั้นกลับทำให้นางได้สติ

นางครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ส่ายหัว

“เพื่อตัวของข้า”

สิ่งที่สำคัญที่สุดนางได้เรียนรู้หลังจากได้ชีวิตใหม่มาครอบครองก็คือ การทำเพื่อตัวเองมากขึ้น

สิ่งที่เรียกว่าความเห็นอกเห็นใจ และความเอื้อเฟื้อนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดต่อตัวนาง แต่จะนำไปสู่ปัญหามากมายที่ตามมามากกว่า

มู่ชิงเห่อไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป และนางก็ไม่ใช่ซั่งกวนเยว่ผู้สูงศักดิ์เฉกเช่นในอดีตแล้ว

“แค่คนเดียวเท่านั้น”

และในที่สุดเถ้าแก่ใหญ่ก็ตอบกลับมา น้ำเสียงของเขาอ่อนลงกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย

ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางรู้ว่าเขายอมช่วยแล้ว

“ขอบคุณท่านมาก เถ้าแก่ใหญ่!”

อย่างใดก็ตามเมื่อได้ยินเสียงของเขา จิตใจของนางกลับรู้สึกอ่อนไหวราวกับได้รับอิทธิพลบางอย่าง…

นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า

อันที่จริงฉู่หลิวเยว่ต้องการพบเถ้าแก่สุดลึกลับผู้นี้มาก ทว่าในตอนนี้การที่อีกฝ่ายจะยอมตกลงช่วยเหลือนางนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว นางจะไม่ทำสิ่งใดให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองเด็ดขาด

แต่ทันใดนั้น นางก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีปัญหาอีกหนึ่งอย่าง

ตั้งแต่ตอนที่นางคว้าพีระมิดลงมาจากฐานของมัน นางก็ไม่มีเวลาดูมันเลย ตอนนี้นางจึงไม่รู้ว่าสถานการณ์ของมู่ชิงเห่อเป็นอย่างใด…

หึ่ง!

พลันมีเสียงอื้ออึงดังมาจากด้านหลัง

ฉู่หลิวเยว่ตกใจและหันไปมองทันที

ก่อนจะพบมู่ชิงเห่อกำลังนอนอยู่บนสะพานสีดำข้างหลังนางร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด และดูเหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดใด…นี่เขาหมดสติไปแล้วหรือ?

ตอนที่เขาล้มลงนั้นดูเหมือนอาการของเขาจะค่อนข้างหนักเลยทีเดียว แผ่นอกของเขาสั่นสะท้าน อีกทั้งยังกระอักเลือดออกมาอีกสองสามคำ

ช่างดูน่าเวทนาจริงๆ…

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกถี่

นี่มัน…กระทันหันเกินไปหรือเปล่า

“เขา…ยังไม่ตายใช่หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเขาบาดเจ็บสาหัสกว่าเมื่อครู่ก่อนเสียอีก

“อืม แค่สลบไปเท่านั้น ล้มครั้งเดียวไม่ทำให้ตายหรอก”

ชายคนนั้นตอบกลับอย่างเย็นชาราวไม่ใส่ใจ

ฉู่หลิวเยว่ “…”

“…หรือว่า เจ้าอยากให้เขารู้ว่าเจ้าคือคนที่ช่วยเขาออกไป เขาจะได้ซาบซึ้งในบุญคุณของเจ้ามากกว่านี้?”

เขาพูดราวไม่คิดใส่ใจ ทว่าคนฟังกลับคิดมากกว่านั้น

หัวใจของฉู่หลิวเยว่เจ็บแปลบเสมือนถูกมีแทงซ้ำๆ

“ไม่จำเป็น แค่นี้ก็พอแล้วขอบคุณ”

นางรีบปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตัวเองทันที และเมื่อสาวเท้าไปหามู่ชิงเห่อ หัวใจของนางก็สงบลงอีกครั้ง

เถ้าแก่ใหญ่พูดถูก นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้

ครั้งหนึ่งนางเคยช่วยเขาไว้ และเขารู้สึกซาบซึ้งในเมตตาของนางมาก แต่สุดท้ายเล่าก็ไม่พ้นเรื่องตลกร้ายอยู่ดี คราวนี้นางจะทำเพื่อตัวเองเท่านั้น

เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว นางก็เริ่มก้าวเดินอีกครั้งพร้อมวางแผนพามู่ชิงเห่ออกไปด้วย

ทว่าในขณะที่นางกำลังจะโน้มตัวลงไป หางตากลับสังเกตเห็นอันใดบางอย่างที่บินโฉบเข้ามาใกล้

นางยกมือขึ้นและจับสิ่งนั้นไว้ทันที หลังจากที่กวาดตามองให้ดีแล้ว จึงพบว่ามันคืออาวุธสมัยโบราณประเภทหนึ่ง

“ใช้มันในการพาเขาออกไป และห้ามทำทางเส้นทางของข้าสกปรกเด็ดขาด”

น้ำเสียงของชายคนนั้นฟังดูเย็นชา

จนฉู่หลิวเยว่อดไม่ได้ที่จะแอบบ่นในใจ

ความจริงแล้วเถ้าแก่ใหญ่เป็นคนเช่นนี้นี่เอง…หากพูดจาดีๆ ก็คือเขาใส่ใจ หากพูดไม่ดี ก็…อืม คงเหมือนตอนอยู่กับภรรยาของเขานั่นแหละ

สะพานนี้เกิดจากพลังปราณดั่งเดิมของเขา แล้วมันจะไปสกปรกได้อย่างใด

แถมมันยังเป็นสีดำด้วย มันจะไปเห็นสิ่งสกปรกได้อย่างใดเล่า

ทว่าการที่นางรอดมาได้ ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลยอย่างเขา ดังนั้นนางจะไม่พูดประโยคเหล่านั้นต่อหน้าเขาเด็ดขาด

นอกจากนี้การใช้เครื่องมือดั้งเดิมนี่ก็สามารถช่วยผ่อนแรงนางเธอได้มากเช่นกัน

“เจ้าว่าอย่างใดนะ?”

ฉู่หลิวเยว่ตกใจสุดขีด นางรีบปิดปากแน่น และไม่พูดอีก คนคนนี้รู้วิธีอ่านใจหรือ? เขาเดาได้หมดเลยหรือว่านางพูดอันใดนึกอันใด

นางเงยหน้าขึ้นพร้อมเผยยิ้มแก้เก้อพัลวัน

“เปล่า…เปล่า! ข้าแค่คิดว่า ท่านกับภรรยาของท่านนี่ ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมที่ฟ้าประทานให้กันจริงๆ”

ประโยคนี้ทำให้เถ้าแก่ใหญ่จอมเจ้าอารมณ์พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขาหัวเราะออกมาทันทีอีกทั้งน้ำเสียง และทัศนคติของเขาก็ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก

“ข้ากับภรรยาเองก็คิดเช่นนี้”

ฉู่หลิวเยว่แทบสำลัก

เห็นคนคุยโวมาก็มากมาย แต่คนที่กล้าเยินยอตัวเองพร้อมคนรักต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ นางไม่เคยเห็นมาก่อนเลย…

“เช่นนั้น ข้าขออวยพรให้ท่านกับภรรยามีอายุยืนยาว และข้า…ข้าขอตัวก่อนได้หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่กล่าวอย่างสุภาพที่สุด

อีกฝ่ายยิ้มตอบ ทว่าไม่พูดอันใด

เพียงเท่านั้น ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกโล่งใจ และอัดพลังปราณเข้าไปในเครื่องมือสมัยโบราณ

พลันสิ่งประดิษฐ์ดั้งเดิมก็ค่อยๆ คลี่ออก และลอยอยู่กลางอากาศ กลายเป็นจานร่อนหกเหลี่ยม

จากนั้นก็มีตาข่ายทิ้งตัวห้อยลงมาจากจานร่อน และคลุมร่างของมู่ชิงเห่อไว้อย่างง่ายดาย

เมื่อเห็นร่างของมู่ชิงเห่อที่ขดตัวซุกอยู่ในตาข่ายด้านหน้า ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ก็สั่นไหวเล็กน้อย ได้รับการช่วยเหลือก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่ทว่า…ฉากนี้เองก็สุดยอดมากเช่นกัน

นางกระแอมไอเบาๆ พลันหันกลับไปมอง และจู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา

“ข้าเองก็ขออวยพรให้เจ้ากับสามีในอนาคต รักกันหวานชื่นยิ่งยืนนานตลอดไป”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *