ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 256 เอาใจ [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 256 เอาใจ [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 256 เอาใจ [รีไรท์]

“ฮ่าๆ! ก่อนหน้านี้ใต้เท้าฉู่มาหาข้าเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาบอกกับข้าว่าคุณหนูหลิวเยว่หายตัวไป ในใจข้าจึงรู้สึกร้อนรนอย่างมาก จากนั้นข้าก็ส่งคนออกไปหา แต่ว่าก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย ข้าจึงไปที่ป่านอกเมืองหลวงเพื่อหวังเพิ่งดวง แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ข้าเข้าไปได้ไม่นาน ก็เจอเยี่ยนชิง คนสนิทของหลีอ๋อง และข้าก็ได้ยินว่าเขาก็กำลังไปหาหลีอ๋อง ดังนั้นข้าจึงตามไปด้วย เพื่อหวังให้หลีอ๋องช่วยด้วยอีกแรง”

“แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อข้าไป ข้าก็เห็นว่าคุณหนูหลิวเยว่ก็อยู่ที่นั่นด้วย! หลังจากที่ข้าสอบถามว่าถึงได้รู้ว่า หลีอ๋องเจอคุณหนูหลิวเยว่สลบอยู่ที่ในป่าพอดีจึงเรียกให้คนมาช่วยไว้”

เขาหัวเราะคิกๆ

“หลังจากกลับมาแล้ว ข้าจึงรีบส่งคนไปแจ้งข่าวกับใต้เท้าฉู่หนิง หลังจากที่ใต้เท้าฉู่หนิงมาที่นี่ได้ไม่นาน ก็กำลังพูดคุยกันว่าจะไปที่สนามจยาหนาน! แต่คิดไม่ถึงว่าคุณหนูหลิวเยว่จะกลับมาที่นี่ก่อน!”

ประโยคนี้ของเหยียนเก๋อเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว

ฉู่หลิวเยว่กลับมาพร้อมเยี่ยนชิงและเหยียนเก๋อจริง แต่เรื่องที่หรงซิวมาช่วยตนเองไว้นั้น เป็นเรื่องที่เขาเติมขึ้นมาล้วนๆ

ตอนนั้นพวกเขารีบมาก จึงไม่ได้บอกรายละเอียดอย่างชัดเจน

เหยียนเก๋อขยิบตาให้นาง

ทันใดนั้นนางก็เข้าใจได้ในทันทีว่า ที่เขาต้องพูดออกไปเช่นนั้นก็เพื่อทำให้ฉู่หนิงสบายใจ

นางจึงไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดออกไป ทำได้เพียงพยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น

ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม ในสายตาของฉู่หนิง หรงซิวได้ออกหน้าช่วยนางมาตั้งหลายครั้ง จะเพิ่มครั้งนี้อีกสักครั้งจะเป็นอันใดไป

ฉู่หนิงถอนหายใจแล้วพูดว่า

“จะว่าไปแล้ว พวกเราสองพ่อลูกติดหนี้บุญคุณของหลีอ๋องมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”

หรงซิวหัวเราะแล้วกล่าวว่า

“ใต้เท้าฉู่หนิงเกรงใจกันเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

เมื่อฉู่หนิงเห็นว่าอีกฝ่ายถ่อมตัวเช่นนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมเขาเพิ่มมากขึ้น

หลีอ๋องผู้นี้ ถือว่าเป็นคนที่อ่อนโยน และเป็นคนดีที่สุดในราชวงศ์แล้ว

น่าเสียดายที่ร่างกายไม่แข็งแรง หลายปีมานี้เขานอนป่วยติดเตียงมาโดยตลอด

“ช่วงนี้สุขภาพของหลีอ๋องเป็นอย่างใดบ้างพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณใต้เท้าฉู่หนิงที่ใส่ใจ ข้าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว”

“งั้นก็ดีแล้ว…”

ฉู่หนิงมองท่าทางของหรงซิว เหมือนว่าจะดีกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อยจริงๆ

แต่ได้ยินมาว่าร่างกายของเขา ในแคว้นเย่าเฉินไม่ว่าจะเซียนหมอคนไหนก็ไม่มีทางรักษาเขาให้หายขาดได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้…

เมื่อเขาคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็หันไปมองหน้าลูกสาวตนเองด้วยความสงบ

จริงสิ ไม่แน่ว่าเยว่เอ๋อร์อาจจะมีวิธี!

ก่อนหน้านี้ที่เขาบาดเจ็บเรื้อรัง และเรื่องชีพจรเดิมของนาง ก็สามารถรักษาขึ้นมาได้ไม่ใช่หรือ?

ถ้าสามารถรักษาอาการของหลีอ๋องให้มามีสุขภาพที่ดีดังเดิม เช่นนั้นนางจะต้องได้รับความโปรดปรานแน่นอน

เมื่อคิดว่าถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงคิดว่าค่อยหาโอกาสคุยเรื่องนี้กับเยว่เอ๋อร์ตามลำพัง

ด้วยความสัมพันธ์พ่อลูก สายใยผูกพันธ์ เพียงฉู่หนิงปรายตามองไปยังอีกฝ่าย ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถคาดเดาความคิดของฉู่หนิงได้ประมาณแปดเก้าส่วนแล้ว นางจึงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

หากตอนนี้ฉู่หนิงรู้ว่าหรงซิวที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขาในตอนนี้ ไม่มีอาการป่วยเลยสักนิดเดียว อีกทั้งยังมีฝีมือที่แข็งแกร่ง จนเกือบจะนับได้ว่าเป็นลำดับต้นๆ ของแคว้นเย่าเฉิน ไม่รู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างใดบ้าง?

แต่ฉู่หนิงก็ยังมองไปยังฉู่หลิวเยว่อย่างไม่วางใจ

“เยว่เอ๋อร์ เมื่อวานมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดเจ้าถึงออกจากสำนักเรียนไป? ใครกันแน่ที่…“

ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอออกมาหนึ่งครั้ง

“ท่านพ่อ เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน ข้ายังไม่สามารถอธิบายให้ท่านฟังได้อย่างชัดเจน เดี๋ยวข้าค่อยกลับไปเล่าให้ท่านฟังอย่างละเอียดนะเจ้าคะ แต่ว่าตอนนี้ข้ายังมีอีกเรื่อง เมื่อครู่ข้ายังไม่ทันได้บอกท่าน…วันนี้ในการแข่งขันปรมาจารย์ค่ายกล ข้าได้เป็นที่หนึ่งล่ะ!”

เดิมทีฉู่หนิงรู้สึกวิตกเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินประโยคท้าย เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก

“เจ้าว่าอันใดนะ! ที่หนึ่งปรมาจารย์ค่ายกล?”

เขารู้อยู่แล้วว่าเยว่เอ๋อร์ลงทะเบียนประลองทั้งการต่อสู้และปรมาจารย์ค่ายกล แต่การแข่งต่อสู้ของเมื่อวานนางก็สามารถคว้าที่หนึ่งมาได้ เขาเองก็รู้สึกประหลาดใจมากอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์ค่ายกลก็ยังได้ที่หนึ่งเช่นกัน

“จริงหรือ?”

“ข้าจะโกหกท่านได้อย่างใดเล่า?”

ฉู่หลิวเยว่หัวเราะจนตาหยี

“แม้ว่าวันนี้ข้าจะเสียดายที่ท่านไม่ได้ไปดูข้าด้วยตนเอง แต่ผลลัพธ์เช่นนี้คงจะไม่ได้ทำให้ท่านผิดหวังใช่หรือไม่?”

ฉู่หนิงมองหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนาง ตอนนั้นเองเขาก็มีความรู้สึกที่ยากจะเชื่อ

ที่หนึ่งประเภทต่อสู้ ที่หนึ่งประเภทค่ายกล!

งานเทศกาลเยาวชนมีการแข่งขันสามประเภท นางสามารถคว้าที่หนึ่งมาสองประเภท!

เหยียนเก๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับได้สติก่อนแล้วตบทมือขึ้นมา พร้อมกล่าวอย่างดีใจว่า

“คุณหนูหลิวเยว่นี่สุดยอดจริงๆ เลยนะขอรับ”

สายตาของนายท่านนั้นเฉียบแหลมจริงๆ สามารถเลือกผู้หญิงหนึ่งในหมื่นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม!

“เมื่อวานท่านได้ที่หนึ่งในการต่อสู้! ข้าก็ได้สั่งเหมาหอคอยเฟิ่งหวง รอเพียงแค่การแข่งขันของวันนี้เสร็จสิ้นก็จะพาท่านไปทันที แต่ดูเหมือนว่าจะเหมาแค่วันเดียวมันคงจะไม่พอแล้วกระมัง! ฮ่าๆ”

ฉู่หลิวเยว่รีบส่ายหน้าทันที

“แบบนี้คงไม่ดีล่ะมั้ง? ครั้งที่แล้วข้าก็รบกวนคุณชายรองเหยียนไว้ตั้งมากมาย ครั้งนี้ก็ยัง…“

“แต่ฐานะในครั้งนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว! หลายปีที่ผ่านมาคนที่โดดเด่นที่สุดในงานสมาคมเยาวชนล้วนถูกทาบทาม ก้าวสู่อนาคต ปีนี้คุณหนูหลิวเยว่ได้รับรางวัลชนะเลิศตั้งสองรายการ จะต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดแน่นอน หากท่านไม่ตอบตกลงก็ถือว่าไม่ให้เกียรติเจินเป่าเก๋อของพวกเรา”

ฉู่หลิวเยว่รู้ดีว่าเขาเพียงอยากจะกระชับความสัมพันธ์เท่านั้น

แต่ในฐานะของเจินเป่าเก๋อ เหมือนว่าจะไม่เพียงพอ…

แต่นางก็ไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ออกมา จากนั้นก็ยังตอบตกลงพร้อมรอยยิ้ม…

“ได้! เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณคุณชายรองเหยียนไว้ก่อนเลย เพียงแต่ว่ารอให้งานเทศกาลเยาวชนจบก่อนดีหรือไม่?”

เหยียนเห๋อหัวเราะเสียงดัง

“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”

หลังจากพวกเขาคุยกันอยู่สักพัก ฉู่หนิงก็เตรียมตัวพาฉู่หลิวเยว่กลับ

ก่อนที่จะกลับนั้นยังไม่ลืมที่จะแสดงความขอบคุณหรงซิวอีกครั้ง

“หลีอ๋องยื่นมือมาช่วยหลายครั้ง ข้าไม่รู้ว่าจะขอบคุณอย่างใดดี หากพระองค์มีเวลาเช่นนั้นมาเป็นแขกที่จวนของข้าน้อยได้หรือไม่?”

ฉู่หนิงถามอย่างหยั่งเชิงหนึ่งประโยค

แค่เพียงให้หรงซิวมา ดังนั้นจึงจะสามารถให้เยว่เอ๋อร์จับชีพจรของเขาได้

หรงซิวยิ้มอย่างจริงใจ

“ใต้เท้าฉู่หนิงเป็นคนดีมาก ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะปฏิเสธ รอเรื่องนี้เสร็จสิ้น ข้าจะแวะไปเยี่ยมท่านที่จวนอย่างแน่นอน”

ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอหนึ่งครั้ง

หากไปอีกครั้ง อาจจะเป็นการไปสู่ขอ…

หรงซิวเป็นคนที่พูดจริงทำจริงมาโดยตลอด

นางเองก็ย่อกายคำนับ บอกลาหรงซิวและเหยียนเก๋อ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมฉู่หนิง รอจนแผ่นหลังของสองพ่อลูกหายไปแล้ว หรงซิวก็หมุนตัวกลับไป

เหยียนเก๋อก็โค้งคำนับ เพราะเพิ่งคิดได้ว่ายังมีคนอยู่ด้านนอก เขาจึงถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หลีอ๋องอยากจะมาเลือกสินค้าอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

หรงซิวพยักหน้าเบาๆ

“ข้าอยากเลือก…เจ้ารู้หรือไม่ว่าใต้เท้าฉู่หนิงชอบสิ่งใด?”

เขารู้เพียงความชอบของฉู่หลิวเยว่ ส่วนความชอบของฉู่หนิงนั้น เขากลับรู้ไม่มาก

“หา?” เหยียนเก๋อชะงักไป

หรงซิวเหลือบมองเขา

เหยียนเก๋อเกือบจะตบหัวเรียกสติตัวเองแล้ว

โง่จริง!

เห็นได้ชัดว่านายท่านจะเริ่มเอาใจชายชราผู้นั้นแล้ว!

“อ่า! คือว่า…เรื่องนี้…ก่อนหน้านี้ใต้เท้าฉู่หนิงเคยเปิดร้านขายอาวุธ น่าจะเพราะมีความชอบด้านนั้น แล้วอีกอย่างก็คือเครื่องลายครามพ่ะย่ะค่ะ…ทั้งหมดมีอยู่ด้านใน ท่านจะเข้าไปเลือกด้วยตนเองหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

หรงซิวสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน

จากนั้นเขาก็พูดขึ้นอย่างเกียจคร้านโดยไม่หันกลับมามอง

“เยี่ยนชิง เรื่องที่ข้าสั่งไป เจ้ารีบไปทำทันที”

เยี่ยนชิงรีบขานรับด้วยความเคารพทันที

“พ่ะย่ะค่ะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *