ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 998 วิปลาส

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 998 วิปลาส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 998 วิปลาส

ในไม่ช้า ลูกศรด้ามนั้นที่อยู่ภายในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ ก็กลายสภาพเป็นลูกกลมพลังปราณขนาดเท่ากำปั้น มันส่องแสงเจิดจ้าพร้อมเผยสีสันสดใสงดงามออกมา

และการบีบบังคับของพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ที่เล็ดลอดออกมานั้นก็น่ากลัวเช่นกัน!

แต่เมื่ออยู่ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดูเหมือนว่าพลังปราณของมันจะไม่ค่อยมีผลกระทบเสียเท่าไร

และนอกจากเพลิงแห่งกรรมอันโปร่งใสที่กำลังลุกไหม้อย่างบ้าคลั่งแล้ว ก็ยังมีเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์อีกสองเมล็ดที่ลอยอยู่ภายใน

หนึ่งในนั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าใกล้พลังปราณศักดิ์สิทธิ์

และพอพลังทั้งสองเข้ามาใกล้มาก ลูกแสงกลมๆ นั่นก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามบางอย่าง พลันหรี่แสงด้านบนลงทันตา

ด้วยการดูแลของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดพลังปราณศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เริ่มยอมลดความดื้อรั้นลง

“ชำระล้างจิตสำนึกที่เหลืออยู่ของเขาเสีย”

ฉู่หลิวเยว่กล่าวในใจ

และทันทีที่พูดจบ เปลวเพลิงจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ในทันที! และเหมือนว่ามันจะร้อนขึ้นกว่าเดิมด้วย!

ครั้นกลุ่มแสงสัมผัสได้ถึงอันตราย มันก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหว และพุ่งตัวขึ้นไปอีกครั้ง!

พรึบ!

ทันใดนั้นเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ก็บินขึ้นตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แล้วทะลวงผ่านตรงกลางของกลุ่มแสงนั่น!

ฟู่!

ลูกกลมที่ส่องแสงเจิดจ้าพลันแตกกระจายทันที!

ทว่าเมื่อแสงเหล่านั้นกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ขนาดของมันก็เล็กลงกว่าเดิม แต่กลับดูละเอียดและสะอาดมากขึ้น

เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ดูชอบใจ “การละเล่น” เช่นนี้มาก จากนั้นมันก็เริ่มหมุนตัวแล้วพุ่งทะลวงผ่านกลุ่มแสงนี้อีกหลายครั้งโดยไม่รู้จักเหนื่อย!

ซึ่งทุกครั้งที่พุ่งเข้าไป พลังปราณศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ถูกขัดเกลาและบริสุทธิ์มากขึ้น!

และจิตสำนึกที่เหลืออยู่ขององค์ไท่จู่แห่งเป่ยหมิงที่อยู่ภายใน ก็ค่อยๆ พังทลายลงตามแรงกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่า!

สิ่งนี้ทำให้ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปให้ความสนใจกับพลังปราณสีทองรอบตัวนางแทน

ในตอนนี้ นางได้กลืนกินไปเกือบสี่ในห้าของพลังทั้งหมดแล้ว

แต่แน่นอนว่าเมื่อแลกกับราคาที่ต้องจ่าย ทำให้ร่างกายของนางเต็มไปด้วยรอยแผลและคราบเลือดที่หลั่งไหลออกมา!

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก!

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าคราวนี้ฉู่หลิวเยว่อาจจะตายหรือไม่ก็พิการ พวกเขากลับเห็นนางใช้มือดึงลูกศรออกมาโดยตรง จากนั้นลูกศรก็หายไป แต่ฉู่หลิวเยว่กลับยังสบายดี!

“เหมือนว่าความเร็วในการกลืนกินพลังปราณของนางจะเพิ่มขึ้นเลย!”

จู่ๆ ก็มีใครบางคนตะโกนออกมาด้วยความตกใจและไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

ทุกคนพลันหันขวับไปมองทันที

เมื่อเทียบกับตอนแรกเริ่ม พลังปราณดั้งเดิมสีทองที่กระจายอยู่เต็มท้องฟ้านั้นได้สลายไปมากแล้ว

พวกมันถูกฉู่หลิวเยว่กลืนกินไปแล้วอย่างมิต้องสงสัย!

ทว่าเมื่อพูดตามหลักแล้ว ร่างกายของนางไม่น่าจะทนรับแรงกดดันมากขนาดนี้ได้ และน่าจะระเบิดตายไปนานแล้ว!

แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น!

จวินจิ่วชิงเริ่มรู้สึกไม่ดี

ถึงเขาจะไม่ได้มีเจตนาฆ่าแกงฉู่หลิวเยว่ แต่เนื่องจากพลังปราณศักดิ์สิทธิ์นี้มีจิตสำนึกขององค์ไท่จู่สถิตอยู่ หากมันถูกพรากไป…

เขาขมวดคิ้วทันควัน และตั้งท่าเตรียมการเคลื่อนไหว!

ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงดังกึกก้องมาจากท้องนภาเบื้องบน!

เปรี้ยง…

ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองอย่างว่องไว ก่อนจะเห็นวิถีสายฟ้าทั้งหกกำลังเคลื่อนตัวไปมาอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางหมู่เมฆ และพวกมันกำลังจะผ่าลงมา!

แกรก!

มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนพื้นใต้ฝ่าเท้าเขาอย่างฉับพลัน!

รูม่านตาของจวินจิ่วชิงหดตัว!

เนื่องจากยอดเขาหลักของหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงนั้น เคยเป็นสถานที่ที่องค์ไท่จู่ทะลวงขอบเขตพลังปราณอันแสนทรหดนั่นได้

ก่อนหน้านี้มันจึงเคยประสบกับแรงกระแทกมาแล้วหลายครั้ง และยามนี้ก็ไม่ต่างกัน!

และตอนนี้มันก็กำลังจะพังลง… หมายความว่าฉู่หลิวเยว่เริ่มกลืนกินพลังปราณศักดิ์สิทธิ์นั่นแล้วแน่ๆ!

เพียงพริบตารอยแยกบนยอดเขาก็แตกกระจายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแตกแขนงออกไปทุกทิศทุกทางราวกลับใยแมงมุมในชั่วพริบตา!

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นและมองดูภาพนั้น

คราวนี้นางเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!

ดวงตากลมโตสะท้อนความบ้าคลั่งออกมา

และทันใดนั้น นางก็พลันหลับตา แล้วลมปราณในร่างกายของนางก็ระเบิดออกมา!

พลังปราณดั้งเดิมสีทองที่อยู่รอบๆ เร่งความเร็วขึ้นตาม และหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนางโดยพร้อมเพรียง!

แผละ!

แต่เพราะการเคลื่อนไหวของมวลพลังปราณมากมายเช่นนี้ ส่งผลให้ข้อมือของนางเกิดรอยแผล และมีเลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากปากแผลนั่น

แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น!

ในไม่ช้า เหตุการณ์เดียวกันนี้ ก็เกิดขึ้นทุกที่ในร่างกายของนาง!

ซึ่งก่อนหน้านี้นางเองก็เคยได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุเดียวกันมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้นางจึงเสียเลือดมากเป็นเท่าตัว

แต่นางยังสามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้

นางรู้ขีดจำกัดของตัวเองดีว่าสามารถทนได้ถึงระดับใด ดังนั้นนางถึงคอยรักษาสมดุลในร่างกายอย่างดีมาตลอด

แต่ในตอนนี้…นางไม่สนใจมันแล้ว!

พลังปราณดั้งเดิมสีทองที่เหลือไหลเข้าสู่ร่างกายของฉู่หลิวเยว่ด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ!

ตูม!

เกิดเสียงระเบิดดังออกมาจากในกายของนาง!

นั่นคือเสียงระเบิดของชีพจรดั้งเดิมที่ไม่สามารถทนต่อพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้!

“นังหนู! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”

องค์ไท่จู่ตะโกนลั่น!

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายนั้น ยังสามารถฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนได้ แต่หากชีพจรดั้งเดิมถูกทำลายละก็ มันจะส่งผลกระทบอย่างมากเลยทีเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้สภาพพร้อมทะลวงขั้นพลังปราณเช่นนี้ แน่นอนว่าชีพจรดั้งเดิมย่อมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้!

การที่นางทำเช่นนี้ ไม่ต่างกับการตัดขาดตัวเองเลย!

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่แดงก่ำ เนื่องจากความเจ็บปวดอันรุนแรงที่ประทังเข้ามา

และมีเพียงความแน่วแน่ที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของแววตาเท่านั้น ที่ทำให้คนอื่นรู้ว่านี่คือการตัดสินใจของนาง

“ข้าไม่ได้บ้า”

น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่นั้นแผ่วเบายิ่งนัก แต่ก็เต็มไปด้วยความตั้งมั่นอย่างสุดซึ้ง

“มันคือทางเลือกเดียวของข้า”

วิถีสายฟ้ากำลังฟาดฟันลงมา และนางจักต้องทะลวงผ่านไปยังจอมยุทธ์ระดับเจ็ดทันที!

นางกล่าวพลางดูดซับพลังปราณดั้งเดิมสีทองที่อยู่รอบตัวทั้งหมด และในขณะเดียวกันก็ดูดซับพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ที่หดเล็กลง จนมีขนาดเท่าตามังกรในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย!

ก่อนจะถ่ายเทพลังปราณทั้งหมดลงในไข่มุกธารา ที่ลอยอยู่ในจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว!

“ครืน ครืน ครืน”!

คลื่นพลังปราณหลั่งไหลลงไปดั่งสายน้ำที่เชี่ยวกราก!

ชีพจรดั้งเดิมในกายของฉู่หลิวเยว่พลันระเบิดออกมาไม่หยุด!

ดวงตากลมถูกย้อมด้วยสีดำทมิฬ เสื้อผ้าบนร่างกายของนางขาดวิ่น พร้อมบาดแผลเปื้อนเลือดบนกายบางทั่วทุกหนทุกแห่ง ราวกับว่าทั้งตัวนั้นถูกอาบไปด้วยเลือด!

เมื่อจุดแสงสีทองดวงสุดท้ายหายไป

แสงเจิดจ้าทั้งหมดก็พลันดับลงอย่างรวดเร็ว

เหลือเพียงความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่

และมีเพียงสายฟ้าบนก้อนเมฆเท่านั้นที่ยังคงเปล่งแสงสว่างท่ามกลางความมืด พวกมันเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว ก่อนจะถูกล้อมรอบด้วยการบีบบังคับอันน่าสะพรึงกลัว เสมือนว่ามันพร้อมที่จะฟาดผ่าลงมาทำลายล้างโลกได้ทุกเมื่อ!

“นาง… นางฝืนกลืน… พลังนั่นเข้าไปทั้งหมดเลยหรือ…”

“ดูสิ! นางเสียเลือดด้วย!”

“บ้าไปแล้ว… นี่มันขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ!”

ยามนี้ ในที่สุดทุกคนก็มองเห็นสถานการณ์บนยอดเขาได้อย่างชัดเจนแล้ว

หญิงสาวชุดแดงผู้นั้นนั่งอยู่บนพื้นนิ่งๆ โดยมีโล่สีดำตั้งอยู่ข้างหน้า พร้อมกระบี่หลงหยวนในมือ

เส้นผมสีดำทิ้งตัวห้อยลงมาอย่างเงียบ และนิ่งสงัดไร้คลื่นลม

แต่รอบๆ ตัวและใต้เท้าของนางกลับมีคราบเลือดกระจายอยู่ทั่ว

เมื่อมองแวบแรก ภาพที่เห็นนั้นล้วนทำให้พวกเขาคิดว่านางตายแล้ว!

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ปิดแน่น ไข่มุกธาราในจุดตันเถียนของนางหมุนวนอย่างรวดเร็ว!

มันกลืนกินพลังปราณดั้งเดิมและพลังปราณศักดิ์สิทธิ์นั้นทั้งหมด แล้วเปลี่ยนให้เป็นพลังของมันเอง!

ชีพจรดั้งเดิมในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ยังคงเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว!

ซึ่งผลกระทบของพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ อาจจะทำให้ชีพจรดั้งเดิมอันแข็งแกร่งนั้นแตกสลายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ได้!

แต่ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย!

นางพยายามรวบรวมพลังปราณเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างสุดความสามารถ!

จากนั้นก็ส่งมันเข้าไปในไข่มุกธาราโดยตรง!

ปึง…

เกิดแรงกระแทกเสมือนคลื่นน้ำที่กระทบโขดหินอย่างแรง! และเกิดเกลียวคลื่นนับไม่ถ้วน!

และเริ่มมีคลื่นความผันผวนหลายสายก่อตัวขึ้นเหนือไข่มุกธารา!

“ครืน ครืน ครืน”!

ขณะเดียวกัน ในที่สุดวิถีสายฟ้าก็ฟาดผ่าลงมา!

อานุภาพของมันปกคลุมร่างของฉู่หลิวเยว่ไว้ทันที!

**********************************

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด