ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 733 สั่งสอน

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 733 สั่งสอน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 733 สั่งสอน

ความจริงแล้วก็มีทหารจำนวนไม่น้อยเลยที่สามารถจัดการได้…

อย่างเช่นศิษย์จากหลากหลายสำนัก พวกเขาล้วนเป็นคนที่อัจฉริยะที่โดดเด่นอย่างมาก

เรื่องมีชีพจรตี้จิงนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่บางคนก็อยู่ระดับกลาง หรือระดับสูงก็มี!

ซั่งกวนหว่านมองไปรอบๆ และรีบเลือกอย่างรวดเร็ว

เส้นชีพจรของนางสามารถฟื้นคืนได้เกือบครึ่งแล้ว นางต้องการดูดซับอีกสองสามครั้ง ก็จะสำเร็จแล้ว!

เรื่องนี้จึงทำให้ซั่งกวนหว่านรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

ขอเพียงแค่สามารถทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว!

นางเลียริมฝีปาก แววตามีแสงสีประกายวาบขึ้น

แต่เรื่องนี้น่าจะยังไม่รู้ตัวเองเลย

ตอนที่นางกำลังกลั้นหายใจแล้ววางแผนลงมือ ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง!

นางตกใจสะดุ้งเฮือกแล้วรีบหันกลับไปมองอย่างระแวดระวังทันที! พร้อมปล่อยพลังดั้งเดิมออกไปด้วย!

ในตอนนั้นเองพลังดั้งเดิมของนางก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนแล้ว

พลังดั้งเดิมกลายเป็นดาบที่แหลมคมกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว!

พรึ่บ!

เสียงแตกของอันใดบางอย่างดังขึ้น!

นางจ้องเขาไปตาเขม็ง แล้วเห็นว่านั้นเป็นโคลนสีดำที่กำลังพวยพุ่งออกมา ท่ามกลางโคลนเหล่านั้นมีโครงกระดูกส่วนมือโผล่ออกมาด้วย

การโจมตีของนางเมื่อครู่นี้ ทำให้กระดูกมือนั้นขาดออกไป

โคลนดำพวยพุ่ง แล้วดูดกลืนกระดูกมือนั้นลงไปอีกครั้ง ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“เฮ้อ…”

ซั่งกวนหว่านลูบหน้าอกของตัวเอง นางถอนหายใจออกมาด้วยความกลัวที่ยังหลงเหลืออยู่

นางคิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มาสอดแนมนาง…

นางหันหน้ากลับมา ตั้งใจรวบรวมสมาธิอีกครั้ง

แต่ตอนนั้นเองเปลวเพลิงกลุ่มสีชาดปรากฏอยู่ตรงหน้าของนางอย่างกะทันหัน!

“กรี๊ด…”

ซั่งกวนหว่านกรีดร้องเสียงดังลั่นแล้วรีบถอยตัวออกห่างทันที!

ในขณะเดียวกันก็กางม่านพลังอีกครั้ง!

แต่ในครั้งนี้เปลวเพลิงสีชาดกลุ่มนั้นไม่ได้พุ่งตัวขึ้นมาด้านหน้า แต่กลับลอยอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

แต่นี่กลับทำให้ซั่งกวนหว่านรู้สึกลนลานมากขึ้นกว่าเดิม

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!

มีคนลอบสังเกตการณ์นางอย่างลับๆ จริงๆ ด้วย!

ในใจของนางรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก นางรีบเข้าไปจัดการสิ่งนั้นทันที!

แต่ว่าเมื่อลำแสงที่งดงามสาดซัดไป เปลวเพลิงกลุ่มนั้นก็หายไปอีกครั้ง!

แค่ครู่เดียวเท่านั้น!

ซั่งกวนหว่านรู้สึกแน่นหน้าอกและมวนท้องอย่างมาก เหมือนกับว่าอีกไม่กี่วินาทีมันจะระเบิดขึ้นอย่างแน่นอน!

อีกฝ่ายเจ้าเล่ห์อย่างมาก ฝ่ายนั้นปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และหายไปอย่างรวดเร็ว เดิมทีซั่งกวนหว่านไม่มีทางตอบสนองได้ทันอยู่แล้ว นางจึงไม่สามารถทำอันใดได้เลย

ซั่งกวนหว่านโกรธตัวเองเป็นเวลานาน นางกัดฟันกรอดแล้วคิดว่าจะฟื้นฟูเส้นชีพจรของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน

แต่ตอนนั้นจิตใจของนางถูกเปลวเพลิงปั่นป่วนไปหมดแล้ว!

พลังในการกลืนกิน ปรับสร้างเส้นชีพจรขึ้นมาใหม่ จำเป็นต้องใช้พลังอย่างมาก

ในตอนนี้หัวใจของซั่งกวนหว่านสับสน ในสมองก็ยุ่งเหยิง จึงไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว

นางเดินขึ้นไปบนแท่นหินด้วยความโกรธ รองเท้าของเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงส่งเสียงดังลั่น

“ตึก”

“ตึก”

“ตึก”

มันทั้งเย็นชาและเสียดหู มาพร้อมกับแรงกดดันที่หนักหน่วง!

“ติ๊ง”

มีอันใดบางอย่างหล่นลงมา

ซั่งกวนหว่านก้มหน้าลงไปมอง คิ้วเรียวใบหลิวก็ขมวดเป็นปมแน่นทันที

คราบเลือดที่เกาะอยู่ที่เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง ค่อยๆ ละลายกลายเป็นเลือดแล้วไหลลงที่พื้น

เสียงเมื่อครู่นี้คือคราบเลือดที่ไหลลงไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

หัวใจของซั่งกวนหว่านมีเสียงดัง “ตึกตัก” นางก้มมองหน้าอกของตัวเองอีกครั้งแล้วพบว่า สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว

สิ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นางทำลงไป ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

ตอนแรกนางก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไร แต่ดูจากตอนนี้…เหตุใดนางถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปล่ะ?

หลังจากคราบเลือดไหลลงไปแล้วเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงก็สะอาดเอี่ยมเหมือนเดิม ไม่เห็นร่องรอยการเปรอะเปื้อนเลยแม้แต่น้อย

“หรือว่าเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว…”

ซั่งกวนหว่านบ่นพึมพำออกมาอย่างแปลกใจ

นางเคยเห็นซั่งกวนเยว่สวมเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นนางก็ไม่ค่อยรู้เรื่องมันนัก

แต่ความจริงแล้วด้านบนก็มีร่องรอยของการต่อสู้มากมายเลยทีเดียว แต่ว่าไม่มีคราบเลือดแม้เพียงสักหยด

อาจจะเป็นเพราะว่าเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงไม่เปื้อนเลือดเลย

ซั่งกวนหว่านครุ่นคิดอยู่ในใจ

เมื่อคิดได้ว่ามีใครบางคนกำลังลอบสังเกตการณ์นางอยู่ นางก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก

อีกฝ่ายกำลังจ้องมองนางอย่างใกล้ชิด หรือว่าฝ่ายนั้นเขารู้อันใดเข้าแล้วจริงๆ?

อีกทั้งทุกครั้งที่นางพยายามทดลองใหม่อีกครั้ง เปลวเพลิงนั้นก็จะปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

นี่ทำให้ซั่งกวนหว่านรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก ไม่ว่าอย่างใดนางก็ไม่มีสมาธิในการฟื้นฟูเส้นชีพจรของตัวเองได้เลย

แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป นางกลับไม่พบสิ่งผิดปกติเลย

ในตอนนั้นเองอักขระยันต์สีดำที่อยู่ระหว่างคิ้วของนางกลับลอยอกมา ปลิวไสวอยู่ตรงหน้านาง

รูม่านตาของซั่งกวนหว่านหดตัว! แววตาลึกขึ้น มีประกายความหวาดกลัวแทรกผ่าน!

ทันใดนั้นเสียงแหบพร่าก็ดังออกมาจากอักขระยันต์นั้น

“เจ้า…ไร้ประโยชน์ขนาดนี้เชียวหรือ?”

เสียงนั้นทั้งทุ้มต่ำและแหบแห้ง ยากจะแยกออกว่าเป็นเสียงชายหรือหญิง แต่กลับทำให้ใบหน้าของซั่งกวนหว่านซีดเผือด!

เจ้า…เจ้าคือใคร?!”

เสียงหัวเราะต่ำๆ ดังจากอักขระยันต์นั้น ราวกับกำลังเยาะเย้ยนางอยู่

“ที่เจ้ามีวันนี้ได้เพราะใคร เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ? เป็นอันใดไป ตอนนี้กลับจะมาปฏิเสธเสียแล้ว?”

สิ่งที่นางคาดเดาได้รับการยืนยันแล้ว ใบหน้าของซั่งกวนหว่านดูย่ำแย่ขึ้นเสียอีก!

นางรู้มาตลอด ว่ามีสิ่งลึกลับอาศัยอยู่ในร่างกายของนาง

เสียงนี้นางเคยได้ยินมาก่อน

แต่เคยได้ยินเพียงสองครั้งเท่านั้น!

ครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีก่อน

และในครั้งนั้นทำให้นางมีใจจะเป็นฆาตกรฆ่าซั่งกวนเยว่ นางวางแผนที่จะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากอีกฝ่ายมา!

และอีกครั้งคือคืนที่ซั่งกวนเยว่ตาย

ในตอนนั้นเส้นชีพจรของนางถูกซั่งกวนเยว่ทำลายไปเสียจนหมดสิ้นแล้ว และในตอนนั้นเสียงนี้ก็ดังขึ้น เสียงนั้นบอกนางถึงวิธีในการฟื้นฟูเส้นชีพจร

ไม่ใช่ว่าภายในหัวใจของซั่งกวนหว่านไม่มีความกลัว

แต่นางยังคงโหยหาเจียงอวี่เฉิง โหยหาพลัง อำนาจ นางอยากได้ทุกสิ่งที่ซั่งกวนเยว่เคยมี

ดังนั้นนางจึงเชื่อฟังเสียงลึกลับนั้นตลอดมา

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้มันจะปรากฏตัวในรูปแบบนี้

เมื่อมองไปที่อักขระยันต์สีดำทรงแปลกๆ การคาดเดาจำนวนนับไม่ถ้วนก็ไหลเข้ามาในสมองของซั่งกวนเยว่

นางพยายามอย่างมากที่จะสงบสติอารมณ์ แต่ร่างกายก็ยังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

“ท่าน…ท่าน…ที่แท้เป็นท่านนี่เอง…ได้โปรดให้อภัยที่ข้าไม่ทันได้สังเกต…”

เพียะ!

เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นตบใบหน้าของซั่งกวนหว่านอย่างแรง!

เสียงตบดังสนั่น!

ซั่งกวนหว่านล้มลงไปกองที่พื้นอย่างแรง! หมวกของเกราะปลิวกระเด็นออกไป!

ใบหน้าครึ่งซีกของนางบวมแดงขึ้นมา! ริมฝีปากมีเลือดออก!

“กำลังเล่นลูกไม้ต่อหน้าข้าหรือ เจ้านี่ใจกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เชียวนะ”

เสียงที่ดังออกมาจากอักขระยันต์เย็นชาและหนาวเหน็บอย่างมาก

ซั่งกวนหว่านลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจ “ผู้น้อยไม่…”

เพียะ!

ครั้งนี้ตบลงที่หน้าอีกฝั่งหนึ่งของนาง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด