ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 871 ไม่ได้ก็คือไม่ได้

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 871 ไม่ได้ก็คือไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 871 ไม่ได้ก็คือไม่ได้

เกิดความเงียบขึ้นทั่วทั้งจัตุรัสจนได้แม้กระทั่งเสียงเข็มหล่นลงพื้น ร่วมทั้งเสียงกระซิบที่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่ด้วย

ทันใดนั้นเอง ราวกับน้ำหนึ่งหยด ที่ตกลงในกระทะน้ำมันร้อนๆ!

ฝูงชนทั้งหมดก็พลันเกิดความโกลาหล หลายคนหันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

นี้มัน… เหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น

เพราะเมื่อพิจารณาจากสภาพของซั่งกวนหว่านแล้ว ดูเหมือนว่าเมื่อครู่นางจะใช้พลังทั้งหมดไปแล้ว

แต่ทว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งกลับไม่ขยับเลย!

“ไม่มีทาง… องค์หญิงสามเก่งกล้าถึงระดับเจ็ดเลยมิใช่หรือ? ความจริงแล้วน่าจะทำได้สิ…”

“แต่คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้น ไม่ได้ถูกหยิบขึ้นมาเลยนะ!”

“ถ้าวันนี้องค์หญิงสามทำไม่ได้ล่ะก็ ข้าคงทนดูต่อไปไม่ได้แน่ๆ”

เสียงพูดคุยแผ่วเบาดังไปถึงหูของซั่งกวนหว่านเป็นครั้งคราว และทุกคำพูดล้วนทำให้นางอับอายและเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก!

นางกัดฟันและพยายามอีกครั้ง!

แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้น จะหลุดออกมาเลย!

เสียงซุบซิบที่ด้านล่างค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ

ผู้อาวุโสในราชวงศ์ที่อยู่รอบตัวนาง เริ่มทำหน้าตาสงสัยใคร่รู้อย่างปิดไม่มิด

หัวใจของซั่งกวนหว่านเต้นแรงจนแทบจะกระเด้งออกมาจากหน้าอก และเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หน้าผากของนางก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อเสียแล้ว!

คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเย็นยะเยือกจนนางมือชา แต่ก็ยังชาไม่เท่าหัวใจของนางในขณะนี้!

นางสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ ราวกับเอาถังน้ำแข็งราดศีรษะตัวเอง!

เหตุใดคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งถึงไม่ขยับล่ะ?

นางยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อฟื้นฟูชีพจรดั้งเดิมของตัวเอง และถึงมันจะไม่ใช่ชีพจรระดับสูง แต่ก็ยังอยู่ในระดับชีพจรตี้จิงเชียวนะ!

ประกอบกับพลังปราณที่นางสั่งสมมาอย่างยากลำบากอีก…

นางลงทุนทำไปแล้ว แต่เหตุใดถึงยังหยิบคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งออกมาไม่ได้อีกล่ะ?

ซั่งกวนหว่านเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ยิ่งกังวลมากเท่าไร จิตใจของนางก็ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น

เดิมทีนางคิดจะรวบรวมพละกำลังทั้งหมดในร่างกาย และพยายามอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง แขนขาของนางกลับรู้สึกอ่อนแรงไปชั่วขณะ และไม่ว่าจะทำอย่างใด นางก็ไม่สามารถดึงพลังเหล่านั้นขึ้นมาได้

แต่นางก็ยังไม่กล้าปล่อยมือ

…เพราะถ้าปล่อยมือแล้ว นั่นจะถือว่านางยอมรับว่าตัวเองทำไม่ได้ทันที!

ดังนั้นซั่งกวนหว่านจึงทำเพียงถือคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไว้เช่นนั้น และยืนเฉยๆ

ทว่าความจริงแล้วนางก็พยายามขยับมันตลอด แต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้นในสายตาของทุกคนแล้ว มันจึงดูเหมือนว่านางกำลังยืนอยู่เฉยๆ เสียมากกว่า

และจนถึงตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว

ผู้อาวุโสของราชวงศ์มองหน้ากัน พลันเห็นความกังวลในดวงตาของกันและกัน

สุดท้ายเจียงอวี่เฉิงเองก็ทนไม่ไหว และหุบรอยยิ้มหวานๆ นั่นไปแล้ว

หากวันนี้ซั่งกวนหว่านคว้าเอาคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งมาไว้ในครอบครองไม่ได้ นางก็จะไม่สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้!

ยิ่งไปกว่านั้น นางจะไม่มีโอกาสทำมันอีกเป็นครั้งที่สอง!

และหลังจากนั้น คนที่คอยสนับสนุนนางอยู่เบื้องหลังอย่างเขา ก็จะโดนดึงเขาไปพัวพันด้วย!

ซึ่งเมื่อถึงครานั้น ความพยายามทั้งหมดที่สั่งสมมาก่อนหน้านี้ ก็จะไร้ประโยชน์ในทันที!

และเขาอาจจะไม่มีโอกาสหาองค์หญิงสักคน มาแต่งงานกันเป็นครั้งที่สามอีกแล้ว!

“หว่านเออร์ อย่าเพิ่งกังวลไป ค่อยๆ ทำมันช้าๆ”

ในที่สุด เจียงอวี่เฉิงก็เอ่ยปากออกมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อมองแวบแรก จะเห็นว่าสีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง แต่ถ้ามองให้ดีๆ แล้วล่ะก็ จะสามารถมองเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของเขาได้อย่างชัดเจน

ซั่งกวนหว่านหันกลับไปมองเขา

นางรู้ดีว่าตอนนี้เจียงอวี่เฉิงหมดความอดทนแล้ว และกำลังจี้สั่งนาง!

แล้วถ้าเกิดนางทำไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ…

แต่เมื่อคิดถึงผลอันน่ากลัวที่จะตามมา ซั่งกวนหว่านก็พลันเม้มปาก และมองไปยังคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งที่อยู่ตรงหน้านางอีกครั้ง!

ทว่าจะให้นางพึ่งพาความแข็งแกร่งในตอนนี้อย่างเดียว ก็เกรงว่าจะไม่ได้

ฉะนั้นแล้ว…

“ท่านผู้อาวุโส ท่านช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่?”

ซั่งกวนหว่านส่งกระแสจิตถามอีกคน

ครู่ต่อมา เสียงที่ไม่แยแสและเย็นชาก็ดังขึ้น

“เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้จริงๆ ด้วยสินะ ถึงแม้เจ้าจะฟื้นฟูชีพจรดั้งเดิมของตัวเองได้แล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่ อีกทั้งแต่เดิม ระดับชีพจรดั้งเดิมของเจ้าก็ไม่ได้สูงนัก และยิ่งหลังจากถูกเปลวเพลิงของ

ชีพจรเทียนจิงทำลาย มันก็ยิ่งพังและด้อยสภาพกว่าเดิม ซึ่งกว่าจะฟื้นฟูจนมันกลับมาใช้การได้อย่างทุกวันนี้นั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ”

อีกฝ่ายพูดออกมาสามสี่ประโยค น้ำเสียงนั้นช่างฟังดูใจเย็นยิ่งนัก เสมือนกำลังพูดถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป

แต่สำหรับคนฟังอย่างซั่งกวนหว่านแล้ว กลับไม่ใช่เช่นนั้น ตลอดเวลาที่รับฟังนางรู้สึกเหมือนกำลังถูกดูหมิ่นเหยียดหยามอยู่อย่างใดอย่างนั้น

ความรู้สึกโกรธเกลียดพวยพุ่งขึ้นมาในใจของนางอีกครา

ถ้าไม่ใช่เพราะซั่งกวนเยว่ นางคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้!

“องค์หญิง ท่าน…ต้องการทำต่อหรือไม่?”

หลังจากสังเกตซั่งกวนหว่านอยู่นาน ในที่สุดผู้อาวุโสเฉินเค่อก็พูดออกมา และถามนางอย่างระมัดระวัง

และเมื่อสิ้นคำถาม คนทั้งหมดก็ตกอยู่ในความสงบอีกครา ก่อนจะหันไปมองซั่งกวนหว่านเป็นตาเดียว

ถ้าดึงดันต่อไปและยังล้มเหลว ก็เป็นไปได้มากว่านางจักต้องถูกคนอื่นตีตราหัวเราะเยาะใส่กันเป็นแน่

แต่ถ้ายอมแพ้เสียตอนนี้… นั่นต่างหาก คือเป็นความล้มเหลวที่แท้จริงสำหรับซั่งกวนหว่าน!

อย่าว่าแต่การขึ้นครองราชย์เลย แม้แต่ใช้ชีวิตในฐานะองค์หญิงสามไปวันๆ ก็ไม่รู้ว่าไปรอดหรือเปล่า!

ในเมื่อเดินหน้าก็แพ้ถอยหลังก็ไม่ได้ สุดท้ายแล้ว ถึงจะเลือกทางไหนก็ไม่ตายดีสักทางนั่นแหละ!

ซั่งกวนหว่านตอบกลับทันที

“แน่นอนอยู่แล้ว!”

เมื่อเห็นท่าทีเด็ดขาดของนาง ผู้อาวุโสเฉินเค่อก็ถึงกับลังเล

อันที่จริงแล้ว หลังจากที่เขาสังเกตนางมาพักหนึ่ง เขารู้ทันที่ว่าโดยพื้นฐานแล้วซั่งกวนหว่านจักล้มเหลวแน่นอน

แต่พอเห็นว่านางยืนยันจะสู้ต่อ เช่นนั้นเขาพูดอันใดมากไปกว่านี้ไม่ได้

“เรียนเชิญ องค์หญิงสาม…”

หากคราวนี้ซั่งกวนหว่านทำไม่สำเร็จล่ะก็…พวกเขาคงต้องสืบหาเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้อย่างละเอียดจริงๆ แล้ว…

ซั่งกวนหว่านพยักหน้าตอบกลับเบาๆ แล้วขมวดคิ้ว

“ท่านผู้อาวุโส”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นข้างหูของนาง พร้อมกับแสงจ้าสว่างวาบขึ้นตรงหน้า!

ลมปราณอันทรงพลังสายหนึ่งระเบิดพุ่งออกมาจากร่างของนาง!

เพียงพริบตา คลื่นพลังอันไม่มีที่สิ้นสุดก็ถาโถมเข้ามา ประหนึ่งแม่น้ำเชี่ยวซัดทำนบกั้น!

อักขระสีดำปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้วของซั่งกวนหว่าน พลันหายวับไปในทันที!

และเนื่องจากนางยืนอยู่ตำแหน่งพิเศษ รวมทั้งความเร็วในการปรากฏของวัตถุนั้นเร็วเกินไป จึงไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

และจู่ๆ ก็มีคลื่นพายุบางอย่างพัดผ่านเข้ามาในส่วนลึกของแววตานาง!

ทั้งสุขุม! และเยือกเย็น!

ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน!

หลังจากนั้น นางก็บีบกระชับมือที่จับคทาไว้แล้วพยายามยกมันอีกครั้ง!

หึ่ง!

เกิดเสียงดังกึกก้อง!

และแสงสว่างวาบ!

หนึ่งเค่อต่อมา ในที่สุดคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็เคลื่อนไหว!

ซั่งกวนหว่านกระตุกยิ้มมุมปาก และถึงจะเป็นรอยยิ้มจางๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความแข็งกร้าว

หินนิลทมิฬทอประกายแวววาวทันที! คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเองก็เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ตามแรงดึงของซั่งกวนหว่าน!

“มันขยับแล้ว! คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้นขยับแล้ว!”

มีคนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง!

ฝูงชนด้านล่างกู่ร้องคำรามอีกครั้ง

พวกเขาล้วนจ้องมองตาไม่กะพริบราวกับกลัวว่าภาพนั้นจะหายไป!

เมื่อเห็นว่าซั่งกวนหว่านหยิบคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งขึ้นมาช้าๆ ในที่สุด ก้อนหินที่แขวนอยู่ในหัวใจของผู้อาวุโสเฉินเค่อ ก็ตกลงสู่พื้น

ผู้อาวุโสอีกหลายคนต่างพยักหน้าและแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

มือที่กำแน่นใต้แขนเสื้อของเจียงอวี่เฉิงคลายออกเล็กน้อย

สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว…

ผู้คนจำนวนมากต่างพากันทำหน้าตกใจ

“คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้นยากที่จะรับมือจริงๆ! องค์หญิงสามต้องพยายามตั้งหลายครั้งกว่าจะสำเร็จ!”

“เช่นนั้นก็ถือว่านางทำสำเร็จแล้วใช่หรือไม่? นับจากนี้ไป นางจะได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ…”

ตูม!

แต่ในจังหวะนั้นเอง ก็มีเสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังมาจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง!

คลื่นความผันผวนที่น่ากลัวแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ!

ดวงตาของซั่งกวนหว่านฉายแววตื่นตระหนก!

แต่ก่อนที่นางจะทันได้ตอบสนอง ลมปราณอันไร้เทียมทานสายนั้น ก็พุ่งเข้ามาใส่นาง!

ร่างของซั่งกวนหว่านถูกชนจนกระเด็นขึ้นไปในอากาศ!

โครม!

ก่อนจะหล่นลงมากระแทกพื้นอย่างแรง แล้วกลิ้งลงมาบันไดขั้นที่เก้า!

ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล!

ทว่าขณะเดียวกัน คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็บินไปอีกทางหนึ่ง!

ฉู่หลิวเยว่ที่พอจะเดาเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว ก็พลันเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้น กำลังลอยมาหานาง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด