ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 741 ตาย

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 741 ตาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 741 ตาย

เหตุการณ์ในวันนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง วันนั้นมันเหมือนกับฝันร้าย!

ร่างกายของซั่งกวนหว่านสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาว

รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่ยกโค้งขึ้นเป็นพระจันทร์เสี้ยว

“ข้า? ข้าคือฉู่หลิวเยว่ไง เหตุใดองค์หญิงสามถึงจำข้าไม่ได้ละเพคะ?”

น้ำเสียงของนางเหมือนกับกำลังพูดล้อเล่นอยู่

ซั่งกวนหว่านหายใจเข้าลึกๆ นี่คือฉู่หลิวเยว่ ฉู่หลิวเยว่!

แต่…

เปลวเพลิงสะท้อนใบหน้างดงามของนาง ครึ่งมืดครึ่งสว่าง และมันเหมือนกับซั่งกวนเยว่อย่างคาดไม่ถึง!

ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เหมือนกับรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย

“องค์หญิงสาม ท่านเป็นอันใดไป?”

“อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามานะ!”

ซั่งกวนหว่านกรีดร้องเสียงดัง!

ในขณะเดียวกันนางก็รีบถอยหลังกลับไป แล้วล้มไปกองบนพื้นอย่างไม่ตั้งใจ

ฉู่หลิวเยว่หยุดเท้าแล้วยืนตรงที่เดิม เขามองไปที่ซั่งกวนหว่านอย่างเงียบๆ

ในตอนนั้นเองความรู้สึกเหินห่างก็ปรากฏขึ้น

ซั่งกวนหว่านมองไปที่ฉู่หลิวเยว่ หัวใจเต้นกระหน่ำ

ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมองลงมา เหมือนเป็นเรื่องปกติที่นางทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

ซั่งกวนหว่านหน้าร้อนผ่าว

ท่าทางของนางดูจนตรอก และน่าอับอายอย่างมาก!

ฉู่หลิวเยว่ก็คือฉู่หลิวเยว่จะเป็นใครไปได้ !?

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางอีกแล้ว ซั่งกวนเยว่ตายไปแล้ว! ตายทั้งเป็น!

ไม่มีทางฟื้นคืนชีพมาได้อีกแล้ว!

ภาพลวงตา…

ทั้งหมดนี้คือภาพลวงตา!

ซั่งกวนหว่านหยัดตัวเองให้ลุกขึ้นยืน สายตาที่มองฉู่หลิวเยว่ก็ค่อยๆ ดุร้ายมากยิ่งขึ้น

ต่อให้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดของวันนี้ และไม่ได้บุกเข้ามา นางก็ไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้นานเกินไปหรอก!

แค่ใบหน้าของนาง ก็ทำให้นางสมควรตายไปอีกหมื่นครั้งแล้ว!

“ถูกต้อง! ฉู่หลิวเยว่! เจ้าคือฉู่หลิวเยว่!”

ซั่งกวนหว่านพูดขึ้นมาอย่างขมขื่น ไม่รู้ว่านางกำลังพูดทบทวนให้ใครฟังด้วยซ้ำ

ฉู่หลิวเยว่มองนางด้วยความสนใจ

ปฏิกิริยาตอบรับของซั่งกวนหว่านนั้นน่าสนใจอย่างมาก

เดิมทีนางคิดว่า ซั่งกวนหว่านจะต้องโกรธแค้นนางอย่างมากแน่นอน หลังจากที่ฆ่านางไปแล้ว ซั่งกวนหว่านจะต้องมีความสุขอย่างหาที่สุดไม่ได้

แต่ดูจากตอนนี้แล้ว…ก็ไม่ใช่ว่านางจะไม่มีความกลัวและรู้สึกผิดเลย

จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา ถ้าซั่งกวนหว่านรู้ว่านางคือซั่งกวนเยว่ตัวจริง นางจะทำหน้าอย่างใด?

“…ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ก็สมควรตายทั้งนั้น”

ในหัวใจของซั่งกวนหว่านเต็มไปด้วยความโกรธระคนหวาดกลัว

แม้ว่านางยังคงเกลี้ยกล่อมตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า คนผู้นี้คือฉู่หลิวเยว่

แต่ในสมองของนางกลับมีภาพเหตุการณ์ปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน!

อารมณ์ที่รุนแรงทำให้ใบหน้าของนางบิดเบี้ยว

ปราณดำปรากฏขึ้นที่ระหว่างคิ้วของนาง จากนั้นในแววตาของนางก็ประกายสีเขียวอ่อนๆ

ถ้ามองดูจากไกลๆ ก็นึกว่าเห็นผี

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เมื่อครู่นางแค่ประหลาดใจเล็กน้อย พลังดั้งเดิมของซั่งกวนหว่านกลายเป็นสีเขียวอ่อนตั้งแต่เมื่อไร

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ในสายตาของนางแทบจะมีลำแสงสีเดียวกันยิงออกมาอยู่แล้ว

ดูแล้วน่าแปลกอย่างมาก!

หรือว่า…หลังจากนางใช้วิธีพิเศษกลืนกินเส้นชีพจรของคนอื่นแล้ว นางถึงกลายมาเป็นแบบนี้?

ซั่งกวนหว่านลงมืออีกครั้ง!

ครั้งนี้นางใส่พลังเต็มแรง!

พลังที่รุนแรงปรากฏขึ้นพร้อมกับแรงกดดันที่บ้าคลั่ง

พื้นที่ฉู่หลิวเยว่ถูกบีบอัดทันที!

เหมือนกับมีภูเขาลูกใหญ่กดอยู่บนร่างกาย แม้กระทั่งการโคจรพลังภายในของนางก็ช้าลง!

ในตอนนี้พลังของนางอยู่จอมยุทธ์ระดับแปดแล้วจริงๆ

แม้ว่าฉู่หลิวเยว่จะเป็นจอมยุทธ์ระดับห้าแล้ว แต่ก็ยังห่างชั้นกับซั่งกวนหว่านอีกไกล!

ถวนจื่อส่งเสียงร้องดังขึ้น!

“แกว๊ก”

ตอนนั้นเองเปลวเพลิงสีชาดลูกหนึ่งก็กลายเป็นม่านพลังพร้อมปกป้องฉู่หลิวเยว่เอาไว้!

ในขณะเดียวกันนั้นมันก็ขยับปีกไปมา ขนจำนวนมากก็หลุดออกมา! แล้วพุ่งตรงไปซั่งกวนหว่านดั่งมีดบิน!

“ฉึกๆ”

ขนนกนั้นเปล่งประกายแสงออกมา ก่อนจะชนเข้าไปม่านพลังสีดำที่อยู่ด้านหน้าของซั่งกวนหว่าน!

ม่านพลังสีดำนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก!

ซั่งกวนหว่านกัดฟันกรอด

การกลืนกินพลังของฉู่หลิวเยว่นั้น เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก!

กษายะหางวายุที่อยู่ข้างกายนางนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ!

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนางในตอนนี้คือการฟื้นฟูเส้นชีพจร

นางถามขึ้นในใจว่า

“ผู้อาวุโส ท่านมีวิธีจัดการกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นหรือไม่?”

ทันใดนั้นเองเสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน

“ข้าสามารถช่วยหยุดกษายะหางวายุให้เจ้าได้ครึ่งเค่อ เจ้าจะสามารถฆ่าฉู่หลิวเยว่ได้หรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ความสามารถของเจ้าแล้ว”

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะผู้อาวุโส!”

ซั่งกวนหว่านดีใจอย่างมาก!

ขอเพียงแค่ไม่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นมารบกวน เรื่องจะจัดการฉู่หลิวเยว่นั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆ เลยไม่ใช่หรือ?

อย่าว่าแต่ครึ่งเค่อเลย นางสามารถจัดการฉู่หลิวเยว่ได้ด้วยกระบวนท่าเดียวด้วยซ้ำ!

จากนั้นอักขระยันต์ตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่กลางหน้าผากของนาง! แล้วค่อยๆ ลอยออกไป!

ไอปราณที่หนาวเหน็บแผ่กระจายออกมา!

จากนั้นมันก็ทะลุผ่านเข้าไปในม่านพลังอย่างไร้เสียง ก่อนจะปรากฏเป็นเส้นโค้งกลางอากาศ

ฉู่หลิวเยว่มองไปทางนั้น แล้วรู้สึกสะท้านในหัวใจอย่างมาก!

พลังที่ดูดนางมาที่นี่เมื่อครู่นี้…เหมือนกับพลังของอักขระยันต์นี้ทุกประการ!

…หรือว่านี่อาจจะเป็นตัวตนลึกลับที่คอยช่วยเหลือซั่งกวนหว่านอยู่?

ทันใดนั้นความรู้สึกไม่สบายใจก็ปรากฏขึ้นมาทันที!

แน่นอนว่าอักขระยันต์นี้รับมือยากกว่าซั่งกวนหว่านแน่นอน!

เมื่อความคิดนี้ของนางปรากฏขึ้นมา ฉู่หลิวเยว่ก็เห็นว่าอักขระยันต์นั้นพุ่งตรงมาทางถวนจื่อแล้ว!

เส้นสีดำจำนวนมากปรากฏออกมาจากด้านบน!

เส้นเหล่านั้นบางกว่าเส้นผมเสียอีก! ถ้าไม่มองดีๆ ก็จะไม่เห็นความแตกต่างเลยทีเดียว!

ร่างของถวนจื่อมีเพลิงสีชาดลุกโชนขึ้นทันที!

แววตาวาวโรจน์เปล่งประกายราวกับผลึกใส

แต่เมื่อเปลวเพลิงสีชาดเหล่านั้นสัมผัสเข้ากับเส้นสีดำ เส้นเหล่านั้นกลับไม่ติดไฟ

เส้นสีดำเหล่านั้นรอดผ่านเปลวไฟไป จากนั้นก็กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่!

“ถวนจื่อ!”

ฉู่หลิวเยว่ตื่นตระหนกอย่างมาก แล้วรีบให้ถวนจื่อถอยหลังทันที!

แต่ทว่ามันสายเกินไปแล้ว!

ตาข่ายขนาดใหญ่นั้นจับตัวถวนจื่อเอาไว้อย่างแน่นหนา!

ในขณะเดียวกันซั่งกวนหว่านก็พุ่งตัวออกมา!

พร้อมปล่อยหมัดออกมาตรงๆ!

“ตาย…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด