ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 532 มิติเสี่ยวเฉียน [รีไรท์]

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 532 มิติเสี่ยวเฉียน [รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 532 มิติเสี่ยวเฉียน [รีไรท์]

พรึ่บ!

บนท้องฟ้ามีกระบี่พุ่งเข้ามา!

กระบี่หลงหยวนสีเงินพุ่งมาแต่ไกล!

นั่นคืออีกส่วนหนึ่งของกระบี่หลงหยวน!

มันพุ่งตรงมาทางนี้ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็ผสานเข้ากับกระบี่ยักษ์สีดำที่อยู่ในมือของฉู่หลิวเยว่ทันที!

ตอนนั้นเองภายในตัวกระบี่สีดำ ก็เริ่มมีแสงสีเงินเรืองรองออกมา!

ปราณบนกระบี่หลงหยวนนั้น ก็ค่อยๆ แข็งแกร่งมากขึ้น!

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก!

ก่อนหน้านี้นางคิดว่ากระบี่หลงหยวนแข็งแกร่งมากเกินพอแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่านั่นเป็นแค่พลังครึ่งเดียวเท่านั้น

ตอนนี้กระบี่หลงหยวนทั้งสองเล่มได้ผสานกันเรียบร้อยแล้ว พลังนี้ทำให้คนรู้สึกตกใจอย่างมาก

ในใจของนางค่อยๆ มีสายสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนปรากฏขึ้น…นั่นคือกระบี่หลงหยวนนั่นเอง!

เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป ความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น!

กระบี่หลงหยวนที่อยู่ในมือก็มีน้ำหนักเบามากขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุดกระบี่ทั้งสองเล่มก็กลายเป็นเล่มเดียว!

ประกายแสงที่อยู่บนใบมืดของกระบี่นั้นเงาวับอย่างมาก!

วินาทีถัดมา ด้านหนึ่งของกระบี่ก็มีไฟลุกพรึ่บ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีกระแสน้ำไหลออกมา!

ฉู่หลิวเยว่ปล่อยมือทั้งสองข้างของตัวเอง

กระบี่หลงหยวนก็ลอยอยู่ตรงหน้าของนางอย่างเงียบๆ!

ท่ามกลางมิติแห่งนี้ หนึ่งคนหนึ่งกระบี่ ยืนตระหง่านอยู่ตรงกลาง!

ฉู่หลิวเยว่ตะโกนขึ้นเสียงดัง

“กระบี่หลงหยวน…สลาย!”

ทันใดนั้นเอง กระบี่เล่มใหญ่ก็สลายหายไป!

แต่มีกระบี่เล่มหนึ่งที่มีขนาดปกติปรากฏอยู่ด้านหน้าของนางแทน!

ฉู่หลิวเยว่กำกระบี่เล่มนั้นเอาไว้ในมืออีกครั้ง ในใจก็เต็มไปด้วยความเคารพ

กระบี่เล่มนี้เป็นสีดำทั้งหมด ทั้งเรียบง่ายและสง่ามาก มีเพียงตรงกลางของกระบี่เท่านั้น ที่เป็นสีขาว แลดูละเอียดอ่อนอย่างมาก

ในตอนนั้นกระบี่หลงหยวนได้ยอมรับนางเป็นเจ้านายคนใหม่แล้ว นางสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมือนตอนแรกที่จำเป็นจะต้องออกแรงมหาศาล ถึงจะกวัดไกวมันได้

นางจับที่ด้ามของกระบี่แล้วก็โบกไปมา

ทันใดนั้นรอยแยกกลางอากาศสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างไร้เสียง!

คาดไม่ถึงว่ามันจะแหลมคมขนาดนั้น

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ก็มีประกายสว่างไสวขึ้นมา

สมแล้วที่กระบี่หลงหยวนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์! ความแหลมคมของมันนั้น นางเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก!

จากนั้นนางก็หันไปมองทางปฐมกษัตริย์แล้วพูดอย่างตื่นเต้น

“ท่านปฐมกษัตริย์ ตอนนั้นท่านหลอมกระบี่หลงหยวนนี้ได้อย่างใด? มันสุดยอดมากจริงๆ!”

ทันใดนั้นเสียงนางก็หยุดลง จากนั้นก็ค่อยๆ หันหน้ามามอง

ปฐมกษัตริย์ก็มองใบหน้าที่ตกตะลึงของนางอยู่เช่นเดียวกัน

ทั้งสองคนสบสายตากัน จากนั้นความเงียบก็เข้ามาปกคลุม

หลังจากนั้นสักพัก ฉู่หลิวเยว่จึงถามอย่างหยั่งเชิงขึ้นมาว่า

“คือว่า…ปฐมกษัตริย์…ท่าน…ท่านยังอยู่หรือ?”

ซั่งกวนจิ้งมองเงาร่างของตนเอง

หลังจากกระบี่หลงหยวนยอมรับเจ้านายคนใหม่แล้ว เงาร่างของเขาก็ดูเลือนรางอย่างมาก

ตอนนั้นเขาคิดว่าตนเองจะต้องสลายหายไปจากมิติแห่งนี้เสียแล้ว

แต่ความจริงแล้ว มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น

…ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าที่เขามีจิตวิญญาณอยู่ในกระบี่หลงหยวนได้ เพราะนั่นเป็นของของเขา

แต่เมื่อกระบี่หลงหยวนมีเจ้านายคนใหม่แล้ว ว่าด้วยตามหลักเหตุผล เขาก็ไม่น่าจะอยู่ต่อไปได้

แต่ในตอนนี้ เขาไม่เพียงยังอยู่ดี แต่เหมือนว่า…เงาร่างของเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้น?

ท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัด ซั่งกวนจิ้งกระแอมไอ ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ พูดออกมา

“อื้อ…เหมือนว่าจะต่างจากที่ข้าคาดการณ์เอาไว้…เหมือนว่าระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา…ทำให้เรื่องบางอย่างเปลี่ยนไป…”

ฉู่หลิวเยว่ “…”

ทันใดนั้นนางก็คิดว่าเมื่อครู่นางสิ้นเปลืองอารมณ์ที่ใช้ไป…

แต่ว่าความคิดนั้นก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ท่านปฐมกษัตริย์ยังอยู่ นางเองก็รู้สึกดีใจอย่างมาก

แม้ว่าจะเป็นจิตใต้สำนึกที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น แต่สำหรับนางแล้ว มันมีค่ามากเหลือเกิน

“ท่านปฐมกษัตริย์ เช่นนั้นต่อไปท่านก็จะต้องอยู่ในกระบี่หลงหยวนใช่หรือไม่?” ฉู่หลิวเยว่อดถามขึ้นมาไม่ได้

ซั่งกวนจิ้งมองไปยังสีหน้ารอคอยของนาง เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที

“ฮ่าๆ! ถูกต้อง!”

เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินคำตอบดังนั้น ริมฝีปากของนางก็ขยับออกมาเป็นรอยยิ้ม

ในตอนนี้นางอยากจะขอบคุณซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงอย่างมาก!

ถ้าพวกเขาไม่จัดงานแข่งขันประหลาดๆ อย่างงานหมื่นทูรนี้ขึ้นมา คงไม่มีโอกาสได้พบกับปฐมกษัตริย์ แล้วยังจะได้รับกระบี่หลงหยวนนี่อีก

นางมองไปรอบๆ

พลังแห่งสวรรค์ในมิติเสี่ยวเฉียน ถูกดูดมาไว้ในกระบี่หลงหยวนทั้งหมดแล้ว

และในตอนนี้กระบี่หลงหยวนก็ตกลงมาอยู่ที่กลางฝ่ามือของนางแล้ว

สถานที่แห่งนี้ก็ไม่สามารถเรียกว่าอาณาจักรเทพได้อีกแล้ว

“ท่านปฐมกษัตริย์ พวกเราไปกันเลยดีหรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นมา

ซั่งกวนจิ้งก็พยักหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ

“แม้ว่าผืนฟ้าแผ่นดินทั้งสองจะผสานรวมกันแล้ว และไม่มีพลังแห่งสวรรค์แล้ว ที่นี่ก็เป็นเพียงสถานที่รกร้างเท่านั้น”

ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นมาอย่างลังเล

“ท่านต้องออกจากที่นี่…ท่านคงไม่เสียใจภายหลังใช่หรือไม่?”

ซั่งกวนจิ้งส่ายหน้าแล้วพูดว่า

“เดิมทีก็เป็นความผิดพลาดของข้า จึงทำให้เกิดที่แห่งนี้ขึ้นมา เวลาผ่านมาพันปี ต่อให้ไม่ยินยอมก็ต้องปล่อยวางแล้ว”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เสียใจ

“เจ้าเป็นเจ้านายคนใหม่ของกระบี่หลงหยวน ได้กลับไปในโลกเดิม ก็นับว่าเป็นการเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายในใจของข้าแล้ว”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

ที่แห่งนี้ ความจริงแล้วเป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์และล้มเหลวของปฐมกษัตริย์

ตอนนี้เขาสามารถปล่อยวางมันลงไปอย่างสงบแล้ว สภาวะอารมณ์เช่นนี้ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถมีมันได้

สมแล้วที่ตอนนั้นเขาสามารถสร้างราชวงศ์เทียนลิ่งขึ้นมาได้

ในตอนที่ฉู่หลิวเยว่เตรียมตัวจะจากมา ทันใดนั้นก็มีระลอกจากทิศไกลๆ

ดูเหมือนว่าจะมีอันใดบางอย่างบินมาทางนี้

ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง นางรู้สึกตกใจเล็กน้อย

“นั่นมันอะ…”

นางยังไม่ทันพูดจบประโยค แต่รู้สึกตกใจอย่างมาก สิ่งนั้นค่อยๆ เข้าใกล้นาง

นั้นเหมือนว่า…เหมือนว่า…จะเป็น…โครงกระดูกครึ่งตัว!?

อีกทั้งมันดูคุ้นตาอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่มองไปยังโครงกระดูกครึ่งตัวและมีแสงสว่างแวววาวที่บินตรงมาหานาง นางยกนิ้วชี้อย่างสั่นๆ

“ท่านปฐมกษัตริย์ นั่นมัน…นั่นมัน…ไท่ซวีเฟิ่งหลงที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งใช่หรือไม่?”

ซั่งกวนจิ้งกะพริบตาปริบๆ

“เอ๋ เหมือนจะใช่ น่าจะเป็นเพราะว่าเจ้าดึงกระบี่หลงหยวนออกมาแล้ว มันจึงหลุดออกจากผนึก ซ้ำยังสัมผัสได้ว่าบนตัวของเจ้ามีโครงกระดูกอีกครึ่งหนึ่งของมัน มันจึงมาที่นี่ด้วยตนเอง”

ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย

เหมือนจะใช่?!

อันใดคือเหมือนจะใช่!

ครึ่งหนึ่งของโครงกระดูกนี้ นางเก็บไว้ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์แล้ว!

นี่มันใช่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย!

แล้วก็!

“มาที่นี่ด้วยตนเอง” นั่นมันเรื่องบ้าอันใดกัน?

ฉู่หลิวเยว่พยายามสงบสติของตัวเองลง แล้วพูดขึ้นอย่างสงบ

“…ก่อนหน้านี้ท่านไม่ได้บอกข้าเลย ว่าโครงกระดูกที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง จะอยู่ทางนั้นด้วย…”

“หา? ข้ายังไม่ได้บอกหรือ?” ปฐมกษัตริย์ถามกลับ แล้วขมวดคิ้วแน่น “ดูเหมือนว่าข้าจะแก่แล้วจริงๆ…”

ฉู่หลิวเยว่ “…”

ไม่ว่าอย่างใดเขาก็เป็นบรรพบุรุษของนาง นางจะพูดอันใดได้อีก!?

ฉู่หลิวเยว่โยนหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างยอมรับชะตากรรม

ซั่งกวนจิ้งมองสีหน้าของนาง แล้วรู้สึกผิดเล็กน้อย จึงหัวเราะเสียงแห้งว่า

“คือว่า…ไม่ว่าอย่างใดก็ต้องไปอยู่แล้ว เจ้าสามารถเอาของทุกอย่างในท้องพระโรงไปด้วยได้นะ”

เขาชี้ไปยังกองทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาล

ไม่ต้องรอให้ฉู่หลิวเยว่พูดอันใด เขาก็สะบัดแขนเสื้อออก รอยแยกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงกลางของหลุมยุบ!

จากนั้น สมบัติมากมายนับไม่ถ้วนก็ไหลออกมา

“สาวน้อย! เร็วเข้า! ที่ด้ามกระบี่หลงหยวนเป็นมิติเก็บของ สามารถใส่ของเหล่านี้ออกไปได้พอดีเลย”

ซั่งกวนจิ้งเร่งนาง

ฉู่หลิวเยว่ “…ท่านยังหลอมอย่างพิเศษ…ด้ามกระบี่เฉียนคุน?”

ซั่งกวนจิ้งพยักหน้าและเร่งอีกฝ่าย

ฉู่หลิวเยว่จึงได้แต่ใส่สมบัติพวกนั้นลงไปใน…ด้ามกระบี่เฉียนคุนอย่างเชื่อฟัง

ตอนนั้นเอง นางก็สัมผัสได้ว่าโครงกระดูกครึ่งร่างนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์แล้ว

ทันใดนั้นซั่งกวนจิ้งก็พูดขึ้นว่า

“จริงสิ หากโครงกระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลงรวมร่างกันได้สำเร็จ เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงจะรู้ได้ทันที เรื่องนี้เจ้าน่าจะรู้อยู่แล้วสินะ?”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *