สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 205 ใกล้ชิดสนิทสนม

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 205 ใกล้ชิดสนิทสนม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 205 ใกล้ชิดสนิทสนม

เธอถือของเข้าห้องอย่างไม่สบายใจ หลังจากนั้นจึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความหาฉูรั่วไป๋ทางวีแชท

“คุณฉู ขอโทษด้วยนะคะ ฉันลืมถามคุณว่าของพวกนี้ราคาเท่าไหร่? เดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้คุณ”

ด้านฉูรั่วไป๋ที่พึ่งเดินมาถึงลิฟต์ก็ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้น

เมื่อเปิดดูแล้วก็พบว่าเป็นข้อความจากเย้นหว่าน

เมื่อเห็นเนื้อหาในข้อความแล้วเขาก็ยกยิ้มแล้วหัวเราะออกมา

เพื่อให้ได้แชทกับเขาเย้นหว่านเธอก็เอาเรื่องเงินมาเป็นข้ออ้างได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่างสรรหาวิธีอย่างลำบากจริงๆ

ทว่าเขากลับเป็นคนที่ไม่ชอบพูดความรู้สึกผ่านหน้าจอโทรศัพท์เท่าไหร่

ด้วยเหตุนี้ฉูรั่วไป๋จึงได้ปิดหน้าจอแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปด้วยท่าทางสง่า

ด้านเย้นหว่านที่ไม่เห็นมีข้อความตอบกลับมาเธอจึงคิดว่าฉูรั่วไป๋คงกำลังยุ่งอยู่ เธอจึงไม่ได้เร่งรัดเขา

ยังมีเวลาที่ต้องเจอกันอีกเยอะ เอาไว้เธอมีโอกาสไว้ค่อยถามเขา

เย้นหว่านไม่ได้เปิดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก่อน แม้ว่าของเหล่านี้จะไม่ใช้แบรนด์ปกติที่เธอใช้ แต่ว่าในระยะเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์คงจะไม่ต่างกันมากหรอก

เสื้อผ้าก็พอดีตัวไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป

เย้นหว่านจึงได้ถอดเสื้อผ้าออกก่อนเพื่อจะได้ลองชุด

ชุดกระโปรงสีแดงที่ยาวถึงเข่า ทั้งยังดูเรียบง่าย เป็นการออกแบบที่ดีมาก มันดูเหมาะกับเธอมาก

ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ไซส์ก็กำลังพอดี!

เย้นหว่านมองชุดสวยที่พอดีตัวในกระจก เธออดที่จะแปลกใจไม่ได้ ฉูรั่วไป๋เลือกถูกได้ยังไง ทำไมเขาถึงคาดคะเนไซส์ได้เหมาะขนาดนี้?

ขนาดเพื่อนร่วมงานยังดูเหมือนว่าจะไม่รู้ไซส์ของเธอเลยด้วยซ้ำ……

เย้นหว่านรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก หรือว่าเขาเพียงแค่โชคดีที่สุ่มเลือกไซส์มาถูกพอดีงั้นเหรอ?

พลบค่ำ

เย้นหว่านและหวางกวนจิ้งพร้อมกับกลุ่มคน ออกเดินทางจากโรงแรมไปยังบาร์ที่จองไว้

นี่เป็นบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียง บรรยากาศครึกครื้นมีชีวิตชีวา ทั้งยังดูหรูหรา ด้านในเต็มไปด้วยชายหนุ่มและหญิงสาวมากหน้าหลายตา ทุกคนต่างก็พากันสนุกสนานกับบรรยากาศ

พวกเขาจองชั้นดาดฟ้าที่แยกโซนเอาไว้ที่ชั้นสามซึ่งเป็นชั้นที่อยู่สูงสุด บนนั้นจะสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศการเต้นที่ดูสนุกสนานนี้ ทั้งยังสามารถอยู่กันเป็นกลุ่มแบบส่วนตัวไม่ถูกรบกวนได้ด้วย

คนที่มา นอกจากดีไซเนอร์จากโห้ถิงกรุ๊ปแล้ว ก็ยังมีดีไซเนอร์ที่ทางเมืองเจียง ส่งมาด้วย มีคนอยู่มากกว่ายี่สิบคนที่อยู่รวมในกลุ่ม

การอยู่ร่วมกันยิ่งทำให้บรรยากาศครึกครื้นมากยิ่งขึ้น

อยู่ในแวดวงการเดียวกัน ทั้งยังต้องร่วมกิจกรรมด้วยกันในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ทุกคนยิ่งทำความรู้จักซึ่งกันและกันและยังคุ้นเคยกันด้วยเวลาอันรวดเร็ว

แม้ว่าเย้นหว่านจะได้นอนพักในช่วงบ่ายแล้ว แต่ในใจเธอก็อดที่จะนึกถึงเรื่องของโห้หลีเฉินไม่ได้จึงทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่นัก

ในขณะนี้สภาพจิตใจของเธอเองก็ไม่ได้ดีมากนัก เพียงแค่พยายามแบกรับมันเอาไว้ก็เท่านั้น

ในครั้งแรกที่ทำความรู้จักกันก็จะมีการรินเหล้าทักทายตามหลักวิธี

คนของเมืองเจียงหลังจากที่แนะนำตัวกัน เราก็จะดื่มให้กัน

เย้นหว่านที่แต่เดิมก็ดื่มไม่เก่งอยู่แล้ว จึงได้รินน้ำส้มแล้วดื่มน้ำส้มแทน

แต่ทว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ยอม

“เย้นหว่าน มาดื่มเหล้าเถอะ อย่าเอาแต่ดื่มน้ำส้มเลย อย่างน้อยดื่มค็อกเทลก็ได้ อ่ะนี้ แอลกอฮอล์ไม่สูงมาก”

ชายหนุ่มยื่นค็อกเทลสีฟ้าแก้วหนึ่งมาให้สับเปลี่ยนแทนน้ำส้มที่อยู่ในมือของเย้นหว่าน

เย้นหว่านรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันดื่มไม่เก่งจริงๆ ค่ะ ฉันดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้”

“เอาน่า ดื่มนิดเดียวเอง ให้มันเป็นที่ระลึกสักหน่อย”

ชายหนุ่มยังคงคะยั้นคะยอให้เธอดื่ม

คนอื่นๆ อีกด้านก็ร้องโห่ขึ้นมา “ใช่ ๆ ดื่มสักหน่อยให้เป็นที่ระลึกน่า ทุกคนต่างก็อยากสนุกสนานกันทั้งนั้นแหละ”

เสียงจากรอบข้างดังขึ้น ยิ่งมีเสียงดังหนวกหูก็ยิ่งทำให้เย้นหว่านปวดหัวมากขึ้น

เธอทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ยืนนิ่งถือแก้วค็อกเทล “เดี๋ยวฉันดื่มก็ได้”

“โอเค”

ชายหนุ่มเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงชนแก้วกับเย้นหว่าน

หลังจากที่เย้นหว่านดื่มไป เธอก็คิดว่าคงจะจบเรื่องแล้ว ทว่ากลับมีผู้ชายอีกคนเข้ามาชนแก้วอีก

และก็ยังเป็นสถานการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นอีกซ้ำๆ “เย้นหว่าน พวกเรามาชนแก้วกัน”

นั่นจึงทำให้เย้นหว่านต้องชนแก้วและดื่มอีกหลายต่อหลายครั้ง

แม้ว่าคนที่อยู่บริเวณนี้จะมีเพียงยี่สิบกว่าคน ทว่าการดื่มแสดงความเคารพก็ยังไม่เสร็จเพียงครั้งเดียว พวกเขาต่างก็พากันดื่มแสดงความเคารพวนไปมาอยู่อย่างนั้น

เย้นหว่านถูกบังคับให้ดื่มค็อกเทลไปอีกหลายแก้ว

ไม่นานหน้าเธอก็แดงและเริ่มเวียนหัวหนักขึ้น

แต่ว่าบนโต๊ะก็ยังดื่มแสดงความเคารพกันไม่เสร็จ ทั้งยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งหยิบเหล้ามาส่งให้ตรงหน้าเย้นหว่าน

“มา พวกเรามาดื่มกันเถอะ”

จริงๆ แล้วเย้นหว่านไม่กล้าดื่มเยอะ จึงได้รีบส่ายหัว “ฉันเมาแล้วค่ะ ดื่มไม่ไหวแล้ว คุณดื่มกับพวกเขาเถอะ”

ชายหนุ่มคนนั้นไม่เห็นด้วย “มีอย่างที่ไหนมาบอกว่าตัวเองเมาแล้วล่ะครับ มา ผมดื่มแก้วหนึ่ง คุณจิบนิดนึง แบบนี้ได้ไหมครับ?”

เย้นหว่านพูดไม่ออก คืนนี้เธอก็จิบอย่างนี้คำแล้วคำเล่า เธอไม่รู้เลยว่าเธอดื่มไปเยอะแค่ไหนแล้ว

และผู้ชายตรงหน้าคนนี้เองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอดื่มไปกี่ครั้งแล้ว

คนดื่มเหล้าเหล่านี้ ก็ถือว่าน่ากลัวอยู่มาก

ด้วยอาการปวดหัวของเย้นหว่านทำให้เธอถึงกับกุมขมับตัวเอง เธอไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าเธอถือโอกาสปฏิเสธออกไปอาจเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมากที่สุด ถ้าเธอดื่มมันเข้าไปแล้วเธอต้องเมาแน่

เธอเกลียดความรู้สึกตอนที่เมาอาเจียนแล้วภาพตัด มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาน

เย้นหว่านไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าเวลานี้เธอควรทำอย่างไรดี ในขณะนั้นเองแก้วเหล้าในมือเธอก็ถูกมือใหญ่ของใครอีกคนคว้าไปแทน

ฉูรั่วไป๋นั่งลงข้างเย้นหว่าน ในมือถือแก้วค็อกเทลของเย้นหว่านที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง

เขายกแก้วเหล้าขึ้นมา “อาเหอ เหล้าแก้วนี้เดี๋ยวฉันขอช่วยดื่มให้เธอได้ไหม?”

“ได้ได้ เพียงแต่คุณอย่าเพียงแค่จิบนะ”

“แน่นอน”

ฉูรั่วไป๋ยิ้มอย่างสุภาพ หลังจากนั้นก็ยกแก้วขึ้นชนกับชายหนุ่มคนนั้น ก่อนจะดื่มค็อกเทลที่เหลืออยู่เพียงอึกเดียว

เย้นหว่านที่อยู่ข้างๆ ถึงกลับยืนเหม่อ มองดูแก้วเปล่าที่อยู่ในมือฉูรั่วไป๋หน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อย

ที่พึ่งดื่มไปเขาดื่มมันเพื่อเธอ……

ทว่าฉูรั่วไป๋ก็ไม่ได้ถามอะไร เขาเพียงให้ชายตรงหน้าออกไปจากนั้นจึงหันมามองเย้นหว่าน

“หน้าคุณดูแดงๆ นะ เมาแล้วเหรอ?”

เย้นหว่านส่ายหน้า ทั้งยังพยักหน้าด้วย “นิดหน่อยค่ะ ยังโอเคดีอยู่”

“งั้นก็อย่าดื่มอีกเลยครับ”

ฉูรั่วไป๋สรุปให้ในทันที

เมื่อคิดว่าคืนนี้ฉูรั่วไป๋ดื่มเหล้าครึ่งแก้วนั้นแทนเย้นหว่าน ช่วยเย้นหว่านให้ไม่ต้องดื่มอีก ในใจของเย้นหว่านก็รู้สึกตื้นตันใจมาก

เธอมองดูเขาด้วยสายตาขอบคุณ “เมื่อครู่ขอบคุณนะคะ”

“ยื่นมือมาสิครับ”

ฉูรั่วไป๋ยิ้มบาง ทันใดนั้นเค้าก็โน้มตัวลงมาด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้เข้าใกล้เย้นหว่านขึ้นมาอีก

บนตัวของชายหนุ่มมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เป็นกลิ่นที่ถ้าดมเข้าไปก็ทำให้มึนได้เหมือนกัน

เย้นห่านเผลอเกร็งร่างกายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว พลางก้าวถอยหลังออกไปแล้วมองฉูรั่วไป๋อย่างสงสัย

ฉูรั่วไป๋ยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนเอ่ยกระซิบเสียงเบา

“คืนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าจะเล่นสนุกอีกเมื่อไหร่ คุณอยากจะไปก่อนไหม?”

เย้นหว่านมองไปที่กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่กำลังเล่นกันอยู่ พวกเขาทั้งหมดต่างดูคุ้นเคยกันดี จนแยกไม่ออกว่าใครมาจากเมืองเฉิงหนานใครมาจากเมืองเจียง

เพียงดูท่าทางแล้วถ้าไม่ถึงหลังเที่ยงคืนก็คงจะไม่มีการเก็บกวาด

เย้นหว่านจึงคิดอยากจะเดินออกไป ทว่ายังรู้สึกเกรงใจอยู่ “ถ้าฉันไปตอนนี้มันอาจจะดูไม่ดี”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปกับคุณเอง”

เย้นหว่านประหลาดใจ แม้ว่าคนทั้งสองฝ่ายจะยังเล่นกันอยู่ และฉูรั่วไป๋เองก็ถือว่าเป็นตัวเอกของงานเลยด้วยซ้ำ

แล้วเขาจะไปอย่างนี้ก็ทำได้เหรอ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด