สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 799 เกิดปัญหาแล้ว

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 799 เกิดปัญหาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ป่ายฉีที่เห็นฉากนี้ มุมปากของเขาก็สั่น อดไม่ได้ที่จะแขวะ “ให้ตายสิ”

เขาเองรับมือไม่ทันกับฉากสวีทที่อยู่ตรงหน้า

เย้นโม่หลินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่า ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ถูกชะตากับโห้หลีเฉินอยู่ดี

เย้นหว่านก็ยิ่งรู้สึกอายและโกรธ จึงรีบดึงมือออกมา

แค่ป้อนลูกอมเอง ทำไมโห้หลีเฉินต้องกัดนิ้วมือของเธอด้วย? กัดนิ้วมือเธอก็แล้วไป แต่มีคนมากมายที่เห็นเหตุการณ์นี้ ขายหน้าชะมัด

เย้นหว่านหน้าแดงจนไม่กล้าไปเจอหน้าคนอื่น

ทว่าโห้หลีเฉินกลับมองเธอด้วยสายตาที่เป็นประกาย บวกกับเสียงหัวเราะอันแผ่วเบาที่สะกดให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล

“หวานจัง”

น้ำเสียงอันทุ้มต่ำ ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงความหวานของลูกอม หรือว่าความหวานของเธอ

ใบหน้าของเย้นหว่านแดงระเรื่อ “ตุบ ตุบ”ใจเต้นแรงราวกับเครื่องยนต์ ที่กำลังขึ้นลอยในอากาศ

ผู้ชายคนนี้แก้ไม่หายจริงๆ เพิ่งออกมาจากประตูขุมนรกมาไม่เท่าไหร่ ก็มาเนียนๆแตะเนื้อต้องตัวเธอซะแล้ว

หยาบคายจริงๆ

“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ คนตายเยอะขนาดนี้ อยู่ไปก็ซวยเอาเปล่าๆ”

เย้นโม่หลินทำหน้าอึมครึม ก่อนจะเอ่ยปากถาม

สาเหตุที่อยากไปจากที่นี่ก็มี เพียงแต่เขาไม่อยากเห็นโห้หลีเฉินมารังแกน้องสาวจอมบื้อของเขาอีก

ป่ายฉีมองโห้หลีเฉิน พลางเอ่ยปากถาม

“ช่วงนี้พวกนายพักอยู่ที่ไหนหรอ ปลอดภัยไหม? “ อาการบาดเจ็บของนายในตอนนี้ยังเดินทางไกลไม่ได้นะ ต้องพักสักสองสามวันก่อนถึงจะเริ่มออกเดินทางได้”

หลายวันนี้ ก็ยังคงต้องอยู่ที่นี่ก่อน

เมื่อได้ยินสิ่งเขาพูด จู่ๆสีหน้าของเย้นหว่านก็เปลี่ยนไป สีหน้าของเธอดูมีความกลัดกลุ้มใจอยู่เล็กน้อย

เดิมทีเธอคิดว่า เธอจะสามารถออกไปจากเมืองเบียนหนานได้อย่างเงียบๆ และคิดว่าตัวเธอเองไม่ต้องกังวลกับเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นจากที่นี่อีกต่อไป

เย้นหว่านตอบอย่างลังเล

“ พวกเราพักอยู่ที่บ้านของเวนเดลล์ แต่พวกเราสร้างเรื่องใหญ่โตไว้ที่นี่ อีกทั้งยังปฏิบัติต่อเจ้าหญิงแบบนี้อีก เกรงว่า……”

เย้นหว่านที่ยังพูดไม่จบ ทว่าความหมายที่เธอจะสื่อนั้นกลับแสดงออกมาได้อย่างชัดเจน

มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังต่อสู้กันด้วยอาวุธปืนในสวนดอกไม้หลวง พวกเขาฆ่าทหารวังไปแล้วร้อยกว่าคน อีกทั้งยังทารุณเจ้าหญิงอย่างเหี้ยมโหด ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น พวกเขาก็จะตกเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทั้งประเทศต้องตามฆ่าอย่างแน่แท้

หากต้องพักอยู่ที่เวนเดลล์ต่อไป ก็เหมือนการอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับศัตรู

“สบายใจได้ ก่อนที่พวกเราจะไปจากที่นี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่มีใครู้ว่าเป็นฝีมือของพวกเรา’ ป่ายฉีพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

เย้นหว่านถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมล่ะ?”

ป่ายฉียิ้มมุมปาก ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับดูเย็นยะเยือก “ ผู้คนที่เคยเจอเรา ตายหมดแล้ว”

เย้นหว่านสะดุ้งตาค้าง ด้วยจิตสำนึกของเธอ จึงกวายสายตาไปยังศพที่นอนเกลื่อนอยู่รอบตัวเธอ

ถนนด้านนอก คาดว่ายังคงมีศพอีกมากมาย

ที่แท้พวกเขาก็ฆ่าคนเพื่อเข้ามาที่นี่ ช่างกล้าหาญเสียจริง

ทว่าการทำแบบนี้กลับทำให้เธอพะวงหน้าพะวงหลังน้อยลง เพราะการมาแบบนี้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าตัวตนจะถูกเปิดเผยและไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคนตามล่า

อย่างไรก็ดีที่สามารถช่วงชิงเวลานี้มาได้ รอโห้หลีเฉินรักษาอาการบาดเจ็บให้ดีขึ้นก่อนค่อยไปจากที่นี่

“แต่ว่า……” แววตากะพริบระยิบระยับของเย้นหว่านมองไปยังซาอินติที่อยู่ไม่ไกลจากเธอ ซึ่งกำลังทรมานและไร้ซึ่งแรงที่จะกรีดร้อง “จะทำยังไงกับเธอดีล่ะ?”

ป่ายฉียักไหล่ “ขึ้นอยู่กับเธอ”

เย้นหว่านมองซาอินติที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ด้วยสายตาที่ดูซับซ้อน ผ่านไปได้สักพัก เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับซาอินติยังไงดี

พวกเขาจะไปกันแล้ว แน่นอนว่าคงไม่พาเธอที่เป็นลูกติดไปด้วยแน่นอน มันอันตรายเกินไป และง่ายต่อการถูกเปิดโปง

แต่ถ้าไม่พาเธอไปด้วย จะให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปงั้นหรอ?

“ฆ่าเธอซะ”

โห้หลีเฉินพูดอย่างเย็นชา น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกราวกับถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็ง “มัดเธอไว้ตรงนั้น ยิงตรงจุดสำคัญบนร่างกายเธอ ให้เธอตายเพราะเสียเลือด”

คำพูดที่เย็นเฉียบ ดูเหี้ยมโหดไร้ซึ่งความรู้สึก

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นสายตาอันเย็นชาของเขาที่มีต่อซาอินติ ดูออกว่าเขาเกลียดเธอมากแค่ไหน

ใช่ เธอเองก็เกลียดซาอินติไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโห้หลีเฉิน

จุดจบที่น่าเวทนานี้ ก็คงเป็นเพราะซาอินติเองที่โหดร้ายทารุณ สร้างความเลวด้วยตัวเธอเองก่อน

ถ้าเธอตายที่นี่ อย่างน้อยช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ ประเทศเบียนหนานก็ยากที่จะสืบได้ว่า เป็นผลงานของพวกเขา

เมื่อจัดการเรื่องราวทั้งหมดเสร็จสิ้น บอดี้การ์ดก็หามโห้หลีเฉิน พวกเขาออกมาจากดินแดนนรกที่เต็มไปด้วยซากศพ

ในพงหญ้าที่จมไปด้วยกองเลือด แขนและขาทั้งสองของซาอินติถูกมัดด้วยเชือก และเธอก็นอนแผ่หราอยู่ตรงนั้น

เสื้อผ้าบนตัวของเธอถูกย้อมเป็นสีเลือดสดจนหาความสะอาดของเสื้อผ้าไม่เจอ และบนตัวของเธอเต็มไปด้วยรูกระสุน

ไม่รู้ว่าท่อนบนของเธอโดนโรยด้วยผงยาอะไร เพราะเลือดไหลออกมาไม่หยุด ทุกบาดแผลเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมาน

สีหน้าอันบู้บี้ของซาอินติ แบกรับความทรมานที่เหมือนตายทั้งเป็น เธออ้าปากค้าง และด้านในมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

สายตาเธอมองไปยังท้องฟ้า ความรู้สึกเต็มไปด้วยความเกลียดชังและหมดหวัง ราวกับจมดิ่งลงไปในเหวลึกที่ไร้ซึ่งศัตรู ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอกลับมีเพียงความมืดมนและความเจ็บปวด

หากรู้แต่แรกว่าต้องมาตายอย่างน่าเวทนาแบบนี้ เธอก็ไม่กล้าร้องขอเพื่อให้ได้มาซึ่งโห้หลีเฉิน

……

นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอหวังสูงเกินไป จนต้องมาขุดหลุมฝังศพตัวเองแบบนี้

เพราะเย้นโม่หลินที่นำทางให้ ทำให้พวกเขาออกมาจากพระราชวังได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังออกมาทางตรอกเล็ก ซึ่งสามารถเข้าไปในบ้านของเวนเดลล์ได้โดยที่ไม่มีใครสังเกต

เนื่องจากกลุ่มของพวกเขามีจำนวนคนที่เยอะ เพิ่งเข้าไปในสวน ก็ถูกเวนเดลล์เจอเข้า

เมื่อเขาเห็นกลุ่มบอดี้การ์ดที่มีรูปร่างทั้งสูงและใหญ่ ท่าทางดูน่ากลัว เวนเดลล์รู้สึกตกใจมากจึงตะโกนถามทันที

“พวกคุณเป็นใคร ? ”

เย้นหว่านกลัวว่าเสียงตะโกนของเวนเดลล์จะดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เธอที่อยู่ด้านหลังจึงเตรียมเดินออกมาด้านหน้าเพื่อที่จะอธิบาย ในตอนนี้เอง ป่ายฉีก็ชิงเดินนำเธอไปก่อน

ป่ายฉีหัวเราะเสียงดังพลางพูดกับเขา “เวนเดลล์ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ ไม่ต้อนรับผมหน่อยหรอครับ?  ”

เวนเดลล์ที่เห็นป่ายฉี ก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

ผ่านไปสามวินาที เขาถึงจะมีท่าทีตอบสนอง เขาถามกลับด้วยความดีใจ แม้จะดูไม่น่าเชื่อกับสิ่งที่เขาเจอ “คุณ คุณคือคุณป่ายฉี?”

ป่ายฉี่ยิ้มร่า พลางเอามือไปลูบคางตัวเอง จากนั้นถามเขาด้วยท่าทางที่ดูครุ่นคิด

“หน้าตาหล่อเหลาแบบผม จะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงล่ะ?”

เย้นหว่าน “……”

ต้องหลงตัวเองขนาดนี้เลยเหรอ?

เมื่อเวนเดลล์ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ก็ไม่ได้แสดงท่าทีแปลกๆออกมา ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับดูเบิกบานใจ

เขาอ้าแขนทั้งสองข้างและเดินจ้ำอ้าวมาทางป่ายฉี

“คุณป่ายฉี ผมดีใจมากเลย ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้พบคุณ!”

ระหว่างที่เวนเดลล์พูด ดวงตาของเขาก็แดงก่ำ

ลักษณะท่าทางเหมือนได้เจอกับเพื่อนเก่าที่ห่างหายกันมานาน นับว่าเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งใจ

เย้นหว่านเกิดความสงสัยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวนเดลล์กับป่ายฉีคืออะไรกันแน่ ?เพื่อนต่างวัย?หรือเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้?

ป่ายฉีเหล่ตามองเย้นหว่าน พลางกัดฟันพูด

“ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นแค่หมอกับคนไข้ธรรมดาๆเท่านั้น เธออย่าจิ้นไปเรื่อย ถ้าจะจิ้น เธอก็ต้องหาคนที่รูปร่างหน้าตาดีเท่านั้นถึงจะคิดแบบนั้นได้”

รูปร่างหน้าตาดีงั้นหรอ?

เย้นหว่านเอามือปิดปากด้วยความแปลกใจ “ป่ายฉี นายเป็นเกย์จริงๆหรอ?”

ป่ายฉี “……”

เวนเดลล์ที่กำลังจะโผเข้ากอดเขาอย่างเป็นมิตร “……”

เขาที่อ้าแขน ก็เก็บมือกลับเข้าที่อย่างช้าๆ เขาค่อยๆเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อรักษาระยะห่าง

ป่ายฉีมองดูท่าทีของเขา จู่ๆบริเวณขมับก็มีการกระตุก

แย่จริง เขารู้สึกเสียใจที่ช่วยโห้หลีเฉินไว้ จริงๆแล้วเขาควรให้เย้นหว่านสังเวยชีพเพื่อความรัก!

“เสี่ยวหว่าน เธอบาดเจ็บมาเหรอ?”

ในตอนนี้เอง น้ำเสียงที่ดูประหลาดใจของชายผู้หนึ่งก็ดังมาจากที่ไม่ไกล

เห็นเพียงฉู่ๆที่กำลังประคองเซอร์ยุนซีมา เขาเองสวมชุดคนไข้ ใบหน้าขาวซีดมองไปยังเย้นหว่านด้วยความกังวลใจ จากนั้นเขาก็พุ่งตรงมาหาเย้นหว่านโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

สีหน้าท่าทางเขาดูซีดเซียว อีกทั้งยังเดินเซ ทว่าเขาก็ดูรีบร้อนใจมากเช่นกัน

เมื่อเย้นหว่านเห็นเขา บริเวณขมับก็กระตุกแรงมาก

แย่จริง

เธอลืมไปได้ยังไงว่าเซอร์ยุนซีก็พักรักษาตัวอยู่ที่นี่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด