หวนคืนชะตาแค้น 423 ฟาดแส้ใส่ผู้ว่าการ (3)

Now you are reading หวนคืนชะตาแค้น Chapter 423 ฟาดแส้ใส่ผู้ว่าการ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เย้ย​ ​“​ราคา​เป็นธรรม​หรือ​ ​เจ้าสัว​เฉิน​นึก​ว่า​พวก​ข้า​โง่​มาก​กระมัง​ ​ตอนนี้​ราคา​ข้าว​ตก​อยู่​ที่​เจ็ด​ถึง​แปด​เหวิน​ต่อ​ลิตร​ ​เจ้าสัว​เฉิน​โพล่ง​ว่า​ต้องการ​ยี่สิบ​เหวิน​ ​เห็น​พวกเรา​ใช้จ่าย​เงิน​สุรุ่ยสุร่าย​นัก​หรือ​อย่างไร​”

​เจ้าสัว​เฉิน​เผย​สีหน้า​บูดบึ้ง​ ​เขา​เห็น​สอง​คน​นี้​ดูร​่ำ​รวย​จริงๆ​ ​แค่​ดูก​็​รู้​ว่า​เป็นคุณ​ชาย​จาก​ตระกูล​มั่งคั่ง​ที่​มีบ​ริวาร​เหลือเฟือ​ ​ครั้น​เห็น​ชาวบ้าน​เหล่านี้​เดือดร้อน​เลย​ฮึกเหิม​อยาก​เป็น​คนดี​ขึ้น​มาชั​่ว​ขณะ​ ​ดังนั้น​ถึง​เปิดปาก​เสนอ​ราคา​สูงลิ่ว​ ​เวลานี้​พอ​ถูก​มู่​ชิง​อี​หักหน้า​จึง​เผย​สีหน้า​ไม่​สู้​ดี​ ​แค่น​เสียง​เบา​ที​เอ่ย​ ​“​ในเมื่อ​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​เห็น​ว่า​แพง​ ​เช่นนั้น​ก็​ไป​ซื้อ​ที่อื่น​เถิด​ ​ข้า​ขาย​ข้าว​ราคา​นี้แหละ​”

​มู่​ชิง​อีก​ลอก​ตา​พลาง​อมยิ้ม​บาง​ ​“​เอาเถิด​ ​ท่าน​เอา​ตั๋วเงิน​ไป​แล้ว​ข้า​จะ​ให้​คน​มา​ขน​ข้าว​ ​เจ้าสัว​เฉิน​บอกว่า​…​อยากได้​เท่าไร​ก็​มีมาก​เท่านั้น​ใช่​หรือไม่​”

​เจ้าสัว​เฉิน​ยิ้ม​ร่า​พลัน​ลอบ​ยิ้มเยาะ​ว่า​สอง​คน​นี้​ช่าง​โง่เขลา​จริงๆ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​คว้า​ตั๋วเงิน​มา​ ​แต่ละ​ใบ​เป็น​ตั๋วเงิน​ราคา​พัน​ตำลึง​ทั้งสิ้น​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​เอ่ย​อย่าง​พึงพอใจ​ว่า​ ​“​ไม่เลว​เลย​!​ ​เจ้า​ให้​คน​มา​ขน​ไป​ได้​เลย​”

​จากนั้น​มู่​ชิง​อีก​็​เผย​สีหน้า​ขรึม​เอ่ย​ยิ้ม​เสียงเย็น​ชา​ ​“​ใครก็ได้​เข้ามา​นี่​ ​ขน​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ของ​จวน​ตระกูล​เฉิน​ออก​ไป​ให้​หมด​ ​ห้าม​เหลือ​แม้แต่​ข้าว​เม็ด​เดียว​ ​อีก​อย่าง​ห้าม​ทุกคน​ใน​จวน​ตระกูล​เฉิน​…​ออกจาก​เรือน​แม้แต่​ก้าว​เดียว​!​”

​องครักษ์​คน​หนึ่ง​นอก​ประตู​ขานรับ​ ​“​น้อม​รับคำ​สั่ง​!​”

​เจ้าสัว​เฉิน​ชะงัก​ไป​ ​“​เจ้า​…​คุณชาย​หมายความว่า​เช่นใด​กัน​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ ​“​เจ้าสัว​เฉิน​บอกว่า​อยากได้​เท่าไร​ก็​มีมาก​เท่านั้น​มิใช่​หรือ​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​…​ท่าน​มี​เท่าใด​ข้า​ก็​จะ​เอา​มาก​เท่านั้น​ ​หรือ​จะ​บอกว่า​ตั๋วเงิน​ใน​มือ​ไม่พอ​หรือ​”

​พอ​อยู่​แล้ว​ ​อย่า​ว่าแต่​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ใน​ร้าน​และ​จวน​ของ​เขา​เลย​ ​ต่อให้​ขาย​ร้านค้า​ไป​พร้อมด้วย​ยัง​พอ​ด้วยซ้ำ​ ​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เอ่ย​อย่าง​พึงพอใจ​ ​“​หาก​พอแล้ว​ก็ดี​ ​เช่นนั้น​…​ท่าน​เฉิน​โปรด​อยู่​ใน​จวน​ดี​ๆ​ ​ไป​แล้วกัน​”

​เจ้าสัว​เฉิน​กำ​ตั๋วเงิน​ใน​มือ​พร้อม​เหม่อลอย​อย่าง​คน​ไร้สติ

​หลังจาก​ได้สติ​กลับมา​ก็​ค้นพบ​ว่า​ทุกคน​ใน​ตระกูล​เฉิน​ถูก​กักบริเวณ​เรียบร้อย​ ​อีกทั้ง​เป็นเวลา​ที่​ใน​จวน​ตระกูล​เฉิน​ไม่มี​แม้แต่​ข้าว​เม็ด​เดียว​ ​ในที่สุด​เจ้าสัว​เฉิน​ก็​เข้าใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ว่า​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ผู้​นั้น​ต้องการ​จะ​ทำ​อะไร

​จวน​ตระกูล​เฉิน​กักตุน​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ไว้​ไม่น้อย​เลย​จริงๆ​ ​พอ​มี​เสบียง​พวก​นี้​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​อีกต่อไป​ ​ไม่นาน​เหล่า​คน​ไร้​บ้าน​ก็​ถูก​จัด​ไป​อยู่​ใน​เรือน​ที่​ยัง​สมบูรณ์​อยู่​ ​ส่วน​ชาวบ้าน​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ก็​มี​หมอ​คอย​รักษา​ ​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ที่​ขนมา​จาก​ร้านค้า​ของ​ตระกูล​เฉิน​ช่วย​ทำให้​ทุกคน​อิ่ม​ท้อง​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​ซาบซึ้งใจ​คุณชาย​ทั้งสอง​ที่​จู่ๆ​ ​โผล่​มารา​วกับ​เทพ​เซียน​ก็​ไม่​ปาน​ ​ทว่า​ครั้น​ไม่เห็น​วี่แวว​ของ​คนใน​ราชสำนัก​ ​มู่​ชิง​อี​ที่​ยังอยู่​ใน​เรือน​เฉิน​ก็​เริ่ม​เผย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ลง​เรื่อยๆ

​เพราะ​กลับ​เมืองหลวง​ไม่ได้​ ​พวกเขา​ทั้งสอง​เลย​นอน​พัก​ที่​จวน​ตระกูล​เฉิน​หนึ่ง​คืน​ ​เช้าตรู่​วัน​ต่อมา​ภายนอก​ก็​ยังคง​ขาวโพลน​เฉกเช่น​เดิม​ ​ทว่า​ชาวบ้าน​ใน​หมู่บ้าน​กลับ​ไม่ได้​อกสั่นขวัญแขวน​อีกต่อไป​ ​บางคน​ยัง​พยายาม​ตามหา​ญาติพี่น้อง​ภายใต้​ซากปรักหักพัง​ ​ส่วน​บางคน​เริ่ม​ทำความสะอาด​จุด​ที่​บ้านเรือน​เสียหาย​พลาง​เก็บ​ข้าวของ​ที่​ยัง​พอใช้ได้​ขึ้น​มา​ ​และ​บางคน​ก็​เริ่ม​ทำความสะอาด​บ้านเรือน​ของ​ตน​เพื่อ​เตรียม​เริ่มต้น​ชีวิต​ใหม่

​ภายใน​จวน​ตระกูล​เฉิน​ ​นอก​เสีย​จาก​เมื่อวาน​คนใน​ตระกูล​เฉิน​เริ่ม​หิว​แล้ว​ ​ทุกอย่าง​ก็​ยังคง​เรียบร้อย​ดี

​“​จื่อ​ชิง​ ​ทานอาหาร​เช้า​ก่อน​เถิด​”​ ​มู่​ชิง​อี​เดิน​เข้า​โถง​ใหญ่​มาก​็​เห็น​หรง​จิ​่​นร​ออยู​่​ที่นั่น​พร้อม​โจ๊ก​ที่​มี​ไอ​ร้อน​พวยพุ่ง​หอมกรุ่น​บน​โต๊ะ​อยู่​ก่อน​แล้ว​ ​แต่​แตกต่าง​จาก​โจ๊ก​เนื้อ​หยาบ​ของ​ชาวบ้าน​ด้านนอก​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ถาม​ ​“​เอา​มาจาก​ไหน​กัน​เพ​คะ​”

​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​คนครัว​ของ​ตระกูล​เฉิน​ดี​ไม่​หยอก​”​ ​ภายใน​จวน​ตระกูล​เฉิน​ ​คนที​่​ไม่ต้อง​ทน​หิวโซ​ก็​คงมี​แต่​คนครัว​นี่แหละ​ ​ในเมื่อ​หรง​จิ​่น​ต้องการ​พ่อครัว​มาทำ​กับข้าว​นี่​นา

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ทาน​โจ๊ก​ที่​หรง​จิ​่น​ส่ง​มา​ให้​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​หิมะ​ขาวโพลน​ด้านนอก​พลาง​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ ​“​กระทั่ง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไร้​วี่แวว​ ​คนใน​ราชสำนัก​ช่าง​ใจกล้า​นัก​”

​หรง​จิ​่น​เอ่ย​เสียง​เนิบๆ​ ​“​ชิง​ชิง​อย่า​โกรธ​ไป​เลย​ ​เมื่อคืน​ข้า​เรียก​ให้​อู๋​ฉิ​งก​ลับ​ไป​ทูล​รายงาน​เสด็จ​พ่อ​แล้ว​ ​เดี๋ยว​คงมี​คน​มา​”

​มู่​ชิง​อี​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​หาก​เรื่องเล็ก​แค่นี้​ต้อง​รอ​ให้​ฝ่า​บาท​ทรง​รับสั่ง​ก่อน​ถึง​ลงมือทำ​ ​แล้ว​ถ้า​เกิดเรื่อง​ใหญ่​ใด​ขึ้น​คง​ยาก​จะ​จินตนาการ​ได้​ว่า​เหตุการณ์​จะ​เป็น​เช่นไร​จริงๆ​”

​หรง​จิ​่น​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​ความจริง​ควร​จัดการ​คน​พวก​นี้​สัก​รอบ​”

​หลังจาก​ทาน​มื้อ​เช้า​เสร็จ​ ​พวกเขา​ก็​เดิน​เคียง​ไหล่​ออกจาก​ประตู​มา​ ​เด็กผู้ชาย​คน​เมื่อวาน​จับมือ​น้องสาว​รอ​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​คล้าย​กำลัง​รอ​พวกเขา​อยู่​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​อย่างแปลกใจ​ ​“​เช้า​ขนาด​นี้​ ​พวก​เจ้า​มาทำ​อะไร​ที่นี่​”

​เด็กผู้ชาย​มอง​นาง​พลาง​จ้อง​ไป​ทาง​หรง​จิ​่น​แล้ว​เอ่ย​ ​“​พวก​ท่าน​ช่วย​ข้า​ ​ข้า​ต้อง​ตอบแทน​”

​มู่​ชิง​อี​อด​คลี่​ยิ้ม​ไม่ได้​แล้ว​เอ่ย​ ​“หืม​ ​เจ้า​จะ​ตอบแทน​ข้า​เช่นใด​หรือ​”

​เด็กผู้ชาย​กล่าว​ ​“​เป็น​ทาส​รับใช้​ ​ไม่ว่า​ท่าน​ให้​ข้า​ทำ​อะไร​ก็ได้​ทั้งนั้น​”​ ​มู่​ชิง​อี​ถอนหายใจ​พลาง​ยกมือ​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ต้องการ​ให้​เจ้า​ทำ​สิ่งใด​ ​เจ้า​ยัง​เล็ก​นัก​ ​พ่อแม่​ของ​เจ้า​เล่า​”

​เด็กผู้ชาย​เอ่ย​เสียง​เบา​ด้วย​สีหน้า​เศร้าสร้อย​ ​“​พวกเขา​ตาย​หมด​แล้ว​”

​มู่​ชิง​อี​พูดไม่ออก​ ​เด็ก​เจ็ด​แปด​ขวบ​คน​หนึ่ง​ต้อง​เลี้ยง​น้องสาว​อายุ​ที่​เพิ่ง​สี่​ขวบ​เท่านั้น​…

​นาง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​ข้ามี​ฟาร์ม​อยู่​ฟาร์ม​หนึ่ง​ ​ใน​นั้น​เลี้ยงสัตว์​ไว้​บางส่วน​ ​ข้า​ต้องการ​คน​มาช​่วย​เลี้ยง​แพะ​ ​เจ้า​ทำได้​หรือไม่​”

​เด็กผู้ชาย​ดวงตา​ลุก​วาว​ ​“​ข้า​เลี้ยง​แพะ​เป็น​ ​แต่​…​ข้า​พาน​้​อง​สาว​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ ​“​ได้​อยู่​แล้ว​ ​ถ้า​เจ้า​ต้องการ​ล่ะ​ก็​ ​เจ้า​ยัง​สามารถ​เรียน​ศิลปะ​ป้องกันตัว​หรือ​เรียนหนังสือ​ด้วย​ก็ได้​ ​รอ​เจ้า​โตก​่อ​นค​่อย​คืนเงิน​ที่​ติดค้าง​ข้า​แล้วกัน​”

​“​ได้​ ​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ขอรับ​!​”​ ​เด็กผู้ชาย​เอ่ย​พลาง​ยิ้ม​ร่า

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ ​เจ้า​รอ​อยู่​ที่นี่​ก่อน​ ​พอ​ถึง​เวลา​จะ​มี​คน​มารับ​เจ้า​ ​ดูแล​น้องสาว​ให้​ดีล​่ะ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ลูบ​บ่า​ของ​เขา​ก่อน​หันไป​พูด​กับ​หรง​จิ​่​นว​่า​ ​“​พวกเรา​ไป​กัน​เถิด​”

​หรง​จิ​่​นก​้​มห​น้า​เหลือบมอง​เด็กผู้ชาย​ที่​ดวงตา​เป็นประกาย​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​จากไป​อย่าง​เงียบๆ

​เด็กผู้ชาย​ด้านหลัง​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​มาก​ ​ข้ามี​นาม​ว่า​เว​่ย​ไหว​”

​มู่​ชิง​อี​หันกลับ​ไป​ยิ้ม​แผ่วเบา​ ​“​ข้ามี​นาม​ว่า​กู้​หลิว​อวิ​๋น​”

​หรง​จิ​่​นพูด​ไว้​ไม่ผิด​เลย​จริงๆ​ ​ยัง​ไม่​ถึง​ตอนเที่ยง​ราชสำนัก​ก็​ส่ง​คน​มา​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​พากั​นมา​ไม่น้อย​ ​ไม่เพียงแต่​คน​ของ​ผู้ว่าการ​เมืองหลวง​เท่านั้น​ ​ทว่า​ยัง​มี​คน​ของ​ท่าน​อ๋อง​และ​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​…​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ฉิน​อ๋อง​หรง​ไหว​ ​จวง​อ๋อง​หรง​เซ​วี​ยน​ ต​วน​อ๋อง​หรง​เหยี​่​ยน​ ​หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​อย่าง​ชุ่ย​อวิ​๋​นมี​องค์​ชาย​โผล่​มาถึง​สี่​คนใน​คราว​เดียว​ ​วันหน้า​คง​ถือว่า​เป็น​สถานที่​ที่​ควรค่า​แก่​การ​หวงแหน​ไม่น้อย​ ​อีกทั้ง​สีหน้า​ของ​เหล่า​อ๋อง​ทั้งหลาย​ยัง​ดู​ไม่ดี​เท่าใด​นัก​ ​ไม่ต้อง​คิด​ก็​พอ​เดา​ได้​ว่า​คง​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก่น​ด่า​มาด​้วย

​ใต้เท้า​ผู้ว่าการ​ผู้​นั้น​ยิ่ง​หน้า​ดำ​คร่ำ​เครียด​ ​ครั้น​เห็น​หรง​จิ​่น​เดิน​รุดหน้า​เข้ามา​ก็​คุกเข่า​ก้มหน้า​ลงพื้น​โดย​ไม่​คิด​สนใจ​ว่า​อยู่​กลาง​ถนน​เลย​สักนิด​ ​“​กระหม่อม​…​กระหม่อม​ขอ​คารวะ​องค์​ชาย​เก้า​อวี​้​อ๋อง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​ทุกคน​รอบข้าง​ต่าง​ตกตะลึง​ ​พวกเขา​นึกไม่ถึง​ว่า​คน​ฐานะ​ดีที​่​จู่ๆ​ ​โผล่​มา​เมื่อคืน​จะ​เป็น​องค์​ชาย​เก้า​ที่​ใคร​หลาย​คน​ต่าง​เล่าลือ​ถึง​ชื่อเสียง​อัน​เสื่อมเสีย​กัน​อย่างเห็นได้ชัด

​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย็นชา​กล่าว​ ​“​คง​มิบั​งอาจ​ ​ในเมื่อ​ใต้เท้า​ผู้ว่าการ​เก่งกาจ​มาก​ถึง​เพียงนี้​ ​เมื่อคืน​ข้า​ส่ง​คน​ไป​บอกข่าว​เจ้า​แล้ว​ ​แต่​เจ้า​ดัน​โผล่​มาต​อนนี​้​ ​ช่าง​โอหัง​เสีย​จริง​”

​ผู้ว่าการ​หน้าซีด​เอ่ย​เสียงสั่น​เครือ​ ​“​กระหม่อม​…​กระหม่อม​สำนึกผิด​แล้ว​”​ ​ถึงแม้​หรง​จิ​่น​จะ​ส่ง​คน​ไป​บอกข่าว​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​เก็บ​เอา​มา​ใส่ใจ​เลย​สักนิด​ ​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ยัง​ไม่​ผ่านพ้น​ช่วง​ปีใหม่​ดี​ก็​เกิด​ภัยพิบัติ​หิมะ​ตกหนัก​จน​คร่าชีวิต​ผู้คน​ไปมา​กมาย​แล้ว​ ​หาก​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​เกรง​ว่า​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​กริ้ว​เอา​ได้​ ​ดังนั้น​ข้าหลวง​เบื้องล่าง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​และ​เหล่า​องค์​ชาย​ทั้ง​หรง​เซ​วี​ยน​และ​หรง​เหยี​่​ยน​จึง​ต่าง​ปิดข่าว​อย่าง​เงียบกริบ​ ​แต่กลับ​นึกไม่ถึง​ว่า​หรง​จิ​่​นที​่​แต่ไหนแต่ไรมา​ไม่​คิด​สนใจ​เรื่อง​บ้านเมือง​กลับ​คาบข่าว​มาก​ราบ​ทูล​ฮ่องเต้​เสีย​ได้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *