ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้านบทที่ 5129 พาแกไปเฟี้ยว 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5129 พาแกไปเฟี้ยว 1
แล้วหักค่าภาษีทิ้งอีก คืนหนึ่งก็ทำกำไรได้เจ็ดแปดหมื่นแบบชิลล์ ๆ แล้ว
ถ้าไม่คำนวณยังดีหน่อย หลังจากคำนวณเสร็จหม่าหลันก็ยิ่งรู้สึกหัวเสียมากจนปวดตับ
ชาตินี้เธอเอาแต่อิจฉาริษยาคนอื่น เดิมทีคนที่เธออิจฉามีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหานเหม่ยฉิงที่มีศีลธรรมจรรยาการเรียนดีเด่น และงดงามเป็นหนึ่งไม่เป็นสองเมื่อปีนั้น
แต่ตอนนี้เฉียนหงเย่นมีบุญกลายเป็นคนที่สองแล้ว
ยิ่งกว่านั้นคือหม่าหลันไม่กล้าคิดเลยว่าถ้าเกิดวันหนึ่งตัวเองสามารถหาเงินได้วันละเจ็ดแปดหมื่น ตัวเองควรจะใช้จ่ายยังไงดี
รถเบนซ์จี 500 มันจะไปมีค่าอะไร? สามารถซื้อได้เดือนละคันเลยล่ะ
เช้าตรู่ของวันต่อมา
หลังจากที่เย่เฉินลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว ก็พูดกับเซียวชูหรันว่า: “ที่รัก เดี๋ยวสักพักคุณนัดพนักงานทำความสะอาดบนเน็ตมาสักสองสามคนนะครับ มาทำความสะอาดบ้านเราหน่อยเถอะ วันนี้ผมต้องไปจัดการเรื่องเข้าเรียนให้คลอเดีย เรื่องนี้ต้องรีบทำให้เสร็จช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน จะได้ไม่ทำให้วันเปิดเรียนล่าช้า”
“โอเค”เซียวชูหรันผงกหัวแล้วพูด: “คุณไปยุ่งเรื่องของคุณเถอะค่ะ วันนี้ฉันไม่ไปออฟฟิศแล้ว จะไปปลอบพ่อกับแม่ดี ๆ หน่อย จากนั้นค่อยกลับมาเก็บกวาดบ้าน”
“ครับ”เย่เฉินยิ้มพลางพูด: “งั้นลำบากคุณหน่อยนะครับ ผมไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็จะออกจากบ้านเลย อ้อใช่สิ ถ้าเกิดคุณไม่ออกจากบ้านละก็ ผมจะขับรถคุณออกไปนะครับ”
เซียวชูหรันถาม: “ฉันไม่ได้แตะรถฉันมาหนึ่งเดือนแล้ว ยังขับได้อยู่เหรอ?”
เย่เฉินตอบกลับ: “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเกิดไม่มีแบตเตอรี่แล้วจริง ๆ ค่อยพ่วงแบตจากคัลลิแนนของพ่อก็ได้”
เซียวชูหรันพูดอย่างกังวลใจ: “ช่วงก่อนหน้านี้ท่านออกไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ หลังจากกลับมาแล้ววัน ๆ ก็สูบบุหรี่ดื่มเหล้าอยู่แต่ในบ้าน ใช่ว่าจะเคยขับรถเสมอไป”
เย่เฉินพูด: “ก่อนแม่จะไปอเมริกาต้องผ่านการใช้งานทุกวันอย่างแน่นอน น่าจะไม่มีปัญหาหรอกครับ”
เซียวชูหรันพูด: “งั้นคุณก็ขับคันนั้นออกไปทีเดียวเลยสิ”
“อย่าดีกว่า”เย่เฉินปฏิเสธแล้วพูดว่า: “รถแบบนั้นดูหรูเกินไป ถ้าเกิดขับมันออกไปผมว่าต้องไม่สบายเนื้อสบายตัวแน่นอน”
เย่เฉินจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จสรรพ เมื่อมาถึงห้องรับแขกของชั้นหนึ่ง เซียวฉางควนกำลังนอนฟาดอยู่บนโซฟาเหมือนจะตายไม่ตายแหล่ เมื่อเขาเห็นว่าลมปราณของเซียวฉางควนยังถือว่าปกติอยู่ จึงไม่ได้ไปถามอะไรเช่นกัน แต่เป็นการย่างเท้าเดินออกไปจากบ้านโดยตรง ไปสตาร์ทรถบีเอ็ม 760 นั่นของเซียวชูหรัน
เมื่อมาถึงโรงจอดรถลานหน้าบ้าน เย่เฉินถึงจะค้นพบว่ารถคันนี้ไม่เคยถูกใช้งานมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว เมื่อกดปุ่มปลดล็อคบนกุญแจรถ ตัวรถก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แล้ว
ดังนั้นเขาจึงใช้ตัวกุญแจไปเปิดประตูรถ แล้วเปิดฝากระโปรงหน้ารถออก เตรียมพร้อมที่จะใช้แบตเตอรี่ของคัลลิแนนพ่วงกับตัวรถเพื่อสตาร์ท
และในตอนนี้เอง ก็มีเสียงเครื่องกลดังบรื้น ๆ ถูกสตาร์ทกะทันหันดังมาจากตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ถัดจากนั้นรถคันดังกล่าวก็มุ่งหน้าตรงมาทางทิศทางของบ้านตัวเอง
เย่เฉินมองออกไปนอกโรงจอดรถ ก่อนจะมองเห็นเฉียนหงเย่นที่แต่งตัวสวยเพลิศพริ้ง พร้อมกับแว่นกันแดดกรอบสีชมพูขนาดใหญ่ ขับรถเบนซ์จี 500 นั่นของเธอมาถึงหน้าบ้านตัวเองแล้ว
เขาเห็นว่าเฉียนหงเย่นจอดรถลงหน้าประตูบ้านตัวเอง จึงขมวดคิ้วลงอย่างอดไม่ได้ พลางนึกในใจว่าผู้หญิงคนนี้แจ้นมาที่นี่ตั้งแต่เช้า ต้องมาหาเรื่องแน่นอน
อย่างไรซะเขาก็เข้าใจในตัวเฉียนหงเย่นดีมาก ๆ นิสัยใจคอของผู้หญิงคนนี้และหม่าหลันแทบจะเหมือนกันเลย ต่างเป็นคนที่เมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเลียแข้งเลียขาอย่างสุดชีวิต แต่เมื่อต่างมองเห็นกันและกันก็อดไม่ได้ที่จะเหยียบย่ำให้ตาย
ในช่วงระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมานี้ นายหญิงใหญ่เซียว รวมไปถึงทั้งสี่คนในครอบครัวเฉียนหงเย่น ใช้ชีวิตได้น่าเวทนามาก ๆ บอกว่าเป็นละครเศร้าในชีวิตจริงก็ไม่เกินเลย
ต่อมาเฉียนหงเย่นที่เป็นพี่สะใภ้คนโต เมื่ออยู่ต่อหน้าหม่าหลันคำหนึ่งก็พี่หลันสองคำก็พี่หลัน ประจบสอพลออย่างสุดชีวิต ตอนนี้ในที่สุดเธอก็พลิกตัวได้แล้ว หากไม่มาเหยียบย่ำหม่าหลันสิถึงจะเป็นเรื่องแปลก
และความเป็นจริงก็อยู่ในการคาดหมายของเขาจริง ๆ ด้วย
หลังจากที่จอดรถจนแน่นิ่งแล้ว เฉียนหงเย่นไม่ได้รีบดับเครื่องยนต์แต่อย่างใด แต่เป็นการบีบแตรสามครั้งแล้วยื่นหัวออกมาจากหน้าต่าง แล้วตะโกนไปบนชั้นสามของคฤหาสน์: “หม่าหลัน! หม่าหลัน! ตื่นนอนหรือยัง?!”
Comments