ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 539

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 539 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 539

คนใหญ่คนโตที่ซือเทียนฉีเจอมานั้นก็ถือว่าเยอะจริง และในนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอู๋ตงไห่เลย แต่ว่าคนพวกนั้นเคารพและให้เกียรติเขามาก

แต่คนแบบอู๋ตงไห่ ที่ทำอะไรตามใจตัวเองต่อหน้าเขาแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาเจอ

แม้ว่าตระกูลอู๋จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน แต่ว่าซือเทียนฉีก็ไม่รู้สึกกลัวพวกเขา ดังนั้นจึงปฏิเสธออกไปอย่างไม่ไยดี

อู๋ตงไห่ขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ถึงเลยว่าซือเทียนฉีจะไม่ยอมคนแบบนี้ ขนาดตัวเองยอมมาเชิญเขาไปรักษา และยังให้สัญญาจะตอบแทนด้วยเงินก้อนใหญ่ แต่ไม่นึกเลยว่า เขากลับปฏิเสธได้ลง!

พอเริ่มมีน้ำหูด้วยความโกรธ อู๋ตงไห่จึงพูดขึ้นเสียงแข็ง : “หมอซือ หวังว่าท่านจะพูดจาดีกว่านี้หน่อย อำนาจและชื่อเสียงของตระกูลอู๋นั้นแข็งแกร่งมาก ท่านคงไม่อยากให้ผมถึงกับต้องตักเตือนหรอกนะ?”

ซือเทียนฉีสบถออกมาทันที แล้วพูดขึ้นด้วยความหยิ่งทะนง: “ที่ผมอยู่มาได้จนอายุปูนนี้ ก็พูดแบบนี้มาตลอด ถ้าไม่อยากฟังก็ออกไป”

“แก……”

อู๋ตงไห่เผลอคุมสติไม่อยู่!

ตั้งแต่มาที่จินหลิง เขาก็รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกๆ

ไม่รู้ว่าทำไม ทุกที่นี่มีแต่คนหัวรั้น ขนาดเขาเป็นถึงคนตระกูลอู๋ที่มีอำนาจมาก แต่ในจินหลิงกับไม่ช่วยอะไรเลย

เมื่อวานตอนเลี้ยงข้าวก็เหมือนกัน หวังเจิ้งกาง ฉินกาง และหงห้า ทุกคนแสดงออกว่าเกรงใจ แต่เอาจริงๆ กลับไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้ ซือเทียนฉีคนนี้ยังกล้าต่อกรกับเขาอีกเหรอ?ช่างทำเหมือนตระกูลอู๋เป็นเหมือนคนธรรมดาแบบนั้นเหรอ?!

อู๋ซินที่อยู่ด้านข้างพอเห็นว่าพ่อตัวเองเริ่มโกรธขึ้นมา เขาก็รีบใช้จังหวะนี้ พูดต่อว่าออกไปทันที : “ตาแก่ ทำไมแกพูดแบบนี้กับพ่อฉัน?!เชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะพังร้านยาของแกห้ะ?”

อู๋ตงไห่ขวางอู๋ซินไว้ทันที แล้วพลันหันไปยิ้มให้ซือเทียนฉีแล้วพูดขึ้น: “หมอซืออย่าถือโทษโกรธกันเลย ลูกชายผมอายุยังน้อย อารมณ์ก็เลยจะฉุนเฉียวหน่อย จึงทำให้ค่อนข้างบ้าบิ่น”

พูดเสร็จ เขาก็พยายามระงับอารมณ์ตัวเองไว้ แล้วพูดต่อ: “หมอซือ ที่ผมมาหาท่าน ก็เพราะอยากรบกวนท่านไปที่ซูหางสักครั้ง ซูหางไม่ไกลจากจินหลิงเท่าไหร่ นั่งเครื่องชั่วโมงเดียวก็ถึง ขอแค่ท่านยอมไป ผมให้ท่านเลยหนึ่งล้าน ท่านว่ายังไง?”

ซือเทียนฉีส่ายหน้า แล้วพูดเสียงเรียบ: “ลูกชายของคุณผมรักษาไม่ได้ เชิญกลับไปเถอะ”

“แก….” อู๋ซินโมโหจึงพูดขึ้น: “ตาแก่นี่ ขนาดเป็นโรคอะไรยังไม่รู้เลย แล้วบอกว่าตัวเองรักษาไม่ได้ได้ยังไง ?แกคงต้องการตอบโต้ตระกูลอู๋ใช่ไหม?”

ซือเทียนฉีหันไปมองพวกเขาสองคนด้วยสายตาแข็งกร้าว แล้วพูดขึ้น: “ที่คุณมาที่นี่วันนี้ ไม่รักษากฎเกณฑ์ของที่นี่ แถมยังไล่คนอื่นไปอีก หรือว่ายังไม่ใช่การตอบโต้พวกเราเหรอ ?”

อู๋ตงไห่พูดขึ้นเสียงแข็ง : “ผมบอกแล้วว่า ผมจัดการแต่พวกคนจน พวกมันไม่คู่ควรจะมาอยู่ในชายคาเดียวกันกับตระกูลอู๋!”

ซือเทียนฉีหัวเราะแล้วพูดขึ้น: “ช่างน่าตลกจริงๆ !มีหน้ามาแบ่งชนชั้น หรือว่าคุณสามารถจัดการกับคนที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันกับคุณได้หมดงั้นเหรอ?”

อู๋ตงไห่พูดขึ้น: “เรื่องใต้ฟ้าเดียวกันผมทำไม่ได้ แต่ใต้ชายคาเดียวกัน ผมทำได้!”

พูดจบ เขาก็พูดเสียงสูงขึ้น: “ซือเทียนฉี ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาหาคุณด้วยตัวเอง และยังเตรียมของมาให้คุณอย่างหนา ถ้าหากว่ายอมตกลง เงินผมก็จะให้คุณ ของสัมมนาคุณผมก็จะให้ แต่ถ้าคุณไม่ยอมตกลง งั้นผมก็จะถือว่าคุณเป็นศัตรูกับตระกูลอู๋!”

ซือเทียนฉีพูดออกมาอย่างไม่แยแส : “ผมบอกแล้ว ว่าผมรักษาลูกคุณไม่ได้ ถ้าหากว่าคุณจะให้ผมเป็นศัตรู งั้นก็เชิญตามสบายเถอะ ตลอดชีวิตที่ผมรักษามานี้ ก็ไม่ได้สนใจความเป็นความตายอยู่แล้ว อย่าพูดว่าคุณคือตระกูลอู๋แห่งซูหางเลย ถึงคุณจะมาจากตระกูลซูของเมืองเย่นจิง รวมถึงตระกูลเย่ของเย่นจิง แล้วมันจะยังไง?ยังไงผมก็มีชีวิตเดียว คุณเอาไปได้เลย !”

———

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด