ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

“นั่นคืออะไร”

“สวรรค์แหวกเปิดแล้วรึ”

“อย่าบอกนะว่ามรรคมารมาบุกรุก? ทุกคนระวัง!”

“ไม่ใช่สิ ไม่เห็นจะมีไอมารหรือไอปีศาจเลย”

“รอยแยกเส้นนี้ยาวแค่ไหนกันนะ”

บรรดาศิษย์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แหงนหน้าขึ้นมองรอยแยกบนฟ้า พากันออกความเห็นไม่หยุด

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ภายในถ้ำเทวาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติด้านนอก เขาแผ่จิตออกไป และมองเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่ทั้งตระการตาและน่าตกใจบนท้องฟ้า

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบผู้บำเพ็ญภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ เรียงตามตบะระดับสูงไปหาต่ำ แต่ก็ไม่พบตัวศัตรู

เขาลุกขึ้นเดินออกจากถ้ำเทวา อู้เต้าเจี้ยนเดินตามหลังเขามาติดๆ

พวกสวินฉางอันและหยางเทียนตงต่างพากันเข้ามาใกล้

“ท่านอาจารย์ ลักษณ์สวรรค์นี่มาจากที่ใด ศัตรูจู่โจมหรือ” หยางเทียนตงเอ่ยถาม

หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมองเวิ้งฟ้า หรี่ตามองไป

เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ผ่านไปไม่ทันไร รอยแยกบนฟ้าก็เลือนหายไปอีกครั้ง เวิ้งฟ้ากลับสู่สภาพปกติ งามเด่นกว้างไพศาล เสมือนว่าเหตุการณ์ประหลาดก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา

ในเมื่อไม่ใช่ศัตรูบุกจู่โจม เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็วางใจได้

เขายังกลัวจริงๆ ว่าวังสวรรค์จะบุกเข้ามาในเวลานี้

ด้วยตบะของเขาในตอนนี้ไหนเลยจะต้านทานแม่ทัพสวรรค์ได้ไหว

‘เทพปีศาจตนนั้น เจ้าต้องมุ่งมั่นตั้งใจต่อไปอีก’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดเงียบๆ

จากนั้น เขาเดินมาหยุดที่ใต้ต้นฝูซัง เริ่มมองสำรวจพัฒนาการการเติบโตของต้นฝูซังและเถาน้ำเต้าพิภพเซียน

ค่อยยังชั่ว!

ต้นฝูซังในตอนนี้ใกล้จะสูงร้อยจั้งแล้ว เถาน้ำเต้าพิภพเซียนเหมือนงูตัวหนึ่งเลื้อยรัดอยู่บนลำต้นหลัก อีกาทองสองตัวต่างสร้างรังของใครของมันเสร็จสรรพ ฝึกบำเพ็ญไปอย่างสงบ

เมื่อเวลาเคลื่อนผ่าน พวกมันไม่ได้ใกล้ชิดหรือมักจะเบียดอยู่ด้วยกันตลอดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว

สิ่งที่ควรค่าให้เอ่ยถึงคือ บางทีอาจจะเพราะอิทธิพลของไก่คุกรัตติกาล อีกาทองสองตัวจึงพลอยปากร้ายไปด้วย มักจะถากถางคนอื่น โดยเฉพาะสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นกับราชามังกรสามหัว

“อาจารย์ ข้าอยากกลับไปดูจวนเซียนสวรรค์เสียหน่อย สักพักจะรีบกลับมา” ถูหลิงเอ๋อร์เดินมาหยุดข้างกายหานเจวี๋ย ก่อนเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง

อาจารย์จะคิดว่านางคิดหนีไปหรือไม่

หานเจวี๋ยตอบรับว่า “ไปเถอะ”

สำหรับถูหลิงเอ๋อร์ เขาไม่กังวลใจเลยสักนิด

หนีก็หนีไปสิ!

เมื่อถูหลิงเอ๋อร์ได้ยินก็ถอนหายใจโล่งอกทันที กล่าวว่า “อาจารย์วางใจได้ ข้าจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุดแน่นอน!”

“ไม่ต้องขนาดนั้น”

ถูหลิงเอ๋อร์คิดไปว่าอาจารย์ไม่อยากให้ตนเหน็ดเหนื่อย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

หลังจากนางออกไป หานเจวี๋ยเรียกดูค่าความสัมพันธ์และตรวจสอบกล่องจดหมาย

ผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตจะสงบสุขดีหรือไม่

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายหลัก] x2993

[โจวฝานสหายของท่านเข้าสู่เขาห้าเซียน คารวะเทพเซียนพสุธาเป็นอาจารย์ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x84333

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตแขวนอยูบนเส้นด้าย โชคดีมีผู้ทรงพลังช่วยเหลือ]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านไปจากโลกมนุษย์]

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านรู้แจ้งพลังวิเศษในชาติก่อน พลังมรรคเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จ แหวกฟ้าครามออก สะเทือนฟ้าดินเทพผีหวาดผวา]

……

โจวฝาน หวงจี๋เฮ่า ฟางเหลียง มู่หรงฉี่ และจี้เซียนเสินแต่ละคนล้วนมีมหาโชค เรียกได้ว่าห้าสุดยอดตัวเอก!

หานเจวี๋ยตรวจสอบภาพประจำตัวของฟางเหลียงครู่หนึ่ง ยังอยู่ บ่งบอกว่ายังไม่ได้จากโลกนี้ไป เพียงแค่ออกจากโลกปุถุชนแถบนี้เท่านั้น

ในช่วงหลายสิบปีที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญมา พวกเขาล้วนมีความเป็นเลิศของตัวเอง พานพบโอกาสวาสนาของตนเอง

หานเจวี๋ยมองดูอยู่ครู่หนึ่งก็กลับถ้ำเทวาฟ้าประทาน ตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

หลายเดือนต่อมา

สหายเก่าคนหนึ่งมาเยี่ยมเยียนเขา

เว่ยหยวนเจ้าสำนักเก้ามังกรเขตแก่นประจิม

สถานะที่แท้จริงของเขาคือหวงจุนเทียนเจ้าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ

หากไม่ใช่เพราะหานเจวี๋ยให้โอกาสหวงจุนเทียน ป่านนี้หวงจุนเทียนตายไปนานแล้ว และยิ่งไม่มีทางยึดร่างเว่ยหยวน กลายเป็นเจ้าสำนักเก้ามังกรที่แข็งแกร่งกว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณได้

หวงจุนเทียนมาหานักพรตเต๋าจิ่วติ่ง เปิดเผยจุดประสงค์การมาตามตรง

เขายอมแล้ว!

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งตกใจ สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็ไม่เคยพุ่งเป้าเล่นงานสำนักเก้ามังกร เหตุใดเจ้าสำนักผู้นี้ถึงยอมเสียแล้ว

หรือว่าจะประสบปัญหา?

สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตในอดีตก็สู้สำนักไร้ลักษณ์ไม่ไหว ดังนั้นจึงรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์

หลังจากสนทนากันพักหนึ่ง ในที่สุดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็เชื่อ สำนักเก้ามังกรต้องการรวมเข้ากับพวกเขาจริงๆ!

ด้วยความรอบคอบ นักพรตเต๋าจิ่วติ่งบอกว่าต้องหารือกับเหล่าผู้อาวุโสก่อน ให้หวงจุนเทียนอยู่เป็นแขกสักระยะหนึ่ง

หวงจุนเทียนไม่ว่าอะไร จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยให้เขาเข้าจวนมา

หลังจากเข้ามาในเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หวงจุนเทียนตกใจขวัญสะท้าน

พลังวิญญาณของที่นี่ออกจะ…

เมื่อเห็นพวกหยางเทียนตงและสวินฉางอัน ในใจของหวงจุนเทียนก็เกิดความคิดชั่ววูบอันแรงกล้าอย่างหนึ่งขึ้นมา

เขาอยากเป็นวัวเป็นม้าให้หานเจวี๋ย!

เมื่อได้เห็นหานเจวี๋ยอีกครั้ง หวงจุนเทียนตื่นเต้นมาก

เขาในตอนนี้มีตบะระดับสุญตาขั้นสอง เทียบกับหลายร้อยปีก่อนก็เพิ่งทะลวงระดับได้หนึ่งขั้น

ฝ่ายหานเจวี๋ยยิ้มถามว่า “หลายปีมานี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ตอนแรกหวงจุนเทียนเคยช่วยชีวิตหยางเทียนตงกับสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น และบาดเจ็บสาหัสเพราะเหตุนี้ น้ำใจนี้เขาจำขึ้นใจมาโดยตลอด

หวงจุนเทียนมองเห็นรอยยิ้มของเขาก็หายประหม่าทันที เริ่มสาธยายประสบการณ์หลายปีมานี้ให้ฟัง

อู้เต้าเจี้ยนฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้าง

หลังฟังมาค่อนวัน หานเจวี๋ยก็ถือว่าเข้าใจจุดประสงค์การมาเยือนของหวงจุนเทียนแล้ว

หวงจุนเทียนต้านแรงกดดันของสำนักเก้ามังกรไม่ไหว ไม่อยากรับหน้าที่เจ้าสำนักอีกต่อไป อยากจดจ่อกับการฝึกบำเพ็ญ

“หากเจ้าอยากย้ายมาอยู่ข้างกายข้า ก็ต้องสร้างคุณงามความดี รอจนสำนักเก้ามังกรรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แล้ว เจ้าจงสร้างคุณูปการให้แก่สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ให้มาก เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสที่ศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์เคารพเลื่อมใส ข้าจะอนุญาตให้เจ้าย้ายเข้ามา”

หานเจวี๋ยกล่าวเสียงเบา พอหวงจุนเทียนได้ยินก็ดีใจออกนอกหน้า รีบตกปากรับคำทันที

ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกสักพัก หวงจุนเทียนจึงกลับไป

หานเจวี๋ยตกเข้าสู่ภวังค์ความคิด

เมื่อพลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนเข้มข้นขึ้นทุกที วันหน้าก็ยังจะดึงดูดคนมากกว่านี้เข้ามาอีก เขาจำเป็นต้องควบคุมสัดส่วนให้ดี เลี่ยงไม่ให้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนแออัดยัดเยียด เพราะกลับจะทำให้พลังวิญญาณอ่อนลง

‘ถ้าหากดึงดูดผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่มามากกว่านี้ได้ก็ไม่เลวทีเดียว ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ชี้แนะด้วยตัวเองอีก จะให้พวกลูกศิษย์มาทำแทน’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

เขาไม่มีเครือข่ายเส้นสายยิ่งใหญ่อะไร แต่เขาสามารถสร้างเครือข่ายเส้นสายที่ยิ่งใหญ่ได้!

ยามวานรซุนผู้แข็งแกร่งเหยียบย่างบนเส้นทางสู่ชมพูทวีป ไม่ใช่ว่าต้องอาศัยสายสัมพันธ์เหล่านั้นบนวังสวรรค์ของตน ถึงจะผ่านด่านทดสอบมาได้ตลอดทางหรอกหรือ!

แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่กระทบต่อการฝึกบำเพ็ญของหานเจวี๋ยด้วย

……

เหนือทะเลเมฆ อัสนีสวรรค์นับไม่ถ้วนผ่าไปยังจุดเดียวกัน ซึ่งเป็นคนผู้หนึ่ง

จี้เซียนเสิน!

จี้เซียนเสินนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ รอบกายรายล้อมด้วยสายฟ้า ผมดำทั่วศีรษะของเขาบิดเลื้อยอย่างย่ามใจราวกับฝูงงู

เขาในเวลานี้ดุจดั่งร่างอวตารเทพเซียน แผ่รัศมีอำนาจอันยิ่งใหญ่โอหังออกมา!

ไกลออกไป เงาร่างหลายสิบร่างยืนอยู่เหนือเมฆหมอกแถบหนึ่ง พวกเขาล้วนเป็นบุคคลระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์

“ไม่อยากจะเชื่อ เขาหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จแล้วจริงๆ!”

“นับว่าเขาอยู่เหนือบุตรแห่งสวรรค์ทุกคนในอดีตของจวนเซียนสวรรค์แล้ว ก่อนนี้ไม่เคยมีมาก่อน!”

“อานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก เกรงว่าผู้บำเพ็ญระดับมหายานก็ยังต้านกระบวนท่าหนึ่งของเขาไม่ได้”

“ยอดผู้บำเพ็ญอันดับหนึ่งในหล้า!”

“ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกสำเร็จมรรคขึ้นสู่สวรรค์ในยามไหน”

ตอนที่เหล่าคนระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์ยังวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น กลางเมฆอัสนีเหนือศีรษะของจี้เซียนเสินปรากฏดวงตามหึมาข้างหนึ่งขึ้นมา มองลงมาหาจี้เซียนเสิน

พร้อมกันนั้น

เหนือฟ้าอีกแถบหนึ่ง ทะเลเมฆปั่นป่วนก่อตัวเป็นพื้นเรียบ เสาหินใหญ่มโหฬารสองต้นตั้งตระหง่าน บนเสาหินแต่ละต้นมีมังกรขาวสองตัวพันรัด เบื้องล่างมีทหารสวรรค์สวมเกราะเงินยืนเรียงกันสองแถว ดูเกรียงไกรไม่ธรรมดา

ยอดเสาหินทั้งสองต้นเชื่อมต่อกับแผ่นป้ายหยกทองคำซึ่งสลักตัวอักษรใหญ่เอาไว้ว่า

ประตูสวรรค์บูรพา!

อัสนีสวรรค์สายหนึ่งพุ่งผ่านทะเลเมฆ ตรงไปทางป้ายชื่อประตูสวรรค์บูรพา

ทหารสวรรค์นายหนึ่งรีบกวัดแกว่งหอกยาวในมือ โจมตีอัสนีสวรรค์สายนั้นจนแตกกระจุย

……………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

“นั่นคืออะไร”

“สวรรค์แหวกเปิดแล้วรึ”

“อย่าบอกนะว่ามรรคมารมาบุกรุก? ทุกคนระวัง!”

“ไม่ใช่สิ ไม่เห็นจะมีไอมารหรือไอปีศาจเลย”

“รอยแยกเส้นนี้ยาวแค่ไหนกันนะ”

บรรดาศิษย์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แหงนหน้าขึ้นมองรอยแยกบนฟ้า พากันออกความเห็นไม่หยุด

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ภายในถ้ำเทวาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติด้านนอก เขาแผ่จิตออกไป และมองเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่ทั้งตระการตาและน่าตกใจบนท้องฟ้า

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบผู้บำเพ็ญภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ เรียงตามตบะระดับสูงไปหาต่ำ แต่ก็ไม่พบตัวศัตรู

เขาลุกขึ้นเดินออกจากถ้ำเทวา อู้เต้าเจี้ยนเดินตามหลังเขามาติดๆ

พวกสวินฉางอันและหยางเทียนตงต่างพากันเข้ามาใกล้

“ท่านอาจารย์ ลักษณ์สวรรค์นี่มาจากที่ใด ศัตรูจู่โจมหรือ” หยางเทียนตงเอ่ยถาม

หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมองเวิ้งฟ้า หรี่ตามองไป

เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ผ่านไปไม่ทันไร รอยแยกบนฟ้าก็เลือนหายไปอีกครั้ง เวิ้งฟ้ากลับสู่สภาพปกติ งามเด่นกว้างไพศาล เสมือนว่าเหตุการณ์ประหลาดก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา

ในเมื่อไม่ใช่ศัตรูบุกจู่โจม เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็วางใจได้

เขายังกลัวจริงๆ ว่าวังสวรรค์จะบุกเข้ามาในเวลานี้

ด้วยตบะของเขาในตอนนี้ไหนเลยจะต้านทานแม่ทัพสวรรค์ได้ไหว

‘เทพปีศาจตนนั้น เจ้าต้องมุ่งมั่นตั้งใจต่อไปอีก’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดเงียบๆ

จากนั้น เขาเดินมาหยุดที่ใต้ต้นฝูซัง เริ่มมองสำรวจพัฒนาการการเติบโตของต้นฝูซังและเถาน้ำเต้าพิภพเซียน

ค่อยยังชั่ว!

ต้นฝูซังในตอนนี้ใกล้จะสูงร้อยจั้งแล้ว เถาน้ำเต้าพิภพเซียนเหมือนงูตัวหนึ่งเลื้อยรัดอยู่บนลำต้นหลัก อีกาทองสองตัวต่างสร้างรังของใครของมันเสร็จสรรพ ฝึกบำเพ็ญไปอย่างสงบ

เมื่อเวลาเคลื่อนผ่าน พวกมันไม่ได้ใกล้ชิดหรือมักจะเบียดอยู่ด้วยกันตลอดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว

สิ่งที่ควรค่าให้เอ่ยถึงคือ บางทีอาจจะเพราะอิทธิพลของไก่คุกรัตติกาล อีกาทองสองตัวจึงพลอยปากร้ายไปด้วย มักจะถากถางคนอื่น โดยเฉพาะสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นกับราชามังกรสามหัว

“อาจารย์ ข้าอยากกลับไปดูจวนเซียนสวรรค์เสียหน่อย สักพักจะรีบกลับมา” ถูหลิงเอ๋อร์เดินมาหยุดข้างกายหานเจวี๋ย ก่อนเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง

อาจารย์จะคิดว่านางคิดหนีไปหรือไม่

หานเจวี๋ยตอบรับว่า “ไปเถอะ”

สำหรับถูหลิงเอ๋อร์ เขาไม่กังวลใจเลยสักนิด

หนีก็หนีไปสิ!

เมื่อถูหลิงเอ๋อร์ได้ยินก็ถอนหายใจโล่งอกทันที กล่าวว่า “อาจารย์วางใจได้ ข้าจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุดแน่นอน!”

“ไม่ต้องขนาดนั้น”

ถูหลิงเอ๋อร์คิดไปว่าอาจารย์ไม่อยากให้ตนเหน็ดเหนื่อย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

หลังจากนางออกไป หานเจวี๋ยเรียกดูค่าความสัมพันธ์และตรวจสอบกล่องจดหมาย

ผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตจะสงบสุขดีหรือไม่

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายหลัก] x2993

[โจวฝานสหายของท่านเข้าสู่เขาห้าเซียน คารวะเทพเซียนพสุธาเป็นอาจารย์ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x84333

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตแขวนอยูบนเส้นด้าย โชคดีมีผู้ทรงพลังช่วยเหลือ]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านไปจากโลกมนุษย์]

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านรู้แจ้งพลังวิเศษในชาติก่อน พลังมรรคเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จ แหวกฟ้าครามออก สะเทือนฟ้าดินเทพผีหวาดผวา]

……

โจวฝาน หวงจี๋เฮ่า ฟางเหลียง มู่หรงฉี่ และจี้เซียนเสินแต่ละคนล้วนมีมหาโชค เรียกได้ว่าห้าสุดยอดตัวเอก!

หานเจวี๋ยตรวจสอบภาพประจำตัวของฟางเหลียงครู่หนึ่ง ยังอยู่ บ่งบอกว่ายังไม่ได้จากโลกนี้ไป เพียงแค่ออกจากโลกปุถุชนแถบนี้เท่านั้น

ในช่วงหลายสิบปีที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญมา พวกเขาล้วนมีความเป็นเลิศของตัวเอง พานพบโอกาสวาสนาของตนเอง

หานเจวี๋ยมองดูอยู่ครู่หนึ่งก็กลับถ้ำเทวาฟ้าประทาน ตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

หลายเดือนต่อมา

สหายเก่าคนหนึ่งมาเยี่ยมเยียนเขา

เว่ยหยวนเจ้าสำนักเก้ามังกรเขตแก่นประจิม

สถานะที่แท้จริงของเขาคือหวงจุนเทียนเจ้าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ

หากไม่ใช่เพราะหานเจวี๋ยให้โอกาสหวงจุนเทียน ป่านนี้หวงจุนเทียนตายไปนานแล้ว และยิ่งไม่มีทางยึดร่างเว่ยหยวน กลายเป็นเจ้าสำนักเก้ามังกรที่แข็งแกร่งกว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณได้

หวงจุนเทียนมาหานักพรตเต๋าจิ่วติ่ง เปิดเผยจุดประสงค์การมาตามตรง

เขายอมแล้ว!

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งตกใจ สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็ไม่เคยพุ่งเป้าเล่นงานสำนักเก้ามังกร เหตุใดเจ้าสำนักผู้นี้ถึงยอมเสียแล้ว

หรือว่าจะประสบปัญหา?

สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตในอดีตก็สู้สำนักไร้ลักษณ์ไม่ไหว ดังนั้นจึงรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์

หลังจากสนทนากันพักหนึ่ง ในที่สุดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็เชื่อ สำนักเก้ามังกรต้องการรวมเข้ากับพวกเขาจริงๆ!

ด้วยความรอบคอบ นักพรตเต๋าจิ่วติ่งบอกว่าต้องหารือกับเหล่าผู้อาวุโสก่อน ให้หวงจุนเทียนอยู่เป็นแขกสักระยะหนึ่ง

หวงจุนเทียนไม่ว่าอะไร จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยให้เขาเข้าจวนมา

หลังจากเข้ามาในเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หวงจุนเทียนตกใจขวัญสะท้าน

พลังวิญญาณของที่นี่ออกจะ…

เมื่อเห็นพวกหยางเทียนตงและสวินฉางอัน ในใจของหวงจุนเทียนก็เกิดความคิดชั่ววูบอันแรงกล้าอย่างหนึ่งขึ้นมา

เขาอยากเป็นวัวเป็นม้าให้หานเจวี๋ย!

เมื่อได้เห็นหานเจวี๋ยอีกครั้ง หวงจุนเทียนตื่นเต้นมาก

เขาในตอนนี้มีตบะระดับสุญตาขั้นสอง เทียบกับหลายร้อยปีก่อนก็เพิ่งทะลวงระดับได้หนึ่งขั้น

ฝ่ายหานเจวี๋ยยิ้มถามว่า “หลายปีมานี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ตอนแรกหวงจุนเทียนเคยช่วยชีวิตหยางเทียนตงกับสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น และบาดเจ็บสาหัสเพราะเหตุนี้ น้ำใจนี้เขาจำขึ้นใจมาโดยตลอด

หวงจุนเทียนมองเห็นรอยยิ้มของเขาก็หายประหม่าทันที เริ่มสาธยายประสบการณ์หลายปีมานี้ให้ฟัง

อู้เต้าเจี้ยนฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้าง

หลังฟังมาค่อนวัน หานเจวี๋ยก็ถือว่าเข้าใจจุดประสงค์การมาเยือนของหวงจุนเทียนแล้ว

หวงจุนเทียนต้านแรงกดดันของสำนักเก้ามังกรไม่ไหว ไม่อยากรับหน้าที่เจ้าสำนักอีกต่อไป อยากจดจ่อกับการฝึกบำเพ็ญ

“หากเจ้าอยากย้ายมาอยู่ข้างกายข้า ก็ต้องสร้างคุณงามความดี รอจนสำนักเก้ามังกรรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แล้ว เจ้าจงสร้างคุณูปการให้แก่สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ให้มาก เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสที่ศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์เคารพเลื่อมใส ข้าจะอนุญาตให้เจ้าย้ายเข้ามา”

หานเจวี๋ยกล่าวเสียงเบา พอหวงจุนเทียนได้ยินก็ดีใจออกนอกหน้า รีบตกปากรับคำทันที

ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกสักพัก หวงจุนเทียนจึงกลับไป

หานเจวี๋ยตกเข้าสู่ภวังค์ความคิด

เมื่อพลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนเข้มข้นขึ้นทุกที วันหน้าก็ยังจะดึงดูดคนมากกว่านี้เข้ามาอีก เขาจำเป็นต้องควบคุมสัดส่วนให้ดี เลี่ยงไม่ให้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนแออัดยัดเยียด เพราะกลับจะทำให้พลังวิญญาณอ่อนลง

‘ถ้าหากดึงดูดผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่มามากกว่านี้ได้ก็ไม่เลวทีเดียว ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ชี้แนะด้วยตัวเองอีก จะให้พวกลูกศิษย์มาทำแทน’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

เขาไม่มีเครือข่ายเส้นสายยิ่งใหญ่อะไร แต่เขาสามารถสร้างเครือข่ายเส้นสายที่ยิ่งใหญ่ได้!

ยามวานรซุนผู้แข็งแกร่งเหยียบย่างบนเส้นทางสู่ชมพูทวีป ไม่ใช่ว่าต้องอาศัยสายสัมพันธ์เหล่านั้นบนวังสวรรค์ของตน ถึงจะผ่านด่านทดสอบมาได้ตลอดทางหรอกหรือ!

แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่กระทบต่อการฝึกบำเพ็ญของหานเจวี๋ยด้วย

……

เหนือทะเลเมฆ อัสนีสวรรค์นับไม่ถ้วนผ่าไปยังจุดเดียวกัน ซึ่งเป็นคนผู้หนึ่ง

จี้เซียนเสิน!

จี้เซียนเสินนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ รอบกายรายล้อมด้วยสายฟ้า ผมดำทั่วศีรษะของเขาบิดเลื้อยอย่างย่ามใจราวกับฝูงงู

เขาในเวลานี้ดุจดั่งร่างอวตารเทพเซียน แผ่รัศมีอำนาจอันยิ่งใหญ่โอหังออกมา!

ไกลออกไป เงาร่างหลายสิบร่างยืนอยู่เหนือเมฆหมอกแถบหนึ่ง พวกเขาล้วนเป็นบุคคลระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์

“ไม่อยากจะเชื่อ เขาหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จแล้วจริงๆ!”

“นับว่าเขาอยู่เหนือบุตรแห่งสวรรค์ทุกคนในอดีตของจวนเซียนสวรรค์แล้ว ก่อนนี้ไม่เคยมีมาก่อน!”

“อานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก เกรงว่าผู้บำเพ็ญระดับมหายานก็ยังต้านกระบวนท่าหนึ่งของเขาไม่ได้”

“ยอดผู้บำเพ็ญอันดับหนึ่งในหล้า!”

“ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกสำเร็จมรรคขึ้นสู่สวรรค์ในยามไหน”

ตอนที่เหล่าคนระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์ยังวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น กลางเมฆอัสนีเหนือศีรษะของจี้เซียนเสินปรากฏดวงตามหึมาข้างหนึ่งขึ้นมา มองลงมาหาจี้เซียนเสิน

พร้อมกันนั้น

เหนือฟ้าอีกแถบหนึ่ง ทะเลเมฆปั่นป่วนก่อตัวเป็นพื้นเรียบ เสาหินใหญ่มโหฬารสองต้นตั้งตระหง่าน บนเสาหินแต่ละต้นมีมังกรขาวสองตัวพันรัด เบื้องล่างมีทหารสวรรค์สวมเกราะเงินยืนเรียงกันสองแถว ดูเกรียงไกรไม่ธรรมดา

ยอดเสาหินทั้งสองต้นเชื่อมต่อกับแผ่นป้ายหยกทองคำซึ่งสลักตัวอักษรใหญ่เอาไว้ว่า

ประตูสวรรค์บูรพา!

อัสนีสวรรค์สายหนึ่งพุ่งผ่านทะเลเมฆ ตรงไปทางป้ายชื่อประตูสวรรค์บูรพา

ทหารสวรรค์นายหนึ่งรีบกวัดแกว่งหอกยาวในมือ โจมตีอัสนีสวรรค์สายนั้นจนแตกกระจุย

……………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 163 ห้าสุดยอดตัวเอก ประตูสวรรค์บูรพา

“นั่นคืออะไร”

“สวรรค์แหวกเปิดแล้วรึ”

“อย่าบอกนะว่ามรรคมารมาบุกรุก? ทุกคนระวัง!”

“ไม่ใช่สิ ไม่เห็นจะมีไอมารหรือไอปีศาจเลย”

“รอยแยกเส้นนี้ยาวแค่ไหนกันนะ”

บรรดาศิษย์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แหงนหน้าขึ้นมองรอยแยกบนฟ้า พากันออกความเห็นไม่หยุด

หานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ภายในถ้ำเทวาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติด้านนอก เขาแผ่จิตออกไป และมองเห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่ทั้งตระการตาและน่าตกใจบนท้องฟ้า

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบผู้บำเพ็ญภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ เรียงตามตบะระดับสูงไปหาต่ำ แต่ก็ไม่พบตัวศัตรู

เขาลุกขึ้นเดินออกจากถ้ำเทวา อู้เต้าเจี้ยนเดินตามหลังเขามาติดๆ

พวกสวินฉางอันและหยางเทียนตงต่างพากันเข้ามาใกล้

“ท่านอาจารย์ ลักษณ์สวรรค์นี่มาจากที่ใด ศัตรูจู่โจมหรือ” หยางเทียนตงเอ่ยถาม

หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมองเวิ้งฟ้า หรี่ตามองไป

เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ผ่านไปไม่ทันไร รอยแยกบนฟ้าก็เลือนหายไปอีกครั้ง เวิ้งฟ้ากลับสู่สภาพปกติ งามเด่นกว้างไพศาล เสมือนว่าเหตุการณ์ประหลาดก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตา

ในเมื่อไม่ใช่ศัตรูบุกจู่โจม เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็วางใจได้

เขายังกลัวจริงๆ ว่าวังสวรรค์จะบุกเข้ามาในเวลานี้

ด้วยตบะของเขาในตอนนี้ไหนเลยจะต้านทานแม่ทัพสวรรค์ได้ไหว

‘เทพปีศาจตนนั้น เจ้าต้องมุ่งมั่นตั้งใจต่อไปอีก’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดเงียบๆ

จากนั้น เขาเดินมาหยุดที่ใต้ต้นฝูซัง เริ่มมองสำรวจพัฒนาการการเติบโตของต้นฝูซังและเถาน้ำเต้าพิภพเซียน

ค่อยยังชั่ว!

ต้นฝูซังในตอนนี้ใกล้จะสูงร้อยจั้งแล้ว เถาน้ำเต้าพิภพเซียนเหมือนงูตัวหนึ่งเลื้อยรัดอยู่บนลำต้นหลัก อีกาทองสองตัวต่างสร้างรังของใครของมันเสร็จสรรพ ฝึกบำเพ็ญไปอย่างสงบ

เมื่อเวลาเคลื่อนผ่าน พวกมันไม่ได้ใกล้ชิดหรือมักจะเบียดอยู่ด้วยกันตลอดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว

สิ่งที่ควรค่าให้เอ่ยถึงคือ บางทีอาจจะเพราะอิทธิพลของไก่คุกรัตติกาล อีกาทองสองตัวจึงพลอยปากร้ายไปด้วย มักจะถากถางคนอื่น โดยเฉพาะสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นกับราชามังกรสามหัว

“อาจารย์ ข้าอยากกลับไปดูจวนเซียนสวรรค์เสียหน่อย สักพักจะรีบกลับมา” ถูหลิงเอ๋อร์เดินมาหยุดข้างกายหานเจวี๋ย ก่อนเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง

อาจารย์จะคิดว่านางคิดหนีไปหรือไม่

หานเจวี๋ยตอบรับว่า “ไปเถอะ”

สำหรับถูหลิงเอ๋อร์ เขาไม่กังวลใจเลยสักนิด

หนีก็หนีไปสิ!

เมื่อถูหลิงเอ๋อร์ได้ยินก็ถอนหายใจโล่งอกทันที กล่าวว่า “อาจารย์วางใจได้ ข้าจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุดแน่นอน!”

“ไม่ต้องขนาดนั้น”

ถูหลิงเอ๋อร์คิดไปว่าอาจารย์ไม่อยากให้ตนเหน็ดเหนื่อย จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

หลังจากนางออกไป หานเจวี๋ยเรียกดูค่าความสัมพันธ์และตรวจสอบกล่องจดหมาย

ผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตจะสงบสุขดีหรือไม่

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายหลัก] x2993

[โจวฝานสหายของท่านเข้าสู่เขาห้าเซียน คารวะเทพเซียนพสุธาเป็นอาจารย์ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x84333

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตแขวนอยูบนเส้นด้าย โชคดีมีผู้ทรงพลังช่วยเหลือ]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านไปจากโลกมนุษย์]

[มู่หรงฉี่ศิษย์หลานของท่านรู้แจ้งพลังวิเศษในชาติก่อน พลังมรรคเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จ แหวกฟ้าครามออก สะเทือนฟ้าดินเทพผีหวาดผวา]

……

โจวฝาน หวงจี๋เฮ่า ฟางเหลียง มู่หรงฉี่ และจี้เซียนเสินแต่ละคนล้วนมีมหาโชค เรียกได้ว่าห้าสุดยอดตัวเอก!

หานเจวี๋ยตรวจสอบภาพประจำตัวของฟางเหลียงครู่หนึ่ง ยังอยู่ บ่งบอกว่ายังไม่ได้จากโลกนี้ไป เพียงแค่ออกจากโลกปุถุชนแถบนี้เท่านั้น

ในช่วงหลายสิบปีที่หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญมา พวกเขาล้วนมีความเป็นเลิศของตัวเอง พานพบโอกาสวาสนาของตนเอง

หานเจวี๋ยมองดูอยู่ครู่หนึ่งก็กลับถ้ำเทวาฟ้าประทาน ตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

หลายเดือนต่อมา

สหายเก่าคนหนึ่งมาเยี่ยมเยียนเขา

เว่ยหยวนเจ้าสำนักเก้ามังกรเขตแก่นประจิม

สถานะที่แท้จริงของเขาคือหวงจุนเทียนเจ้าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ

หากไม่ใช่เพราะหานเจวี๋ยให้โอกาสหวงจุนเทียน ป่านนี้หวงจุนเทียนตายไปนานแล้ว และยิ่งไม่มีทางยึดร่างเว่ยหยวน กลายเป็นเจ้าสำนักเก้ามังกรที่แข็งแกร่งกว่าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณได้

หวงจุนเทียนมาหานักพรตเต๋าจิ่วติ่ง เปิดเผยจุดประสงค์การมาตามตรง

เขายอมแล้ว!

นักพรตเต๋าจิ่วติ่งตกใจ สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็ไม่เคยพุ่งเป้าเล่นงานสำนักเก้ามังกร เหตุใดเจ้าสำนักผู้นี้ถึงยอมเสียแล้ว

หรือว่าจะประสบปัญหา?

สำนักสวรรค์เพลิงโลหิตในอดีตก็สู้สำนักไร้ลักษณ์ไม่ไหว ดังนั้นจึงรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์

หลังจากสนทนากันพักหนึ่ง ในที่สุดนักพรตเต๋าจิ่วติ่งก็เชื่อ สำนักเก้ามังกรต้องการรวมเข้ากับพวกเขาจริงๆ!

ด้วยความรอบคอบ นักพรตเต๋าจิ่วติ่งบอกว่าต้องหารือกับเหล่าผู้อาวุโสก่อน ให้หวงจุนเทียนอยู่เป็นแขกสักระยะหนึ่ง

หวงจุนเทียนไม่ว่าอะไร จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยให้เขาเข้าจวนมา

หลังจากเข้ามาในเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หวงจุนเทียนตกใจขวัญสะท้าน

พลังวิญญาณของที่นี่ออกจะ…

เมื่อเห็นพวกหยางเทียนตงและสวินฉางอัน ในใจของหวงจุนเทียนก็เกิดความคิดชั่ววูบอันแรงกล้าอย่างหนึ่งขึ้นมา

เขาอยากเป็นวัวเป็นม้าให้หานเจวี๋ย!

เมื่อได้เห็นหานเจวี๋ยอีกครั้ง หวงจุนเทียนตื่นเต้นมาก

เขาในตอนนี้มีตบะระดับสุญตาขั้นสอง เทียบกับหลายร้อยปีก่อนก็เพิ่งทะลวงระดับได้หนึ่งขั้น

ฝ่ายหานเจวี๋ยยิ้มถามว่า “หลายปีมานี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ตอนแรกหวงจุนเทียนเคยช่วยชีวิตหยางเทียนตงกับสุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น และบาดเจ็บสาหัสเพราะเหตุนี้ น้ำใจนี้เขาจำขึ้นใจมาโดยตลอด

หวงจุนเทียนมองเห็นรอยยิ้มของเขาก็หายประหม่าทันที เริ่มสาธยายประสบการณ์หลายปีมานี้ให้ฟัง

อู้เต้าเจี้ยนฟังเงียบๆ อยู่ด้านข้าง

หลังฟังมาค่อนวัน หานเจวี๋ยก็ถือว่าเข้าใจจุดประสงค์การมาเยือนของหวงจุนเทียนแล้ว

หวงจุนเทียนต้านแรงกดดันของสำนักเก้ามังกรไม่ไหว ไม่อยากรับหน้าที่เจ้าสำนักอีกต่อไป อยากจดจ่อกับการฝึกบำเพ็ญ

“หากเจ้าอยากย้ายมาอยู่ข้างกายข้า ก็ต้องสร้างคุณงามความดี รอจนสำนักเก้ามังกรรวมเข้ากับสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แล้ว เจ้าจงสร้างคุณูปการให้แก่สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ให้มาก เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสที่ศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์เคารพเลื่อมใส ข้าจะอนุญาตให้เจ้าย้ายเข้ามา”

หานเจวี๋ยกล่าวเสียงเบา พอหวงจุนเทียนได้ยินก็ดีใจออกนอกหน้า รีบตกปากรับคำทันที

ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกสักพัก หวงจุนเทียนจึงกลับไป

หานเจวี๋ยตกเข้าสู่ภวังค์ความคิด

เมื่อพลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนเข้มข้นขึ้นทุกที วันหน้าก็ยังจะดึงดูดคนมากกว่านี้เข้ามาอีก เขาจำเป็นต้องควบคุมสัดส่วนให้ดี เลี่ยงไม่ให้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนแออัดยัดเยียด เพราะกลับจะทำให้พลังวิญญาณอ่อนลง

‘ถ้าหากดึงดูดผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่มามากกว่านี้ได้ก็ไม่เลวทีเดียว ถึงตอนนั้นข้าจะไม่ชี้แนะด้วยตัวเองอีก จะให้พวกลูกศิษย์มาทำแทน’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ

เขาไม่มีเครือข่ายเส้นสายยิ่งใหญ่อะไร แต่เขาสามารถสร้างเครือข่ายเส้นสายที่ยิ่งใหญ่ได้!

ยามวานรซุนผู้แข็งแกร่งเหยียบย่างบนเส้นทางสู่ชมพูทวีป ไม่ใช่ว่าต้องอาศัยสายสัมพันธ์เหล่านั้นบนวังสวรรค์ของตน ถึงจะผ่านด่านทดสอบมาได้ตลอดทางหรอกหรือ!

แน่นอน ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่กระทบต่อการฝึกบำเพ็ญของหานเจวี๋ยด้วย

……

เหนือทะเลเมฆ อัสนีสวรรค์นับไม่ถ้วนผ่าไปยังจุดเดียวกัน ซึ่งเป็นคนผู้หนึ่ง

จี้เซียนเสิน!

จี้เซียนเสินนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ รอบกายรายล้อมด้วยสายฟ้า ผมดำทั่วศีรษะของเขาบิดเลื้อยอย่างย่ามใจราวกับฝูงงู

เขาในเวลานี้ดุจดั่งร่างอวตารเทพเซียน แผ่รัศมีอำนาจอันยิ่งใหญ่โอหังออกมา!

ไกลออกไป เงาร่างหลายสิบร่างยืนอยู่เหนือเมฆหมอกแถบหนึ่ง พวกเขาล้วนเป็นบุคคลระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์

“ไม่อยากจะเชื่อ เขาหลอมร่างอริยะอัสนีครามสำเร็จแล้วจริงๆ!”

“นับว่าเขาอยู่เหนือบุตรแห่งสวรรค์ทุกคนในอดีตของจวนเซียนสวรรค์แล้ว ก่อนนี้ไม่เคยมีมาก่อน!”

“อานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก เกรงว่าผู้บำเพ็ญระดับมหายานก็ยังต้านกระบวนท่าหนึ่งของเขาไม่ได้”

“ยอดผู้บำเพ็ญอันดับหนึ่งในหล้า!”

“ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกสำเร็จมรรคขึ้นสู่สวรรค์ในยามไหน”

ตอนที่เหล่าคนระดับสูงของจวนเซียนสวรรค์ยังวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น กลางเมฆอัสนีเหนือศีรษะของจี้เซียนเสินปรากฏดวงตามหึมาข้างหนึ่งขึ้นมา มองลงมาหาจี้เซียนเสิน

พร้อมกันนั้น

เหนือฟ้าอีกแถบหนึ่ง ทะเลเมฆปั่นป่วนก่อตัวเป็นพื้นเรียบ เสาหินใหญ่มโหฬารสองต้นตั้งตระหง่าน บนเสาหินแต่ละต้นมีมังกรขาวสองตัวพันรัด เบื้องล่างมีทหารสวรรค์สวมเกราะเงินยืนเรียงกันสองแถว ดูเกรียงไกรไม่ธรรมดา

ยอดเสาหินทั้งสองต้นเชื่อมต่อกับแผ่นป้ายหยกทองคำซึ่งสลักตัวอักษรใหญ่เอาไว้ว่า

ประตูสวรรค์บูรพา!

อัสนีสวรรค์สายหนึ่งพุ่งผ่านทะเลเมฆ ตรงไปทางป้ายชื่อประตูสวรรค์บูรพา

ทหารสวรรค์นายหนึ่งรีบกวัดแกว่งหอกยาวในมือ โจมตีอัสนีสวรรค์สายนั้นจนแตกกระจุย

……………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+