ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง

เสียงหัวเราะเย็นที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนในโลกเขย่าพิภพตื่นตกใจ

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบศัตรูที่อยู่ใกล้โลกเขย่าพิภพทันที

[จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต: จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ บุตรแห่งสวรรค์ไร้เทียมทานแห่งเผ่าเทพอีกาทอง]

จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ!

หานเจวี๋ยตกตะลึง

เขาเพิ่งเป็นเพียงจักรพรรดิเซียนสองวัฏ แล้วจะเอาชนะจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏได้อย่างไร

จอมปีศาจคุกรัตติกาลใจกระตุก กัดฟันกล่าวว่า “คาดไม่ถึงว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต ก่อนที่เจียงอี้จะถือกำเนิดขึ้น เจ้าหมอนี่ก็เป็นบุตรสวรรค์อันดับหนึ่งของเผ่าเทพอีกาทอง กล่าวกันว่าสามารถก้าวข้ามระดับเทพได้ทุกเมื่อ!”

หานเจวี๋ยหายตัวไปจากที่เดิม มุ่งหน้าสู่ห้วงอากาศว่างเปล่า

มีอาภรณ์มหามรรคบัญชาสวรรค์อยู่ เขาก็ไม่กลัวว่าจะถูกจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตปลิดชีพฉับพลัน

เมื่อมาถึงห้วงอากาศว่างเปล่า หานเจวี๋ยเหลือบสายตามองไป เห็นเงาน่าสะพรึงสายหนึ่งครอบครองทั่วทั้งห้วงอากาศว่างเปล่า ลำพังแค่ดวงตาที่บ้าคลั่งและชั่วร้ายนั้นก็ใหญ่มหึมากว่าโลกเขย่าพิภพแล้ว

เมื่อเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัว จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตก็อดปรายตามองเขาไม่ได้ กล่าวเย้ยหยันขึ้นว่า “เจ้าก็คือเทพในโลกมนุษย์แห่งนี้หรือ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถปราบกำราบจอมปีศาจคุกรัตติกาลและพุทธะอาภรณ์ขาวได้ ดูท่าความสามารถของเจ้าคงไม่อ่อนด้อย ให้โอกาสเจ้าหนึ่งครา คุกเข่าลงเสีย ข้าผู้นี้อาจไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง”

โอหังยิ่งนัก!

หานเจวี๋ยตะคอกขึ้นในทันที “ข้ามีฝ่าบาทจักรพรรดิสวรรค์คุ้มครอง มีหรือจะยอมคุกเข่าให้เจ้า”

“เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิสวรรค์หรือ แน่นอนว่าย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงจะเป็น…”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

หานเจวี๋ยเรียกจักรพรรดิสวรรค์สามครั้งติดต่อกัน

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตยังคิดว่าเขากำลังเยาะเย้ยตน พลันรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที ฝ่ามือขนาดใหญ่ออกมาจากเงาดำไร้ขอบเขต ตบไปทางหานเจวี๋ย

ฟ้าดินโลกเขย่าพิภพดูเล็กจ้อยราวกับก้อนหินเมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ามือยักษ์นี้ หานเจวี๋ยไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด หยิบกระบี่พิพากษาอนธการออกมา เงื้อกระบี่ฟันเข้าไปหนึ่งฉับ

หนึ่งกระบี่เทียมฟ้า!

ปราณกระบี่แตกระเบิด!

ปราณกระบี่สีดำสายหนึ่งดูราวกับรอยหมึกพู่กันที่กวัดแกว่งกระทบกับฝ่ามือยักษ์อย่างจัง ชั่ววินาทีนั้น ห้วงอากาศว่างเปล่าพลันบิดเบี้ยว ไอปีศาจแผ่ซ่านกระจายคละคลุ้ง ม้วนทะลักกลายเป็นไอหมอก

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

แกร่งนัก!

มรรคกระบี่เทียมฟ้าของเขากลับไม่สามารถทำลายฝ่ามือนี้ได้!

จักรพรรดิเซียนสองวัฏสู้กับกับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ ยังคงยากเกินไป

“ปราณกระบี่ของเจ้าบรรลุถึงระดับจักรพรรดิเซียนหกวัฏแล้ว แต่ความแข็งแกร่งแค่นี้ คิดอยากเป็นคู่แข่งกับข้าก็ฝันเฟื่องเกินไปนัก เจ้าก็จงเข้าสู่ท้องของข้าไปพร้อมกับโลกใบนี้เสียเถิด!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทันทีที่วาจาสิ้นสุดลง เพลิงแท้สุริยะที่ร้อนระอุก็ลุกโชนอย่างรวดเร็ว กวาดม้วนทั่วทั้งห้วงอากาศว่างเปล่า อีกาทองสามขาที่น่าหวาดกลัวตัวหนึ่งพลันปรากฏกาย

ดวงตาของอีกาทองสามขาคู่นี้เต็มไปด้วยแววบ้าคลั่ง เขาอ้าปากกว้างอย่างดุดัน เพลิงแท้สุริยะโหมปะทุร่วงลงมาเสมือนกระแสน้ำทะลัก หากหานเจวี๋ยเบี่ยงหลบ โลกเขย่าพิภพจะกลายเป็นเถ้าถ่านทันที

‘ลงมือโหดเหี้ยมยิ่งนัก!’

หานเจวี๋ยลอบสบถในใจ มือซ้ายของเขาฟาดขึ้นไปอย่างจัง พลังเวททั่วทั้งร่างไหลหลั่งออกมา ควบแน่นเป็นฝ่ามือสีทองแข็งแรงข้างหนึ่ง ยกขึ้นอย่างสั่นเทา

ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะ!

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเดือดคลั่งถึงเพียงนี้ ต้องเคยสังหารศัตรูมาไม่น้อยเป็นแน่ ถึงสามารถสร้างจิตใจที่ไม่เห็นผู้ใดในสายตาเช่นนี้ได้ หรือกล่าวคือแรงกรรมของเขานั้นล้นฟ้ามหึมา!

แรงกรรมของศัตรูยิ่งมากเท่าไร ผลของฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น!

ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะปะทะเข้ากับเพลิงแท้สุริยะพลุ่งพล่าน สังหารมันในทันที กระแทกเข้ากับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตที่อานุภาพไม่อาจต้านทาน

“ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะ! เจ้าเป็นคนของสำนักพุทธหรือ”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจ ไอสังหารพุ่งทะยาน

“ข้าก็เกลียดสำนักพุทธที่สุด! จงไปตายเสีย!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตคำรามออกมาด้วยโทสะ ทันใดนั้นก็อ้าปากที่แปดเปื้อนไปด้วยโลหิตกลืนกินฟ้าดิน

หานเจวี๋ยโบกกระบี่อย่างรวดเร็ว ปราณกระบี่ปะทะเข้าที่ปากของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตจนสลายหายไปในทันใด

แย่แล้ว!

ต้านไม่อยู่!

เจ้าหมอนี่จะกลืนโลกเขย่าพิภพไปในคำเดียวจริงๆ!

ในชั่วพริบตานี้เอง ความคิดมากมายแวบเข้ามาในสมองของหานเจวี๋ย

หนี?

หากเขาหนี ทุกคนในโลกเขย่าพิภพและสำนักซ่อนเร้นต้องตายเรียบเป็นแน่!

แต่หากเขาไม่หนี ก็จะต้องถูกกลืนกินไปพร้อมกับโลกเขย่าพิภพ

ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าของหานเจวี๋ย เงาหลังกำยำ แผ่ซ่านอานุภาพทรงพลังยิ่งยวดออกมา

จักรพรรดิสวรรค์!

จักรพรรดิสวรรค์ยกมือขึ้นชี้คราหนึ่ง มังกรทองตัวหนึ่งพุ่งทะยานออกมา เจาะทะลุคอของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตด้วยความเร็วที่หานเจวี๋ยตามไม่ทัน

“จักรพรรดิสวรรค์!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตะลึงงัน เพลิงแท้สุริยะน่าสะพรึงกลัวก็หดตัวลงและรวมตัวเป็นเงาร่างคนสายหนึ่ง

จักรพรรดิสวรรค์แค่นเสียงเย็น ตะโกนขึ้นว่า “ไปให้พ้น!”

ใบหน้าหล่อเหลาของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตนั้นบิดเบี้ยวถึงขีดสุด กัดฟันกล่าวว่า “จักรพรรดิสวรรค์ เจ้ากลับมาที่นี่ด้วยตนเอง หรือเจ้าเด็กนี่เป็นบุตรของเจ้า?”

หานเจวี๋ยลอบสบถ จะสู้ก็สู้ เหตุใดต้องด่าด้วย?

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “สามอึดใจให้หลัง หากเจ้าไม่ไป ก็ตายเสีย!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตสีหน้ามืดครึ้ม รีบถอยหนีไปอย่างเร็วไว ทิ้งไว้เพียงคำพูดประโยคหนึ่ง “ดีนัก ข้าจะจับตาดูโลกใบนี้ไว้ รอกระทั่งจักรพรรดิปีศาจบุกสังหารมาที่สวรรค์เก้าชั้น ข้าต้องมากินเขาแน่! เมื่อถึงคราวนั้นก็คอยดูเถิดว่าจักรพรรดิสวรรค์อย่างเจ้ายังจะมาช่วยได้หรือไม่!”

[จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หานเจวี๋ยเห็นข้อความแจ้งเตือนนี้แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

หลังจากผ่านไปสามอึดใจ กลิ่นอายของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตก็หายไปในทันที

จักรพรรดิสวรรค์หันหน้าเหลือบมองหานเจวี๋ยจากหางตา กล่าวว่า “ไปจากโลกเขย่าพิภพเสียเถิด”

เมื่อวาจาสิ้นสุดลง จักรพรรดิสวรรค์ก็กลายเป็นควันสีคราม จางหายไปไม่เห็นอีก

หานเจวี๋ยประหลาดใจ หรือว่าผู้ที่มานั้นไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์?

หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้ง

ฟังจากคำพูดของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตแล้ว วังสวรรค์กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่

หานเจวี๋ยหันกายกลับมายังใต้ต้นฝูซัง

จอมปีศาจคุกรัตติกาลกล่าวทอดถอนใจว่า “ท่านเจ้าสำนัก ที่แท้ท่านกับจักรพรรดิสวรรค์เกี่ยวข้องกันอย่างไร”

หลงเฮ่าเบิกตากว้าง เอ่ยถามด้วยความตกตะลึง “เมื่อครู่เสด็จพ่อมาหรือ”

หานเจวี๋ยนั่งลงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยว่า “วิกฤตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกเขย่าพิภพใกล้มาเยือนแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม”

ทุกคนสีหน้าหนักอึ้ง เมื่อครู่อานุภาพของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตช่างน่ากลัวจริงๆ ทำให้พวกเขาเสมือนเผชิญกับฟ้าถล่ม

“จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตมีที่มาอย่างไร”

“เจ้าใหญ่ เจ้ารู้จักหรือ”

“ไม่รู้จัก กระทั่งเผ่าเทพพวกเรายังไม่เคยไปเลย”

“ทำเช่นไรดี พวกเราต้องหนีหรือไม่”

“เผ่าเทพอีกาทองเคยเป็นราชวงศ์ของเผ่าปีศาจ อานุภาพในยามนี้ก็แข็งแกร่งอย่างมาก”

ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์

แม้แต่จอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็ยังขมวดคิ้ว

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตแข็งแกร่งยิ่งนัก เบื้องหลังยังมีเผ่าเทพอีกาทองอีก หาใช่สิ่งที่โลกมนุษย์แห่งเดียวจะสามารถต้านทานได้

หานเจวี๋ยยังจมอยู่ในภวังค์ความคิด

พุทธะอาภรณ์ขาวกล่าวว่า “หากสามารถซ่อนโลกเขย่าพิภพ และแยกมันออกจากป้ายศิลามรรคาสวรรค์ได้ บางทีอาจจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าสังหารของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้”

ซ่อนเอาไว้…

จะซ่อนอย่างไร

หานเจวี๋ยราวกับจะคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

คนอื่นก็เริ่มปรึกษาหารือกันขึ้นมา

พระราชวังเทียมเมฆา

จักรพรรดิสวรรค์ประทับอยู่บนบัลลังก์สูง

“รายงาน เทพยักษ์เจวี๋ยเฟิงเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าเทพอีกาทอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส!”

“รายงาน มีปีศาจประหลาดจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ด้านนอกประตูสวรรค์อุดร!”

“รายงาน วัดเสียงอสนีของสำนักพุทธเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าพญาอินทรี!”

“รายงาน วังเทพตอบกลับ กล่าวว่าพวกเขาถูกเผ่าวิหคชาดปิดล้อม!”

ทหารสวรรค์คนแล้วคนเล่าเหาะทยานเข้ามาในตำหนัก รายงานข่าวร้ายติดต่อกันทีละคน

เหล่าทวยเทพสีหน้ามืดครึ้ม

แม่ทัพสวรรค์ถึงขั้นพร้อมรบอยู่ด้านนอก เหลือเพียงเซียนเมธีเท่านั้นที่เฝ้าอยู่ในวังสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์มีสีหน้าไร้ความรู้สึก นิ้วชี้ขวาแตะเคาะบนพนักวางแขน

ตี้ไท่ไป๋ตั้งท่าจะพูดแต่ก็หยุดไป

เดิมทีคิดว่าการเอาชนะวังปีศาจจะเป็นเรื่องที่แน่นอนเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงว่าวังปีศาจจะถึงกับระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมา

เผ่าพันธุ์บรรพกาลจำนวนมากสนับสนุนวังปีศาจ ในนั้นความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิปีศาจมุ่งเน้นมาที่วังสวรรค์เป็นหลัก สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ขวัญกำลังใจของวังสวรรค์ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 278 จักรพรรดิเทพอีกาทอง

เสียงหัวเราะเย็นที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนในโลกเขย่าพิภพตื่นตกใจ

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบศัตรูที่อยู่ใกล้โลกเขย่าพิภพทันที

[จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต: จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ บุตรแห่งสวรรค์ไร้เทียมทานแห่งเผ่าเทพอีกาทอง]

จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ!

หานเจวี๋ยตกตะลึง

เขาเพิ่งเป็นเพียงจักรพรรดิเซียนสองวัฏ แล้วจะเอาชนะจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏได้อย่างไร

จอมปีศาจคุกรัตติกาลใจกระตุก กัดฟันกล่าวว่า “คาดไม่ถึงว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต ก่อนที่เจียงอี้จะถือกำเนิดขึ้น เจ้าหมอนี่ก็เป็นบุตรสวรรค์อันดับหนึ่งของเผ่าเทพอีกาทอง กล่าวกันว่าสามารถก้าวข้ามระดับเทพได้ทุกเมื่อ!”

หานเจวี๋ยหายตัวไปจากที่เดิม มุ่งหน้าสู่ห้วงอากาศว่างเปล่า

มีอาภรณ์มหามรรคบัญชาสวรรค์อยู่ เขาก็ไม่กลัวว่าจะถูกจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตปลิดชีพฉับพลัน

เมื่อมาถึงห้วงอากาศว่างเปล่า หานเจวี๋ยเหลือบสายตามองไป เห็นเงาน่าสะพรึงสายหนึ่งครอบครองทั่วทั้งห้วงอากาศว่างเปล่า ลำพังแค่ดวงตาที่บ้าคลั่งและชั่วร้ายนั้นก็ใหญ่มหึมากว่าโลกเขย่าพิภพแล้ว

เมื่อเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัว จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตก็อดปรายตามองเขาไม่ได้ กล่าวเย้ยหยันขึ้นว่า “เจ้าก็คือเทพในโลกมนุษย์แห่งนี้หรือ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถปราบกำราบจอมปีศาจคุกรัตติกาลและพุทธะอาภรณ์ขาวได้ ดูท่าความสามารถของเจ้าคงไม่อ่อนด้อย ให้โอกาสเจ้าหนึ่งครา คุกเข่าลงเสีย ข้าผู้นี้อาจไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง”

โอหังยิ่งนัก!

หานเจวี๋ยตะคอกขึ้นในทันที “ข้ามีฝ่าบาทจักรพรรดิสวรรค์คุ้มครอง มีหรือจะยอมคุกเข่าให้เจ้า”

“เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิสวรรค์หรือ แน่นอนว่าย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงจะเป็น…”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

“จักรพรรดิสวรรค์!”

หานเจวี๋ยเรียกจักรพรรดิสวรรค์สามครั้งติดต่อกัน

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตยังคิดว่าเขากำลังเยาะเย้ยตน พลันรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที ฝ่ามือขนาดใหญ่ออกมาจากเงาดำไร้ขอบเขต ตบไปทางหานเจวี๋ย

ฟ้าดินโลกเขย่าพิภพดูเล็กจ้อยราวกับก้อนหินเมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ามือยักษ์นี้ หานเจวี๋ยไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด หยิบกระบี่พิพากษาอนธการออกมา เงื้อกระบี่ฟันเข้าไปหนึ่งฉับ

หนึ่งกระบี่เทียมฟ้า!

ปราณกระบี่แตกระเบิด!

ปราณกระบี่สีดำสายหนึ่งดูราวกับรอยหมึกพู่กันที่กวัดแกว่งกระทบกับฝ่ามือยักษ์อย่างจัง ชั่ววินาทีนั้น ห้วงอากาศว่างเปล่าพลันบิดเบี้ยว ไอปีศาจแผ่ซ่านกระจายคละคลุ้ง ม้วนทะลักกลายเป็นไอหมอก

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

แกร่งนัก!

มรรคกระบี่เทียมฟ้าของเขากลับไม่สามารถทำลายฝ่ามือนี้ได้!

จักรพรรดิเซียนสองวัฏสู้กับกับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ ยังคงยากเกินไป

“ปราณกระบี่ของเจ้าบรรลุถึงระดับจักรพรรดิเซียนหกวัฏแล้ว แต่ความแข็งแกร่งแค่นี้ คิดอยากเป็นคู่แข่งกับข้าก็ฝันเฟื่องเกินไปนัก เจ้าก็จงเข้าสู่ท้องของข้าไปพร้อมกับโลกใบนี้เสียเถิด!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทันทีที่วาจาสิ้นสุดลง เพลิงแท้สุริยะที่ร้อนระอุก็ลุกโชนอย่างรวดเร็ว กวาดม้วนทั่วทั้งห้วงอากาศว่างเปล่า อีกาทองสามขาที่น่าหวาดกลัวตัวหนึ่งพลันปรากฏกาย

ดวงตาของอีกาทองสามขาคู่นี้เต็มไปด้วยแววบ้าคลั่ง เขาอ้าปากกว้างอย่างดุดัน เพลิงแท้สุริยะโหมปะทุร่วงลงมาเสมือนกระแสน้ำทะลัก หากหานเจวี๋ยเบี่ยงหลบ โลกเขย่าพิภพจะกลายเป็นเถ้าถ่านทันที

‘ลงมือโหดเหี้ยมยิ่งนัก!’

หานเจวี๋ยลอบสบถในใจ มือซ้ายของเขาฟาดขึ้นไปอย่างจัง พลังเวททั่วทั้งร่างไหลหลั่งออกมา ควบแน่นเป็นฝ่ามือสีทองแข็งแรงข้างหนึ่ง ยกขึ้นอย่างสั่นเทา

ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะ!

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเดือดคลั่งถึงเพียงนี้ ต้องเคยสังหารศัตรูมาไม่น้อยเป็นแน่ ถึงสามารถสร้างจิตใจที่ไม่เห็นผู้ใดในสายตาเช่นนี้ได้ หรือกล่าวคือแรงกรรมของเขานั้นล้นฟ้ามหึมา!

แรงกรรมของศัตรูยิ่งมากเท่าไร ผลของฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น!

ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะปะทะเข้ากับเพลิงแท้สุริยะพลุ่งพล่าน สังหารมันในทันที กระแทกเข้ากับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตที่อานุภาพไม่อาจต้านทาน

“ฝ่ามือตถาคตมหาสุริยะ! เจ้าเป็นคนของสำนักพุทธหรือ”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจ ไอสังหารพุ่งทะยาน

“ข้าก็เกลียดสำนักพุทธที่สุด! จงไปตายเสีย!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตคำรามออกมาด้วยโทสะ ทันใดนั้นก็อ้าปากที่แปดเปื้อนไปด้วยโลหิตกลืนกินฟ้าดิน

หานเจวี๋ยโบกกระบี่อย่างรวดเร็ว ปราณกระบี่ปะทะเข้าที่ปากของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตจนสลายหายไปในทันใด

แย่แล้ว!

ต้านไม่อยู่!

เจ้าหมอนี่จะกลืนโลกเขย่าพิภพไปในคำเดียวจริงๆ!

ในชั่วพริบตานี้เอง ความคิดมากมายแวบเข้ามาในสมองของหานเจวี๋ย

หนี?

หากเขาหนี ทุกคนในโลกเขย่าพิภพและสำนักซ่อนเร้นต้องตายเรียบเป็นแน่!

แต่หากเขาไม่หนี ก็จะต้องถูกกลืนกินไปพร้อมกับโลกเขย่าพิภพ

ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าของหานเจวี๋ย เงาหลังกำยำ แผ่ซ่านอานุภาพทรงพลังยิ่งยวดออกมา

จักรพรรดิสวรรค์!

จักรพรรดิสวรรค์ยกมือขึ้นชี้คราหนึ่ง มังกรทองตัวหนึ่งพุ่งทะยานออกมา เจาะทะลุคอของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตด้วยความเร็วที่หานเจวี๋ยตามไม่ทัน

“จักรพรรดิสวรรค์!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตะลึงงัน เพลิงแท้สุริยะน่าสะพรึงกลัวก็หดตัวลงและรวมตัวเป็นเงาร่างคนสายหนึ่ง

จักรพรรดิสวรรค์แค่นเสียงเย็น ตะโกนขึ้นว่า “ไปให้พ้น!”

ใบหน้าหล่อเหลาของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตนั้นบิดเบี้ยวถึงขีดสุด กัดฟันกล่าวว่า “จักรพรรดิสวรรค์ เจ้ากลับมาที่นี่ด้วยตนเอง หรือเจ้าเด็กนี่เป็นบุตรของเจ้า?”

หานเจวี๋ยลอบสบถ จะสู้ก็สู้ เหตุใดต้องด่าด้วย?

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “สามอึดใจให้หลัง หากเจ้าไม่ไป ก็ตายเสีย!”

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตสีหน้ามืดครึ้ม รีบถอยหนีไปอย่างเร็วไว ทิ้งไว้เพียงคำพูดประโยคหนึ่ง “ดีนัก ข้าจะจับตาดูโลกใบนี้ไว้ รอกระทั่งจักรพรรดิปีศาจบุกสังหารมาที่สวรรค์เก้าชั้น ข้าต้องมากินเขาแน่! เมื่อถึงคราวนั้นก็คอยดูเถิดว่าจักรพรรดิสวรรค์อย่างเจ้ายังจะมาช่วยได้หรือไม่!”

[จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หานเจวี๋ยเห็นข้อความแจ้งเตือนนี้แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

หลังจากผ่านไปสามอึดใจ กลิ่นอายของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตก็หายไปในทันที

จักรพรรดิสวรรค์หันหน้าเหลือบมองหานเจวี๋ยจากหางตา กล่าวว่า “ไปจากโลกเขย่าพิภพเสียเถิด”

เมื่อวาจาสิ้นสุดลง จักรพรรดิสวรรค์ก็กลายเป็นควันสีคราม จางหายไปไม่เห็นอีก

หานเจวี๋ยประหลาดใจ หรือว่าผู้ที่มานั้นไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของจักรพรรดิสวรรค์?

หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้ง

ฟังจากคำพูดของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตแล้ว วังสวรรค์กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่

หานเจวี๋ยหันกายกลับมายังใต้ต้นฝูซัง

จอมปีศาจคุกรัตติกาลกล่าวทอดถอนใจว่า “ท่านเจ้าสำนัก ที่แท้ท่านกับจักรพรรดิสวรรค์เกี่ยวข้องกันอย่างไร”

หลงเฮ่าเบิกตากว้าง เอ่ยถามด้วยความตกตะลึง “เมื่อครู่เสด็จพ่อมาหรือ”

หานเจวี๋ยนั่งลงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยว่า “วิกฤตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกเขย่าพิภพใกล้มาเยือนแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม”

ทุกคนสีหน้าหนักอึ้ง เมื่อครู่อานุภาพของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตช่างน่ากลัวจริงๆ ทำให้พวกเขาเสมือนเผชิญกับฟ้าถล่ม

“จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตมีที่มาอย่างไร”

“เจ้าใหญ่ เจ้ารู้จักหรือ”

“ไม่รู้จัก กระทั่งเผ่าเทพพวกเรายังไม่เคยไปเลย”

“ทำเช่นไรดี พวกเราต้องหนีหรือไม่”

“เผ่าเทพอีกาทองเคยเป็นราชวงศ์ของเผ่าปีศาจ อานุภาพในยามนี้ก็แข็งแกร่งอย่างมาก”

ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์

แม้แต่จอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็ยังขมวดคิ้ว

จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตแข็งแกร่งยิ่งนัก เบื้องหลังยังมีเผ่าเทพอีกาทองอีก หาใช่สิ่งที่โลกมนุษย์แห่งเดียวจะสามารถต้านทานได้

หานเจวี๋ยยังจมอยู่ในภวังค์ความคิด

พุทธะอาภรณ์ขาวกล่าวว่า “หากสามารถซ่อนโลกเขย่าพิภพ และแยกมันออกจากป้ายศิลามรรคาสวรรค์ได้ บางทีอาจจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าสังหารของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้”

ซ่อนเอาไว้…

จะซ่อนอย่างไร

หานเจวี๋ยราวกับจะคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

คนอื่นก็เริ่มปรึกษาหารือกันขึ้นมา

พระราชวังเทียมเมฆา

จักรพรรดิสวรรค์ประทับอยู่บนบัลลังก์สูง

“รายงาน เทพยักษ์เจวี๋ยเฟิงเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าเทพอีกาทอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส!”

“รายงาน มีปีศาจประหลาดจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ด้านนอกประตูสวรรค์อุดร!”

“รายงาน วัดเสียงอสนีของสำนักพุทธเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าพญาอินทรี!”

“รายงาน วังเทพตอบกลับ กล่าวว่าพวกเขาถูกเผ่าวิหคชาดปิดล้อม!”

ทหารสวรรค์คนแล้วคนเล่าเหาะทยานเข้ามาในตำหนัก รายงานข่าวร้ายติดต่อกันทีละคน

เหล่าทวยเทพสีหน้ามืดครึ้ม

แม่ทัพสวรรค์ถึงขั้นพร้อมรบอยู่ด้านนอก เหลือเพียงเซียนเมธีเท่านั้นที่เฝ้าอยู่ในวังสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์มีสีหน้าไร้ความรู้สึก นิ้วชี้ขวาแตะเคาะบนพนักวางแขน

ตี้ไท่ไป๋ตั้งท่าจะพูดแต่ก็หยุดไป

เดิมทีคิดว่าการเอาชนะวังปีศาจจะเป็นเรื่องที่แน่นอนเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงว่าวังปีศาจจะถึงกับระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมา

เผ่าพันธุ์บรรพกาลจำนวนมากสนับสนุนวังปีศาจ ในนั้นความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิปีศาจมุ่งเน้นมาที่วังสวรรค์เป็นหลัก สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ขวัญกำลังใจของวังสวรรค์ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+