ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ

หลังจากจอมปีศาจคุกรัตติกาลจำค่ายกลกระบี่สังหารเซียนได้ ปฏิกิริยาแรกก็คือตั้งท่าหนี

ทว่าเขาต้องตกใจที่พบว่าตนเองไม่สามารถกระโจนออกจากห้วงอากาศว่างเปล่านี้ได้ ผนึกต้องห้ามที่ไร้ลักษณ์และทรงพลังได้ปิดกั้นห้วงอากาศว่างเปล่าโดยรอบเอาไว้

จอมปีศาจคุกรัตติกาลรีบพุ่งไปทางกระบี่พิฆาตเทพ

เขาสัมผัสได้ว่ากระบี่เล่มนี้อ่อนแอที่สุด บางทีอาจกลายเป็นจุดฝ่าทะลวง

ผลลัพธ์คือเขาเพิ่งจะชนกับกระบี่พิฆาตเทพ พายุอันน่าหวาดกลัวหอบหนึ่งก็พุ่งปะทะหน้า พัดจนจอมปีศาจคุกรัตติกาลเจ็บปวดทรมานหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่จิตดั้งเดิมก็ยังสั่นเทิ้ม

เขาตกใจจนต้องถอยหลังออกไปโดยสัญชาตญาณ

มุมปากของหานเจวี๋ยยกขยับ สองมือทำท่ามือร่ายวิชา

ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน สยบสังหาร!

ตูม!

ไอชั่วร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนปะทุผ่านอากาศออกมาจากภายในค่ายกลกระบี่ ปกคลุมจอมปีศาจคุกรัตติกาลในทันที

จอมปีศาจคุกรัตติกาลส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับว่าตกไปอยู่ในนรกเก้าขุมอันเงียบสงัด

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์

ไก่คุกรัตติกาลที่กำลังบำเพ็ญตบะพลันลืมตาขึ้น เอ่ยพึมพำว่า “แปลก? เมื่อครู่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง”

มันส่ายหัว และบำเพ็ญตบะต่อไป

เมื่อเผชิญกับค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่ทรงพลังหาที่เปรียบไม่ได้ เดิมทีจอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ไม่สามารถต้านทานได้เลย กายเนื้อถูกสังหารในทันที

หลังจากนั้นคือวิญญาณ!

ความตั้งใจดั้งเดิมของหานเจวี๋ยนั้นคือทำลายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ

“ช้าก่อน! ข้ายอมแล้ว! อย่าฆ่าข้า!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลร้องลั่นออกมาด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

หานเจวี๋ยนึกถึงไก่คุกรัตติกาล ก็ยังต้องใจอ่อนลงมาบ้าง

เขาร่ายพลังดูดวิญญาณหกสาย ดูดซับวิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณของตน คุมขังอยู่ในโลกอนธการ

โลกอนธการที่เรียกกันนั้นก็คือส่วนลึกของจิตวิญญาณของเขา พื้นที่พิเศษที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน

การต่อสู้สิ้นสุดลง

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ถือว่าแก้ปัญหาไปได้เปลาะหนึ่ง

ในที่สุดเขาก็สามารถบำเพ็ญตบะได้อย่างสบายใจ

หานเจวี๋ยกลับไปที่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน

อู้เต้าเจี้ยนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่า “เมื่อครู่ท่านไปทำอะไรมาเจ้าคะ มีศัตรูมาโจมตีหรือ”

ตอนนี้ตบะของนางอยู่ในระดับเซียนอิสระแล้ว ห่างจากเซียนพิภพไท่อี่ไม่ไกลนัก สามารถสัมผัสได้รางๆ ถึงการมีอยู่ของห้วงอากาศว่างเปล่า

หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “ไม่มีอะไร”

เรื่องเกี่ยวกับจอมปีศาจคุกรัตติกาลนั้น เขาไม่อยากพูดให้มากความ

เขาหลับตาลงเริ่มบำเพ็ญตบะต่อ

หลายเดือนหลังจากนั้น ไก่คุกรัตติกาลที่ทนรอจอมปีศาจคุกรัตติกาลไม่ไหว ก็กลับมาบำเพ็ญตบะอยู่ใต้ต้นฝูซัง

ทุกคนต่างให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงระยะนี้ของมันเป็นอย่างมาก ทว่ามันแค่ไม่พูด

‘เฮอะๆ ท่านไก่อย่างข้าได้รับวาสนาใหญ่แล้ว ข้าจะบำเพ็ญตบะเงียบๆ แซงหน้าพวกเจ้าทุกคน!’

ไก่คุกรัตติกาลคิดอย่างมีความหวัง

ใครจะรู้เล่าว่า วาสนาใหญ่ของมันไม่เหลือแล้ว

ยี่สิบปีผ่านไป

หานเจวี๋ยเพิ่งสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจและจอมปีศาจอินทรีทองเสร็จ เขาจึงนำจิตรับรู้เข้าสู่โลกอนธการในส่วนลึกของจิตวิญญาณ

วิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลถูกมหามรรคเวียนว่ายตายเกิดคุมขังไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เมื่อสัมผัสได้ว่าจิตดั้งเดิมของหานเจวี๋ยกำลังจับจ้องตน จอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ตะโกนขึ้นมาอย่างลนลานว่า “อย่าฆ่าข้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าเคยให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้าก็ปฏิเสธได้ แต่เจ้ากลับอาศัยอยู่ในโลกเขย่าพิภพของข้า หากเป็นเจ้า เจ้าจะยอมให้จักรพรรดิเซียนแปลกหน้าคนอื่นอาศัยอยู่ในดินแดนของเจ้าหรือ”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ข้ายินดีที่จะเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้น!”

ช่วงเวลาที่ถูกกักขังนี้ เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

ปราณแห่งอนธการที่มีอยู่ในโลกอนธการแห่งนี้กำลังกัดกินจิตวิญญาณของเขาไม่ว่างเว้นตลอดเวลา ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน

“จริงหรือ ในใจเจ้ายังคงเกลียดข้าอยู่กระมัง” หานเจวี๋ยแค่นเสียงกล่าว

จอมปีศาจคุกรัตติกาลตะโกนร้องว่า “ไม่ใช่! จะเป็นไปได้อย่างไร!”

ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่ระดับความเกลียดชังกลับไม่ได้ลดลงเลย

หนทางของเจ้าหมอนี่ยังคับแคบอยู่ ไม่รู้จักความเท่ามารสวรรค์เบิกฟ้าเอาเสียเลย

“ลองดูไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้า”

หานเจวี๋ยทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้นก่อนที่จะตัดการเชื่อมต่อพลังจิต

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเป็นจักรพรรดิเซียนห้าวัฏ ไม่อาจที่จะดูเบาได้ หานเจวี๋ยต้องเพิ่มตราประทับหกวิถีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสมบูรณ์

ภายในถ้ำเทวา หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

เขาหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาตรวจดู อันดับของโลกเขย่าพิภพได้ไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่สามสิบเก้าแล้ว

ตบะที่สูงสุดในโลกมนุษย์ทะยานขึ้นไปถึงเซียนพิภพไท่อี่ระยะปลาย และหากเอ่ยถึงพลังการต่อสู้ที่สูงที่สุดอันที่จริงก็ไม่คู่ควรกับลำดับที่สามสิบเก้านัก

แต่ว่าโลกเขย่าพิภพมีสรรพชีวิตมากมาย ผู้บำเพ็ญระดับเซียนอิสระ ระดับมหายานและระดับฝ่าด่านเคราะห์แทบจะถือกำเนิดวันละคน

เมื่อทอดสายตามองดูทั่วทั้งโลกเขย่าพิภพ การต่อสู้มีไม่สู้เมื่อก่อน ภายใต้การส่งเสริมในเงามืดของพุทธะอาภรณ์ขาว ทั่วใต้หล้าล้วนก่อกระแสบำเพ็ญตบะอย่างบ้าคลั่ง

การเพิ่มขึ้นของพลังวิญญาณ การแพร่กระจายของมรรถวิถีนิกายฉ่าน ทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญไม่ต้องแย่งชิงทรัพยากรในการบำเพ็ญตบะไปทั่ว ก็สามารถบำเพ็ญตบะได้อย่างสบายใจ

ไม่เพียงเช่นนี้ เกณฑ์การฝึกบำเพ็ญก็ลดลงด้วย

เมื่อเทียบกับตอนที่หานเจวี๋ยเพิ่งถือกำเนิด พลังวิญญาณของโลกเขย่าพิภพก็เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยเท่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดก็ยังสามารถบำเพ็ญตบะได้

ระดับปราณก่อกำเนิดไม่ใช่ยอดฝีมืออีกต่อไป ถึงขั้นที่ค่อนข้างอ่อนแอด้วยซ้ำ

เมื่อหานเจวี๋ยได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ก็จนปัญญาเป็นอย่างมาก

ปัญหาที่จะตามมาภายหลังคงไม่น้อยเลยทีเดียว

หานเจวี๋ยนำกายเนื้อของพุทธะพิชิตชัยออกมา ท่าทางราวกับกำลังครุ่นคิด

อู้เต้าเจี้ยนเมื่อมองเห็นพุทธะพิชิตชัย ก็อดเบิกดวงตาคู่สวยนั้นขึ้นมาไม่ได้

นางสัมผัสได้ถึงรัศมีอันน่าหวาดกลัวที่แผ่ซ่านออกมาจากกายเนื้อนี้ ตกใจจนไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา

“กายเนื้อที่แข็งแกร่งเพียงนี้ทิ้งไปก็น่าเสียดาย มอบให้ผู้อื่น ก็เกรงว่าผู้อื่นจะแบกรับไม่ไหว”

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

หรือจะกลั่นหลอมกายเนื้อของเจ้าหมอนี่ให้กลายเป็นร่างแยกวัฏจักร?

ก็ได้นี่นา

แต่ว่าต้องให้หานเจวี๋ยบรรลุถึงจักรพรรดิเซียนห้าวัฏก่อนค่อยดำเนินการ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุสุดวิสัย

วิธีการของจักรพรรดิเซียนมีมากมายเกินไป แม้ว่าวิญญาณของพุทธะพิชิตชัยจะถูกดับทำลายไปแล้ว ทว่าหากวิญญาณของเจ้าหมอนี่กลับมาเกิดใหม่ตามกาลเวลาที่ผ่านไปเล่า

หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนำกายเนื้อของพุทธะพิชิตชัยทิ้งไปในโลกอนธการ และปิดผนึกด้วยปราณแห่งอนธการและมหามรรคเวียนว่ายตายเกิด

จอมปีศาจคุกรัตติกาลมองเห็นพุทธะพิชิตชัยที่อยู่ไกลออกไปก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

“พุทธะพิชิตชัย! เป็นไปได้อย่างไรกัน!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลถูกทำให้ตกใจ

ชื่อของพุทธะพิชิตชัย กึกก้องดั่งฟ้าคำรามในแดนเซียน

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเคยพ่ายแพ้ใต้เงื้อมของมือพุทธะพิชิตชัย ก่อนหน้านี้ไม่นานได้ยินมาว่าพุทธะพิชิตชัยตกตาย เขาก็ดีใจแทบแย่

แต่คิดไม่ถึงว่าพุทธะพิชิตชัยจะอยู่ที่นี่…

ช้าก่อน!

นั่นคือกายเนื้อ ไม่ใช่จิตวิญญาณ!

หรือว่า…

จอมปีศาจคุกรัตติกาลคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จิตวิญญาณพลันสั่นสะท้าน

[จอมปีศาจคุกรัตติกาลเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

เมื่อหานเจวี๋ยมองเห็นประโยคที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ก็อดที่จะงุนงงไม่ได้

เหตุใดถึงพุ่งไปถึงห้าดาวเลยเล่า

เขาอดไม่ได้ที่จะกดเปิดภาพประจำตัวของจอมปีศาจคุกรัตติกาลขึ้นมาตรวจดู

[จอมปีศาจคุกรัตติกาล: จักรพรรดิเซียนห้าวัฏ หนึ่งในจอมปีศาจของวังปีศาจ มาจากเผ่าหงส์คุกรัตติกาลในสมัยโบราณ เนื่องจากรู้ว่าท่านเป็นผู้สังหารพุทธะพิชิตชัย จึงเกิดความเคารพยำเกรงต่อท่านอย่างสุดซึ้ง ไม่กล้าต่อต้านท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หานเจวี๋ยแปลกใจ

พุทธะพิชิตชัยก็มีประโยชน์เช่นนี้ด้วยหรือ

หานเจวี๋ยกลับไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจ เขายังคงรอให้ตราประทับหกวิถีทวีความลึกซึ้งขึ้นก่อนค่อยปล่อยจอมปีศาจคุกรัตติกาลออกมา

ยมโลก

เบื้องบนแม่น้ำปรโลก

คนในชุดกันฝนผู้หนึ่งหยุดอยู่กลางอากาศ เขาปรายตามองลงไปที่แนวปะการังเล็กๆ ในทะเลเบื้องล่าง

“ตรงนี้แหละ เขามาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดลง!”

คนในชุดกันฝนถอดพลังจิตออกมา กวาดเข้าไปในแนวปะการัง

เกาะสำนักซ่อนเร้น?

เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหุ่นเชิดแห่งสวรรค์ ที่เหมือนกับหานเจวี๋ยไม่มีผิดเพี้ยน

เขากำหมัดในทันทีและเอ่ยว่า “จักรพรรดิเซียนวัฏจักร ครั้งก่อนเป็นข้าที่ประมาท ครั้งนี้ข้ายินดีมอบสิ่งที่ท่านต้องการให้ก่อน ท่านได้โปรดอย่าทอดทิ้งข้าเลยนะ!”

เขาไม่ได้รับคำตอบ ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นไปอีก

“จักรพรรดิเซียนวัฏจักร หากสิ่งที่ข้าต้องการยังมาไม่ถึง ข้าก็สามารถรอได้!”

คนในชุดกันฝนกัดฟันเอ่ย เห็นได้ชัดว่าภายในใจแบกรับความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง

หุ่นเชิดแห่งสวรรค์ที่อยู่ภายในเกาะลืมตาขึ้น หานเจวี๋ยได้ยินวาจาของคนในชุดกันฝนผ่านมัน

‘เจ้าหมอนี่ตามมาทันได้อย่างไรกัน’

……………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 272 จอมปีศาจสวามิภักดิ์ คนชุดกันฝนฟางลึกลับ

หลังจากจอมปีศาจคุกรัตติกาลจำค่ายกลกระบี่สังหารเซียนได้ ปฏิกิริยาแรกก็คือตั้งท่าหนี

ทว่าเขาต้องตกใจที่พบว่าตนเองไม่สามารถกระโจนออกจากห้วงอากาศว่างเปล่านี้ได้ ผนึกต้องห้ามที่ไร้ลักษณ์และทรงพลังได้ปิดกั้นห้วงอากาศว่างเปล่าโดยรอบเอาไว้

จอมปีศาจคุกรัตติกาลรีบพุ่งไปทางกระบี่พิฆาตเทพ

เขาสัมผัสได้ว่ากระบี่เล่มนี้อ่อนแอที่สุด บางทีอาจกลายเป็นจุดฝ่าทะลวง

ผลลัพธ์คือเขาเพิ่งจะชนกับกระบี่พิฆาตเทพ พายุอันน่าหวาดกลัวหอบหนึ่งก็พุ่งปะทะหน้า พัดจนจอมปีศาจคุกรัตติกาลเจ็บปวดทรมานหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่จิตดั้งเดิมก็ยังสั่นเทิ้ม

เขาตกใจจนต้องถอยหลังออกไปโดยสัญชาตญาณ

มุมปากของหานเจวี๋ยยกขยับ สองมือทำท่ามือร่ายวิชา

ค่ายกลกระบี่สังหารเซียน สยบสังหาร!

ตูม!

ไอชั่วร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนปะทุผ่านอากาศออกมาจากภายในค่ายกลกระบี่ ปกคลุมจอมปีศาจคุกรัตติกาลในทันที

จอมปีศาจคุกรัตติกาลส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับว่าตกไปอยู่ในนรกเก้าขุมอันเงียบสงัด

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์

ไก่คุกรัตติกาลที่กำลังบำเพ็ญตบะพลันลืมตาขึ้น เอ่ยพึมพำว่า “แปลก? เมื่อครู่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง”

มันส่ายหัว และบำเพ็ญตบะต่อไป

เมื่อเผชิญกับค่ายกลกระบี่สังหารเซียนที่ทรงพลังหาที่เปรียบไม่ได้ เดิมทีจอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ไม่สามารถต้านทานได้เลย กายเนื้อถูกสังหารในทันที

หลังจากนั้นคือวิญญาณ!

ความตั้งใจดั้งเดิมของหานเจวี๋ยนั้นคือทำลายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ

“ช้าก่อน! ข้ายอมแล้ว! อย่าฆ่าข้า!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลร้องลั่นออกมาด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

หานเจวี๋ยนึกถึงไก่คุกรัตติกาล ก็ยังต้องใจอ่อนลงมาบ้าง

เขาร่ายพลังดูดวิญญาณหกสาย ดูดซับวิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณของตน คุมขังอยู่ในโลกอนธการ

โลกอนธการที่เรียกกันนั้นก็คือส่วนลึกของจิตวิญญาณของเขา พื้นที่พิเศษที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วน

การต่อสู้สิ้นสุดลง

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ถือว่าแก้ปัญหาไปได้เปลาะหนึ่ง

ในที่สุดเขาก็สามารถบำเพ็ญตบะได้อย่างสบายใจ

หานเจวี๋ยกลับไปที่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน

อู้เต้าเจี้ยนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ว่า “เมื่อครู่ท่านไปทำอะไรมาเจ้าคะ มีศัตรูมาโจมตีหรือ”

ตอนนี้ตบะของนางอยู่ในระดับเซียนอิสระแล้ว ห่างจากเซียนพิภพไท่อี่ไม่ไกลนัก สามารถสัมผัสได้รางๆ ถึงการมีอยู่ของห้วงอากาศว่างเปล่า

หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “ไม่มีอะไร”

เรื่องเกี่ยวกับจอมปีศาจคุกรัตติกาลนั้น เขาไม่อยากพูดให้มากความ

เขาหลับตาลงเริ่มบำเพ็ญตบะต่อ

หลายเดือนหลังจากนั้น ไก่คุกรัตติกาลที่ทนรอจอมปีศาจคุกรัตติกาลไม่ไหว ก็กลับมาบำเพ็ญตบะอยู่ใต้ต้นฝูซัง

ทุกคนต่างให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงระยะนี้ของมันเป็นอย่างมาก ทว่ามันแค่ไม่พูด

‘เฮอะๆ ท่านไก่อย่างข้าได้รับวาสนาใหญ่แล้ว ข้าจะบำเพ็ญตบะเงียบๆ แซงหน้าพวกเจ้าทุกคน!’

ไก่คุกรัตติกาลคิดอย่างมีความหวัง

ใครจะรู้เล่าว่า วาสนาใหญ่ของมันไม่เหลือแล้ว

ยี่สิบปีผ่านไป

หานเจวี๋ยเพิ่งสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจและจอมปีศาจอินทรีทองเสร็จ เขาจึงนำจิตรับรู้เข้าสู่โลกอนธการในส่วนลึกของจิตวิญญาณ

วิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลถูกมหามรรคเวียนว่ายตายเกิดคุมขังไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เมื่อสัมผัสได้ว่าจิตดั้งเดิมของหานเจวี๋ยกำลังจับจ้องตน จอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ตะโกนขึ้นมาอย่างลนลานว่า “อย่าฆ่าข้า ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าเคยให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้าก็ปฏิเสธได้ แต่เจ้ากลับอาศัยอยู่ในโลกเขย่าพิภพของข้า หากเป็นเจ้า เจ้าจะยอมให้จักรพรรดิเซียนแปลกหน้าคนอื่นอาศัยอยู่ในดินแดนของเจ้าหรือ”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ข้ายินดีที่จะเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้น!”

ช่วงเวลาที่ถูกกักขังนี้ เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

ปราณแห่งอนธการที่มีอยู่ในโลกอนธการแห่งนี้กำลังกัดกินจิตวิญญาณของเขาไม่ว่างเว้นตลอดเวลา ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน

“จริงหรือ ในใจเจ้ายังคงเกลียดข้าอยู่กระมัง” หานเจวี๋ยแค่นเสียงกล่าว

จอมปีศาจคุกรัตติกาลตะโกนร้องว่า “ไม่ใช่! จะเป็นไปได้อย่างไร!”

ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่ระดับความเกลียดชังกลับไม่ได้ลดลงเลย

หนทางของเจ้าหมอนี่ยังคับแคบอยู่ ไม่รู้จักความเท่ามารสวรรค์เบิกฟ้าเอาเสียเลย

“ลองดูไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้า”

หานเจวี๋ยทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้นก่อนที่จะตัดการเชื่อมต่อพลังจิต

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเป็นจักรพรรดิเซียนห้าวัฏ ไม่อาจที่จะดูเบาได้ หานเจวี๋ยต้องเพิ่มตราประทับหกวิถีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสมบูรณ์

ภายในถ้ำเทวา หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

เขาหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาตรวจดู อันดับของโลกเขย่าพิภพได้ไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่สามสิบเก้าแล้ว

ตบะที่สูงสุดในโลกมนุษย์ทะยานขึ้นไปถึงเซียนพิภพไท่อี่ระยะปลาย และหากเอ่ยถึงพลังการต่อสู้ที่สูงที่สุดอันที่จริงก็ไม่คู่ควรกับลำดับที่สามสิบเก้านัก

แต่ว่าโลกเขย่าพิภพมีสรรพชีวิตมากมาย ผู้บำเพ็ญระดับเซียนอิสระ ระดับมหายานและระดับฝ่าด่านเคราะห์แทบจะถือกำเนิดวันละคน

เมื่อทอดสายตามองดูทั่วทั้งโลกเขย่าพิภพ การต่อสู้มีไม่สู้เมื่อก่อน ภายใต้การส่งเสริมในเงามืดของพุทธะอาภรณ์ขาว ทั่วใต้หล้าล้วนก่อกระแสบำเพ็ญตบะอย่างบ้าคลั่ง

การเพิ่มขึ้นของพลังวิญญาณ การแพร่กระจายของมรรถวิถีนิกายฉ่าน ทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญไม่ต้องแย่งชิงทรัพยากรในการบำเพ็ญตบะไปทั่ว ก็สามารถบำเพ็ญตบะได้อย่างสบายใจ

ไม่เพียงเช่นนี้ เกณฑ์การฝึกบำเพ็ญก็ลดลงด้วย

เมื่อเทียบกับตอนที่หานเจวี๋ยเพิ่งถือกำเนิด พลังวิญญาณของโลกเขย่าพิภพก็เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยเท่า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดก็ยังสามารถบำเพ็ญตบะได้

ระดับปราณก่อกำเนิดไม่ใช่ยอดฝีมืออีกต่อไป ถึงขั้นที่ค่อนข้างอ่อนแอด้วยซ้ำ

เมื่อหานเจวี๋ยได้รู้เรื่องทั้งหมดนี้ ก็จนปัญญาเป็นอย่างมาก

ปัญหาที่จะตามมาภายหลังคงไม่น้อยเลยทีเดียว

หานเจวี๋ยนำกายเนื้อของพุทธะพิชิตชัยออกมา ท่าทางราวกับกำลังครุ่นคิด

อู้เต้าเจี้ยนเมื่อมองเห็นพุทธะพิชิตชัย ก็อดเบิกดวงตาคู่สวยนั้นขึ้นมาไม่ได้

นางสัมผัสได้ถึงรัศมีอันน่าหวาดกลัวที่แผ่ซ่านออกมาจากกายเนื้อนี้ ตกใจจนไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา

“กายเนื้อที่แข็งแกร่งเพียงนี้ทิ้งไปก็น่าเสียดาย มอบให้ผู้อื่น ก็เกรงว่าผู้อื่นจะแบกรับไม่ไหว”

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

หรือจะกลั่นหลอมกายเนื้อของเจ้าหมอนี่ให้กลายเป็นร่างแยกวัฏจักร?

ก็ได้นี่นา

แต่ว่าต้องให้หานเจวี๋ยบรรลุถึงจักรพรรดิเซียนห้าวัฏก่อนค่อยดำเนินการ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุสุดวิสัย

วิธีการของจักรพรรดิเซียนมีมากมายเกินไป แม้ว่าวิญญาณของพุทธะพิชิตชัยจะถูกดับทำลายไปแล้ว ทว่าหากวิญญาณของเจ้าหมอนี่กลับมาเกิดใหม่ตามกาลเวลาที่ผ่านไปเล่า

หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนำกายเนื้อของพุทธะพิชิตชัยทิ้งไปในโลกอนธการ และปิดผนึกด้วยปราณแห่งอนธการและมหามรรคเวียนว่ายตายเกิด

จอมปีศาจคุกรัตติกาลมองเห็นพุทธะพิชิตชัยที่อยู่ไกลออกไปก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

“พุทธะพิชิตชัย! เป็นไปได้อย่างไรกัน!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลถูกทำให้ตกใจ

ชื่อของพุทธะพิชิตชัย กึกก้องดั่งฟ้าคำรามในแดนเซียน

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเคยพ่ายแพ้ใต้เงื้อมของมือพุทธะพิชิตชัย ก่อนหน้านี้ไม่นานได้ยินมาว่าพุทธะพิชิตชัยตกตาย เขาก็ดีใจแทบแย่

แต่คิดไม่ถึงว่าพุทธะพิชิตชัยจะอยู่ที่นี่…

ช้าก่อน!

นั่นคือกายเนื้อ ไม่ใช่จิตวิญญาณ!

หรือว่า…

จอมปีศาจคุกรัตติกาลคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จิตวิญญาณพลันสั่นสะท้าน

[จอมปีศาจคุกรัตติกาลเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

เมื่อหานเจวี๋ยมองเห็นประโยคที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ก็อดที่จะงุนงงไม่ได้

เหตุใดถึงพุ่งไปถึงห้าดาวเลยเล่า

เขาอดไม่ได้ที่จะกดเปิดภาพประจำตัวของจอมปีศาจคุกรัตติกาลขึ้นมาตรวจดู

[จอมปีศาจคุกรัตติกาล: จักรพรรดิเซียนห้าวัฏ หนึ่งในจอมปีศาจของวังปีศาจ มาจากเผ่าหงส์คุกรัตติกาลในสมัยโบราณ เนื่องจากรู้ว่าท่านเป็นผู้สังหารพุทธะพิชิตชัย จึงเกิดความเคารพยำเกรงต่อท่านอย่างสุดซึ้ง ไม่กล้าต่อต้านท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]

หานเจวี๋ยแปลกใจ

พุทธะพิชิตชัยก็มีประโยชน์เช่นนี้ด้วยหรือ

หานเจวี๋ยกลับไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจ เขายังคงรอให้ตราประทับหกวิถีทวีความลึกซึ้งขึ้นก่อนค่อยปล่อยจอมปีศาจคุกรัตติกาลออกมา

ยมโลก

เบื้องบนแม่น้ำปรโลก

คนในชุดกันฝนผู้หนึ่งหยุดอยู่กลางอากาศ เขาปรายตามองลงไปที่แนวปะการังเล็กๆ ในทะเลเบื้องล่าง

“ตรงนี้แหละ เขามาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดลง!”

คนในชุดกันฝนถอดพลังจิตออกมา กวาดเข้าไปในแนวปะการัง

เกาะสำนักซ่อนเร้น?

เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหุ่นเชิดแห่งสวรรค์ ที่เหมือนกับหานเจวี๋ยไม่มีผิดเพี้ยน

เขากำหมัดในทันทีและเอ่ยว่า “จักรพรรดิเซียนวัฏจักร ครั้งก่อนเป็นข้าที่ประมาท ครั้งนี้ข้ายินดีมอบสิ่งที่ท่านต้องการให้ก่อน ท่านได้โปรดอย่าทอดทิ้งข้าเลยนะ!”

เขาไม่ได้รับคำตอบ ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นไปอีก

“จักรพรรดิเซียนวัฏจักร หากสิ่งที่ข้าต้องการยังมาไม่ถึง ข้าก็สามารถรอได้!”

คนในชุดกันฝนกัดฟันเอ่ย เห็นได้ชัดว่าภายในใจแบกรับความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง

หุ่นเชิดแห่งสวรรค์ที่อยู่ภายในเกาะลืมตาขึ้น หานเจวี๋ยได้ยินวาจาของคนในชุดกันฝนผ่านมัน

‘เจ้าหมอนี่ตามมาทันได้อย่างไรกัน’

……………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+