ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง

หานเจวี๋ยเริ่มทำความเข้าใจมรรคกระบี่ อาศัยมหากงล้อโชคชะตาปราณกระบี่และมรรคกระบี่เทียมฟ้าเป็นพื้นฐาน เตรียมสร้างพลังวิเศษที่มีพลังปะทุขั้นสุดยอดออกมา

เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

หากไม่สังหารเจ้านี่ หานเจวี๋ยก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ

ด้วยคุณสมบัติมรรคกระบี่และความเข้าใจในมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด หานเจวี๋ยเข้าฌานอย่างรวดเร็ว จิตรับรู้เข้าสู่สภาวะลึกล้ำบางอย่าง

มหากงล้อโชคชะตาปราณกระบี่สามารถผ่าชะตาชีวิตและกรรมได้ มรรคกระบี่เทียมฟ้าก็ทำได้เช่นกัน อย่างแรกมีคุณสมบัติในการควบคุม อย่างหลังมีคุณสมบัติระเบิดปะทุ หากสามารถใช้ผสานกันจะควบคุมศัตรูเอาไว้ ทำให้ศัตรูไม่อาจเคลื่อนไหวได้ จากนั้นค่อยสังหารภายในเสี้ยววินาทีก็ทำสำเร็จแน่นอน

ผ่านไปราวครึ่งปี จิตรับรู้ของหานเจวี๋ยมาที่แม่น้ำมรรคกระบี่

ครั้งนี้เขาเดินตามกระแสของเงาร่างไปโดยตรงเพื่อหยั่งถึงพลังวิเศษ

หลิวเป้ยมองเห็นเขาก็รีบโค้งคารวะ

หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจ

เห็นเช่นนี้หลิวเป้ยก็เข้าใจว่าร่างต้นมาฝึกบำเพ็ญ ดังนั้นจึงไม่ได้รบกวนอีก

ตลอดทางที่เดินไปข้างหน้า หานเจวี๋ยข้ามระดับหมื่นบรรพกาล ไท่อี่ จักรพรรดิ และยังเดินหน้าต่อไปไม่หยุด

หานเจวี๋ยในตอนนี้ก้าวข้ามจำนวนก้าวของเมื่อก่อนไปแล้ว แต่ยังคงไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด

ความมั่นใจของหานเจวี๋ยทะยานสูงขึ้นในฉับพลัน

‘ครั้งนี้จะต้องแข็งแกร่งจนสังหารเจ้านกเวรนั่นให้ได้!’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ และเริ่มเร่งความเร็วฝีเท้า

ร้อยก้าว

พันก้าว

รอบๆ กายหานเจวี๋ยไม่มีเงาร่างอื่นๆ อีก มีแต่เขาที่เดินไปข้างหน้าอย่างโดดเดี่ยว รอบด้านมืดมิดไปทั้งแถบ มีแค่บันไดยาวใต้ฝ่าเท้าที่ก่อตัวจากแสงกระบี่ทอดยาวไปจนถึงสุดทางเดิน

หานเจวี๋ยค่อยๆ รับรู้ได้ถึงแรงกดดัน

ทุกๆ ย่างก้าว บนร่างกายจะได้รับแรงกดดันเพิ่มทวี

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด ปราณอนธการในร่างของเขาเริ่มปั่นป่วน ดวงดารานับร้อยล้านดวงในโลกอนธการระเบิดแสงจ้า โลกเขย่าพิภพที่อยู่ในนั้นก็ถูกประกายแสงปกคลุมจนมิดด้วย

ขณะนี้ ทัศนวิสัยของสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนในโลกเขย่าพิภพทั้งใบถูกปกคลุมด้วยม่านแสงอันแข็งแกร่ง ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่อาจมองเห็นสิ่งใด ทั่วหล้าเกิดความโกลาหล

พุทธะอาภรณ์ขาวตกใจ แต่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหานเจวี๋ยจึงวางใจลง

แม้ไม่รู้แน่ชัดว่าหานเจวี๋ยทำอะไรอยู่ แต่หานเจวี๋ยจะไม่ทำร้ายโลกเขย่าพิภพแน่นอน

หลังเดินหน้าไปอีกราวหลายร้อยก้าว ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ต้านแรงกดดันไม่ไหว

แรงกดดันมหาศาลทำให้เขารู้สึกราวกับโลกหมุน ทัศนวิสัยพร่ามัว ท่ามกลางความเลือนราง เขามองเห็นแผ่นหลังคนผู้หนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า มือถือกระบี่ยาว ยืนขวางอยู่ตรงจุดสิ้นสุดของแม่น้ำมรรคกระบี่ประดุจผู้เฝ้าประตู

หานเจวี๋ยไม่ทันได้คิดอะไรมากก็ถูกแม่น้ำมรรคกระบี่ขับไล่ออกมา

ขณะตกอยู่ในภวังค์ จิตรับรู้ของเขากลับสู่กายเนื้อ ความทรงจำมหาศาลทะลักเข้าสู่สมองของเขา เกือบจะเท่าพลังโจมตีของความทรงจำตอนที่รู้แจ้งมหามรรควัฏจักรอนธการในตอนนั้น

ขณะเดียวกัน

แดนเซียนและท้องฟ้าของปวงสวรรค์หมื่นโลกาเต็มไปด้วยแสงสีม่วง โลกเขย่าพิภพก็เป็นเช่นนี้ เมื่อสรรพสัตว์สามารถมองเห็นสรรพสิ่งได้ สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือแสงสีม่วงบนฟ้า

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายแตกตื่นฮือฮา!

……

แดนเซียน เหนือท้องนภา

เจ้าแห่งวังเทพเดินอยู่บนตำหนักเมฆาอย่างช้าๆ โดยมีลูกศิษย์วังเทพหลายสิบคนเดินตามหลัง

ยามที่ท้องนภาเกิดประกายแสงสีม่วงในฉับพลัน เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

“นี่คือกลิ่นอายของระดับเทพ ไม่ถูกต้อง มีคนกำลังบรรลุพลังวิเศษระดับเทพ!”

เจ้าแห่งวังเทพกล่าวพึมพำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เขารับรู้ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาจากวังเทพ และก็ไม่ได้มาจากแดนเซียนด้วย

แต่เป็น…ยมโลก!

หรือว่ายมโลกก็เข้าร่วมเคราะห์ด้วย?

ลูกศิษย์วังเทพคนหนึ่งอดถามไม่ได้ว่า “เจ้าวัง ปรากฏการณ์ในครั้งนี้คือลางบอกเหตุอันใด”

เจ้าแห่งวังเทพกล่าว “อาจจะเป็นผู้ฝ่าเคราะห์”

ผู้ฝ่าเคราะห์?

บรรดาศิษย์ตกใจมาก มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้ฝ่าเคราะห์ยังไม่ปรากฏตัวเสียที กระทั่งมีคนจำนวนไม่น้อยคิดแล้วว่าจักรพรรดิปีศาจคือผู้ฝ่าเคราะห์

เจ้าแห่งวังเทพมีสีหน้าเงียบขรึม ขณะนี้วังปีศาจมีอานุภาพที่ไม่อาจต้านทานได้ แต่กลับไม่มีผู้ฝ่าเคราะห์ นี่หมายความว่าอย่างไร

เขาไม่กล้าคิดให้ละเอียดกว่านี้

……

วังปีศาจ ภายในตำหนักของจักรพรรดิปีศาจ

จักรพรรดิปีศาจที่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญอยู่พลันลืมตาขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วมองผืนฟ้าเมฆสีม่วงนอกตำหนัก

เขาคำนวณได้ว่ามีคนกำลังบรรลุพลังวิเศษ อีกทั้งมาจากยมโลกเสียด้วย แต่รายละเอียดว่าเป็นใครเขาไม่อาจคำนวณได้

“ดีมาก ยมโลก ดูท่าพวกเจ้าก็คิดจะเข้ามาแทรกแซงด้วย” จักรพรรดิปีศาจพึมพำ

ขณะนี้พลังอำนาจของวังปีศาจกำลังรุ่งเรือง ยมโลกก็พลันโผล่หน้าออกมา แรงกดดันของจักรพรรดิปีศาจย่อมเพิ่มขึ้นสูงในฉับพลัน

วังปีศาจดูเหมือนจะต้านทานวังสวรรค์ สำนักพุทธ และวังเทพอยู่เพียงลำพัง ทั้งยังได้เปรียบกว่า แต่ความจริงแล้วเหนื่อยยากหาที่เปรียบมิได้ สามารถล่มสลายได้ตลอดเวลา

เผ่าพันธุ์บรรพกาลต่างๆ ล้วนมีใจทะเยอทะยาน จักรพรรดิปีศาจไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็อาจถูกพวกเขาทอดทิ้งได้ทุกเมื่อ

จักรพรรดิปีศาจนั่งไม่ติด ลุกขึ้นและออกไปจากตำหนักใหญ่อย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่หานเจวี๋ยทำให้เกิดขึ้นยังผลให้กลุ่มอิทธิพลใหญ่ฝ่ายต่างๆ ในแดนเซียนตื่นตกใจ

แต่เนื่องจากการปิดกั้นของอาณาเขตเต๋ารวมทั้งพลังวิเศษแห่งกรรมที่หานเจวี๋ยฝึกฝน ทำให้ไม่มีคนคำนวณพบว่าเป็นเขา

……

ผ่านไปเนิ่นนาน

จิตรับรู้หานเจวี๋ยตื่นขึ้นมา เขาลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสว่างที่น่าหวาดกลัวสาดจ้าออกจากดวงตาของเขา

‘เป็นพลังวิเศษที่ร้ายกาจมาก! ข้าชอบ!’

[ตรวจสอบพบว่าท่านสร้างพลังวิเศษระดับเทพขึ้นเป็นครั้งแรก ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสู่สวรรค์ทันที อาศัยพลังวิเศษนี้สร้างชื่อเสียงสะท้านไปทั่วแดนเซียน จะได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวฝึกฝนเงียบ ๆ หลีกหนีจากความผิดถูก จะได้รับยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองอย่างไม่ลังเล

[ยินดีด้วย ท่านได้รับยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ—เข็มขัดโลหิตลัญจกรทอง]

[เข็มขัดโลหิตลัญกรทอง: ยอดสมบัติป้องกันมรรคจักรพรรดิ ดูดซับปราณในฟ้าดินโดยอัตโนมัติ เมื่อเจ้าของถูกจู่โจมจะต้านทานการโจมตีได้เองทันที สามารถต้านทานได้มากสุดคือการโจมตีเต็มกำลังของจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ]

ยอดสมบัติป้องกัน!

มันจะเจ๋งเกินไปแล้วกระมัง!

หานเจวี๋ยยิ้มพอใจ จากนั้นก็เริ่มลูบคางครุ่นคิด

“เรียกว่ายอดปราณกระบี่ก็แล้วกัน”

หานเจวี๋ยยิ้มด้วยความพอใจอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการตั้งชื่อ

อู้เต้าเจี้ยนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ยอดปราณกระบี่คือสิ่งใด พลังวิเศษหรือเจ้าคะ”

“ใช่ เป็นอย่างไรบ้าง”

“ธรรมดา”

“หือ?”

“ไพเราะที่สุดเลย!”

หานเจวี๋ยทำเสียงขึ้นจมูก จากนั้นจึงใช้แบบจำลองการทดสอบเข้าต่อสู้กับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

สิบนาทีต่อมา

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง

แม้ว่าพลังวิเศษจะแข็งแกร่ง แต่ยังไม่อาจสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้ภายในเสี้ยววินาที สาเหตุมาจากขอบเขตพลังที่ห่างกันมากเกินไป

แต่เมื่อหานเจวี๋ยแสดงยอดปราณกระบี่อย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงสามารถสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้

แต่ปัญหาคือ…

เวลาสิบนาทีมันนานเกินไป!

หานเจวี๋ยเผยสีหน้าเจ็บปวดใจ

‘ไม่ได้! ล้มเหลวเกินไป!’

หานเจวี๋ยตัดสินใจทำความเข้าใจพลังวิเศษต่อ ทำให้พลังวิเศษมรรคกระบี่ของเขาทั้งหมดยกระดับไปถึงขีดสูงสุดที่บรรลุได้ในขณะนี้

อีกสี่ปีต่อมา ปวงสวรรค์หมื่นโลกาเกิดปรากฏการณ์แสงสีม่วงปกคลุมเต็มฟ้าติดต่อกัน

สรรพสัตว์ล้วนตระหนักได้ว่าผู้ฝ่าเคราะห์จะมาแล้ว!

อีกทั้งผู้ฝ่าเคราะห์ผู้นี้ยังแข็งแกร่งเกินจะเปรียบ สามารถสร้างสรรค์พลังวิเศษระดับเทพได้อย่างง่ายดาย จะต้องเป็นการดำรงอยู่ที่ไร้เทียมทานในระดับเทพแน่นอน

วังปีศาจตกใจมาก การรุกโจมตีไม่ฮึกเหิมดุดันเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

วังเทพและสำนักพุทธก็ไม่กล้าโจมตีวังปีศาจอีก ฝ่ายวังสวรรค์กลับโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง เพราะอย่างไรเสียวังปีศาจก็กัดพวกเขาจนเจียนตายที่สุด

ในชั่วเวลานั้น สายตาของปวงสวรรค์หมื่นโลกาตกอยู่ที่ยมโลก

ผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลกนี่เอง!

……

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้

เขาบรรลุถึงขีดสูงสุดแล้ว แต่การสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตยังต้องใช้เวลาหลายนาที อย่างนี้จะทำเช่นไรดี

เวลาหลายนาทีอาจเกิดเรื่องต่างๆ ได้มากมาย ไม่แน่ว่าบรรดาเฒ่าประหลาดของเผ่าอีกาทองอาจจะมาสนับสนุนก็เป็นได้

‘ช่างเถอะๆ ฝึกบำเพ็ญก่อน สาปแช่งเขาเป็นครั้งคราว สาปจนพลังมรรคของเขาลดลงต่อไป’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ ในใจ เขาไม่มีทางเลี่ยงเลย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 286 ยอดปราณกระบี่ ผู้ฝ่าเคราะห์ทำให้ปวงสวรรค์ตกตะลึง

หานเจวี๋ยเริ่มทำความเข้าใจมรรคกระบี่ อาศัยมหากงล้อโชคชะตาปราณกระบี่และมรรคกระบี่เทียมฟ้าเป็นพื้นฐาน เตรียมสร้างพลังวิเศษที่มีพลังปะทุขั้นสุดยอดออกมา

เป้าหมายของเขาในตอนนี้คือสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

หากไม่สังหารเจ้านี่ หานเจวี๋ยก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ

ด้วยคุณสมบัติมรรคกระบี่และความเข้าใจในมรรคกระบี่ขั้นสูงสุด หานเจวี๋ยเข้าฌานอย่างรวดเร็ว จิตรับรู้เข้าสู่สภาวะลึกล้ำบางอย่าง

มหากงล้อโชคชะตาปราณกระบี่สามารถผ่าชะตาชีวิตและกรรมได้ มรรคกระบี่เทียมฟ้าก็ทำได้เช่นกัน อย่างแรกมีคุณสมบัติในการควบคุม อย่างหลังมีคุณสมบัติระเบิดปะทุ หากสามารถใช้ผสานกันจะควบคุมศัตรูเอาไว้ ทำให้ศัตรูไม่อาจเคลื่อนไหวได้ จากนั้นค่อยสังหารภายในเสี้ยววินาทีก็ทำสำเร็จแน่นอน

ผ่านไปราวครึ่งปี จิตรับรู้ของหานเจวี๋ยมาที่แม่น้ำมรรคกระบี่

ครั้งนี้เขาเดินตามกระแสของเงาร่างไปโดยตรงเพื่อหยั่งถึงพลังวิเศษ

หลิวเป้ยมองเห็นเขาก็รีบโค้งคารวะ

หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจ

เห็นเช่นนี้หลิวเป้ยก็เข้าใจว่าร่างต้นมาฝึกบำเพ็ญ ดังนั้นจึงไม่ได้รบกวนอีก

ตลอดทางที่เดินไปข้างหน้า หานเจวี๋ยข้ามระดับหมื่นบรรพกาล ไท่อี่ จักรพรรดิ และยังเดินหน้าต่อไปไม่หยุด

หานเจวี๋ยในตอนนี้ก้าวข้ามจำนวนก้าวของเมื่อก่อนไปแล้ว แต่ยังคงไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด

ความมั่นใจของหานเจวี๋ยทะยานสูงขึ้นในฉับพลัน

‘ครั้งนี้จะต้องแข็งแกร่งจนสังหารเจ้านกเวรนั่นให้ได้!’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ และเริ่มเร่งความเร็วฝีเท้า

ร้อยก้าว

พันก้าว

รอบๆ กายหานเจวี๋ยไม่มีเงาร่างอื่นๆ อีก มีแต่เขาที่เดินไปข้างหน้าอย่างโดดเดี่ยว รอบด้านมืดมิดไปทั้งแถบ มีแค่บันไดยาวใต้ฝ่าเท้าที่ก่อตัวจากแสงกระบี่ทอดยาวไปจนถึงสุดทางเดิน

หานเจวี๋ยค่อยๆ รับรู้ได้ถึงแรงกดดัน

ทุกๆ ย่างก้าว บนร่างกายจะได้รับแรงกดดันเพิ่มทวี

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด ปราณอนธการในร่างของเขาเริ่มปั่นป่วน ดวงดารานับร้อยล้านดวงในโลกอนธการระเบิดแสงจ้า โลกเขย่าพิภพที่อยู่ในนั้นก็ถูกประกายแสงปกคลุมจนมิดด้วย

ขณะนี้ ทัศนวิสัยของสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนในโลกเขย่าพิภพทั้งใบถูกปกคลุมด้วยม่านแสงอันแข็งแกร่ง ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่อาจมองเห็นสิ่งใด ทั่วหล้าเกิดความโกลาหล

พุทธะอาภรณ์ขาวตกใจ แต่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหานเจวี๋ยจึงวางใจลง

แม้ไม่รู้แน่ชัดว่าหานเจวี๋ยทำอะไรอยู่ แต่หานเจวี๋ยจะไม่ทำร้ายโลกเขย่าพิภพแน่นอน

หลังเดินหน้าไปอีกราวหลายร้อยก้าว ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ต้านแรงกดดันไม่ไหว

แรงกดดันมหาศาลทำให้เขารู้สึกราวกับโลกหมุน ทัศนวิสัยพร่ามัว ท่ามกลางความเลือนราง เขามองเห็นแผ่นหลังคนผู้หนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้า มือถือกระบี่ยาว ยืนขวางอยู่ตรงจุดสิ้นสุดของแม่น้ำมรรคกระบี่ประดุจผู้เฝ้าประตู

หานเจวี๋ยไม่ทันได้คิดอะไรมากก็ถูกแม่น้ำมรรคกระบี่ขับไล่ออกมา

ขณะตกอยู่ในภวังค์ จิตรับรู้ของเขากลับสู่กายเนื้อ ความทรงจำมหาศาลทะลักเข้าสู่สมองของเขา เกือบจะเท่าพลังโจมตีของความทรงจำตอนที่รู้แจ้งมหามรรควัฏจักรอนธการในตอนนั้น

ขณะเดียวกัน

แดนเซียนและท้องฟ้าของปวงสวรรค์หมื่นโลกาเต็มไปด้วยแสงสีม่วง โลกเขย่าพิภพก็เป็นเช่นนี้ เมื่อสรรพสัตว์สามารถมองเห็นสรรพสิ่งได้ สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือแสงสีม่วงบนฟ้า

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายแตกตื่นฮือฮา!

……

แดนเซียน เหนือท้องนภา

เจ้าแห่งวังเทพเดินอยู่บนตำหนักเมฆาอย่างช้าๆ โดยมีลูกศิษย์วังเทพหลายสิบคนเดินตามหลัง

ยามที่ท้องนภาเกิดประกายแสงสีม่วงในฉับพลัน เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

“นี่คือกลิ่นอายของระดับเทพ ไม่ถูกต้อง มีคนกำลังบรรลุพลังวิเศษระดับเทพ!”

เจ้าแห่งวังเทพกล่าวพึมพำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เขารับรู้ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มาจากวังเทพ และก็ไม่ได้มาจากแดนเซียนด้วย

แต่เป็น…ยมโลก!

หรือว่ายมโลกก็เข้าร่วมเคราะห์ด้วย?

ลูกศิษย์วังเทพคนหนึ่งอดถามไม่ได้ว่า “เจ้าวัง ปรากฏการณ์ในครั้งนี้คือลางบอกเหตุอันใด”

เจ้าแห่งวังเทพกล่าว “อาจจะเป็นผู้ฝ่าเคราะห์”

ผู้ฝ่าเคราะห์?

บรรดาศิษย์ตกใจมาก มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้ฝ่าเคราะห์ยังไม่ปรากฏตัวเสียที กระทั่งมีคนจำนวนไม่น้อยคิดแล้วว่าจักรพรรดิปีศาจคือผู้ฝ่าเคราะห์

เจ้าแห่งวังเทพมีสีหน้าเงียบขรึม ขณะนี้วังปีศาจมีอานุภาพที่ไม่อาจต้านทานได้ แต่กลับไม่มีผู้ฝ่าเคราะห์ นี่หมายความว่าอย่างไร

เขาไม่กล้าคิดให้ละเอียดกว่านี้

……

วังปีศาจ ภายในตำหนักของจักรพรรดิปีศาจ

จักรพรรดิปีศาจที่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญอยู่พลันลืมตาขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้วมองผืนฟ้าเมฆสีม่วงนอกตำหนัก

เขาคำนวณได้ว่ามีคนกำลังบรรลุพลังวิเศษ อีกทั้งมาจากยมโลกเสียด้วย แต่รายละเอียดว่าเป็นใครเขาไม่อาจคำนวณได้

“ดีมาก ยมโลก ดูท่าพวกเจ้าก็คิดจะเข้ามาแทรกแซงด้วย” จักรพรรดิปีศาจพึมพำ

ขณะนี้พลังอำนาจของวังปีศาจกำลังรุ่งเรือง ยมโลกก็พลันโผล่หน้าออกมา แรงกดดันของจักรพรรดิปีศาจย่อมเพิ่มขึ้นสูงในฉับพลัน

วังปีศาจดูเหมือนจะต้านทานวังสวรรค์ สำนักพุทธ และวังเทพอยู่เพียงลำพัง ทั้งยังได้เปรียบกว่า แต่ความจริงแล้วเหนื่อยยากหาที่เปรียบมิได้ สามารถล่มสลายได้ตลอดเวลา

เผ่าพันธุ์บรรพกาลต่างๆ ล้วนมีใจทะเยอทะยาน จักรพรรดิปีศาจไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็อาจถูกพวกเขาทอดทิ้งได้ทุกเมื่อ

จักรพรรดิปีศาจนั่งไม่ติด ลุกขึ้นและออกไปจากตำหนักใหญ่อย่างรวดเร็ว

ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่หานเจวี๋ยทำให้เกิดขึ้นยังผลให้กลุ่มอิทธิพลใหญ่ฝ่ายต่างๆ ในแดนเซียนตื่นตกใจ

แต่เนื่องจากการปิดกั้นของอาณาเขตเต๋ารวมทั้งพลังวิเศษแห่งกรรมที่หานเจวี๋ยฝึกฝน ทำให้ไม่มีคนคำนวณพบว่าเป็นเขา

……

ผ่านไปเนิ่นนาน

จิตรับรู้หานเจวี๋ยตื่นขึ้นมา เขาลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสว่างที่น่าหวาดกลัวสาดจ้าออกจากดวงตาของเขา

‘เป็นพลังวิเศษที่ร้ายกาจมาก! ข้าชอบ!’

[ตรวจสอบพบว่าท่านสร้างพลังวิเศษระดับเทพขึ้นเป็นครั้งแรก ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสู่สวรรค์ทันที อาศัยพลังวิเศษนี้สร้างชื่อเสียงสะท้านไปทั่วแดนเซียน จะได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวฝึกฝนเงียบ ๆ หลีกหนีจากความผิดถูก จะได้รับยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองอย่างไม่ลังเล

[ยินดีด้วย ท่านได้รับยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ—เข็มขัดโลหิตลัญจกรทอง]

[เข็มขัดโลหิตลัญกรทอง: ยอดสมบัติป้องกันมรรคจักรพรรดิ ดูดซับปราณในฟ้าดินโดยอัตโนมัติ เมื่อเจ้าของถูกจู่โจมจะต้านทานการโจมตีได้เองทันที สามารถต้านทานได้มากสุดคือการโจมตีเต็มกำลังของจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ]

ยอดสมบัติป้องกัน!

มันจะเจ๋งเกินไปแล้วกระมัง!

หานเจวี๋ยยิ้มพอใจ จากนั้นก็เริ่มลูบคางครุ่นคิด

“เรียกว่ายอดปราณกระบี่ก็แล้วกัน”

หานเจวี๋ยยิ้มด้วยความพอใจอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้มีพรสวรรค์ในการตั้งชื่อ

อู้เต้าเจี้ยนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ยอดปราณกระบี่คือสิ่งใด พลังวิเศษหรือเจ้าคะ”

“ใช่ เป็นอย่างไรบ้าง”

“ธรรมดา”

“หือ?”

“ไพเราะที่สุดเลย!”

หานเจวี๋ยทำเสียงขึ้นจมูก จากนั้นจึงใช้แบบจำลองการทดสอบเข้าต่อสู้กับจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

สิบนาทีต่อมา

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง

แม้ว่าพลังวิเศษจะแข็งแกร่ง แต่ยังไม่อาจสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้ภายในเสี้ยววินาที สาเหตุมาจากขอบเขตพลังที่ห่างกันมากเกินไป

แต่เมื่อหานเจวี๋ยแสดงยอดปราณกระบี่อย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงสามารถสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตได้

แต่ปัญหาคือ…

เวลาสิบนาทีมันนานเกินไป!

หานเจวี๋ยเผยสีหน้าเจ็บปวดใจ

‘ไม่ได้! ล้มเหลวเกินไป!’

หานเจวี๋ยตัดสินใจทำความเข้าใจพลังวิเศษต่อ ทำให้พลังวิเศษมรรคกระบี่ของเขาทั้งหมดยกระดับไปถึงขีดสูงสุดที่บรรลุได้ในขณะนี้

อีกสี่ปีต่อมา ปวงสวรรค์หมื่นโลกาเกิดปรากฏการณ์แสงสีม่วงปกคลุมเต็มฟ้าติดต่อกัน

สรรพสัตว์ล้วนตระหนักได้ว่าผู้ฝ่าเคราะห์จะมาแล้ว!

อีกทั้งผู้ฝ่าเคราะห์ผู้นี้ยังแข็งแกร่งเกินจะเปรียบ สามารถสร้างสรรค์พลังวิเศษระดับเทพได้อย่างง่ายดาย จะต้องเป็นการดำรงอยู่ที่ไร้เทียมทานในระดับเทพแน่นอน

วังปีศาจตกใจมาก การรุกโจมตีไม่ฮึกเหิมดุดันเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

วังเทพและสำนักพุทธก็ไม่กล้าโจมตีวังปีศาจอีก ฝ่ายวังสวรรค์กลับโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง เพราะอย่างไรเสียวังปีศาจก็กัดพวกเขาจนเจียนตายที่สุด

ในชั่วเวลานั้น สายตาของปวงสวรรค์หมื่นโลกาตกอยู่ที่ยมโลก

ผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลกนี่เอง!

……

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้

เขาบรรลุถึงขีดสูงสุดแล้ว แต่การสังหารจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตยังต้องใช้เวลาหลายนาที อย่างนี้จะทำเช่นไรดี

เวลาหลายนาทีอาจเกิดเรื่องต่างๆ ได้มากมาย ไม่แน่ว่าบรรดาเฒ่าประหลาดของเผ่าอีกาทองอาจจะมาสนับสนุนก็เป็นได้

‘ช่างเถอะๆ ฝึกบำเพ็ญก่อน สาปแช่งเขาเป็นครั้งคราว สาปจนพลังมรรคของเขาลดลงต่อไป’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ ในใจ เขาไม่มีทางเลี่ยงเลย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+