ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์

สิบปีต่อมา

ตบะของหานเจวี๋ยบรรลุผลไปอีกช่วงหนึ่งแล้ว เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และเริ่มต้อนรับขับสู้จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

เจ้านี่ยังคงไม่ไปจากยมโลก บรรดาศิษย์สำนักซ่อนเร้นมักได้ยินเสียงร้องคำรามของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตดังมาจากที่ไกลๆ

ดูท่าทางจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตจะแน่ใจแล้วว่าหานเจวี๋ยหลบอยู่ในยมโลก จะต้องจับตัวเขาออกมาให้ได้

หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง ตรวจดูจดหมายไปพลาง

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x106,521

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนยมโลก ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านมรรคจิตตื่นขึ้น พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน จึงฝ่าทะลวงผนึกออกมา]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีได้หลี่เสวียนเอ้าศัตรูคู่อาฆาตของท่านช่วยไว้]

[ถูหลิงเอ๋อร์ศิษย์ของท่านละเมอฝันไปแดนบุพกาล ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากบรรพชนจอมเวท]

[เจียงอี้สหายของท่านสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ สายเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จอมปีศาจอินทรีทองศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ขอบเขตพลังลดลงมายังระดับเซียนทองไท่อี่เนื่องจากการสาปแช่งของท่าน]

[โม่จู๋สหายของท่านได้รับสมบัติบรรพกาล]

……

หานเจวี๋ยอ่านลงมาเรื่อยๆ รู้สึกว่าในช่วงนี้สถานการณ์ของสหายพัฒนาไปได้ไม่เลว

จักรพรรดิสวรรค์ตีฝ่าวงล้อมออกมา อย่างน้อยวังสวรรค์ก็ไม่พินาศ

หลังจากถูหลิงเอ๋อร์ได้รับมรดกสืบทอดจากบรรพชนจอมเวทแล้ว พลังแท้จริงก็รุดหน้าอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ทำให้เขาดีใจที่สุดคือจอมปีศาจอินทรีทองถูกเขาสาปแช่งจนร่วงลงจากระดับจักรพรรดิ

ดูแล้วจักรพรรดิเซียนก็ไม่ได้มั่นคงมากนัก พยายามจะทำให้จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตมีจุดจบเช่นเดียวกัน

หนึ่งเดือนต่อมา

หานเจวี๋ยเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทานมาตรงหน้าต้นฝูซัง

วินฉางอัน ซูฉี ถูหลิงเอ๋อร์ หลงเฮ่า ราชามังกรสามหัว ไก่คุกรัตติกาล สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ลี่เหยา มู่หรงฉี่ ฉู่ซื่อเหริน โจวหมิงเยวี่ย จอมปีศาจคุกรัตติกาล เจ้าใหญ่ เจ้ารอง พี่น้องน้ำเต้าทั้งแปด และพวกหงส์คุกรัตติกาลล้วนกำลังฝึกบำเพ็ญ

ตั้งแต่พวกหงส์คุกรัตติกาลมาที่นี่ ไก่คุกรัตติกาลไม่เอะอะโวยวายเหมือนแต่ก่อนอีก ถึงขั้นเงียบสงบลงเล็กน้อย บางทีภายในเผ่าหงส์คุกรัตติกาลเองก็มีความขัดแย้งเช่นกัน แต่หานเจวี๋ยขี้เกียจไปสนใจ นอกเสียจากว่าไก่คุกรัตติกาลจะเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อนเอง

หานเจวี๋ยยืนอยู่ตรงหน้าต้นฝูซัง ใช้พลังจิตแทรกเข้าไปในต้นฝูซัง

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ อัตราการเติบโตของต้นฝูซังก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลำต้นขยายใหญ่ขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด และมีกิ่งก้านสาขางอกออกมาไม่น้อย

หานเจวี๋ยยังจำคำแนะนำเกี่ยวกับต้นฝูซังได้

ต้นไม้เทพโลกาสวรรค์สามารถเพิ่มพลังวิญญาณฟ้าดิน หมื่นปีสามารถดึงดูดอีกาทอง ล้านปีสามารถเชื่อมทะลุถึงฟ้าดินอื่นๆ ได้

ทว่าต้นฝูซังยังไม่ถึงพันปีก็ดึงดูดอีกาทองมาแล้ว บางทีอาจจะอยู่ห่างจากการเชื่อมถึงโลกาสวรรค์อื่นๆ ไม่มากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ยังมีเถาน้ำเต้าพิภพเซียนช่วยหล่อเลี้ยงมัน กระบวนการเจริญเติบโตจึงเพิ่มความเร็วอยู่ตลอด

หานเจวี๋ยรอคอยการเชื่อมถึงโลกาสวรรค์อื่นๆ ของต้นฝูซังมาก เช่นนี้แล้วหากเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจที่ไม่อาจรับมือได้ เขาก็สามารถหนีไปได้ตลอดเวลา

“อาจารย์ ข้าอยากกลับวังสวรรค์!”

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้าง หานเจวี๋ยปรายตามองไป พบว่าคนที่พูดคือหลงเฮ่า

หลงเฮ่าที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ดูไปแล้วเหมือนจักรพรรดิสวรรค์มาก แต่ว่าความน่าเกรงขามยังห่างกันนัก

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ข้างนอกอันตรายมาก”

หลงเฮ่าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ย “ข้าได้ยินการเรียกหาจากเสด็จพ่อ วังสวรรค์ต้องการข้า”

การเรียกหาของจักรพรรดิสวรรค์?

หานเจวี๋ยพูดอะไรไม่ออกในทันที ถึงอย่างไรหลงเฮ่าก็เป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์ เพียงแค่ถูกส่งมาเลี้ยงดูที่นี่เท่านั้น เขาไม่มีอำนาจจะบังคับให้อยู่

“เจ้าอยากกลับไปจริงๆ หรือ” หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังถามออกมาอีกครั้ง

หลงเฮ่าพยักหน้า กล่าวตอบด้วยความจริงจัง “ใช่แล้ว ท่านอาจารย์!”

เขาเกิดมาก็เพื่อเป็นจักรพรรดิ เพื่อครอบงำทุกสิ่ง!

ต้องซ่อนตัวมุมานะบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอด เขาอัดอั้นมานานแล้ว

ก่อนหน้านั้นไม่ได้รับการเรียกหาจากจักรพรรดิสวรรค์ เขาจึงทำได้แค่อดทนอดกลั้นไว้

ในใจของเขารอคอยการอนุญาตจากจักรพรรดิสวรรค์อยู่ตลอด

หานเจวี๋ยจับไหล่หลงเฮ่าแล้วพาอีกฝ่ายกระโจนออกจากยมโลกโดยตรง จนมาถึงกลางห้วงอากาศว่างเปล่า

ไม่รอให้หลงเฮ่าพูดอะไร หานเจวี๋ยก็หายวับไปก่อนแล้ว

หลงเฮ่ารีบก้มคารวะ ร้องเรียกอยู่สองสามที แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากหานเจวี๋ย

ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจหลงเฮ่ารู้สึกเสียใจเล็กน้อยอย่างประหลาด

“ไม่ได้ ข้าจะทำตัวเหมือนสตรีไม่ได้ ไม่อาจทำให้อาจารย์ผิดหวังได้!”

หลงเฮ่ากำมือทั้งสองข้างแน่น จากนั้นก็หมุนตัวจากไป

……

ครั้นกลับมาถึงใต้ต้นฝูซัง หานเจวี๋ยเพิ่งปรากฏตัว บรรดาศิษย์ก็พากันเข้ามาล้อมรอบ

“อาจารย์ เฮ่าเอ๋อร์ไปแล้วหรือ”

“เจ้าสำนัก เกิดเรื่องกับวังสวรรค์ใช่หรือไม่ แม้แต่โอรสจักรพรรดิสวรรค์ยังถูกเรียกตัวไป คงจะไม่มีคนให้ใช้งานแล้ว”

“หลงเฮ่าสมองมีปัญหาหรืออย่างไร ข้างนอกอันตรายขนาดนั้น!”

“ฮ่าๆ รอเขากลับมาแล้ว พวกเราจะต้องแซงหน้าเขาอย่างแน่นอน”

“คำพูดของเจ้านี้นับรวมพี่สุนัขอย่างข้าด้วยหรือเปล่า”

บรรดาศิษย์ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวจนหานเจวี๋ยปวดหัว เขาจึงโบกมือสื่อให้คนทั้งหมดขยับออกห่างจากเขา

เขาเฝ้าสังเกตต้นฝูซังต่อไป

ศิษย์สำนักซ่อนเร้นทั้งหลายเดินออกไปไกลๆ แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันต่อ

ผ่านไปเนิ่นนาน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์

ดูเหมือนต้นฝูซังจะเกิดสติปัญญาขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว!

สติปัญญานี้เบาบางและพิเศษเฉพาะมาก เหมือนพลังชีวิตจะหนีกระเจิดกระเจิงในภายในลำต้นเพื่อหลบจากหานเจวี๋ย น่าเสียดายที่เขายังคงหามันพบ

‘ต้นฝูซังจะเปลี่ยนเป็นภูตหรือ’

หานเจวี๋ยคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจปล่อยให้สติปัญญาของต้นฝูซังเติบโตไปเอง

ไม่ว่าวัตถุเทพใดๆ ก็ตามล้วนเกิดสติปัญญาของตัวเองขึ้นมา ก็เหมือนโสมวิญญาณบรรพกาลสวินฉางอันและหญ้าโลกาสวรรค์อู้เต้าเจี้ยน

บางทีต้นฝูซังอาจกลายเป็นกำลังรบสำคัญที่จะปกป้องเขาเพียรบำเพ็ญเซียนในอนาคต

หานเจวี๋ยยิ้มๆ จากนั้นก็กลับไปฝึกฝนภายในถ้ำเทวาฟ้าประทานต่อ

……

ยมโลก วังกษิติครรภ์

จี้เซียนเสินถูกโซ่ยักษ์สี่เส้นมัดแขนขาทั้งสี่ ร่างถูกดึงขึ้นไปแขวนไว้กลางอากาศ อัสนีสีดำหลายเส้นผ่าลงบนตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำลายร่างกายของเขา แม้ว่าเนื้อหนังจะถลอกปอกเปิก เขาก็ไม่ส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาสักนิด

สายตาของเขาจ้องมองตรงหน้าไม่วางตา เบื้องหน้ามีหลวงจีนร่างอ้วนนั่งขัดสมาธิอยู่บนที่นั่งดอกบัว

หลวงจีนอ้วนนุ่งห่มจีวร ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสารเมตตา มือถือลูกประคำเส้นหนึ่ง ปากก็สวดพระสูตรลึกลับ

ภายในวังมีควันสีดำแปลกประหลาดเป็นสายๆ แผ่กระจาย บางครั้งก็กลายเป็นภูตมารปีศาจประหลาด บางครั้งก็กลายเป็นพุทธาเทพ ราวกับความฝันภาพมายา

ในที่สุด จี้เซียนเสินก็เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “เจ้าจะทรมานข้าไปถึงเมื่อใด ข้าบอกแล้ว! ข้าไม่ใช่ผู้ฝ่าเคราะห์! ข้าไม่เคยคิดจะทำลายปวงสวรรค์หมื่นโลกาด้วย!”

เขาละกลัดกลุ้มจริงๆ มาช่วงชิงทหารเทพล้มเหลว เดิมทีพระกษิติครรภ์ปล่อยเขาไปแล้ว สุดท้ายไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ พระกษิติครรภ์ก็ไล่ล่าสังหารเขา นำตัวเขามาคุมขังใหม่อีกครั้ง

ประเด็นสำคัญที่สุดคือพระกษิติครรภ์คิดว่าเขาจะทำร้ายปวงสวรรค์หมื่นโลกา ดังนั้นจึงสะกดเขาไว้ตลอด

พระกษิติครรภ์เอ่ยอย่างสงบ “ผู้ฝ่าเคราะห์ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นผู้ฝ่าเคราะห์”

“เช่นนั้นเจ้าอาศัยสิ่งใดมาตัดสินว่าเป็นข้า”

“วังเทพ วังปีศาจ วังสวรรค์ และสำนักพุทธล้วนพูดกันว่าผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลก ทั้งยังรู้แจ้งพลังวิเศษอยู่บ่อยครั้ง แล้วจะไม่ใช่เจ้าได้อย่างไร”

“ข้ารู้แจ้งพลังวิเศษก็มีความผิดหรือ”

“อมิตาภพุทธ”

จี้เซียนเสินใกล้จะระเบิดโทสะออกมาแล้ว

จงใจหาเรื่องอย่างไร้เหตุผลชัดๆ พาลไม่ยอมฟังใคร!

จี้เซียนเสินกัดฟันกล่าว “ทำอย่างไรเจ้าถึงจะปล่อยข้า”

พระกษิติครรภ์บอก “อมิตาภพุทธ อาตมายอมเสียสละตนเองเพื่ออาณาประชาราษฎร์ กำราบเจ้าไปชั่วนิรันดร์”

“เจ้า…”

พระกษิติครรภ์หลับตาสวดมนต์ต่อ

จี้เซียนเสินโกรธจนกระอักเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้น

“ไม่ต้องลนลาน ข้าจะไปขอกำลังเสริมมา!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูจี้เซียนเสิน จากนั้นควันสีดำสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากร่างจี้เซียนเสินอย่างรวดเร็ว

พระกษิติครรภ์สัมผัสอะไรบางอย่างได้จึงลืมตาทันที ตะคอกเสียงต่ำว่า “เผ่ามาร!”

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 287 ต้นฝูซังเปลี่ยนเป็นภูต กำราบผู้ฝ่าเคราะห์

สิบปีต่อมา

ตบะของหานเจวี๋ยบรรลุผลไปอีกช่วงหนึ่งแล้ว เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และเริ่มต้อนรับขับสู้จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต

เจ้านี่ยังคงไม่ไปจากยมโลก บรรดาศิษย์สำนักซ่อนเร้นมักได้ยินเสียงร้องคำรามของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตดังมาจากที่ไกลๆ

ดูท่าทางจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตจะแน่ใจแล้วว่าหานเจวี๋ยหลบอยู่ในยมโลก จะต้องจับตัวเขาออกมาให้ได้

หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลาง ตรวจดูจดหมายไปพลาง

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x106,521

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนยมโลก ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านมรรคจิตตื่นขึ้น พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน จึงฝ่าทะลวงผนึกออกมา]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีได้หลี่เสวียนเอ้าศัตรูคู่อาฆาตของท่านช่วยไว้]

[ถูหลิงเอ๋อร์ศิษย์ของท่านละเมอฝันไปแดนบุพกาล ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากบรรพชนจอมเวท]

[เจียงอี้สหายของท่านสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ สายเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จอมปีศาจอินทรีทองศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ขอบเขตพลังลดลงมายังระดับเซียนทองไท่อี่เนื่องจากการสาปแช่งของท่าน]

[โม่จู๋สหายของท่านได้รับสมบัติบรรพกาล]

……

หานเจวี๋ยอ่านลงมาเรื่อยๆ รู้สึกว่าในช่วงนี้สถานการณ์ของสหายพัฒนาไปได้ไม่เลว

จักรพรรดิสวรรค์ตีฝ่าวงล้อมออกมา อย่างน้อยวังสวรรค์ก็ไม่พินาศ

หลังจากถูหลิงเอ๋อร์ได้รับมรดกสืบทอดจากบรรพชนจอมเวทแล้ว พลังแท้จริงก็รุดหน้าอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ทำให้เขาดีใจที่สุดคือจอมปีศาจอินทรีทองถูกเขาสาปแช่งจนร่วงลงจากระดับจักรพรรดิ

ดูแล้วจักรพรรดิเซียนก็ไม่ได้มั่นคงมากนัก พยายามจะทำให้จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตมีจุดจบเช่นเดียวกัน

หนึ่งเดือนต่อมา

หานเจวี๋ยเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทานมาตรงหน้าต้นฝูซัง

วินฉางอัน ซูฉี ถูหลิงเอ๋อร์ หลงเฮ่า ราชามังกรสามหัว ไก่คุกรัตติกาล สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ลี่เหยา มู่หรงฉี่ ฉู่ซื่อเหริน โจวหมิงเยวี่ย จอมปีศาจคุกรัตติกาล เจ้าใหญ่ เจ้ารอง พี่น้องน้ำเต้าทั้งแปด และพวกหงส์คุกรัตติกาลล้วนกำลังฝึกบำเพ็ญ

ตั้งแต่พวกหงส์คุกรัตติกาลมาที่นี่ ไก่คุกรัตติกาลไม่เอะอะโวยวายเหมือนแต่ก่อนอีก ถึงขั้นเงียบสงบลงเล็กน้อย บางทีภายในเผ่าหงส์คุกรัตติกาลเองก็มีความขัดแย้งเช่นกัน แต่หานเจวี๋ยขี้เกียจไปสนใจ นอกเสียจากว่าไก่คุกรัตติกาลจะเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อนเอง

หานเจวี๋ยยืนอยู่ตรงหน้าต้นฝูซัง ใช้พลังจิตแทรกเข้าไปในต้นฝูซัง

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ อัตราการเติบโตของต้นฝูซังก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลำต้นขยายใหญ่ขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด และมีกิ่งก้านสาขางอกออกมาไม่น้อย

หานเจวี๋ยยังจำคำแนะนำเกี่ยวกับต้นฝูซังได้

ต้นไม้เทพโลกาสวรรค์สามารถเพิ่มพลังวิญญาณฟ้าดิน หมื่นปีสามารถดึงดูดอีกาทอง ล้านปีสามารถเชื่อมทะลุถึงฟ้าดินอื่นๆ ได้

ทว่าต้นฝูซังยังไม่ถึงพันปีก็ดึงดูดอีกาทองมาแล้ว บางทีอาจจะอยู่ห่างจากการเชื่อมถึงโลกาสวรรค์อื่นๆ ไม่มากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ยังมีเถาน้ำเต้าพิภพเซียนช่วยหล่อเลี้ยงมัน กระบวนการเจริญเติบโตจึงเพิ่มความเร็วอยู่ตลอด

หานเจวี๋ยรอคอยการเชื่อมถึงโลกาสวรรค์อื่นๆ ของต้นฝูซังมาก เช่นนี้แล้วหากเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจที่ไม่อาจรับมือได้ เขาก็สามารถหนีไปได้ตลอดเวลา

“อาจารย์ ข้าอยากกลับวังสวรรค์!”

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้าง หานเจวี๋ยปรายตามองไป พบว่าคนที่พูดคือหลงเฮ่า

หลงเฮ่าที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ดูไปแล้วเหมือนจักรพรรดิสวรรค์มาก แต่ว่าความน่าเกรงขามยังห่างกันนัก

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “ข้างนอกอันตรายมาก”

หลงเฮ่าสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ย “ข้าได้ยินการเรียกหาจากเสด็จพ่อ วังสวรรค์ต้องการข้า”

การเรียกหาของจักรพรรดิสวรรค์?

หานเจวี๋ยพูดอะไรไม่ออกในทันที ถึงอย่างไรหลงเฮ่าก็เป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์ เพียงแค่ถูกส่งมาเลี้ยงดูที่นี่เท่านั้น เขาไม่มีอำนาจจะบังคับให้อยู่

“เจ้าอยากกลับไปจริงๆ หรือ” หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังถามออกมาอีกครั้ง

หลงเฮ่าพยักหน้า กล่าวตอบด้วยความจริงจัง “ใช่แล้ว ท่านอาจารย์!”

เขาเกิดมาก็เพื่อเป็นจักรพรรดิ เพื่อครอบงำทุกสิ่ง!

ต้องซ่อนตัวมุมานะบำเพ็ญเพียรอยู่ตลอด เขาอัดอั้นมานานแล้ว

ก่อนหน้านั้นไม่ได้รับการเรียกหาจากจักรพรรดิสวรรค์ เขาจึงทำได้แค่อดทนอดกลั้นไว้

ในใจของเขารอคอยการอนุญาตจากจักรพรรดิสวรรค์อยู่ตลอด

หานเจวี๋ยจับไหล่หลงเฮ่าแล้วพาอีกฝ่ายกระโจนออกจากยมโลกโดยตรง จนมาถึงกลางห้วงอากาศว่างเปล่า

ไม่รอให้หลงเฮ่าพูดอะไร หานเจวี๋ยก็หายวับไปก่อนแล้ว

หลงเฮ่ารีบก้มคารวะ ร้องเรียกอยู่สองสามที แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากหานเจวี๋ย

ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจหลงเฮ่ารู้สึกเสียใจเล็กน้อยอย่างประหลาด

“ไม่ได้ ข้าจะทำตัวเหมือนสตรีไม่ได้ ไม่อาจทำให้อาจารย์ผิดหวังได้!”

หลงเฮ่ากำมือทั้งสองข้างแน่น จากนั้นก็หมุนตัวจากไป

……

ครั้นกลับมาถึงใต้ต้นฝูซัง หานเจวี๋ยเพิ่งปรากฏตัว บรรดาศิษย์ก็พากันเข้ามาล้อมรอบ

“อาจารย์ เฮ่าเอ๋อร์ไปแล้วหรือ”

“เจ้าสำนัก เกิดเรื่องกับวังสวรรค์ใช่หรือไม่ แม้แต่โอรสจักรพรรดิสวรรค์ยังถูกเรียกตัวไป คงจะไม่มีคนให้ใช้งานแล้ว”

“หลงเฮ่าสมองมีปัญหาหรืออย่างไร ข้างนอกอันตรายขนาดนั้น!”

“ฮ่าๆ รอเขากลับมาแล้ว พวกเราจะต้องแซงหน้าเขาอย่างแน่นอน”

“คำพูดของเจ้านี้นับรวมพี่สุนัขอย่างข้าด้วยหรือเปล่า”

บรรดาศิษย์ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวจนหานเจวี๋ยปวดหัว เขาจึงโบกมือสื่อให้คนทั้งหมดขยับออกห่างจากเขา

เขาเฝ้าสังเกตต้นฝูซังต่อไป

ศิษย์สำนักซ่อนเร้นทั้งหลายเดินออกไปไกลๆ แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์กันต่อ

ผ่านไปเนิ่นนาน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์

ดูเหมือนต้นฝูซังจะเกิดสติปัญญาขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว!

สติปัญญานี้เบาบางและพิเศษเฉพาะมาก เหมือนพลังชีวิตจะหนีกระเจิดกระเจิงในภายในลำต้นเพื่อหลบจากหานเจวี๋ย น่าเสียดายที่เขายังคงหามันพบ

‘ต้นฝูซังจะเปลี่ยนเป็นภูตหรือ’

หานเจวี๋ยคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจปล่อยให้สติปัญญาของต้นฝูซังเติบโตไปเอง

ไม่ว่าวัตถุเทพใดๆ ก็ตามล้วนเกิดสติปัญญาของตัวเองขึ้นมา ก็เหมือนโสมวิญญาณบรรพกาลสวินฉางอันและหญ้าโลกาสวรรค์อู้เต้าเจี้ยน

บางทีต้นฝูซังอาจกลายเป็นกำลังรบสำคัญที่จะปกป้องเขาเพียรบำเพ็ญเซียนในอนาคต

หานเจวี๋ยยิ้มๆ จากนั้นก็กลับไปฝึกฝนภายในถ้ำเทวาฟ้าประทานต่อ

……

ยมโลก วังกษิติครรภ์

จี้เซียนเสินถูกโซ่ยักษ์สี่เส้นมัดแขนขาทั้งสี่ ร่างถูกดึงขึ้นไปแขวนไว้กลางอากาศ อัสนีสีดำหลายเส้นผ่าลงบนตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง ทำลายร่างกายของเขา แม้ว่าเนื้อหนังจะถลอกปอกเปิก เขาก็ไม่ส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาสักนิด

สายตาของเขาจ้องมองตรงหน้าไม่วางตา เบื้องหน้ามีหลวงจีนร่างอ้วนนั่งขัดสมาธิอยู่บนที่นั่งดอกบัว

หลวงจีนอ้วนนุ่งห่มจีวร ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสารเมตตา มือถือลูกประคำเส้นหนึ่ง ปากก็สวดพระสูตรลึกลับ

ภายในวังมีควันสีดำแปลกประหลาดเป็นสายๆ แผ่กระจาย บางครั้งก็กลายเป็นภูตมารปีศาจประหลาด บางครั้งก็กลายเป็นพุทธาเทพ ราวกับความฝันภาพมายา

ในที่สุด จี้เซียนเสินก็เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “เจ้าจะทรมานข้าไปถึงเมื่อใด ข้าบอกแล้ว! ข้าไม่ใช่ผู้ฝ่าเคราะห์! ข้าไม่เคยคิดจะทำลายปวงสวรรค์หมื่นโลกาด้วย!”

เขาละกลัดกลุ้มจริงๆ มาช่วงชิงทหารเทพล้มเหลว เดิมทีพระกษิติครรภ์ปล่อยเขาไปแล้ว สุดท้ายไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ พระกษิติครรภ์ก็ไล่ล่าสังหารเขา นำตัวเขามาคุมขังใหม่อีกครั้ง

ประเด็นสำคัญที่สุดคือพระกษิติครรภ์คิดว่าเขาจะทำร้ายปวงสวรรค์หมื่นโลกา ดังนั้นจึงสะกดเขาไว้ตลอด

พระกษิติครรภ์เอ่ยอย่างสงบ “ผู้ฝ่าเคราะห์ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นผู้ฝ่าเคราะห์”

“เช่นนั้นเจ้าอาศัยสิ่งใดมาตัดสินว่าเป็นข้า”

“วังเทพ วังปีศาจ วังสวรรค์ และสำนักพุทธล้วนพูดกันว่าผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลก ทั้งยังรู้แจ้งพลังวิเศษอยู่บ่อยครั้ง แล้วจะไม่ใช่เจ้าได้อย่างไร”

“ข้ารู้แจ้งพลังวิเศษก็มีความผิดหรือ”

“อมิตาภพุทธ”

จี้เซียนเสินใกล้จะระเบิดโทสะออกมาแล้ว

จงใจหาเรื่องอย่างไร้เหตุผลชัดๆ พาลไม่ยอมฟังใคร!

จี้เซียนเสินกัดฟันกล่าว “ทำอย่างไรเจ้าถึงจะปล่อยข้า”

พระกษิติครรภ์บอก “อมิตาภพุทธ อาตมายอมเสียสละตนเองเพื่ออาณาประชาราษฎร์ กำราบเจ้าไปชั่วนิรันดร์”

“เจ้า…”

พระกษิติครรภ์หลับตาสวดมนต์ต่อ

จี้เซียนเสินโกรธจนกระอักเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้น

“ไม่ต้องลนลาน ข้าจะไปขอกำลังเสริมมา!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูจี้เซียนเสิน จากนั้นควันสีดำสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากร่างจี้เซียนเสินอย่างรวดเร็ว

พระกษิติครรภ์สัมผัสอะไรบางอย่างได้จึงลืมตาทันที ตะคอกเสียงต่ำว่า “เผ่ามาร!”

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+