ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร

หลังจากงุนงงไปชั่วขณะ สติรับรู้ของหานเจวี๋ยก็กลับสู่สภาพปกติ

เขาลืมตาอีกครั้ง เบื้องหน้ายังคงเป็นแม่น้ำมรรคกระบี่ เงาแสงก่อนหน้านี้ไม่อยู่แล้ว

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

แม่น้ำมรรคกระบี่นี้กลับทำให้เขาคุ้นเคยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขายังสามารถแผ่พลังจิตออกไปได้ด้วย

ความรู้สึกเช่นนี้… เสมือนกำลังสำรวจพื้นที่แหวนเก็บสมบัติของตน

นับจากนี้เป็นต้นไป เขาคือผู้พิทักษ์ของแม่น้ำมรรคกระบี่!

เขาสามารถมองเห็นใบหน้าแท้จริงของร่างที่สัญจรไปมาได้ถนัดตา เขาสามารถควบคุมพลังลึกลับของแม่น้ำมรรคกระบี่ ขับไล่คนออกไป และยังเข้าออกแม่น้ำมรรคกระบี่ได้ตามใจชอบ

นับจากนี้เป็นต้นไป แม่น้ำมรรคกระบี่กลายเป็นบ้านของเขาอย่างแท้จริงแล้ว!

เพียงแต่…

หานเจวี๋ยไม่ได้รู้สึกดีใจด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามจิตใจหนักอึ้งอย่างมาก

จั้งกูซิงดีกับเขามาก สมัยที่เขายังเด็กไม่รู้เดียงสายังเคยลงมือช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาคงถูกมรรคาสวรรค์ของแม่น้ำมรรคกระบี่กดทับตายนานแล้ว

หนำซ้ำทุกครั้งที่หานเจวี๋ยมีปัญหากลัดกลุ้ม ก็จะนึกถึงจั้งกูซิง

ทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นทั้งอาจารย์เป็นทั้งสหาย

หานเจวี๋ยเอ่ยปาก “ผู้อาวุโส ขอถามทีว่าใครจับตัวพี่ใหญ่ของข้าไป”

เขาเชื่อว่าคนผู้นั้นยังไม่จากไปไหน และเป็นดังคาดจริงๆ

“จักรพรรดิเซียนแห่งวังเทพอวี้เทียนเป่า ทำไมหรือ เจ้าอยากไปช่วยเขา? อาศัยแค่เจ้าน่ะหรือ” เสียงของเงาแสงดังมาอีกครั้ง

หานเจวี๋ยกล่าวตอบ “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเซียนเสียหน่อย ข้าเพียงแต่อยากถามให้ชัดเจน”

[ความประทับใจที่จักรพรรดิเทพกระบี่มีต่อท่านลดลง ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 2 ดาว]

หืม?

ถึงกับเป็นจักรพรรดิเทพกระบี่เลยหรือ

แค่นี้ก็ลดระดับความประทับใจแล้ว?

รู้สึกชอบกล

จักรพรรดิเทพกระบี่คาดหวังให้เขาแก้แค้นแทนจั้งกูซิงอยู่รึ กล้าคิดไปได้อย่างไร

ช้าก่อน! อย่าบอกนะว่าจักรพรรดิเทพกระบี่หวังให้ตนเชิญวังสวรรค์มาช่วยเหลือ

หานเจวี๋ยจมเข้าสู่ภวังค์ความคิด

เสียงแค่นจมูกหยามหยันของจักรพรรดิเทพกระบี่ดังขึ้นอีกครั้ง “ขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เจ้าพิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ เพียงแค่ได้รับสิทธิ์อำนาจหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะทำตามอำเภอใจได้ หากผู้ที่ขอบเขตตบะเหนือชั้นกว่าเจ้าไปไกลเข้ามาในแม่น้ำมรรคกระบี่ เจ้าก็ทำอะไรไม่ได้

อย่าได้ล่วงเกินผู้ทรงพลังเพราะเรื่องนี้”

หานเจวี๋ยเข้าใจหลักการข้อนี้ ถ้าอาศัยแม่น้ำมรรคกระบี่กระทำการกำเริบเสิบสานได้จริง จั้งกูซิงก็คงไม่ถูกจับตัว

ในความคิดของเขา แม่น้ำมรรคกระบี่ก็เหมือนบริษัทแห่งหนึ่ง เขาคือยามรักษาความปลอดภัย ยามสามารถไล่คนได้ แต่ยามไม่ใช่เจ้าของบริษัท

เขาเพียงถือกุญแจดอกหนึ่งไว้เท่านั้น!

หานเจวี๋ยคารวะไปทางเบื้องหน้า จากนั้นก็กลับมาภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

เขาเอาป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาติดต่อกับตี้ไท่ไป๋

“ผู้อาวุโส ท่านรู้จักอวี้เทียนเป่าจักรพรรดิเซียนวังเทพหรือไม่” หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงเอ่ยถามผ่านป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์

ตี้ไท่ไป๋ตอบกลับว่า “รู้จัก เป็นผู้อาวุโสทัณฑ์เทพที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ของวังเทพ ตัวเขาเป็นระดับจักรพรรดิเซียน อำนาจภายในวังเทพก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ทำไม เขาจ้องเล่นงานเจ้าหรือ”

น้ำเสียงของตี้ไท่ไป๋ค่อนข้างตึงเครียด

หานเจวี๋ยกล่าว “เขาจับตัวพี่ใหญ่คนหนึ่งของข้าไป พอมีวิธีช่วยเหลือหรือไม่”

“พี่ใหญ่? พี่ใหญ่ที่ไหนของเจ้า”

“คนผู้นั้นที่พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ นามว่าจั้งกูซิง”

“อะไรนะ! จั้งกูซิงเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า? ก็ถูก…คุณสมบัติมรรคกระบี่ของเจ้าน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ ย่อมต้องได้บังเอิญพบเขาอยู่แล้ว…”

จากนั้นตี้ไท่ไป๋ก็คิดใคร่ครวญ

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

ดูท่าทางเรื่องราวจะจัดการยาก หากเป็นที่ผ่านมาตี้ไท่ไป๋คงตอบตกลงทันทีแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง ตี้ไท่ไป๋จึงค่อยกล่าว “จั้งกูซิงเคยเป็นผู้ฝึกกระบี่อันดับหนึ่งของวังเทพ ผ่าเผยโดดเด่น ในใจเขามีเพียงกระบี่เท่านั้น เจ้าแห่งวังเทพเคยคิดอยากจับคู่บุตรสาวกับเขา แต่ถูกเขาปฏิเสธ สตรีผู้นั้นสิ้นหวังหมดกำลังใจก็เลยแต่งกับอวี้เทียนเป่าแทน

คนก็แต่งกันไปแล้ว แต่อวี้เทียนเป่ารู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าจั้งกูซิงหนึ่งช่วงมาโดยตลอด

เมื่อหลายหมื่นปีก่อน จั้งกูซิงถูกจักรพรรดิเซียนล้อมโจมตีตอนออกไปหาประสบการณ์ด้านนอก ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุใด เขาถึงละทิ้งกายเนื้อ จิตวิญญาณหนีออกจากวังเทพมายังแม่น้ำมรรคกระบี่แห่งนี้ หากคิดอยากช่วยเหลือจั้งกูซิงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ พักนี้วังสวรรค์กับวังเทพเป็นมิตรกันดี อย่างมากที่สุดก็ช่วยเจ้ารักษาชีวิตของเขาไว้ได้”

คำพูดของตี้ไท่ไป๋ทำให้หานเจวี๋ยถอนหายใจโล่งอกเบาๆ

การมีชีวิตอยู่ดีกว่าอะไรทั้งนั้น

“มีชีวิตรอดต่อไปได้ก็พอแล้ว”

เมื่อหานเจวี๋ยกล่าวเช่นนี้ ตี้ไท่ไป๋จึงรับปากเรื่องนี้

ตี้ไท่ไป๋พูดต่อว่า “เรื่องนี้มอบให้วังสวรรค์จัดการ เจ้าห้ามผลีผลามออกหน้าเด็ดขาด พรสวรรค์ของเจ้าน่าสะพรึงกลัวก็จริง แต่พลังที่แท้จริงยังไม่ไหว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเซียนเลย”

หานเจวี๋ยกล่าวตอบ “ข้าเข้าใจ”

หลังจากตัดขาดการเชื่อมต่อพลังจิต หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และเริ่มสาปแช่งอวี้เทียนเป่า

อวี้เทียนเป่าอาจจะมีหลายคน แต่อวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพมีแค่คนเดียว

หานเจวี๋ยสาปแช่งโดยอิงจากอวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพ ย่อมสาปแช่งไม่ผิดตัวแน่

……

สิบปีต่อมา

หานเจวี๋ยสาปแช่งอวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ตรวจดูจดหมายไปด้วย

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านถกมรรคกับผู้ทรงพลัง ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย พลังมรรคเพิ่มพูน]

[ตี้หงเย่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนวังเทพ] x4

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าเทพอีกาทอง] x120

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีมีผู้ทรงพลังช่วยเหลือ]

[จั้งกูซิงสหายของท่านตระหนักรู้แก่นแท้มรรคกระบี่ บรรลุพลังวิเศษมรรคาสวรรค์]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านพบกับโอกาสวาสนา ได้รับพลังภายในสูงสุดของสำนักเต๋า]

[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพปีศาจ ทั้งสำนักถูกฆ่าล้าง]

……

หานเจวี๋ยไม่เห็นจุดจบการถูกสาปแช่งของอวี้เทียนเป่าก็ค่อนข้างผิดหวัง แต่เห็นว่าจั้งกูซิงถึงกับบรรลุพลังวิเศษได้ แปลว่ามีชีวิตไม่เลวทีเดียว

เขากดเปิดค่าความสัมพันธ์ออกมาตรวจดู พบว่าตบะของจั้งกูซิงเปลี่ยนเป็นไม่ทราบแล้ว

หรือก็หมายความว่าจั้งกูซิงเป็นจักรพรรดิเซียน!

พี่ใหญ่มั่นคงนัก!

เปลี่ยนภัยอันตรายเป็นแคล้วคลาด!

หานเจวี๋ยยังสังเกตเห็นสถานการณ์ในช่วงนี้ของจักรพรรดิสวรรค์ สามารถถกมรรคกับจักรพรรดิสวรรค์ได้ ทั้งยังทำให้พลังมรรคพุ่งทะยานด้วย มิใช่พวกว่างงานแน่นอน

จะเป็นใครกัน

ในใจหานเจวี๋ยสงสัยใคร่รู้

นอกจากนี้ เผ่าเทพอีกาทองกับวังเทพไปรวมหัวกันได้อย่างไร

แม่ของอีกาทองสองตัวเหี้ยมมากทีเดียว ต่อกรจักรพรรดิเซียนสี่คนได้

แดนเซียนช่างฉูดฉาดเสียจริงๆ จักรพรรดิเซียนผู้สูงส่งยังไม่ทันได้ลงมือเลย นับประสาอะไรกับผู้ฝึกบำเพ็ญทั่วไป

โชคดีที่ไม่ได้สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ ไม่อย่างนั้นคงมีหายนะมากมาย

ดูอย่างโจวฝาน เพิ่งเข้าร่วมสำนัก ทั้งสำนักก็ถูกฆ่าล้าง

ในใจหานเจวี๋ยรู้สึกว่าตนโชคดี

หลายเดือนต่อมา หานเจวี๋ยสาปแช่งศัตรูทั้งหมดเสร็จสิ้น

จู่ๆ เบื้องหน้าของเขาก็มีตัวอักษรสามแถวเด้งขึ้นมา

[ตรวจพบว่าวังสวรรค์เผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ทันที ช่วยเหลือวังสวรรค์ จะได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน มรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

[สอง ยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ในตอนนี้ ฝึกบำเพ็ญต่อไป จะได้รับมรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

หานเจวี๋ยลอบสบถ อยากโน้มน้าวให้ข้าสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์?

เป็นไปไม่ได้!

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองอย่างเงียบๆ

[ท่านเลือกยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ในตอนนี้ ได้รับมรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

[ยินดีด้วยท่านได้รับพลังวิเศษ——ร่างแยกวัฏจักร]

[ร่างแยกวัฏจักร: สามารถสร้างร่างแยกออกมาได้ มีกระบวนความคิดเป็นของตัวเอง แต่จะไม่หักหลังเจ้านายเด็ดขาด สามารถเดินทางข้ามหมื่นโลกได้อย่างอิสระ ไม่ได้รับผลกระทบจากกรรม]

พลังวิเศษนี้ไม่เลวเลยจริงๆ สามารถสร้างร่างแยกร่างหนึ่งไว้คอยพิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ได้

จำกัดไว้เพียงเท่านี้ก่อน หานเจวี๋ยไม่อยากให้ร่างแยกหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเอง

คิดแล้วหานเจวี๋ยก็เริ่มรับสืบทอดร่างแยกวัฏจักร

เวลาผ่านไปอีกราวหนึ่งปี

เบื้องหน้าหานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญมีตัวหนังสือแถวหนึ่งเด้งขึ้นมา

[ตรวจพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด จะตรวจสอบที่มาหรือไม่]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เลือกตรวจดูทันที

[รัชทายาทเทียนเจ๋อ: ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะกลาง โอรสแห่งจักรพรรดิปีศาจวังปีศาจ ได้รับสืบทอดจิตวิญญาณเทพปีศาจแห่งเผ่าปีศาจบรรพกาลมา พรสวรรค์โดดเด่น ครั้งนี้ติดตามวังปีศาจมาลอบโจมตีวังสวรรค์ หน้าที่ของเขาคือชำระล้างโลกมนุษย์วังสวรรค์]

…………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 214 พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ ร่างแยกวัฏจักร

หลังจากงุนงงไปชั่วขณะ สติรับรู้ของหานเจวี๋ยก็กลับสู่สภาพปกติ

เขาลืมตาอีกครั้ง เบื้องหน้ายังคงเป็นแม่น้ำมรรคกระบี่ เงาแสงก่อนหน้านี้ไม่อยู่แล้ว

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

แม่น้ำมรรคกระบี่นี้กลับทำให้เขาคุ้นเคยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขายังสามารถแผ่พลังจิตออกไปได้ด้วย

ความรู้สึกเช่นนี้… เสมือนกำลังสำรวจพื้นที่แหวนเก็บสมบัติของตน

นับจากนี้เป็นต้นไป เขาคือผู้พิทักษ์ของแม่น้ำมรรคกระบี่!

เขาสามารถมองเห็นใบหน้าแท้จริงของร่างที่สัญจรไปมาได้ถนัดตา เขาสามารถควบคุมพลังลึกลับของแม่น้ำมรรคกระบี่ ขับไล่คนออกไป และยังเข้าออกแม่น้ำมรรคกระบี่ได้ตามใจชอบ

นับจากนี้เป็นต้นไป แม่น้ำมรรคกระบี่กลายเป็นบ้านของเขาอย่างแท้จริงแล้ว!

เพียงแต่…

หานเจวี๋ยไม่ได้รู้สึกดีใจด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามจิตใจหนักอึ้งอย่างมาก

จั้งกูซิงดีกับเขามาก สมัยที่เขายังเด็กไม่รู้เดียงสายังเคยลงมือช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาคงถูกมรรคาสวรรค์ของแม่น้ำมรรคกระบี่กดทับตายนานแล้ว

หนำซ้ำทุกครั้งที่หานเจวี๋ยมีปัญหากลัดกลุ้ม ก็จะนึกถึงจั้งกูซิง

ทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นทั้งอาจารย์เป็นทั้งสหาย

หานเจวี๋ยเอ่ยปาก “ผู้อาวุโส ขอถามทีว่าใครจับตัวพี่ใหญ่ของข้าไป”

เขาเชื่อว่าคนผู้นั้นยังไม่จากไปไหน และเป็นดังคาดจริงๆ

“จักรพรรดิเซียนแห่งวังเทพอวี้เทียนเป่า ทำไมหรือ เจ้าอยากไปช่วยเขา? อาศัยแค่เจ้าน่ะหรือ” เสียงของเงาแสงดังมาอีกครั้ง

หานเจวี๋ยกล่าวตอบ “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเซียนเสียหน่อย ข้าเพียงแต่อยากถามให้ชัดเจน”

[ความประทับใจที่จักรพรรดิเทพกระบี่มีต่อท่านลดลง ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 2 ดาว]

หืม?

ถึงกับเป็นจักรพรรดิเทพกระบี่เลยหรือ

แค่นี้ก็ลดระดับความประทับใจแล้ว?

รู้สึกชอบกล

จักรพรรดิเทพกระบี่คาดหวังให้เขาแก้แค้นแทนจั้งกูซิงอยู่รึ กล้าคิดไปได้อย่างไร

ช้าก่อน! อย่าบอกนะว่าจักรพรรดิเทพกระบี่หวังให้ตนเชิญวังสวรรค์มาช่วยเหลือ

หานเจวี๋ยจมเข้าสู่ภวังค์ความคิด

เสียงแค่นจมูกหยามหยันของจักรพรรดิเทพกระบี่ดังขึ้นอีกครั้ง “ขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เจ้าพิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ เพียงแค่ได้รับสิทธิ์อำนาจหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะทำตามอำเภอใจได้ หากผู้ที่ขอบเขตตบะเหนือชั้นกว่าเจ้าไปไกลเข้ามาในแม่น้ำมรรคกระบี่ เจ้าก็ทำอะไรไม่ได้

อย่าได้ล่วงเกินผู้ทรงพลังเพราะเรื่องนี้”

หานเจวี๋ยเข้าใจหลักการข้อนี้ ถ้าอาศัยแม่น้ำมรรคกระบี่กระทำการกำเริบเสิบสานได้จริง จั้งกูซิงก็คงไม่ถูกจับตัว

ในความคิดของเขา แม่น้ำมรรคกระบี่ก็เหมือนบริษัทแห่งหนึ่ง เขาคือยามรักษาความปลอดภัย ยามสามารถไล่คนได้ แต่ยามไม่ใช่เจ้าของบริษัท

เขาเพียงถือกุญแจดอกหนึ่งไว้เท่านั้น!

หานเจวี๋ยคารวะไปทางเบื้องหน้า จากนั้นก็กลับมาภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

เขาเอาป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาติดต่อกับตี้ไท่ไป๋

“ผู้อาวุโส ท่านรู้จักอวี้เทียนเป่าจักรพรรดิเซียนวังเทพหรือไม่” หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงเอ่ยถามผ่านป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์

ตี้ไท่ไป๋ตอบกลับว่า “รู้จัก เป็นผู้อาวุโสทัณฑ์เทพที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ของวังเทพ ตัวเขาเป็นระดับจักรพรรดิเซียน อำนาจภายในวังเทพก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน ทำไม เขาจ้องเล่นงานเจ้าหรือ”

น้ำเสียงของตี้ไท่ไป๋ค่อนข้างตึงเครียด

หานเจวี๋ยกล่าว “เขาจับตัวพี่ใหญ่คนหนึ่งของข้าไป พอมีวิธีช่วยเหลือหรือไม่”

“พี่ใหญ่? พี่ใหญ่ที่ไหนของเจ้า”

“คนผู้นั้นที่พิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ นามว่าจั้งกูซิง”

“อะไรนะ! จั้งกูซิงเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า? ก็ถูก…คุณสมบัติมรรคกระบี่ของเจ้าน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ ย่อมต้องได้บังเอิญพบเขาอยู่แล้ว…”

จากนั้นตี้ไท่ไป๋ก็คิดใคร่ครวญ

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

ดูท่าทางเรื่องราวจะจัดการยาก หากเป็นที่ผ่านมาตี้ไท่ไป๋คงตอบตกลงทันทีแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง ตี้ไท่ไป๋จึงค่อยกล่าว “จั้งกูซิงเคยเป็นผู้ฝึกกระบี่อันดับหนึ่งของวังเทพ ผ่าเผยโดดเด่น ในใจเขามีเพียงกระบี่เท่านั้น เจ้าแห่งวังเทพเคยคิดอยากจับคู่บุตรสาวกับเขา แต่ถูกเขาปฏิเสธ สตรีผู้นั้นสิ้นหวังหมดกำลังใจก็เลยแต่งกับอวี้เทียนเป่าแทน

คนก็แต่งกันไปแล้ว แต่อวี้เทียนเป่ารู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าจั้งกูซิงหนึ่งช่วงมาโดยตลอด

เมื่อหลายหมื่นปีก่อน จั้งกูซิงถูกจักรพรรดิเซียนล้อมโจมตีตอนออกไปหาประสบการณ์ด้านนอก ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุใด เขาถึงละทิ้งกายเนื้อ จิตวิญญาณหนีออกจากวังเทพมายังแม่น้ำมรรคกระบี่แห่งนี้ หากคิดอยากช่วยเหลือจั้งกูซิงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ พักนี้วังสวรรค์กับวังเทพเป็นมิตรกันดี อย่างมากที่สุดก็ช่วยเจ้ารักษาชีวิตของเขาไว้ได้”

คำพูดของตี้ไท่ไป๋ทำให้หานเจวี๋ยถอนหายใจโล่งอกเบาๆ

การมีชีวิตอยู่ดีกว่าอะไรทั้งนั้น

“มีชีวิตรอดต่อไปได้ก็พอแล้ว”

เมื่อหานเจวี๋ยกล่าวเช่นนี้ ตี้ไท่ไป๋จึงรับปากเรื่องนี้

ตี้ไท่ไป๋พูดต่อว่า “เรื่องนี้มอบให้วังสวรรค์จัดการ เจ้าห้ามผลีผลามออกหน้าเด็ดขาด พรสวรรค์ของเจ้าน่าสะพรึงกลัวก็จริง แต่พลังที่แท้จริงยังไม่ไหว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเซียนเลย”

หานเจวี๋ยกล่าวตอบ “ข้าเข้าใจ”

หลังจากตัดขาดการเชื่อมต่อพลังจิต หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา และเริ่มสาปแช่งอวี้เทียนเป่า

อวี้เทียนเป่าอาจจะมีหลายคน แต่อวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพมีแค่คนเดียว

หานเจวี๋ยสาปแช่งโดยอิงจากอวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพ ย่อมสาปแช่งไม่ผิดตัวแน่

……

สิบปีต่อมา

หานเจวี๋ยสาปแช่งอวี้เทียนเป่าแห่งวังเทพอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ตรวจดูจดหมายไปด้วย

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านถกมรรคกับผู้ทรงพลัง ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย พลังมรรคเพิ่มพูน]

[ตี้หงเย่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนวังเทพ] x4

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าเทพอีกาทอง] x120

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีมีผู้ทรงพลังช่วยเหลือ]

[จั้งกูซิงสหายของท่านตระหนักรู้แก่นแท้มรรคกระบี่ บรรลุพลังวิเศษมรรคาสวรรค์]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านพบกับโอกาสวาสนา ได้รับพลังภายในสูงสุดของสำนักเต๋า]

[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพปีศาจ ทั้งสำนักถูกฆ่าล้าง]

……

หานเจวี๋ยไม่เห็นจุดจบการถูกสาปแช่งของอวี้เทียนเป่าก็ค่อนข้างผิดหวัง แต่เห็นว่าจั้งกูซิงถึงกับบรรลุพลังวิเศษได้ แปลว่ามีชีวิตไม่เลวทีเดียว

เขากดเปิดค่าความสัมพันธ์ออกมาตรวจดู พบว่าตบะของจั้งกูซิงเปลี่ยนเป็นไม่ทราบแล้ว

หรือก็หมายความว่าจั้งกูซิงเป็นจักรพรรดิเซียน!

พี่ใหญ่มั่นคงนัก!

เปลี่ยนภัยอันตรายเป็นแคล้วคลาด!

หานเจวี๋ยยังสังเกตเห็นสถานการณ์ในช่วงนี้ของจักรพรรดิสวรรค์ สามารถถกมรรคกับจักรพรรดิสวรรค์ได้ ทั้งยังทำให้พลังมรรคพุ่งทะยานด้วย มิใช่พวกว่างงานแน่นอน

จะเป็นใครกัน

ในใจหานเจวี๋ยสงสัยใคร่รู้

นอกจากนี้ เผ่าเทพอีกาทองกับวังเทพไปรวมหัวกันได้อย่างไร

แม่ของอีกาทองสองตัวเหี้ยมมากทีเดียว ต่อกรจักรพรรดิเซียนสี่คนได้

แดนเซียนช่างฉูดฉาดเสียจริงๆ จักรพรรดิเซียนผู้สูงส่งยังไม่ทันได้ลงมือเลย นับประสาอะไรกับผู้ฝึกบำเพ็ญทั่วไป

โชคดีที่ไม่ได้สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ ไม่อย่างนั้นคงมีหายนะมากมาย

ดูอย่างโจวฝาน เพิ่งเข้าร่วมสำนัก ทั้งสำนักก็ถูกฆ่าล้าง

ในใจหานเจวี๋ยรู้สึกว่าตนโชคดี

หลายเดือนต่อมา หานเจวี๋ยสาปแช่งศัตรูทั้งหมดเสร็จสิ้น

จู่ๆ เบื้องหน้าของเขาก็มีตัวอักษรสามแถวเด้งขึ้นมา

[ตรวจพบว่าวังสวรรค์เผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ทันที ช่วยเหลือวังสวรรค์ จะได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน มรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

[สอง ยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ในตอนนี้ ฝึกบำเพ็ญต่อไป จะได้รับมรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

หานเจวี๋ยลอบสบถ อยากโน้มน้าวให้ข้าสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์?

เป็นไปไม่ได้!

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองอย่างเงียบๆ

[ท่านเลือกยังไม่สำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ในตอนนี้ ได้รับมรดกพลังวิเศษหนึ่งวิชา]

[ยินดีด้วยท่านได้รับพลังวิเศษ——ร่างแยกวัฏจักร]

[ร่างแยกวัฏจักร: สามารถสร้างร่างแยกออกมาได้ มีกระบวนความคิดเป็นของตัวเอง แต่จะไม่หักหลังเจ้านายเด็ดขาด สามารถเดินทางข้ามหมื่นโลกได้อย่างอิสระ ไม่ได้รับผลกระทบจากกรรม]

พลังวิเศษนี้ไม่เลวเลยจริงๆ สามารถสร้างร่างแยกร่างหนึ่งไว้คอยพิทักษ์แม่น้ำมรรคกระบี่ได้

จำกัดไว้เพียงเท่านี้ก่อน หานเจวี๋ยไม่อยากให้ร่างแยกหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตัวเอง

คิดแล้วหานเจวี๋ยก็เริ่มรับสืบทอดร่างแยกวัฏจักร

เวลาผ่านไปอีกราวหนึ่งปี

เบื้องหน้าหานเจวี๋ยที่กำลังฝึกบำเพ็ญมีตัวหนังสือแถวหนึ่งเด้งขึ้นมา

[ตรวจพบผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด จะตรวจสอบที่มาหรือไม่]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เลือกตรวจดูทันที

[รัชทายาทเทียนเจ๋อ: ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะกลาง โอรสแห่งจักรพรรดิปีศาจวังปีศาจ ได้รับสืบทอดจิตวิญญาณเทพปีศาจแห่งเผ่าปีศาจบรรพกาลมา พรสวรรค์โดดเด่น ครั้งนี้ติดตามวังปีศาจมาลอบโจมตีวังสวรรค์ หน้าที่ของเขาคือชำระล้างโลกมนุษย์วังสวรรค์]

…………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+