ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย

“ข้าเล่นลูกไม้ไปจำนวนหนึ่ง อีกอย่างราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่นับว่าแข็งแกร่งมากนัก ยากที่จะสังเกตเห็น แม้จะสังเกตเห็นในภายหลัง หลังจากนางผู้นี้ปรากฏพรสวรรค์ออกมา พวกเขาก็ไม่ถือสา เพียงแต่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด อดีตชาติก็เปรียบเสมือนเมฆที่ลอยกลางอากาศ” ยายเมิ่งตอบ

หานเจวี๋ยเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “ลูกไม้อะไร”

เขารีบตรวจดูค่าความสัมพันธ์ทันที รูปประจำตัวของสิงหงเสวียนยังอยู่ เพียงแต่ตรงแถบสถานะไม่มีคำอธิบายประกอบ แต่มีคำว่า ‘อยู่ระหว่างกลับชาติมาเกิด’ เพิ่มขึ้นมา

รูปประจำตัวยังอยู่ แสดงว่าสิงหงเสวียนยังจำเขาได้

ยายเมิ่งกลอกตากล่าวว่า “เจ้าเห็นว่าคนแก่อย่างข้าไม่มีความจริงใจหรืออย่างไร ข้าสมควรที่จะผิดใจกับเจ้าเพียงเพราะสตรีนางหนึ่งหรือ เจ้ายังตัดใจให้นางไปเกิดใหม่ได้ นางสามารถกลายเป็นเบี้ยที่จะใช้ข่มขู่เจ้าได้หรือ”

หานเจวี๋ยรู้สึกถูกล่วงเกิน

‘เหตุใดถึงได้รู้สึกเหมือนถูกด่านะ’

“เรื่องเช่นนี้พอจะอนุโลมให้ได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว มิเช่นนั้นท่านพญายมจะบันดาลโทสะได้” ยายเมิ่งกล่าวอย่างจริงจัง

หานเจวี๋ยพยักหน้า ในใจยิ่งอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับพญายมมากขึ้น

เหตุใดถึงรู้สึกว่าพญายมคือการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในยมโลกนะ

ยายเมิ่งกล่าวต่อ “เผ่าของข้าเข้าฝันหลิงเอ๋อร์ใช่หรือไม่ อยากให้นางเข้าสู่โลกีย์วิสัยหรือ”

หานเจวี๋ยถามด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่ความประสงค์ของท่านหรือ”

ยายเมิ่งส่ายหน้ากล่าวว่า “อย่าให้หลิงเอ๋อร์ออกจากโลกเด็ดขาด มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตในครั้งนี้ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้นัก เผ่าจอมเวทไม่อาจออกหน้าในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตครั้งนี้ได้ มิเช่นนั้นรากฐานจะถูกทำลายจนหมดสิ้น”

‘ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้?’

หานเจวี๋ยตกใจเข้าแล้ว

เหตุใดข้าเพิ่งมา ปวงสวรรค์ก็เผชิญกับมหาเคราะห์ที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อนเล่า

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วถาม “เป็นเพราะกลุ่มอิทธิพลเจ้าจักรวรรดิทั้งสี่ฝ่ายต่อสู้กันหรือ”

“ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ยังมีการดำรงอยู่ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าควบคุมทุกสิ่ง ตามที่ข้าเข้าใจ นอกจากปวงสวรรค์แล้วยังมีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการที่กำลังวางแผนมหาเคราะห์อยู่ วังปีศาจ วังเทพ วังสวรรค์ และสำนักพุทธก็อยู่ในแผนร้ายของเขา แม้กลุ่มอิทธิพลเจ้าจักรวรรดิทั้งสี่ฝ่ายจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจขจัดความเกลียดชังซึ่งกันและกันได้ วิธีการนี้น่าหวาดกลัวจริงๆ” ยายเมิ่งทอดถอนใจกล่าว

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ?

ฟังดูแล้วคล้ายนักแสดงตัวร้ายมาก

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “ที่ท่านเรียกให้ข้ารอท่าน ก็เพื่อจะบอกว่าอย่าปล่อยให้ถูหลิงเอ๋อร์ออกไปอย่างนั้นหรือ”

ยายเมิ่งพยักหน้า

หานเจวี๋ยหมดคำพูด

เรื่องแค่นี้เมื่อครู่บอกตรงๆ ก็ได้ ต้องให้ข้ารอเจ้าด้วย!

“จริงสิ สำหรับเรื่องผู้ฝ่าเคราะห์นั้นเจ้ารู้หรือไม่” หานเจวี๋ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาถาม

จักรพรรดิสวรรค์บอกว่าผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลก เขาย่อมไม่อาจไม่สนใจได้

อย่าได้หาเรื่องเข้าบ้านเข้าสักวัน!

ยายเมิ่งหรี่ตากล่าวว่า “คนผู้นั้นถูกกำราบแล้ว รายละเอียดนั้นเจ้าไม่ต้องถามมาก มิเช่นนั้นแปดเปื้อนผลกรรมแล้วจะไม่ดี”

ถูกกำราบแล้วหรือ ง่ายดายเพียงนี้เชียว?

หานเจวี๋ยรู้สึกว่ามีเลศนัย กลุ่มอิทธิพลอย่างยมโลกจะมั่นใจตนเองไปหน่อยหรือไม่

ทั้งสองพูดคุยกันอีกสักพักก็แยกย้าย

……

แดนเซียน ปัจฉิมสวรรค์

ภายในวัดเสียงอัสนี พระพุทธองค์ พระโพธิสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนชุมนุมอยู่ในวิหารวัดขนาดใหญ่และโอ่อ่า

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เปล่งแสงพุทธะสว่างรุ่งโรจน์ คล้ายกับมีพระเป็นร้อยๆ ล้านรูปกำลังสวดมนต์ เสียงพุทธะดังก้องในวิหารไม่ขาดสาย

“เกี่ยวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ตรวจสอบพบเบาะแสหรือไม่” บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวขึ้นอย่างช้าๆ

พุทธะชรารูปหนึ่งเอ่ยปากว่า “อมิตาพุทธ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการปรากฏตัวกะทันหันเกินไป เบาะแสเดียวที่มีก็คือ เขาใช้หนังสือลึกลับเล่มหนึ่งสาปแช่งกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในแดนเซียน มีความเป็นไปได้มากที่เขาจะเกี่ยวข้องกับเผ่ามาร”

เผ่ามาร!

พุทธาเทพพากันกระซิบกระซาบด้วยความตกใจ

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “มีหลักฐานหรือไม่”

พุทธะชราส่ายศีรษะ

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวต่อว่า “เผ่ามารก็ตกต่ำไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สำนักพุทธก็ควบคุมจิตมาร ดังนั้นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่อาจมาจากเผ่ามารได้ ข้ากลับคิดว่าเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิปีศาจ จักรพรรดิปีศาจบ้าคลั่งเช่นนี้ รบเดี่ยวกับสามกลุ่มอิทธิพลใหญ่ นอกจากเผ่าบรรพกาลเหล่านั้นแล้ว เกรงว่ายังมีกำลังที่ใหญ่ยิ่งกว่า”

คำพูดของเขาทำให้พุทธาเทพและพระโพธิสัตว์อดที่จะพยักหน้าไม่ได้

ตั้งแต่ตำนานของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถูกเล่าลือในแดนเซียน วังปีศาจก็ไม่ได้หยุดการโจมตี แต่กลับเริ่มกลืนกินอาณาจักรต่างๆ ในแดนเซียนอย่างกำเริบเสิบสาน

“มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเพิ่งจะเปิดตัวขึ้น จะต้องระมัดระวังให้ดี มีความเป็นไปได้มากว่าวังปีศาจอาจจะไม่ใช่ภัยพิบัติที่ถูกลิขิตไว้อย่างแท้จริง”

“ว่ากันว่า เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีร่างแปลงนับหมื่นนับพัน เดินทางไปมาระหว่างสวรรค์และโลก”

“อมิตาพุทธ สำนักพุทธพึงจะออกหน้าเพื่อเวไนยสัตว์ กำจัดเจ้าแดนต้องห้ามอันธการและวังปีศาจ”

“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการชอบสาปแช่งศัตรู ถือเป็นเรื่องชั่วร้ายเสียจริง!”

“พุทธะเรามีเมตตาธรรม เคยมีคนถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งหรือไม่”

ขณะที่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาพุทธะอยู่นั้น บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์พลันขมวดคิ้ว

เขาถูกสาปแช่งแล้ว

เขานับนิ้วคำนวณดู คำนวณพบแค่หนังสือเล่มหนึ่ง แต่มองไม่เห็นร่างที่แท้จริงของผู้ที่ใช้หนังสือเล่มนั้น

หนังสือเล่มนี้เหมือนกับที่สาปแช่งพุทธาเทพฟ้าพิโรธไม่มีผิด จักต้องเป็นการลงมือของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างแน่นอน!

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ขมวดคิ้วมุ่นยิ่งกว่าเดิม คิดไม่ถึงว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะสาปแช่งเขาโดยตรง

แต่ว่าพลังสาปแช่งนี้ทำร้ายเขาไม่ได้ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการอ่อนแอเช่นนี้เชียวหรือ

ไม่ถูกต้อง!

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการต้องการก่อกวนมรรคจิตของเขา!

หรือว่าจักรพรรดิปีศาจก็ถูกสาปแช่งจนบ้าคลั่งเช่นนี้

มีความเป็นไปได้มาก!

หากสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจตาย เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะต้องแบกรับแรงกรรมมหาศาล แต่หากก่อกวนจนจักรพรรดิปีศาจโหมพัดกระหน่ำไปทั่วปวงสวรรค์ นั่นก็ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์หรี่ตาลง ท่ามกลางความมืดมิด ราวกับว่าเขามองเห็นเงาร่างหนึ่ง

เงาร่างนั้นยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการบำเพ็ญเพียร ก้มมองปวงสวรรค์หมื่นโลกา มือชั่วร้ายคู่นั้นปรารถนาจะควบคุมมรรคาสวรรค์

ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างแปลกๆ ลุกลามในใจบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์

ศัตรูตัวฉกาจไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่รู้ว่าศัตรูตัวฉกาจคือผู้ใด

……

เจ็ดปีหลังจากที่สิงหงเสวียนไปเกิดใหม่

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังฝึกบำเพ็ญอยู่นั้น พลันมีอักขระปรากฏขึ้นตรงหน้าสามแถว

[ตรวจสอบพบว่าปวงสวรรค์หมื่นโลกามอบชื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการให้กับท่าน ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสวรรค์ทันที อาศัยสถานะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการช่วงชิงดวงชะตายิ่งใหญ่ จะได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น ของล้ำค่าฟ้าดินแบบสุ่มหนึ่งชิ้น ยกระดับระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวฝึกฝนเงียบๆ อยู่ห่างจากแดนเซียน ไม่เข้าร่วมมหาเคราะห์ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น หินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

หานเจวี๋ยมองดูแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยคำถาม

‘เรื่องบ้าอะไรกัน! เจ้าแห่งแดนต้องห้ามอันธการก็คือข้า?’

ปฏิกิริยาแรกของหานเจวี๋ยก็คือตนเองถูกใส่ร้าย

ปฏิกิริยาต่อมาก็คือตนเองถูกเปิดโปงเข้าแล้ว

ทว่าพอครุ่นคิดดูอีกที ก็ไม่มีการแจ้งเตือนระดับความเกลียดชังจำนวนมาก ที่เกิดความเกลียดชังเขาในช่วงนี้ก็มีเพียงบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เท่านั้น

‘เหตุใดข้าถึงกลายเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้’

หานเจวี๋ยคิดไม่ออก หรือมีผู้ทรงพลังคำนวณได้ว่าเขาเป็นผู้ที่ทะลุมิติมา

เขาเลือกตัวเลือกที่สองในทันที

ตอนนี้ชิ้นส่วนมหามรรคยังไม่มีประโยชน์ ต้องสะสมเอาไว้ก่อน ตอนนี้สะสมได้สองชิ้น

หินวิญญาณมรรคาสวรรค์สามารถยกระดับของวิเศษได้ นับว่าเป็นของดี ไม่ได้ปรากฏมานานแล้ว

สิ่งแรกที่หานเจวี๋ยเลือกก็คือหนังสือแห่งความโชคร้าย

หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ ตอนนี้ไม่นับว่าทรงพลังแล้ว ต้องยกระดับ

ส่วนของวิเศษอื่นๆ นั้นไม่รีบร้อน ถึงอย่างไรเขาก็ต่อสู้กับคนอื่นน้อยอยู่แล้ว

หานเจวี๋ยรีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายกับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์ออกมา และเริ่มผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับ

หลายวันต่อมา

[หนังสือแห่งความโชคร้ายยกระดับจากยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิเป็นสมบัติวิญญาณระดับเทพ]

หานเจวี๋ยมองเห็นการแจ้งเตือนนี้ ก็อดยิ้มอย่างพอใจไม่ได้

เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง นำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาเพื่อติดต่อกับตี้ไท่ไป๋

เพียงไม่นานพลังจิตก็เชื่อมต่อกัน

“ผู้อาวุโส สถานะของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการนั้น วังสวรรค์รู้จักหรือไม่” หานเจวี๋ยเอ่ยถาม

ตี้ไท่ไป๋ถามกลับด้วยความประหลาดใจ “เจ้าก็เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการด้วยหรือ นั่นคือการดำรงอยู่ที่ลึกลับไม่อาจทราบได้ อาศัยของวิเศษสาปแช่งที่ลึกลับยากจะคาดเดาวางแผนประทุษร้ายปวงสวรรค์ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้สถานะที่แท้จริงของเขา เพราะอย่างนั้นจึงถูกขนานถามว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เทพเซียนของวังสวรรค์เองก็กำลังตรวจสอบเขาอยู่ ว่ากันว่าเขาอาจเป็นการดำรงอยู่ที่ควบคุมมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต”

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 292 เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย

“ข้าเล่นลูกไม้ไปจำนวนหนึ่ง อีกอย่างราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่นับว่าแข็งแกร่งมากนัก ยากที่จะสังเกตเห็น แม้จะสังเกตเห็นในภายหลัง หลังจากนางผู้นี้ปรากฏพรสวรรค์ออกมา พวกเขาก็ไม่ถือสา เพียงแต่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด อดีตชาติก็เปรียบเสมือนเมฆที่ลอยกลางอากาศ” ยายเมิ่งตอบ

หานเจวี๋ยเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “ลูกไม้อะไร”

เขารีบตรวจดูค่าความสัมพันธ์ทันที รูปประจำตัวของสิงหงเสวียนยังอยู่ เพียงแต่ตรงแถบสถานะไม่มีคำอธิบายประกอบ แต่มีคำว่า ‘อยู่ระหว่างกลับชาติมาเกิด’ เพิ่มขึ้นมา

รูปประจำตัวยังอยู่ แสดงว่าสิงหงเสวียนยังจำเขาได้

ยายเมิ่งกลอกตากล่าวว่า “เจ้าเห็นว่าคนแก่อย่างข้าไม่มีความจริงใจหรืออย่างไร ข้าสมควรที่จะผิดใจกับเจ้าเพียงเพราะสตรีนางหนึ่งหรือ เจ้ายังตัดใจให้นางไปเกิดใหม่ได้ นางสามารถกลายเป็นเบี้ยที่จะใช้ข่มขู่เจ้าได้หรือ”

หานเจวี๋ยรู้สึกถูกล่วงเกิน

‘เหตุใดถึงได้รู้สึกเหมือนถูกด่านะ’

“เรื่องเช่นนี้พอจะอนุโลมให้ได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว มิเช่นนั้นท่านพญายมจะบันดาลโทสะได้” ยายเมิ่งกล่าวอย่างจริงจัง

หานเจวี๋ยพยักหน้า ในใจยิ่งอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับพญายมมากขึ้น

เหตุใดถึงรู้สึกว่าพญายมคือการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในยมโลกนะ

ยายเมิ่งกล่าวต่อ “เผ่าของข้าเข้าฝันหลิงเอ๋อร์ใช่หรือไม่ อยากให้นางเข้าสู่โลกีย์วิสัยหรือ”

หานเจวี๋ยถามด้วยความประหลาดใจ “ไม่ใช่ความประสงค์ของท่านหรือ”

ยายเมิ่งส่ายหน้ากล่าวว่า “อย่าให้หลิงเอ๋อร์ออกจากโลกเด็ดขาด มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตในครั้งนี้ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้นัก เผ่าจอมเวทไม่อาจออกหน้าในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตครั้งนี้ได้ มิเช่นนั้นรากฐานจะถูกทำลายจนหมดสิ้น”

‘ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้?’

หานเจวี๋ยตกใจเข้าแล้ว

เหตุใดข้าเพิ่งมา ปวงสวรรค์ก็เผชิญกับมหาเคราะห์ที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อนเล่า

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วถาม “เป็นเพราะกลุ่มอิทธิพลเจ้าจักรวรรดิทั้งสี่ฝ่ายต่อสู้กันหรือ”

“ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ยังมีการดำรงอยู่ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าควบคุมทุกสิ่ง ตามที่ข้าเข้าใจ นอกจากปวงสวรรค์แล้วยังมีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการที่กำลังวางแผนมหาเคราะห์อยู่ วังปีศาจ วังเทพ วังสวรรค์ และสำนักพุทธก็อยู่ในแผนร้ายของเขา แม้กลุ่มอิทธิพลเจ้าจักรวรรดิทั้งสี่ฝ่ายจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่อาจขจัดความเกลียดชังซึ่งกันและกันได้ วิธีการนี้น่าหวาดกลัวจริงๆ” ยายเมิ่งทอดถอนใจกล่าว

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ?

ฟังดูแล้วคล้ายนักแสดงตัวร้ายมาก

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “ที่ท่านเรียกให้ข้ารอท่าน ก็เพื่อจะบอกว่าอย่าปล่อยให้ถูหลิงเอ๋อร์ออกไปอย่างนั้นหรือ”

ยายเมิ่งพยักหน้า

หานเจวี๋ยหมดคำพูด

เรื่องแค่นี้เมื่อครู่บอกตรงๆ ก็ได้ ต้องให้ข้ารอเจ้าด้วย!

“จริงสิ สำหรับเรื่องผู้ฝ่าเคราะห์นั้นเจ้ารู้หรือไม่” หานเจวี๋ยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาถาม

จักรพรรดิสวรรค์บอกว่าผู้ฝ่าเคราะห์อยู่ในยมโลก เขาย่อมไม่อาจไม่สนใจได้

อย่าได้หาเรื่องเข้าบ้านเข้าสักวัน!

ยายเมิ่งหรี่ตากล่าวว่า “คนผู้นั้นถูกกำราบแล้ว รายละเอียดนั้นเจ้าไม่ต้องถามมาก มิเช่นนั้นแปดเปื้อนผลกรรมแล้วจะไม่ดี”

ถูกกำราบแล้วหรือ ง่ายดายเพียงนี้เชียว?

หานเจวี๋ยรู้สึกว่ามีเลศนัย กลุ่มอิทธิพลอย่างยมโลกจะมั่นใจตนเองไปหน่อยหรือไม่

ทั้งสองพูดคุยกันอีกสักพักก็แยกย้าย

……

แดนเซียน ปัจฉิมสวรรค์

ภายในวัดเสียงอัสนี พระพุทธองค์ พระโพธิสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนชุมนุมอยู่ในวิหารวัดขนาดใหญ่และโอ่อ่า

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เปล่งแสงพุทธะสว่างรุ่งโรจน์ คล้ายกับมีพระเป็นร้อยๆ ล้านรูปกำลังสวดมนต์ เสียงพุทธะดังก้องในวิหารไม่ขาดสาย

“เกี่ยวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ตรวจสอบพบเบาะแสหรือไม่” บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวขึ้นอย่างช้าๆ

พุทธะชรารูปหนึ่งเอ่ยปากว่า “อมิตาพุทธ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการปรากฏตัวกะทันหันเกินไป เบาะแสเดียวที่มีก็คือ เขาใช้หนังสือลึกลับเล่มหนึ่งสาปแช่งกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในแดนเซียน มีความเป็นไปได้มากที่เขาจะเกี่ยวข้องกับเผ่ามาร”

เผ่ามาร!

พุทธาเทพพากันกระซิบกระซาบด้วยความตกใจ

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “มีหลักฐานหรือไม่”

พุทธะชราส่ายศีรษะ

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กล่าวต่อว่า “เผ่ามารก็ตกต่ำไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สำนักพุทธก็ควบคุมจิตมาร ดังนั้นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่อาจมาจากเผ่ามารได้ ข้ากลับคิดว่าเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิปีศาจ จักรพรรดิปีศาจบ้าคลั่งเช่นนี้ รบเดี่ยวกับสามกลุ่มอิทธิพลใหญ่ นอกจากเผ่าบรรพกาลเหล่านั้นแล้ว เกรงว่ายังมีกำลังที่ใหญ่ยิ่งกว่า”

คำพูดของเขาทำให้พุทธาเทพและพระโพธิสัตว์อดที่จะพยักหน้าไม่ได้

ตั้งแต่ตำนานของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถูกเล่าลือในแดนเซียน วังปีศาจก็ไม่ได้หยุดการโจมตี แต่กลับเริ่มกลืนกินอาณาจักรต่างๆ ในแดนเซียนอย่างกำเริบเสิบสาน

“มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเพิ่งจะเปิดตัวขึ้น จะต้องระมัดระวังให้ดี มีความเป็นไปได้มากว่าวังปีศาจอาจจะไม่ใช่ภัยพิบัติที่ถูกลิขิตไว้อย่างแท้จริง”

“ว่ากันว่า เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีร่างแปลงนับหมื่นนับพัน เดินทางไปมาระหว่างสวรรค์และโลก”

“อมิตาพุทธ สำนักพุทธพึงจะออกหน้าเพื่อเวไนยสัตว์ กำจัดเจ้าแดนต้องห้ามอันธการและวังปีศาจ”

“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการชอบสาปแช่งศัตรู ถือเป็นเรื่องชั่วร้ายเสียจริง!”

“พุทธะเรามีเมตตาธรรม เคยมีคนถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งหรือไม่”

ขณะที่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาพุทธะอยู่นั้น บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์พลันขมวดคิ้ว

เขาถูกสาปแช่งแล้ว

เขานับนิ้วคำนวณดู คำนวณพบแค่หนังสือเล่มหนึ่ง แต่มองไม่เห็นร่างที่แท้จริงของผู้ที่ใช้หนังสือเล่มนั้น

หนังสือเล่มนี้เหมือนกับที่สาปแช่งพุทธาเทพฟ้าพิโรธไม่มีผิด จักต้องเป็นการลงมือของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างแน่นอน!

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ขมวดคิ้วมุ่นยิ่งกว่าเดิม คิดไม่ถึงว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะสาปแช่งเขาโดยตรง

แต่ว่าพลังสาปแช่งนี้ทำร้ายเขาไม่ได้ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการอ่อนแอเช่นนี้เชียวหรือ

ไม่ถูกต้อง!

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการต้องการก่อกวนมรรคจิตของเขา!

หรือว่าจักรพรรดิปีศาจก็ถูกสาปแช่งจนบ้าคลั่งเช่นนี้

มีความเป็นไปได้มาก!

หากสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจตาย เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะต้องแบกรับแรงกรรมมหาศาล แต่หากก่อกวนจนจักรพรรดิปีศาจโหมพัดกระหน่ำไปทั่วปวงสวรรค์ นั่นก็ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์หรี่ตาลง ท่ามกลางความมืดมิด ราวกับว่าเขามองเห็นเงาร่างหนึ่ง

เงาร่างนั้นยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการบำเพ็ญเพียร ก้มมองปวงสวรรค์หมื่นโลกา มือชั่วร้ายคู่นั้นปรารถนาจะควบคุมมรรคาสวรรค์

ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างแปลกๆ ลุกลามในใจบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์

ศัตรูตัวฉกาจไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่รู้ว่าศัตรูตัวฉกาจคือผู้ใด

……

เจ็ดปีหลังจากที่สิงหงเสวียนไปเกิดใหม่

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังฝึกบำเพ็ญอยู่นั้น พลันมีอักขระปรากฏขึ้นตรงหน้าสามแถว

[ตรวจสอบพบว่าปวงสวรรค์หมื่นโลกามอบชื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการให้กับท่าน ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ขึ้นสวรรค์ทันที อาศัยสถานะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการช่วงชิงดวงชะตายิ่งใหญ่ จะได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น ของล้ำค่าฟ้าดินแบบสุ่มหนึ่งชิ้น ยกระดับระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวฝึกฝนเงียบๆ อยู่ห่างจากแดนเซียน ไม่เข้าร่วมมหาเคราะห์ จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น หินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

หานเจวี๋ยมองดูแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยคำถาม

‘เรื่องบ้าอะไรกัน! เจ้าแห่งแดนต้องห้ามอันธการก็คือข้า?’

ปฏิกิริยาแรกของหานเจวี๋ยก็คือตนเองถูกใส่ร้าย

ปฏิกิริยาต่อมาก็คือตนเองถูกเปิดโปงเข้าแล้ว

ทว่าพอครุ่นคิดดูอีกที ก็ไม่มีการแจ้งเตือนระดับความเกลียดชังจำนวนมาก ที่เกิดความเกลียดชังเขาในช่วงนี้ก็มีเพียงบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เท่านั้น

‘เหตุใดข้าถึงกลายเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้’

หานเจวี๋ยคิดไม่ออก หรือมีผู้ทรงพลังคำนวณได้ว่าเขาเป็นผู้ที่ทะลุมิติมา

เขาเลือกตัวเลือกที่สองในทันที

ตอนนี้ชิ้นส่วนมหามรรคยังไม่มีประโยชน์ ต้องสะสมเอาไว้ก่อน ตอนนี้สะสมได้สองชิ้น

หินวิญญาณมรรคาสวรรค์สามารถยกระดับของวิเศษได้ นับว่าเป็นของดี ไม่ได้ปรากฏมานานแล้ว

สิ่งแรกที่หานเจวี๋ยเลือกก็คือหนังสือแห่งความโชคร้าย

หนังสือแห่งความโชคร้ายเป็นยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ ตอนนี้ไม่นับว่าทรงพลังแล้ว ต้องยกระดับ

ส่วนของวิเศษอื่นๆ นั้นไม่รีบร้อน ถึงอย่างไรเขาก็ต่อสู้กับคนอื่นน้อยอยู่แล้ว

หานเจวี๋ยรีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายกับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์ออกมา และเริ่มผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันเพื่อยกระดับ

หลายวันต่อมา

[หนังสือแห่งความโชคร้ายยกระดับจากยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิเป็นสมบัติวิญญาณระดับเทพ]

หานเจวี๋ยมองเห็นการแจ้งเตือนนี้ ก็อดยิ้มอย่างพอใจไม่ได้

เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง นำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาเพื่อติดต่อกับตี้ไท่ไป๋

เพียงไม่นานพลังจิตก็เชื่อมต่อกัน

“ผู้อาวุโส สถานะของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการนั้น วังสวรรค์รู้จักหรือไม่” หานเจวี๋ยเอ่ยถาม

ตี้ไท่ไป๋ถามกลับด้วยความประหลาดใจ “เจ้าก็เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการด้วยหรือ นั่นคือการดำรงอยู่ที่ลึกลับไม่อาจทราบได้ อาศัยของวิเศษสาปแช่งที่ลึกลับยากจะคาดเดาวางแผนประทุษร้ายปวงสวรรค์ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้สถานะที่แท้จริงของเขา เพราะอย่างนั้นจึงถูกขนานถามว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เทพเซียนของวังสวรรค์เองก็กำลังตรวจสอบเขาอยู่ ว่ากันว่าเขาอาจเป็นการดำรงอยู่ที่ควบคุมมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต”

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+