ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้
“ท่านเจ้าสำนักวางใจเถอะ สำนักเก้ามังกรไม่อาจสร้างปัญหาให้พวกเราได้ ข้ากับเว่ยหยวนเปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพแล้ว ต่างสัญญาว่าแต่ละสำนักจะไม่สร้างความแค้นต่อกันอีก” หานเจวี๋ยกล่าวปลอบใจ

เมื่อเห็นท่าทีเป็นกังวลของหลี่ชิงจื่อแล้ว เขาก็รู้สึกขันยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักท่านนี้มาเพื่อตรวจสอบดูกำลังของเขา ด้วยอยากจะรู้ว่าเขาจะกล้าต้านทานสำนักเก้ามังกรหรือไม่

หลี่ชิงจื่อเอ่ยถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ”

หานเจวี๋ยพยักหน้า

“ดียิ่งนัก! ผู้อาวุโสหาน ท่านสมกับเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์จริงๆ ปูเส้นทางให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์มากมาย กระทั่งข้าก็อยากจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับท่าน!”

“อย่า ข้าไม่อยากถูกตี!”

“ถูกตี?”

“แค่กๆ ไม่มีอะไร ข้าไม่สนใจตำแหน่งเจ้าสำนัก”

“เอาเถิด”

ทั้งสองพูดคุยกันไม่นาน หลังจากได้ข้อมูลแล้วหลี่ชิงจื่อก็จากไป ไม่รบกวนการฝึกฝนของหานเจวี๋ยอีก

เมื่อเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทาน หลี่ชิงจื่อก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นฝูซัง

ต้นฝูซังก็เติบโตขึ้นไม่น้อย ต้นไม้สองต้นพันประสานก็ยากจะได้เห็นยิ่งนัก

สวินฉางอันกุมมือคารวะหลี่ชิงจื่อ

หลี่ชิงจื่อแอบรู้สึกแปลกใจ นี่คือต้นอะไรกัน

สามารถปลูกหน้าถ้ำเทวาของหานเจวี๋ยได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่

หลี่ชิงจื่อคิดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ

ขณะเดียวกันนั้น

หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์

ไม่ได้อ่านจดหมายมาหลายปี ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เหล่าสหายและลูกศิษย์ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x142

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเกิดการบรรลุในขณะบำเพ็ญเพียร เข้าใจพลังวิเศษ]

[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีของสหายร่วมสำนัก] x31

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของสำนักมารปีศาจตกต่ำ]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านตระหนักถึงสัจจะธรรมชีวิตและความตาย พลังมรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x6,287

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านประสบกับโอกาสวาสนา ได้รับกระบี่มาร]

……

ที่ถูกตีก็ยังถูกตี แต่ก็มีคนได้รับโอกาสวาสนา

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าซูฉีกลับได้เข้าร่วมสำนักมารปีศาจแล้ว

ใช้ได้นี่!

เจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทันที เริ่มสาปแช่งเซียวเอ้อร์ ขณะที่สาปแช่งไปนั้นก็อ่านจดหมายไปพลาง

รูปของคนที่เขาติดตามเป็นพิเศษยังคงอยู่ ไม่มีใครตาย ทำให้เขารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก แต่ที่น่าหงุดหงิดใจก็คือรูปของบรรดาคู่แค้นเองก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน

“ยังคงต้องขยันฝึกฝน ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าระดับสุญตายังไม่เพียงพอ ข้าต้องรีบบรรลุระดับรวมกายาในเร็ววัน”

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หลังจากสาปแช่งเซียวเอ้อร์ไปครึ่งชั่วยาม หานเจวี๋ยถึงทำการฝึกฝนต่อ

……

สองปีผ่านไป

ในที่สุดหยางเทียนตงก็กลับมา

หานเจวี๋ยโบกมือ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หลังจากค่ายกลถูกเปิดออกแล้ว หยางเทียนตงก็รีบขึ้นเขาทันที

เมื่อไก่คุกรัตติกาลที่กำลังฝึกฝนอยู่เห็นหยางเทียนตงในอาภรณ์ดำทั้งกาย ก็เอ่ยหยอกล้อว่า “เจ้าละทิ้งมนุษย์กลายเป็นปีศาจแล้วหรือ”

หยางเทียนตงพยักหน้าให้มัน เดินขึ้นเขาต่อไปโดยไม่พูดอะไร

ไก่คุกรัตติกาลเบ้ปาก แค่นเสียงเอ่ย “กลับไม่สนใจพี่ไก่เสียได้ ตบะระดับรวมแก่นปราณแข็งแกร่งนักหรือ สามารถต้านทานกรงเล็บของพี่ไก่ได้หรืออย่างไร”

เมื่อมาถึงหน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หยางเทียนตงก็คุกเข่าลงคารวะอยู่หน้าประตูถ้ำ

สวินฉางอันที่อยู่ข้างต้นฝูซังมองหยางเทียนตงด้วยความแปลกใจ

หรือมนุษย์ปีศาจผู้นี้จะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเขา?

ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยเคยบอกกับเขาว่า เขามีศิษย์พี่สองท่าน

ศิษย์พี่ใหญ่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปร่างของหยางเทียนตงในตอนนี้

“เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยนี่”

น้ำเสียงเฉื่อยเนือยของหานเจวี๋ยดังออกมาจากในถ้ำ

เอ่ยเสียดิบดีว่าจะมุมานะฝึกฝนเป็นเพื่อนอาจารย์ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย สุดท้ายเจ้าก็หนีไปก่อน อีกทั้งยังไม่กลับบ้านอีก!

หยางเทียนตงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อาจารย์ ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชาปีศาจจับไป ไม่อาจทำอะไรได้ หลังจากนั้นได้ประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย ตอนนี้ข้ากลายเป็นราชาปีศาจแล้ว มีปีศาจจำนวนมากอยู่ใต้บัญชา ไม่อาจปล่อยวางได้”

“เหอะๆ”

หานเจวี๋ยหัวเราะน้อยๆ หยางเทียนตงฟังแล้วรู้สึกใจฝ่อ

หยางเทียนตงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “อาจารย์ กลับมาครั้งนี้ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะแจ้งให้ท่านทราบ ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ มารปีศาจที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเยี่ยนได้ฟื้นคืนชีพแล้ว เขามีแผนการร้ายครั้งใหญ่ เขาคิดจะชุบเลี้ยงเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนให้เป็นอาหารของเผ่าปีศาจ อีกทั้งยังได้ส่งเหล่าปีศาจมายังด่านชายแดนต้าเยี่ยน โจมตีจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รอจนเผ่ามนุษย์ไร้ทางหนีแล้วค่อยสำแดงเขี้ยวเล็บออกมา”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่?

หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น “ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด”

หยางเทียนตงเอ่ยตอบ “ศิษย์เองก็ไม่แน่ใจ แต่เขาก็แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ ยามที่อยู่ต่อหน้าเขาข้าไม่อาจคิดต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย ที่ข้ากลับมาในครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะเตือนให้อาจารย์เตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆ หากเห็นสมควรหนีก็ให้หนี”

อย่างไรเสียเขาก็ติดตามหานเจวี๋ยมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงรู้จักนิสัยของหานเจวี๋ยเป็นอย่างดี

การเผชิญหน้ากับมารปีศาจหมื่นปีที่ดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้เช่นราชาปีศาจเตี่ยนซู่นี้ หานเจวี๋ยจะต้องหลีกเลี่ยง และหลบหนีให้ไกลจากอันตรายอย่างแน่นอน

“เจ้ามีความสัมพันธ์ใดกับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ รู้แผนการร้ายของเขาได้อย่างไร”

“ไม่ปิดบังท่าน…ราชาปีศาจเตี่ยนซู่รับข้าเป็นบุตรบุญธรรม ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ หากปฏิเสธข้าอาจตาย…”

“…”

หานเจวี๋ยเกือบจะด่าเปิงแล้ว

เด็กรับใช้!

ความอาฆาตแค้นที่หานเจวี๋ยมีต่อราชาปีศาจเตี่ยนซู่กลายเป็น 5 ดาวภายในพริบตา

นี่มันก็คิดจะแย่งลูกชายเขานี่!

ศิษย์ก็คือลูก!

แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้!

อยู่ๆ หานเจวี๋ยก็คิดกลอุบายขึ้นมาได้ “เจ้ารีบกลับไป แนะนำอาจารย์ให้กับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้รู้จัก สามารถบอกกล่าวชื่ออาจารย์ได้ บอกเขาว่าอาจารย์เคารพเลื่อมใสเขามาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยพูดให้อาจารย์ ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวอาจารย์ให้ได้”

หยางเทียนตงแคลงใจ นี่อาจารย์คิดจะทำอะไรกันแน่

“ยังไม่รีบไปอีก!”

“ออๆ!”

หยางเทียนตงรีบจากไป

หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และฝึกฝนต่อ

หากราชาปีศาจเตี่ยนซู่อยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์ เช่นนั้นก็พาสำนักหยกพิสุทธิ์หนีไปด้วยกันเถอะ

ชีวิตสำคัญกว่า!

…….

สามเดือนหลังจากนั้น

อักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ยขณะที่เขากำลังฝึกฝน

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

หานเจวี๋ยรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาเปิดดูค่าความสัมพันธ์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

อยู่ๆ เขาก็มีความรู้สึกเหมือนเปิดกล่องสุ่ม

สามเทพาจารย์แห่งเต๋าผู้อยู่เบื้องบนโปรดคุ้มครอง ขอให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่อย่าได้มีตบะอยู่เหนือระดับรวมกายาเลย!

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่: ระดับรวมกายาขั้นสี่ มารปีศาจหมื่นปี เต็มไปความเกลียดชังผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ นิสัยปลิ้นปล้อน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

ระดับรวมกายาขั้นสี่!

หานเจวี๋ยแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

ระดับสุญตาขั้นเจ็ดอย่างเขาต่อสู้กับระดับรวมกายาขั้นสี่ คงไม่มีปัญหากระมัง

เขามีสมบัติวิญญาณเต็มกาย มีของวิเศษคู่ชีวิต เข้าใจพลังวิเศษมรรคกระบี่ระดับหมื่นบรรพกาล คงจะต่อสู้กับระดับที่สูงกว่าหนึ่งระดับได้กระมัง

น่าเสียดาย

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ได้มาที่สำนักหยกพิสุทธิ์ หานเจวี๋ยไม่อาจตรวจสอบและจำลองการทดสอบกับเขาได้

ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็ไม่แข็งแกร่งจนถึงขนาดที่หานเจวี๋ยเห็นแล้วอยากหนี

เขาทำการฝึกฝนต่อ!

รอราชาปีศาจเตี่ยนซู่บุกเข้ามาสังหารในสำนักหยกพิสุทธิ์ ผีสางตนใดจะรู้ว่าต้องใช้เวลากี่ปี

ปิดด่านฝึกฝนก่อน รีบทะลวงระดับรวมกายาโดยเร็ว

หลังจากหานเจวี๋ยตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทำการสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่

ทางที่ดีที่สุดกก็สาปแช่งให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ธาตุไฟเข้าแทรก!

หนังสือแห่งความโชคร้ายจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ แต่ไหนแต่ไรหานเจวี๋ยไม่เคยต้องสาปแช่งโดยอาศัยพลังทั้งหมดมาก่อน ก่อนหน้านี้เขาเพียงใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่งสาปแช่งอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

วันนี้ เขาจะลองให้พลังวิญญาณทั้งหมดสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ดูว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร!

หนังสือแห่งความโชคร้ายแผ่ไอดำประหลาดออกมาเป็นสายๆ สาดกระทบลงบนใบหน้าหานเจวี๋ย ดูราวกับเขาเป็นนักพรตชั่วร้ายที่อยู่ในนรกโลกันตร์

ห้าชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยเริ่มมีโลหิตไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด

[แจ้งเตือน ใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายเกินขนาด อาจถูกผลสะท้อนกลับได้]

หานเจวี๋ยมองเห็นอักขระแถวหนึ่งปรากฏตรงหน้า รู้สึกตกใจจนต้องหยุดการกระทำ

เขาเช็ดเลือดบนใบหน้า ก่อนหน้านี้เขาหมกมุ่นเกินไป กลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเลือดไหล

ดูท่าคงไม่อาจใช้พลังกับหนังสือแห่งความโชคร้ายมากเกินไปได้

โชคดีที่กายเนื้อและวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหาย พักผ่อนไม่กี่วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติ

“ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านปีศาจร้ายตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยคิดอย่างรอคอย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้
“ท่านเจ้าสำนักวางใจเถอะ สำนักเก้ามังกรไม่อาจสร้างปัญหาให้พวกเราได้ ข้ากับเว่ยหยวนเปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพแล้ว ต่างสัญญาว่าแต่ละสำนักจะไม่สร้างความแค้นต่อกันอีก” หานเจวี๋ยกล่าวปลอบใจ

เมื่อเห็นท่าทีเป็นกังวลของหลี่ชิงจื่อแล้ว เขาก็รู้สึกขันยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักท่านนี้มาเพื่อตรวจสอบดูกำลังของเขา ด้วยอยากจะรู้ว่าเขาจะกล้าต้านทานสำนักเก้ามังกรหรือไม่

หลี่ชิงจื่อเอ่ยถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ”

หานเจวี๋ยพยักหน้า

“ดียิ่งนัก! ผู้อาวุโสหาน ท่านสมกับเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์จริงๆ ปูเส้นทางให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์มากมาย กระทั่งข้าก็อยากจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับท่าน!”

“อย่า ข้าไม่อยากถูกตี!”

“ถูกตี?”

“แค่กๆ ไม่มีอะไร ข้าไม่สนใจตำแหน่งเจ้าสำนัก”

“เอาเถิด”

ทั้งสองพูดคุยกันไม่นาน หลังจากได้ข้อมูลแล้วหลี่ชิงจื่อก็จากไป ไม่รบกวนการฝึกฝนของหานเจวี๋ยอีก

เมื่อเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทาน หลี่ชิงจื่อก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นฝูซัง

ต้นฝูซังก็เติบโตขึ้นไม่น้อย ต้นไม้สองต้นพันประสานก็ยากจะได้เห็นยิ่งนัก

สวินฉางอันกุมมือคารวะหลี่ชิงจื่อ

หลี่ชิงจื่อแอบรู้สึกแปลกใจ นี่คือต้นอะไรกัน

สามารถปลูกหน้าถ้ำเทวาของหานเจวี๋ยได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่

หลี่ชิงจื่อคิดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ

ขณะเดียวกันนั้น

หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์

ไม่ได้อ่านจดหมายมาหลายปี ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เหล่าสหายและลูกศิษย์ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x142

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเกิดการบรรลุในขณะบำเพ็ญเพียร เข้าใจพลังวิเศษ]

[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีของสหายร่วมสำนัก] x31

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของสำนักมารปีศาจตกต่ำ]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านตระหนักถึงสัจจะธรรมชีวิตและความตาย พลังมรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x6,287

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านประสบกับโอกาสวาสนา ได้รับกระบี่มาร]

……

ที่ถูกตีก็ยังถูกตี แต่ก็มีคนได้รับโอกาสวาสนา

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าซูฉีกลับได้เข้าร่วมสำนักมารปีศาจแล้ว

ใช้ได้นี่!

เจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทันที เริ่มสาปแช่งเซียวเอ้อร์ ขณะที่สาปแช่งไปนั้นก็อ่านจดหมายไปพลาง

รูปของคนที่เขาติดตามเป็นพิเศษยังคงอยู่ ไม่มีใครตาย ทำให้เขารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก แต่ที่น่าหงุดหงิดใจก็คือรูปของบรรดาคู่แค้นเองก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน

“ยังคงต้องขยันฝึกฝน ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าระดับสุญตายังไม่เพียงพอ ข้าต้องรีบบรรลุระดับรวมกายาในเร็ววัน”

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หลังจากสาปแช่งเซียวเอ้อร์ไปครึ่งชั่วยาม หานเจวี๋ยถึงทำการฝึกฝนต่อ

……

สองปีผ่านไป

ในที่สุดหยางเทียนตงก็กลับมา

หานเจวี๋ยโบกมือ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หลังจากค่ายกลถูกเปิดออกแล้ว หยางเทียนตงก็รีบขึ้นเขาทันที

เมื่อไก่คุกรัตติกาลที่กำลังฝึกฝนอยู่เห็นหยางเทียนตงในอาภรณ์ดำทั้งกาย ก็เอ่ยหยอกล้อว่า “เจ้าละทิ้งมนุษย์กลายเป็นปีศาจแล้วหรือ”

หยางเทียนตงพยักหน้าให้มัน เดินขึ้นเขาต่อไปโดยไม่พูดอะไร

ไก่คุกรัตติกาลเบ้ปาก แค่นเสียงเอ่ย “กลับไม่สนใจพี่ไก่เสียได้ ตบะระดับรวมแก่นปราณแข็งแกร่งนักหรือ สามารถต้านทานกรงเล็บของพี่ไก่ได้หรืออย่างไร”

เมื่อมาถึงหน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หยางเทียนตงก็คุกเข่าลงคารวะอยู่หน้าประตูถ้ำ

สวินฉางอันที่อยู่ข้างต้นฝูซังมองหยางเทียนตงด้วยความแปลกใจ

หรือมนุษย์ปีศาจผู้นี้จะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเขา?

ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยเคยบอกกับเขาว่า เขามีศิษย์พี่สองท่าน

ศิษย์พี่ใหญ่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปร่างของหยางเทียนตงในตอนนี้

“เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยนี่”

น้ำเสียงเฉื่อยเนือยของหานเจวี๋ยดังออกมาจากในถ้ำ

เอ่ยเสียดิบดีว่าจะมุมานะฝึกฝนเป็นเพื่อนอาจารย์ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย สุดท้ายเจ้าก็หนีไปก่อน อีกทั้งยังไม่กลับบ้านอีก!

หยางเทียนตงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อาจารย์ ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชาปีศาจจับไป ไม่อาจทำอะไรได้ หลังจากนั้นได้ประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย ตอนนี้ข้ากลายเป็นราชาปีศาจแล้ว มีปีศาจจำนวนมากอยู่ใต้บัญชา ไม่อาจปล่อยวางได้”

“เหอะๆ”

หานเจวี๋ยหัวเราะน้อยๆ หยางเทียนตงฟังแล้วรู้สึกใจฝ่อ

หยางเทียนตงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “อาจารย์ กลับมาครั้งนี้ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะแจ้งให้ท่านทราบ ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ มารปีศาจที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเยี่ยนได้ฟื้นคืนชีพแล้ว เขามีแผนการร้ายครั้งใหญ่ เขาคิดจะชุบเลี้ยงเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนให้เป็นอาหารของเผ่าปีศาจ อีกทั้งยังได้ส่งเหล่าปีศาจมายังด่านชายแดนต้าเยี่ยน โจมตีจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รอจนเผ่ามนุษย์ไร้ทางหนีแล้วค่อยสำแดงเขี้ยวเล็บออกมา”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่?

หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น “ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด”

หยางเทียนตงเอ่ยตอบ “ศิษย์เองก็ไม่แน่ใจ แต่เขาก็แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ ยามที่อยู่ต่อหน้าเขาข้าไม่อาจคิดต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย ที่ข้ากลับมาในครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะเตือนให้อาจารย์เตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆ หากเห็นสมควรหนีก็ให้หนี”

อย่างไรเสียเขาก็ติดตามหานเจวี๋ยมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงรู้จักนิสัยของหานเจวี๋ยเป็นอย่างดี

การเผชิญหน้ากับมารปีศาจหมื่นปีที่ดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้เช่นราชาปีศาจเตี่ยนซู่นี้ หานเจวี๋ยจะต้องหลีกเลี่ยง และหลบหนีให้ไกลจากอันตรายอย่างแน่นอน

“เจ้ามีความสัมพันธ์ใดกับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ รู้แผนการร้ายของเขาได้อย่างไร”

“ไม่ปิดบังท่าน…ราชาปีศาจเตี่ยนซู่รับข้าเป็นบุตรบุญธรรม ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ หากปฏิเสธข้าอาจตาย…”

“…”

หานเจวี๋ยเกือบจะด่าเปิงแล้ว

เด็กรับใช้!

ความอาฆาตแค้นที่หานเจวี๋ยมีต่อราชาปีศาจเตี่ยนซู่กลายเป็น 5 ดาวภายในพริบตา

นี่มันก็คิดจะแย่งลูกชายเขานี่!

ศิษย์ก็คือลูก!

แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้!

อยู่ๆ หานเจวี๋ยก็คิดกลอุบายขึ้นมาได้ “เจ้ารีบกลับไป แนะนำอาจารย์ให้กับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้รู้จัก สามารถบอกกล่าวชื่ออาจารย์ได้ บอกเขาว่าอาจารย์เคารพเลื่อมใสเขามาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยพูดให้อาจารย์ ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวอาจารย์ให้ได้”

หยางเทียนตงแคลงใจ นี่อาจารย์คิดจะทำอะไรกันแน่

“ยังไม่รีบไปอีก!”

“ออๆ!”

หยางเทียนตงรีบจากไป

หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และฝึกฝนต่อ

หากราชาปีศาจเตี่ยนซู่อยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์ เช่นนั้นก็พาสำนักหยกพิสุทธิ์หนีไปด้วยกันเถอะ

ชีวิตสำคัญกว่า!

…….

สามเดือนหลังจากนั้น

อักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ยขณะที่เขากำลังฝึกฝน

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

หานเจวี๋ยรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาเปิดดูค่าความสัมพันธ์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

อยู่ๆ เขาก็มีความรู้สึกเหมือนเปิดกล่องสุ่ม

สามเทพาจารย์แห่งเต๋าผู้อยู่เบื้องบนโปรดคุ้มครอง ขอให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่อย่าได้มีตบะอยู่เหนือระดับรวมกายาเลย!

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่: ระดับรวมกายาขั้นสี่ มารปีศาจหมื่นปี เต็มไปความเกลียดชังผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ นิสัยปลิ้นปล้อน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

ระดับรวมกายาขั้นสี่!

หานเจวี๋ยแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

ระดับสุญตาขั้นเจ็ดอย่างเขาต่อสู้กับระดับรวมกายาขั้นสี่ คงไม่มีปัญหากระมัง

เขามีสมบัติวิญญาณเต็มกาย มีของวิเศษคู่ชีวิต เข้าใจพลังวิเศษมรรคกระบี่ระดับหมื่นบรรพกาล คงจะต่อสู้กับระดับที่สูงกว่าหนึ่งระดับได้กระมัง

น่าเสียดาย

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ได้มาที่สำนักหยกพิสุทธิ์ หานเจวี๋ยไม่อาจตรวจสอบและจำลองการทดสอบกับเขาได้

ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็ไม่แข็งแกร่งจนถึงขนาดที่หานเจวี๋ยเห็นแล้วอยากหนี

เขาทำการฝึกฝนต่อ!

รอราชาปีศาจเตี่ยนซู่บุกเข้ามาสังหารในสำนักหยกพิสุทธิ์ ผีสางตนใดจะรู้ว่าต้องใช้เวลากี่ปี

ปิดด่านฝึกฝนก่อน รีบทะลวงระดับรวมกายาโดยเร็ว

หลังจากหานเจวี๋ยตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทำการสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่

ทางที่ดีที่สุดกก็สาปแช่งให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ธาตุไฟเข้าแทรก!

หนังสือแห่งความโชคร้ายจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ แต่ไหนแต่ไรหานเจวี๋ยไม่เคยต้องสาปแช่งโดยอาศัยพลังทั้งหมดมาก่อน ก่อนหน้านี้เขาเพียงใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่งสาปแช่งอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

วันนี้ เขาจะลองให้พลังวิญญาณทั้งหมดสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ดูว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร!

หนังสือแห่งความโชคร้ายแผ่ไอดำประหลาดออกมาเป็นสายๆ สาดกระทบลงบนใบหน้าหานเจวี๋ย ดูราวกับเขาเป็นนักพรตชั่วร้ายที่อยู่ในนรกโลกันตร์

ห้าชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยเริ่มมีโลหิตไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด

[แจ้งเตือน ใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายเกินขนาด อาจถูกผลสะท้อนกลับได้]

หานเจวี๋ยมองเห็นอักขระแถวหนึ่งปรากฏตรงหน้า รู้สึกตกใจจนต้องหยุดการกระทำ

เขาเช็ดเลือดบนใบหน้า ก่อนหน้านี้เขาหมกมุ่นเกินไป กลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเลือดไหล

ดูท่าคงไม่อาจใช้พลังกับหนังสือแห่งความโชคร้ายมากเกินไปได้

โชคดีที่กายเนื้อและวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหาย พักผ่อนไม่กี่วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติ

“ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านปีศาจร้ายตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยคิดอย่างรอคอย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้
“ท่านเจ้าสำนักวางใจเถอะ สำนักเก้ามังกรไม่อาจสร้างปัญหาให้พวกเราได้ ข้ากับเว่ยหยวนเปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพแล้ว ต่างสัญญาว่าแต่ละสำนักจะไม่สร้างความแค้นต่อกันอีก” หานเจวี๋ยกล่าวปลอบใจ

เมื่อเห็นท่าทีเป็นกังวลของหลี่ชิงจื่อแล้ว เขาก็รู้สึกขันยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักท่านนี้มาเพื่อตรวจสอบดูกำลังของเขา ด้วยอยากจะรู้ว่าเขาจะกล้าต้านทานสำนักเก้ามังกรหรือไม่

หลี่ชิงจื่อเอ่ยถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ”

หานเจวี๋ยพยักหน้า

“ดียิ่งนัก! ผู้อาวุโสหาน ท่านสมกับเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์จริงๆ ปูเส้นทางให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์มากมาย กระทั่งข้าก็อยากจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับท่าน!”

“อย่า ข้าไม่อยากถูกตี!”

“ถูกตี?”

“แค่กๆ ไม่มีอะไร ข้าไม่สนใจตำแหน่งเจ้าสำนัก”

“เอาเถิด”

ทั้งสองพูดคุยกันไม่นาน หลังจากได้ข้อมูลแล้วหลี่ชิงจื่อก็จากไป ไม่รบกวนการฝึกฝนของหานเจวี๋ยอีก

เมื่อเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทาน หลี่ชิงจื่อก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นฝูซัง

ต้นฝูซังก็เติบโตขึ้นไม่น้อย ต้นไม้สองต้นพันประสานก็ยากจะได้เห็นยิ่งนัก

สวินฉางอันกุมมือคารวะหลี่ชิงจื่อ

หลี่ชิงจื่อแอบรู้สึกแปลกใจ นี่คือต้นอะไรกัน

สามารถปลูกหน้าถ้ำเทวาของหานเจวี๋ยได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่

หลี่ชิงจื่อคิดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ

ขณะเดียวกันนั้น

หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์

ไม่ได้อ่านจดหมายมาหลายปี ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เหล่าสหายและลูกศิษย์ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x142

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเกิดการบรรลุในขณะบำเพ็ญเพียร เข้าใจพลังวิเศษ]

[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีของสหายร่วมสำนัก] x31

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของสำนักมารปีศาจตกต่ำ]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านตระหนักถึงสัจจะธรรมชีวิตและความตาย พลังมรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x6,287

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านประสบกับโอกาสวาสนา ได้รับกระบี่มาร]

……

ที่ถูกตีก็ยังถูกตี แต่ก็มีคนได้รับโอกาสวาสนา

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าซูฉีกลับได้เข้าร่วมสำนักมารปีศาจแล้ว

ใช้ได้นี่!

เจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทันที เริ่มสาปแช่งเซียวเอ้อร์ ขณะที่สาปแช่งไปนั้นก็อ่านจดหมายไปพลาง

รูปของคนที่เขาติดตามเป็นพิเศษยังคงอยู่ ไม่มีใครตาย ทำให้เขารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก แต่ที่น่าหงุดหงิดใจก็คือรูปของบรรดาคู่แค้นเองก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน

“ยังคงต้องขยันฝึกฝน ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าระดับสุญตายังไม่เพียงพอ ข้าต้องรีบบรรลุระดับรวมกายาในเร็ววัน”

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หลังจากสาปแช่งเซียวเอ้อร์ไปครึ่งชั่วยาม หานเจวี๋ยถึงทำการฝึกฝนต่อ

……

สองปีผ่านไป

ในที่สุดหยางเทียนตงก็กลับมา

หานเจวี๋ยโบกมือ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หลังจากค่ายกลถูกเปิดออกแล้ว หยางเทียนตงก็รีบขึ้นเขาทันที

เมื่อไก่คุกรัตติกาลที่กำลังฝึกฝนอยู่เห็นหยางเทียนตงในอาภรณ์ดำทั้งกาย ก็เอ่ยหยอกล้อว่า “เจ้าละทิ้งมนุษย์กลายเป็นปีศาจแล้วหรือ”

หยางเทียนตงพยักหน้าให้มัน เดินขึ้นเขาต่อไปโดยไม่พูดอะไร

ไก่คุกรัตติกาลเบ้ปาก แค่นเสียงเอ่ย “กลับไม่สนใจพี่ไก่เสียได้ ตบะระดับรวมแก่นปราณแข็งแกร่งนักหรือ สามารถต้านทานกรงเล็บของพี่ไก่ได้หรืออย่างไร”

เมื่อมาถึงหน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หยางเทียนตงก็คุกเข่าลงคารวะอยู่หน้าประตูถ้ำ

สวินฉางอันที่อยู่ข้างต้นฝูซังมองหยางเทียนตงด้วยความแปลกใจ

หรือมนุษย์ปีศาจผู้นี้จะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเขา?

ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยเคยบอกกับเขาว่า เขามีศิษย์พี่สองท่าน

ศิษย์พี่ใหญ่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปร่างของหยางเทียนตงในตอนนี้

“เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยนี่”

น้ำเสียงเฉื่อยเนือยของหานเจวี๋ยดังออกมาจากในถ้ำ

เอ่ยเสียดิบดีว่าจะมุมานะฝึกฝนเป็นเพื่อนอาจารย์ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย สุดท้ายเจ้าก็หนีไปก่อน อีกทั้งยังไม่กลับบ้านอีก!

หยางเทียนตงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อาจารย์ ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชาปีศาจจับไป ไม่อาจทำอะไรได้ หลังจากนั้นได้ประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย ตอนนี้ข้ากลายเป็นราชาปีศาจแล้ว มีปีศาจจำนวนมากอยู่ใต้บัญชา ไม่อาจปล่อยวางได้”

“เหอะๆ”

หานเจวี๋ยหัวเราะน้อยๆ หยางเทียนตงฟังแล้วรู้สึกใจฝ่อ

หยางเทียนตงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “อาจารย์ กลับมาครั้งนี้ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะแจ้งให้ท่านทราบ ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ มารปีศาจที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเยี่ยนได้ฟื้นคืนชีพแล้ว เขามีแผนการร้ายครั้งใหญ่ เขาคิดจะชุบเลี้ยงเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนให้เป็นอาหารของเผ่าปีศาจ อีกทั้งยังได้ส่งเหล่าปีศาจมายังด่านชายแดนต้าเยี่ยน โจมตีจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รอจนเผ่ามนุษย์ไร้ทางหนีแล้วค่อยสำแดงเขี้ยวเล็บออกมา”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่?

หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น “ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด”

หยางเทียนตงเอ่ยตอบ “ศิษย์เองก็ไม่แน่ใจ แต่เขาก็แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ ยามที่อยู่ต่อหน้าเขาข้าไม่อาจคิดต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย ที่ข้ากลับมาในครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะเตือนให้อาจารย์เตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆ หากเห็นสมควรหนีก็ให้หนี”

อย่างไรเสียเขาก็ติดตามหานเจวี๋ยมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงรู้จักนิสัยของหานเจวี๋ยเป็นอย่างดี

การเผชิญหน้ากับมารปีศาจหมื่นปีที่ดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้เช่นราชาปีศาจเตี่ยนซู่นี้ หานเจวี๋ยจะต้องหลีกเลี่ยง และหลบหนีให้ไกลจากอันตรายอย่างแน่นอน

“เจ้ามีความสัมพันธ์ใดกับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ รู้แผนการร้ายของเขาได้อย่างไร”

“ไม่ปิดบังท่าน…ราชาปีศาจเตี่ยนซู่รับข้าเป็นบุตรบุญธรรม ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ หากปฏิเสธข้าอาจตาย…”

“…”

หานเจวี๋ยเกือบจะด่าเปิงแล้ว

เด็กรับใช้!

ความอาฆาตแค้นที่หานเจวี๋ยมีต่อราชาปีศาจเตี่ยนซู่กลายเป็น 5 ดาวภายในพริบตา

นี่มันก็คิดจะแย่งลูกชายเขานี่!

ศิษย์ก็คือลูก!

แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้!

อยู่ๆ หานเจวี๋ยก็คิดกลอุบายขึ้นมาได้ “เจ้ารีบกลับไป แนะนำอาจารย์ให้กับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้รู้จัก สามารถบอกกล่าวชื่ออาจารย์ได้ บอกเขาว่าอาจารย์เคารพเลื่อมใสเขามาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยพูดให้อาจารย์ ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวอาจารย์ให้ได้”

หยางเทียนตงแคลงใจ นี่อาจารย์คิดจะทำอะไรกันแน่

“ยังไม่รีบไปอีก!”

“ออๆ!”

หยางเทียนตงรีบจากไป

หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และฝึกฝนต่อ

หากราชาปีศาจเตี่ยนซู่อยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์ เช่นนั้นก็พาสำนักหยกพิสุทธิ์หนีไปด้วยกันเถอะ

ชีวิตสำคัญกว่า!

…….

สามเดือนหลังจากนั้น

อักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ยขณะที่เขากำลังฝึกฝน

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

หานเจวี๋ยรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาเปิดดูค่าความสัมพันธ์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

อยู่ๆ เขาก็มีความรู้สึกเหมือนเปิดกล่องสุ่ม

สามเทพาจารย์แห่งเต๋าผู้อยู่เบื้องบนโปรดคุ้มครอง ขอให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่อย่าได้มีตบะอยู่เหนือระดับรวมกายาเลย!

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่: ระดับรวมกายาขั้นสี่ มารปีศาจหมื่นปี เต็มไปความเกลียดชังผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ นิสัยปลิ้นปล้อน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

ระดับรวมกายาขั้นสี่!

หานเจวี๋ยแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

ระดับสุญตาขั้นเจ็ดอย่างเขาต่อสู้กับระดับรวมกายาขั้นสี่ คงไม่มีปัญหากระมัง

เขามีสมบัติวิญญาณเต็มกาย มีของวิเศษคู่ชีวิต เข้าใจพลังวิเศษมรรคกระบี่ระดับหมื่นบรรพกาล คงจะต่อสู้กับระดับที่สูงกว่าหนึ่งระดับได้กระมัง

น่าเสียดาย

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ได้มาที่สำนักหยกพิสุทธิ์ หานเจวี๋ยไม่อาจตรวจสอบและจำลองการทดสอบกับเขาได้

ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็ไม่แข็งแกร่งจนถึงขนาดที่หานเจวี๋ยเห็นแล้วอยากหนี

เขาทำการฝึกฝนต่อ!

รอราชาปีศาจเตี่ยนซู่บุกเข้ามาสังหารในสำนักหยกพิสุทธิ์ ผีสางตนใดจะรู้ว่าต้องใช้เวลากี่ปี

ปิดด่านฝึกฝนก่อน รีบทะลวงระดับรวมกายาโดยเร็ว

หลังจากหานเจวี๋ยตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทำการสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่

ทางที่ดีที่สุดกก็สาปแช่งให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ธาตุไฟเข้าแทรก!

หนังสือแห่งความโชคร้ายจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ แต่ไหนแต่ไรหานเจวี๋ยไม่เคยต้องสาปแช่งโดยอาศัยพลังทั้งหมดมาก่อน ก่อนหน้านี้เขาเพียงใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่งสาปแช่งอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

วันนี้ เขาจะลองให้พลังวิญญาณทั้งหมดสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ดูว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร!

หนังสือแห่งความโชคร้ายแผ่ไอดำประหลาดออกมาเป็นสายๆ สาดกระทบลงบนใบหน้าหานเจวี๋ย ดูราวกับเขาเป็นนักพรตชั่วร้ายที่อยู่ในนรกโลกันตร์

ห้าชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยเริ่มมีโลหิตไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด

[แจ้งเตือน ใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายเกินขนาด อาจถูกผลสะท้อนกลับได้]

หานเจวี๋ยมองเห็นอักขระแถวหนึ่งปรากฏตรงหน้า รู้สึกตกใจจนต้องหยุดการกระทำ

เขาเช็ดเลือดบนใบหน้า ก่อนหน้านี้เขาหมกมุ่นเกินไป กลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเลือดไหล

ดูท่าคงไม่อาจใช้พลังกับหนังสือแห่งความโชคร้ายมากเกินไปได้

โชคดีที่กายเนื้อและวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหาย พักผ่อนไม่กี่วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติ

“ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านปีศาจร้ายตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยคิดอย่างรอคอย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 76 แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้
“ท่านเจ้าสำนักวางใจเถอะ สำนักเก้ามังกรไม่อาจสร้างปัญหาให้พวกเราได้ ข้ากับเว่ยหยวนเปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นมิตรภาพแล้ว ต่างสัญญาว่าแต่ละสำนักจะไม่สร้างความแค้นต่อกันอีก” หานเจวี๋ยกล่าวปลอบใจ

เมื่อเห็นท่าทีเป็นกังวลของหลี่ชิงจื่อแล้ว เขาก็รู้สึกขันยิ่งนัก

เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักท่านนี้มาเพื่อตรวจสอบดูกำลังของเขา ด้วยอยากจะรู้ว่าเขาจะกล้าต้านทานสำนักเก้ามังกรหรือไม่

หลี่ชิงจื่อเอ่ยถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “จริงหรือ”

หานเจวี๋ยพยักหน้า

“ดียิ่งนัก! ผู้อาวุโสหาน ท่านสมกับเป็นผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์จริงๆ ปูเส้นทางให้กับสำนักหยกพิสุทธิ์มากมาย กระทั่งข้าก็อยากจะมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับท่าน!”

“อย่า ข้าไม่อยากถูกตี!”

“ถูกตี?”

“แค่กๆ ไม่มีอะไร ข้าไม่สนใจตำแหน่งเจ้าสำนัก”

“เอาเถิด”

ทั้งสองพูดคุยกันไม่นาน หลังจากได้ข้อมูลแล้วหลี่ชิงจื่อก็จากไป ไม่รบกวนการฝึกฝนของหานเจวี๋ยอีก

เมื่อเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทาน หลี่ชิงจื่อก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางต้นฝูซัง

ต้นฝูซังก็เติบโตขึ้นไม่น้อย ต้นไม้สองต้นพันประสานก็ยากจะได้เห็นยิ่งนัก

สวินฉางอันกุมมือคารวะหลี่ชิงจื่อ

หลี่ชิงจื่อแอบรู้สึกแปลกใจ นี่คือต้นอะไรกัน

สามารถปลูกหน้าถ้ำเทวาของหานเจวี๋ยได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่

หลี่ชิงจื่อคิดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ

ขณะเดียวกันนั้น

หานเจวี๋ยเปิดอ่านจดหมายในค่าความสัมพันธ์

ไม่ได้อ่านจดหมายมาหลายปี ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้เหล่าสหายและลูกศิษย์ของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x142

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเกิดการบรรลุในขณะบำเพ็ญเพียร เข้าใจพลังวิเศษ]

[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีของสหายร่วมสำนัก] x31

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย ดวงชะตาของสำนักมารปีศาจตกต่ำ]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านตระหนักถึงสัจจะธรรมชีวิตและความตาย พลังมรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านเผชิญกับการโจมตีของผู้บำเพ็ญสายมาร] x6,287

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านประสบกับโอกาสวาสนา ได้รับกระบี่มาร]

……

ที่ถูกตีก็ยังถูกตี แต่ก็มีคนได้รับโอกาสวาสนา

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าซูฉีกลับได้เข้าร่วมสำนักมารปีศาจแล้ว

ใช้ได้นี่!

เจ้าเด็กนี่ไม่เลวเลย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทันที เริ่มสาปแช่งเซียวเอ้อร์ ขณะที่สาปแช่งไปนั้นก็อ่านจดหมายไปพลาง

รูปของคนที่เขาติดตามเป็นพิเศษยังคงอยู่ ไม่มีใครตาย ทำให้เขารู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก แต่ที่น่าหงุดหงิดใจก็คือรูปของบรรดาคู่แค้นเองก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน

“ยังคงต้องขยันฝึกฝน ยิ่งสำนักหยกพิสุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าระดับสุญตายังไม่เพียงพอ ข้าต้องรีบบรรลุระดับรวมกายาในเร็ววัน”

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หลังจากสาปแช่งเซียวเอ้อร์ไปครึ่งชั่วยาม หานเจวี๋ยถึงทำการฝึกฝนต่อ

……

สองปีผ่านไป

ในที่สุดหยางเทียนตงก็กลับมา

หานเจวี๋ยโบกมือ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเพียรบำเพ็ญเซียน หลังจากค่ายกลถูกเปิดออกแล้ว หยางเทียนตงก็รีบขึ้นเขาทันที

เมื่อไก่คุกรัตติกาลที่กำลังฝึกฝนอยู่เห็นหยางเทียนตงในอาภรณ์ดำทั้งกาย ก็เอ่ยหยอกล้อว่า “เจ้าละทิ้งมนุษย์กลายเป็นปีศาจแล้วหรือ”

หยางเทียนตงพยักหน้าให้มัน เดินขึ้นเขาต่อไปโดยไม่พูดอะไร

ไก่คุกรัตติกาลเบ้ปาก แค่นเสียงเอ่ย “กลับไม่สนใจพี่ไก่เสียได้ ตบะระดับรวมแก่นปราณแข็งแกร่งนักหรือ สามารถต้านทานกรงเล็บของพี่ไก่ได้หรืออย่างไร”

เมื่อมาถึงหน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หยางเทียนตงก็คุกเข่าลงคารวะอยู่หน้าประตูถ้ำ

สวินฉางอันที่อยู่ข้างต้นฝูซังมองหยางเทียนตงด้วยความแปลกใจ

หรือมนุษย์ปีศาจผู้นี้จะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเขา?

ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยเคยบอกกับเขาว่า เขามีศิษย์พี่สองท่าน

ศิษย์พี่ใหญ่เป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปร่างของหยางเทียนตงในตอนนี้

“เจ้ายังรู้จักกลับมาด้วยนี่”

น้ำเสียงเฉื่อยเนือยของหานเจวี๋ยดังออกมาจากในถ้ำ

เอ่ยเสียดิบดีว่าจะมุมานะฝึกฝนเป็นเพื่อนอาจารย์ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย สุดท้ายเจ้าก็หนีไปก่อน อีกทั้งยังไม่กลับบ้านอีก!

หยางเทียนตงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “อาจารย์ ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชาปีศาจจับไป ไม่อาจทำอะไรได้ หลังจากนั้นได้ประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย ตอนนี้ข้ากลายเป็นราชาปีศาจแล้ว มีปีศาจจำนวนมากอยู่ใต้บัญชา ไม่อาจปล่อยวางได้”

“เหอะๆ”

หานเจวี๋ยหัวเราะน้อยๆ หยางเทียนตงฟังแล้วรู้สึกใจฝ่อ

หยางเทียนตงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “อาจารย์ กลับมาครั้งนี้ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะแจ้งให้ท่านทราบ ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ มารปีศาจที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเยี่ยนได้ฟื้นคืนชีพแล้ว เขามีแผนการร้ายครั้งใหญ่ เขาคิดจะชุบเลี้ยงเผ่ามนุษย์ในต้าเยี่ยนให้เป็นอาหารของเผ่าปีศาจ อีกทั้งยังได้ส่งเหล่าปีศาจมายังด่านชายแดนต้าเยี่ยน โจมตีจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รอจนเผ่ามนุษย์ไร้ทางหนีแล้วค่อยสำแดงเขี้ยวเล็บออกมา”

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่?

หานเจวี๋ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามขึ้น “ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด”

หยางเทียนตงเอ่ยตอบ “ศิษย์เองก็ไม่แน่ใจ แต่เขาก็แข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ ยามที่อยู่ต่อหน้าเขาข้าไม่อาจคิดต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย ที่ข้ากลับมาในครั้งนี้ก็เพื่ออยากจะเตือนให้อาจารย์เตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่นๆ หากเห็นสมควรหนีก็ให้หนี”

อย่างไรเสียเขาก็ติดตามหานเจวี๋ยมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง จึงรู้จักนิสัยของหานเจวี๋ยเป็นอย่างดี

การเผชิญหน้ากับมารปีศาจหมื่นปีที่ดูเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้เช่นราชาปีศาจเตี่ยนซู่นี้ หานเจวี๋ยจะต้องหลีกเลี่ยง และหลบหนีให้ไกลจากอันตรายอย่างแน่นอน

“เจ้ามีความสัมพันธ์ใดกับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ รู้แผนการร้ายของเขาได้อย่างไร”

“ไม่ปิดบังท่าน…ราชาปีศาจเตี่ยนซู่รับข้าเป็นบุตรบุญธรรม ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ หากปฏิเสธข้าอาจตาย…”

“…”

หานเจวี๋ยเกือบจะด่าเปิงแล้ว

เด็กรับใช้!

ความอาฆาตแค้นที่หานเจวี๋ยมีต่อราชาปีศาจเตี่ยนซู่กลายเป็น 5 ดาวภายในพริบตา

นี่มันก็คิดจะแย่งลูกชายเขานี่!

ศิษย์ก็คือลูก!

แค้นที่แย่งบุตร ไม่อาจอยู่ร่วมโลกได้!

อยู่ๆ หานเจวี๋ยก็คิดกลอุบายขึ้นมาได้ “เจ้ารีบกลับไป แนะนำอาจารย์ให้กับราชาปีศาจเตี่ยนซู่ได้รู้จัก สามารถบอกกล่าวชื่ออาจารย์ได้ บอกเขาว่าอาจารย์เคารพเลื่อมใสเขามาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องช่วยพูดให้อาจารย์ ทำให้เขาเกิดความประทับใจในตัวอาจารย์ให้ได้”

หยางเทียนตงแคลงใจ นี่อาจารย์คิดจะทำอะไรกันแน่

“ยังไม่รีบไปอีก!”

“ออๆ!”

หยางเทียนตงรีบจากไป

หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และฝึกฝนต่อ

หากราชาปีศาจเตี่ยนซู่อยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์ เช่นนั้นก็พาสำนักหยกพิสุทธิ์หนีไปด้วยกันเถอะ

ชีวิตสำคัญกว่า!

…….

สามเดือนหลังจากนั้น

อักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ยขณะที่เขากำลังฝึกฝน

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

หานเจวี๋ยรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาเปิดดูค่าความสัมพันธ์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง

อยู่ๆ เขาก็มีความรู้สึกเหมือนเปิดกล่องสุ่ม

สามเทพาจารย์แห่งเต๋าผู้อยู่เบื้องบนโปรดคุ้มครอง ขอให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่อย่าได้มีตบะอยู่เหนือระดับรวมกายาเลย!

[ราชาปีศาจเตี่ยนซู่: ระดับรวมกายาขั้นสี่ มารปีศาจหมื่นปี เต็มไปความเกลียดชังผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ นิสัยปลิ้นปล้อน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]

ระดับรวมกายาขั้นสี่!

หานเจวี๋ยแอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

ระดับสุญตาขั้นเจ็ดอย่างเขาต่อสู้กับระดับรวมกายาขั้นสี่ คงไม่มีปัญหากระมัง

เขามีสมบัติวิญญาณเต็มกาย มีของวิเศษคู่ชีวิต เข้าใจพลังวิเศษมรรคกระบี่ระดับหมื่นบรรพกาล คงจะต่อสู้กับระดับที่สูงกว่าหนึ่งระดับได้กระมัง

น่าเสียดาย

ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ไม่ได้มาที่สำนักหยกพิสุทธิ์ หานเจวี๋ยไม่อาจตรวจสอบและจำลองการทดสอบกับเขาได้

ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ก็ไม่แข็งแกร่งจนถึงขนาดที่หานเจวี๋ยเห็นแล้วอยากหนี

เขาทำการฝึกฝนต่อ!

รอราชาปีศาจเตี่ยนซู่บุกเข้ามาสังหารในสำนักหยกพิสุทธิ์ ผีสางตนใดจะรู้ว่าต้องใช้เวลากี่ปี

ปิดด่านฝึกฝนก่อน รีบทะลวงระดับรวมกายาโดยเร็ว

หลังจากหานเจวี๋ยตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ก็นำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาทำการสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่

ทางที่ดีที่สุดกก็สาปแช่งให้ราชาปีศาจเตี่ยนซู่ธาตุไฟเข้าแทรก!

หนังสือแห่งความโชคร้ายจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ แต่ไหนแต่ไรหานเจวี๋ยไม่เคยต้องสาปแช่งโดยอาศัยพลังทั้งหมดมาก่อน ก่อนหน้านี้เขาเพียงใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่งสาปแช่งอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

วันนี้ เขาจะลองให้พลังวิญญาณทั้งหมดสาปแช่งราชาปีศาจเตี่ยนซู่ ดูว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร!

หนังสือแห่งความโชคร้ายแผ่ไอดำประหลาดออกมาเป็นสายๆ สาดกระทบลงบนใบหน้าหานเจวี๋ย ดูราวกับเขาเป็นนักพรตชั่วร้ายที่อยู่ในนรกโลกันตร์

ห้าชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยเริ่มมีโลหิตไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด

[แจ้งเตือน ใช้หนังสือแห่งความโชคร้ายเกินขนาด อาจถูกผลสะท้อนกลับได้]

หานเจวี๋ยมองเห็นอักขระแถวหนึ่งปรากฏตรงหน้า รู้สึกตกใจจนต้องหยุดการกระทำ

เขาเช็ดเลือดบนใบหน้า ก่อนหน้านี้เขาหมกมุ่นเกินไป กลับไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเลือดไหล

ดูท่าคงไม่อาจใช้พลังกับหนังสือแห่งความโชคร้ายมากเกินไปได้

โชคดีที่กายเนื้อและวิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหาย พักผ่อนไม่กี่วันก็สามารถกลับมาเป็นปกติ

“ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางด้านปีศาจร้ายตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง” หานเจวี๋ยคิดอย่างรอคอย

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+