ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล

หรือกายดาราอนธการสามารถดูดซับแรงกรรมและแปลงเอามาใช้ประโยชน์เองได้?

หานเจวี๋ยรู้สึกประหลาดใจ

ปราณอนธการเปรียบได้กับการสำรองพลังเวทของเขา ปราณอนธการยิ่งมาก เขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง!

นี่นับว่าเป็นความโชคดีของความโชคร้ายได้หรือไม่

หานเจวี๋ยเริ่มสังเกตบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

แรงกรรมที่สะสมจากเคราะห์หนักทั้งสี่นั้นน่าสะพรึงจริงๆ หานเจวี๋ยสัมผัสได้ว่าหากตนตกเข้าไปภายในของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เกรงว่าอาจจะถูกแรงกรรมมหันต์กลืนกินจนสิ้นซากในพริบตา

หากหานเจวี๋ยกลืนกินแรงกรรมทั้งหมดนั้นจะเป็นอย่างไร

แค่เขาคิดเล่นๆ หัวใจก็พลันเต้นรัวเร็วขึ้น

ต้าหลัว?

เกรงว่าคงไม่เพียงเท่านั้นแน่!

หานเจวี๋ยไม่ได้ตื่นเต้นจนเกินเหตุ เรื่องนี้ยังต้องเฝ้าสังเกตต่อไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกแรงกรรมทำลายทำลายสภาวะจิต

เวลาหลายเดือนผ่านไปในพริบตา

หานเจวี๋ยพบว่าแรงกรรมไม่สามารถกัดกินกายดาราอนธการของเขาได้ ทำให้เขาเบาใจลงอย่างสิ้นเชิง

ดูเหมือนว่ากายดาราอนธการยังซ่อนนัยเร้นลับที่หานเจวี๋ยไม่เคยรู้เอาไว้อีก

ไม่ใช่คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลธรรมดาๆ เช่นนั้นแน่!

หานเจวี๋ยไม่เชื่อว่าเต้าจื้อจุนก็จะสามารถดูดซับแรงกรรมของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้ หากเป็นเช่นนั้น บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรก็คงไม่ถึงขั้นถูกสยบอยู่ภายใต้ปรโลกชั่วนิรันดร์

หานเจวี๋ยกำลังจะถอนจิตรับรู้ออกมา ทว่าเสียงของจอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ท่านผู้อาวุโส! ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ! ข้ายินดีจะรับใช้สำนักซ่อนเร้นตลอดไป! ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด!

ข้ารู้ว่าท่านอยู่! ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วจริงๆ!”

เสียงของจอมปีศาจคุกรัตติกาลเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถึงขั้นเจือไปด้วยแววสะอื้นไห้

หานเจวี๋ยนิ่งอึ้ง

‘ข้าก็ไม่ได้ทรมานเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าถึงได้ดูน่าเวทนาถึงปานนี้’

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าจอมปีศาจคุกรัตติกาลนั้นได้ถูกทรมานเข้าแล้วจริงๆ

บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรอยู่ในพื้นที่เดียวกับเขา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าหวาดกลัวถึงขีดสุดในความมืดอย่างชัดเจน เขาที่อยู่ภายใต้สถานะวิญญาณไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้ ทำได้เพียงตัวสั่นงันงกเท่านั้น

ทุกวันเขาล้วนใช้เวลาอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ในที่สุดก็รอจนกระทั่งหานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้น

หานเจวี๋ยอดที่จะคิดไตร่ตรองไม่ได้

ตราประทับหกวิถีก็ได้ตรึงประทับภายในวิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสมบูรณ์ ถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว

ช่างเถิด เช่นนั้นก็ปล่อยเขาออกมาก็แล้วกัน

“หลังจากนี้เจ้าจงอยู่ที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียน คอยชี้แนะสั่งสอนไก่คุกรัตติกาลให้บำเพ็ญตบะแล้วกัน”

หานเจวี๋ยกล่าวออกมาง่ายๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้จอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ดีใจจนแทบคลั่ง รีบรับปากว่าจะทุ่มแรงใจชี้แนะสั่งสอนไก่คุกรัตติกาลอย่างแน่นอน

ภายในถ้ำเทวา

หานเจวี๋ยยกมือขึ้น หมอกสีดำระลอกหนึ่งลอยออกมาจากกลางฝ่ามือ ทำเอาอู้เต้าเจี้ยนที่ได้เห็นมองจนตาค้าง

นี่คืออะไร

“เจ้าออกไปเถอะ ไก่คุกรัตติกาลก็อยู่ข้างนอก” หานเจวี๋ยพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ไว้ชีวิตข้า!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลรีบพูดขึ้นเป็นพัลวัน จากนั้นก็บินออกจากถ้ำเทวา

อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามในทันทีว่าเขาเป็นใคร

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้ปิดบัง

เมื่อรู้ว่าไก่คุกรัตติกาลกลับมีที่มาที่ไปเช่นนี้ อู้เต้าเจี้ยนก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

‘ท่านไก่ก็ไม่ได้คุยโว มันก็เป็นหงส์จริงๆ!’

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ส่วนเขาน่ะ เจ้าไม่สามารถไว้ใจได้อย่างสมบูรณ์ เข้าใจหรือไม่”

อู้เต้าเจี้ยนพยักหน้า ไม่ต้องให้หานเจวี๋ยเอ่ยเตือน นางก็ไม่มีทางไว้ใจจอมปีศาจคุกรัตติกาลได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน ความรู้สึกบีบคั้นที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลแผ่ซ่านออกมานั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ

ใต้ต้นฝูซัง

เมื่อไก่คุกรัตติกาลเห็นจอมปีศาจคุกรัตติกาลปรากฏตัวก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มันเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดท่านถึงออกมาจากถ้ำเทวาของนายท่านได้เล่า”

คนอื่นๆ พากันมองไปทางจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสงสัยใคร่รู้

อีกาทองสองตัวมีท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ

ราชามังกรสามหัวมองไปทางจอมปีศาจคุกรัตติกาลด้วยความเกรงกลัว

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเป็นถึงจักรพรรดิเซียนของเผ่าปีศาจ แม้จะไม่มีกายเนื้อ แต่สำหรับปีศาจประหลาด อานุภาพปีศาจก็น่ากลัวอย่างถึงที่สุดแล้ว

“แค่กๆ ข้าถกมรรคกับผู้อาวุโส หลังจากนี้เป็นต้นไปข้าจะเข้าร่วมกับสำนักซ่อนเร้น ข้าก็คือจอมปีศาจคุกรัตติกาล เคยเป็นจอมปีศาจของวังปีศาจในโลกเบื้องบน มาจากเผ่าหงส์คุกรัตติกาล และเป็นหัวหน้าเผ่า ไก่คุกรัตติกาลก็คือน้องชายครรภ์เดียวกันของข้าที่กลับชาติมาเกิด”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลอารัมภบทประโยคหนึ่ง ก่อนเริ่มแนะนำตัวเอง

หลังจากผ่านความหวาดกลัวมาหลายสิบปี เขาก็ไม่สนใจหน้าตาอีกต่อไป ขอเพียงไม่หาเรื่องยั่วโมโหผู้อาวุโสเป็นพอ

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็เริ่มให้ความสนใจขึ้นมาตามๆ กัน พากันล้อมวงเข้ามาในทันที

ในเมื่อเป็นคนกันเอง เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลัวแล้ว

ด้วยเหตุนี้ จอมปีศาจคุกรัตติกาลจึงเข้าร่วมกับสำนักซ่อนเร้น

แดนเซียน

ภายในตำหนักใหญ่ที่มีแสงเทียนสลัวหรุบหรู่ จักรพรรดิปีศาจกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง มีกระบี่สีดำแปลกประหลาดวางพาดอยู่บนตัก

จักรพรรดิปีศาจพลันลืมตาขึ้น หัวคิ้วขมวดมุ่น บ่นพึมพำว่า “คนผู้นี้มีที่มาอย่างไรกันแน่ ถึงกับสามารถปราบจอมปีศาจคุกรัตติกาลได้”

เขาสัมผัสได้ว่าดวงชะตาของวังปีศาจนั้นได้ขาดจอมปีศาจไปหนึ่งคน และนั่นก็คือจอมปีศาจคุกรัตติกาล อีกทั้งจอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็ยังไม่ตาย

เจ้าหมอนี่จำนนต่อศัตรู!

การกบฏก่อนมหาเคราะห์มาเยือน ทำให้จักรพรรดิปีศาจหัวเสียจริงๆ

แต่ว่าตอนนี้จักรพรรดิปีศาจยังไม่มีเวลาไปเยือนโลกมนุษย์ ยามนี้เขากำลังถูกอิทธิพลใหญ่สามฝ่ายล้อมโจมตี สถานการณ์คับขัน

จักรพรรดิปีศาจยกมือขึ้นโบกคราหนึ่ง

เพียงไม่นาน ไอปีศาจกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาภายในตำหนักราวกับดาวตก ก่อนกลายร่างเป็นมนุษย์

ปีศาจตนนี้รูปร่างกำยำ ดูราวกับปีศาจหมีตนหนึ่ง ใบหน้าอัปลักษณ์ บิดเบี้ยวราวกับว่าถูกเพลิงไหม้ลุกโหมแผดเผา

“จอมปีศาจตะวันกล้า เราจะส่งเจ้าไปหาเผ่าเทพอีกาทอง ไปบอกว่าเรายอมรับเงื่อนไขของพวกเขา ให้พวกเขาเผาทำลายโลกมนุษย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ปกครองของวังสวรรค์!”

จักรพรรดิปีศาจกล่าวเสียงขรึม น้ำเสียงเต็มไปด้วยจิตสังหาร

จอมปีศาจตะวันกล้าขมวดคิ้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท เผ่าเทพอีกาทองมักใหญ่ใฝ่สูง หากว่า…”

“ตอบตกลงพวกเขา! หากไม่พังทลายย่อมไร้การก่อสร้าง มหาเคราะห์เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้ใดจะสามารถรับประกันได้ว่าจะเป็นผู้ที่หัวเราะได้ดังที่สุด” จักรพรรดิปีศาจกล่าวพลางโบกแขนเสื้อ ไม่ยอมให้โต้แย้ง

จอมปีศาจตะวันกล้าทำได้เพียงประสานมือและถอยออกไป

จักรพรรดิปีศาจมองกระบี่ในมือแล้วกล่าวพึมพำขึ้นว่า “เคราะห์นี้ เราจะทำให้เผ่าปีศาจกลับคืนสู่จุดสูงสุดของปวงสวรรค์ให้จงได้!”

วาจาเพิ่งสิ้นสุดลง เขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง

สมควรตาย!

เจ้าสุนัขลอบกัดที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดตัวนั้นเริ่มสาปแช่งเขาอีกแล้ว!

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ยี่สิบห้าปีต่อมา ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย นอกจากการฝึกบำเพ็ญตามปกติ โลกอนธการยังกลืนกินแรงกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มขึ้นเร็วเป็นสองเท่าของก่อนหน้านี้

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจว่าตัวเองกำลังแข็งแกร่งมากขึ้นอีกครั้ง

จักรพรรดิเซียนสามวัฏอยู่ไม่ไกลอีกต่อไป!

นอกจากการฝึกบำเพ็ญแล้ว หานเจวี๋ยก็ไม่ลืมที่จะสาปแช่งเหล่าศัตรู

ยามนี้หนังสือแห่งความโชคร้ายได้กลายเป็นยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ การสาปแช่งจักรพรรดิเซียนก็ได้ผลไม่น้อยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ไม่นานจอมปีศาจอินทรีทองถูกสาปจนเกิดมารในใจ คาดว่าไม่เกินร้อยปีคงจะตกตายเป็นแน่แท้

จอมปีศาจคุกรัตติกาลประกอบกายเนื้อขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขาต้องประหลาดใจที่ค้นพบว่าไอเซียนของเขาเพียรบำเพ็ญเซียนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าถ้ำเทวาในวังปีศาจของตนเลยสักนิด

เขาสามารถบำเพ็ญตบะอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ!

หลังจากอยู่ร่วมกันมาหลายปีเพียงนี้ เขากลับเกิดความประทับใจต่อผู้คนในสำนักซ่อนเร้น

ที่สำคัญที่สุดคือเขาพบว่าคนเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลย…

หลงเฮ่า ที่เป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์

สวินฉางอัน โสมวิญญาณบรรพกาลสำนักพุทธ ของล้ำค่าฟ้าดินที่เลื่องชื่อในแดนเซียน

โจวหมิงเยวี่ย เทพปีศาจที่อาละวาดในวังสวรรค์เมื่อไม่นานมานี้ จอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็เคยผูกสัมพันธ์กับเขาเช่นกัน

ถูหลิงเอ๋อร์ ที่ไม่คาดคิดว่าจะมีสายเลือดมหาเวท!

สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ที่กลับสร้างดวงชะตาขึ้นมาได้ด้วยตนเอง!

ฉู่ซื่อเหริน ที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลไม่สามารถคำนวณชีวิตในอดีตชาติของเขาได้ นี่มันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ

ก็หมายความว่าในอดีตชาติฉู่ซื่อเหรินนั้นแข็งแกร่งกว่าเขา!

รวมกับอีกาทองสองตัวที่เขาไม่คิดว่าจะมีผลกรรมกับตี้หงเย่ จอมปีศาจคุกรัตติกาลพลันสัมผัสได้ว่าการเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้นนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย

วันนี้เอง

พุทธะอาภรณ์ขาวมุ่งหน้ามาเยี่ยมหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยยอมให้เขาเข้าพบอย่างยากที่จะได้เห็น

พุทธะอาภรณ์ขาวร่อนกายมาอยู่ที่ใต้ต้นฝูซัง สายตาเหลือบไปเห็นจอมปีศาจคุกรัตติกาล เพียงเท่านั้นก็ตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง

‘เหตุใดจอมปีศาจคุกรัตติกาลถึงมาอยู่ที่นี่ได้’

“เชิญเข้ามาในถ้ำเทวา”

เสียงของหานเจวี๋ยดังลอยเข้ามา พุทธะอาภรณ์ขาวจึงทำได้เพียงระงับความตกตะลึงในใจ เข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทานอย่างระมัดระวัง

พุทธะอาภรณ์ขาวคุกเข่าลงคารวะต่อหน้าหานเจวี๋ย ชิงเอ่ยก่อนว่า “ผู้อาวุโส ข้าเตรียมจะพิสูจน์จักรพรรดิ!”

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 275 ดูดซับแรงกรรม ความตกใจของจอมปีศาจคุกรัตติกาล

หรือกายดาราอนธการสามารถดูดซับแรงกรรมและแปลงเอามาใช้ประโยชน์เองได้?

หานเจวี๋ยรู้สึกประหลาดใจ

ปราณอนธการเปรียบได้กับการสำรองพลังเวทของเขา ปราณอนธการยิ่งมาก เขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง!

นี่นับว่าเป็นความโชคดีของความโชคร้ายได้หรือไม่

หานเจวี๋ยเริ่มสังเกตบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร

แรงกรรมที่สะสมจากเคราะห์หนักทั้งสี่นั้นน่าสะพรึงจริงๆ หานเจวี๋ยสัมผัสได้ว่าหากตนตกเข้าไปภายในของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เกรงว่าอาจจะถูกแรงกรรมมหันต์กลืนกินจนสิ้นซากในพริบตา

หากหานเจวี๋ยกลืนกินแรงกรรมทั้งหมดนั้นจะเป็นอย่างไร

แค่เขาคิดเล่นๆ หัวใจก็พลันเต้นรัวเร็วขึ้น

ต้าหลัว?

เกรงว่าคงไม่เพียงเท่านั้นแน่!

หานเจวี๋ยไม่ได้ตื่นเต้นจนเกินเหตุ เรื่องนี้ยังต้องเฝ้าสังเกตต่อไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกแรงกรรมทำลายทำลายสภาวะจิต

เวลาหลายเดือนผ่านไปในพริบตา

หานเจวี๋ยพบว่าแรงกรรมไม่สามารถกัดกินกายดาราอนธการของเขาได้ ทำให้เขาเบาใจลงอย่างสิ้นเชิง

ดูเหมือนว่ากายดาราอนธการยังซ่อนนัยเร้นลับที่หานเจวี๋ยไม่เคยรู้เอาไว้อีก

ไม่ใช่คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลธรรมดาๆ เช่นนั้นแน่!

หานเจวี๋ยไม่เชื่อว่าเต้าจื้อจุนก็จะสามารถดูดซับแรงกรรมของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้ หากเป็นเช่นนั้น บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรก็คงไม่ถึงขั้นถูกสยบอยู่ภายใต้ปรโลกชั่วนิรันดร์

หานเจวี๋ยกำลังจะถอนจิตรับรู้ออกมา ทว่าเสียงของจอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ท่านผู้อาวุโส! ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ! ข้ายินดีจะรับใช้สำนักซ่อนเร้นตลอดไป! ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด!

ข้ารู้ว่าท่านอยู่! ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วจริงๆ!”

เสียงของจอมปีศาจคุกรัตติกาลเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถึงขั้นเจือไปด้วยแววสะอื้นไห้

หานเจวี๋ยนิ่งอึ้ง

‘ข้าก็ไม่ได้ทรมานเจ้าเสียหน่อย เหตุใดเจ้าถึงได้ดูน่าเวทนาถึงปานนี้’

โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าจอมปีศาจคุกรัตติกาลนั้นได้ถูกทรมานเข้าแล้วจริงๆ

บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรอยู่ในพื้นที่เดียวกับเขา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าหวาดกลัวถึงขีดสุดในความมืดอย่างชัดเจน เขาที่อยู่ภายใต้สถานะวิญญาณไม่สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้ ทำได้เพียงตัวสั่นงันงกเท่านั้น

ทุกวันเขาล้วนใช้เวลาอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ในที่สุดก็รอจนกระทั่งหานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้น

หานเจวี๋ยอดที่จะคิดไตร่ตรองไม่ได้

ตราประทับหกวิถีก็ได้ตรึงประทับภายในวิญญาณของจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสมบูรณ์ ถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว

ช่างเถิด เช่นนั้นก็ปล่อยเขาออกมาก็แล้วกัน

“หลังจากนี้เจ้าจงอยู่ที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียน คอยชี้แนะสั่งสอนไก่คุกรัตติกาลให้บำเพ็ญตบะแล้วกัน”

หานเจวี๋ยกล่าวออกมาง่ายๆ เมื่อได้ยินเช่นนี้จอมปีศาจคุกรัตติกาลก็ดีใจจนแทบคลั่ง รีบรับปากว่าจะทุ่มแรงใจชี้แนะสั่งสอนไก่คุกรัตติกาลอย่างแน่นอน

ภายในถ้ำเทวา

หานเจวี๋ยยกมือขึ้น หมอกสีดำระลอกหนึ่งลอยออกมาจากกลางฝ่ามือ ทำเอาอู้เต้าเจี้ยนที่ได้เห็นมองจนตาค้าง

นี่คืออะไร

“เจ้าออกไปเถอะ ไก่คุกรัตติกาลก็อยู่ข้างนอก” หานเจวี๋ยพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ไว้ชีวิตข้า!”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลรีบพูดขึ้นเป็นพัลวัน จากนั้นก็บินออกจากถ้ำเทวา

อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามในทันทีว่าเขาเป็นใคร

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้ปิดบัง

เมื่อรู้ว่าไก่คุกรัตติกาลกลับมีที่มาที่ไปเช่นนี้ อู้เต้าเจี้ยนก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

‘ท่านไก่ก็ไม่ได้คุยโว มันก็เป็นหงส์จริงๆ!’

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ส่วนเขาน่ะ เจ้าไม่สามารถไว้ใจได้อย่างสมบูรณ์ เข้าใจหรือไม่”

อู้เต้าเจี้ยนพยักหน้า ไม่ต้องให้หานเจวี๋ยเอ่ยเตือน นางก็ไม่มีทางไว้ใจจอมปีศาจคุกรัตติกาลได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน ความรู้สึกบีบคั้นที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลแผ่ซ่านออกมานั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ

ใต้ต้นฝูซัง

เมื่อไก่คุกรัตติกาลเห็นจอมปีศาจคุกรัตติกาลปรากฏตัวก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มันเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดท่านถึงออกมาจากถ้ำเทวาของนายท่านได้เล่า”

คนอื่นๆ พากันมองไปทางจอมปีศาจคุกรัตติกาลอย่างสงสัยใคร่รู้

อีกาทองสองตัวมีท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ

ราชามังกรสามหัวมองไปทางจอมปีศาจคุกรัตติกาลด้วยความเกรงกลัว

จอมปีศาจคุกรัตติกาลเป็นถึงจักรพรรดิเซียนของเผ่าปีศาจ แม้จะไม่มีกายเนื้อ แต่สำหรับปีศาจประหลาด อานุภาพปีศาจก็น่ากลัวอย่างถึงที่สุดแล้ว

“แค่กๆ ข้าถกมรรคกับผู้อาวุโส หลังจากนี้เป็นต้นไปข้าจะเข้าร่วมกับสำนักซ่อนเร้น ข้าก็คือจอมปีศาจคุกรัตติกาล เคยเป็นจอมปีศาจของวังปีศาจในโลกเบื้องบน มาจากเผ่าหงส์คุกรัตติกาล และเป็นหัวหน้าเผ่า ไก่คุกรัตติกาลก็คือน้องชายครรภ์เดียวกันของข้าที่กลับชาติมาเกิด”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลอารัมภบทประโยคหนึ่ง ก่อนเริ่มแนะนำตัวเอง

หลังจากผ่านความหวาดกลัวมาหลายสิบปี เขาก็ไม่สนใจหน้าตาอีกต่อไป ขอเพียงไม่หาเรื่องยั่วโมโหผู้อาวุโสเป็นพอ

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็เริ่มให้ความสนใจขึ้นมาตามๆ กัน พากันล้อมวงเข้ามาในทันที

ในเมื่อเป็นคนกันเอง เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลัวแล้ว

ด้วยเหตุนี้ จอมปีศาจคุกรัตติกาลจึงเข้าร่วมกับสำนักซ่อนเร้น

แดนเซียน

ภายในตำหนักใหญ่ที่มีแสงเทียนสลัวหรุบหรู่ จักรพรรดิปีศาจกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง มีกระบี่สีดำแปลกประหลาดวางพาดอยู่บนตัก

จักรพรรดิปีศาจพลันลืมตาขึ้น หัวคิ้วขมวดมุ่น บ่นพึมพำว่า “คนผู้นี้มีที่มาอย่างไรกันแน่ ถึงกับสามารถปราบจอมปีศาจคุกรัตติกาลได้”

เขาสัมผัสได้ว่าดวงชะตาของวังปีศาจนั้นได้ขาดจอมปีศาจไปหนึ่งคน และนั่นก็คือจอมปีศาจคุกรัตติกาล อีกทั้งจอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็ยังไม่ตาย

เจ้าหมอนี่จำนนต่อศัตรู!

การกบฏก่อนมหาเคราะห์มาเยือน ทำให้จักรพรรดิปีศาจหัวเสียจริงๆ

แต่ว่าตอนนี้จักรพรรดิปีศาจยังไม่มีเวลาไปเยือนโลกมนุษย์ ยามนี้เขากำลังถูกอิทธิพลใหญ่สามฝ่ายล้อมโจมตี สถานการณ์คับขัน

จักรพรรดิปีศาจยกมือขึ้นโบกคราหนึ่ง

เพียงไม่นาน ไอปีศาจกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาภายในตำหนักราวกับดาวตก ก่อนกลายร่างเป็นมนุษย์

ปีศาจตนนี้รูปร่างกำยำ ดูราวกับปีศาจหมีตนหนึ่ง ใบหน้าอัปลักษณ์ บิดเบี้ยวราวกับว่าถูกเพลิงไหม้ลุกโหมแผดเผา

“จอมปีศาจตะวันกล้า เราจะส่งเจ้าไปหาเผ่าเทพอีกาทอง ไปบอกว่าเรายอมรับเงื่อนไขของพวกเขา ให้พวกเขาเผาทำลายโลกมนุษย์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ปกครองของวังสวรรค์!”

จักรพรรดิปีศาจกล่าวเสียงขรึม น้ำเสียงเต็มไปด้วยจิตสังหาร

จอมปีศาจตะวันกล้าขมวดคิ้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท เผ่าเทพอีกาทองมักใหญ่ใฝ่สูง หากว่า…”

“ตอบตกลงพวกเขา! หากไม่พังทลายย่อมไร้การก่อสร้าง มหาเคราะห์เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้ใดจะสามารถรับประกันได้ว่าจะเป็นผู้ที่หัวเราะได้ดังที่สุด” จักรพรรดิปีศาจกล่าวพลางโบกแขนเสื้อ ไม่ยอมให้โต้แย้ง

จอมปีศาจตะวันกล้าทำได้เพียงประสานมือและถอยออกไป

จักรพรรดิปีศาจมองกระบี่ในมือแล้วกล่าวพึมพำขึ้นว่า “เคราะห์นี้ เราจะทำให้เผ่าปีศาจกลับคืนสู่จุดสูงสุดของปวงสวรรค์ให้จงได้!”

วาจาเพิ่งสิ้นสุดลง เขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง

สมควรตาย!

เจ้าสุนัขลอบกัดที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดตัวนั้นเริ่มสาปแช่งเขาอีกแล้ว!

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ยี่สิบห้าปีต่อมา ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย นอกจากการฝึกบำเพ็ญตามปกติ โลกอนธการยังกลืนกินแรงกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มขึ้นเร็วเป็นสองเท่าของก่อนหน้านี้

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจว่าตัวเองกำลังแข็งแกร่งมากขึ้นอีกครั้ง

จักรพรรดิเซียนสามวัฏอยู่ไม่ไกลอีกต่อไป!

นอกจากการฝึกบำเพ็ญแล้ว หานเจวี๋ยก็ไม่ลืมที่จะสาปแช่งเหล่าศัตรู

ยามนี้หนังสือแห่งความโชคร้ายได้กลายเป็นยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ การสาปแช่งจักรพรรดิเซียนก็ได้ผลไม่น้อยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ไม่นานจอมปีศาจอินทรีทองถูกสาปจนเกิดมารในใจ คาดว่าไม่เกินร้อยปีคงจะตกตายเป็นแน่แท้

จอมปีศาจคุกรัตติกาลประกอบกายเนื้อขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เขาต้องประหลาดใจที่ค้นพบว่าไอเซียนของเขาเพียรบำเพ็ญเซียนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าถ้ำเทวาในวังปีศาจของตนเลยสักนิด

เขาสามารถบำเพ็ญตบะอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ!

หลังจากอยู่ร่วมกันมาหลายปีเพียงนี้ เขากลับเกิดความประทับใจต่อผู้คนในสำนักซ่อนเร้น

ที่สำคัญที่สุดคือเขาพบว่าคนเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลย…

หลงเฮ่า ที่เป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์

สวินฉางอัน โสมวิญญาณบรรพกาลสำนักพุทธ ของล้ำค่าฟ้าดินที่เลื่องชื่อในแดนเซียน

โจวหมิงเยวี่ย เทพปีศาจที่อาละวาดในวังสวรรค์เมื่อไม่นานมานี้ จอมปีศาจคุกรัตติกาลเองก็เคยผูกสัมพันธ์กับเขาเช่นกัน

ถูหลิงเอ๋อร์ ที่ไม่คาดคิดว่าจะมีสายเลือดมหาเวท!

สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น ที่กลับสร้างดวงชะตาขึ้นมาได้ด้วยตนเอง!

ฉู่ซื่อเหริน ที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลไม่สามารถคำนวณชีวิตในอดีตชาติของเขาได้ นี่มันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ

ก็หมายความว่าในอดีตชาติฉู่ซื่อเหรินนั้นแข็งแกร่งกว่าเขา!

รวมกับอีกาทองสองตัวที่เขาไม่คิดว่าจะมีผลกรรมกับตี้หงเย่ จอมปีศาจคุกรัตติกาลพลันสัมผัสได้ว่าการเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้นนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย

วันนี้เอง

พุทธะอาภรณ์ขาวมุ่งหน้ามาเยี่ยมหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยยอมให้เขาเข้าพบอย่างยากที่จะได้เห็น

พุทธะอาภรณ์ขาวร่อนกายมาอยู่ที่ใต้ต้นฝูซัง สายตาเหลือบไปเห็นจอมปีศาจคุกรัตติกาล เพียงเท่านั้นก็ตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง

‘เหตุใดจอมปีศาจคุกรัตติกาลถึงมาอยู่ที่นี่ได้’

“เชิญเข้ามาในถ้ำเทวา”

เสียงของหานเจวี๋ยดังลอยเข้ามา พุทธะอาภรณ์ขาวจึงทำได้เพียงระงับความตกตะลึงในใจ เข้าไปในถ้ำเทวาฟ้าประทานอย่างระมัดระวัง

พุทธะอาภรณ์ขาวคุกเข่าลงคารวะต่อหน้าหานเจวี๋ย ชิงเอ่ยก่อนว่า “ผู้อาวุโส ข้าเตรียมจะพิสูจน์จักรพรรดิ!”

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+