ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน

เมื่อพูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์อยู่พักหนึ่ง หานเจวี๋ยก็ตัดการเชื่อมพลังจิต

เขาปักใจกับแดนชำระบาปเก้าขุม

ทะลวงขั้นก่อน จากนั้นค่อยสร้างหุ่นเชิดแห่งสวรรค์หรือแบ่งร่างแยกไปสำรวจแดนชำระบาปเก้าขุม

หากสามารถซ่อนตัวในแดนชำระบาปเก้าขุมได้ เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็หลีกหนีจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตได้อย่างง่ายดายจริงๆ

อย่างไรเสียแดนชำระบาปเก้าขุมก็เทียบเท่ากับสุดปลายขอบของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต

การทะลวงขั้นทั้งเก้าวัฏของระดับจักรพรรดิเซียนคล้ายคลึงกันยิ่งนัก จุดสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณ หานเจวี๋ยเข้าสู่สภาวะทะลวงขั้นอย่างเชี่ยวชาญคุ้นชิน

สามปีผ่านไป

เขาฝืนทะลวงขั้นถึงระดับจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏแล้ว!

พลังเวทเพิ่มพูน วิญญาณเปลี่ยนแปลง!

หานเจวี๋ยควบรวมตบะพลางเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาตรวจสอบ

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 4,111 / 1,300,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์เซียน (กายดาราอนธการ)]

[ตบะ: จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเจ็ดวัฏ]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

….

อายุขัยหนึ่งพันสามร้อยล้านล้านปี แม้แต่เศษทศนิยมก็เพิ่มคืนมา

หานเจวี๋ยพลันรู้สึกอ้างว้างขึ้นมา

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อายุขัยของเขาจะยืนยาวมากล้นเกินไปถึงเพียงใดกัน

ไร้ที่สิ้นสุด ก็คือเป็นอมตะนิจนิรันดร์!

ใช้เวลาอยู่หนึ่งปีถึงควบรวมตบะเสร็จสิ้น เทียบกับก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยใช้เวลาน้อยลง ที่สำคัญคือเขาคุ้นเคยกับทุกอย่างในระดับจักรพรดิเซียนแล้ว

‘เพิ่งทะลวงขั้นมา ต้องฉลองกันหน่อย’

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ เขาไม่คิดจะสาปแช่งศัตรูต่อ สถานการณ์ในตอนนี้ยอดเยี่ยมนัก ทำให้เขามีเวลาฝึกบำเพ็ญมากขึ้น หากสาปแช่งบรรพชนมรรคาสวรรค์หรือจักรพรรดิปีศาจให้ตาย สมดุลจะถูกทำลาย มหาเคราะห์ทวีความรุนแรง ไม่แน่ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการบำเพ็ญของเขา

ขอเพียงรับประกันได้ว่าจักรพรรดิสวรรค์จะไม่ตายก็พอ!

หานเจวี๋ยตัดสินใจที่จะใช้ความสามารถวิวัฒนาการเพื่อฉลอง

ครั้งก่อนเขาเลือกตัดใจจากคำถาม ทว่าอายุขัยในครั้งนี้มากมายล้นเหลือ ถามได้แล้ว!

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ ‘ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดแข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ครั้งนี้’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

เด็ดเดี่ยวหน่อย!

หลังจากหานเจวี๋ยยืนยันเรียบร้อย ในสมองพลันมีเงาร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมา

เป็นบุรุษชุดขาวคนหนึ่ง หานเจวี๋ยไม่เคยเห็นมาก่อน

เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน

หานเจวี๋ยสงสัย

ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่าระบบขี้โกง ข้าจ่ายอายุขัยไปพันล้านปี เจ้าให้ข้าเห็นแค่ภาพหรือ

ไม่มีข้อความประกอบหน่อยหรืออย่างไร

หานเจวี๋ยเพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา เบื้องหน้าก็มีอักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้น

[จู่ถู: ไม่ทราบตบะ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ดวงจิตกำเนิดฟ้า เคยเป็นรองเจ้านิกายเจี๋ย ผู้ฝ่าเคราะห์สองสมัย พลิกเปลี่ยนชะตาฟ้าลิขิต เปลี่ยนสถานะตัวตนใหม่ ก่อตั้งวังเทพ มุ่งหมายครอบครองมหาเคราะห์ ผันตัวเป็นเจ้าแห่งมหาเคราะห์]

หืม?

ผู้ก่อตั้งวังเทพหรือ

อดีตรองเจ้านิกายแห่งนิกายเจี๋ย

ไอ้หนุ่มสองหน้าอีกคนแล้ว!

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

เขาไม่คิดเลยว่าวังเทพจะซุกซ่อนตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิสวรรค์ บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์และจักรพรรดิปีศาจเอาไว้

เห็นทีว่าต่อไปนี้จะมองเมินวังเทพไม่ได้แล้ว!

หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังไม่คิดสาปแช่งจู่ถู

จู่ถูไม่ได้มาหาเรื่องเขา เขาย่อมไม่สาปแช่ง วังเทพจะมีชัยในมหาเคราะห์ก็ได้ แต่ขอเพียงไม่โค่นล้มวังสวรรค์ก็พอ

วังสวรรค์ผ่านเคราะห์กรรมมามากมาย ไม่เคยมีชัยเลยสักครั้ง ดังนั้นจักรพรรดิจึงไม่คาดหวังจะมีชัยในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต เพียงอยู่รอดได้ก็พอ

กลุ่มอิทธิพลมรรคาสวรรค์เฉกเช่นวังสวรรค์ ไม่สามารถเอาชีวิตรอดไปวันๆ ได้ จำเป็นต้องช่วงชิงโชคชะตา ทำให้ผู้มีชัยครั่นคร้าม ไม่กล้าโค่นล้ม ถึงจะรักษาฐานไว้ได้

จากนั้น หานเจวี๋ยก็เริ่มสาปแช่งศัตรู หนึ่งคนห้าวัน ไม่มากไปกว่านั้น

เขาสาปแช่งพลางตรวจดูจดหมายไปด้วย

[ซูฉีศิษย์ของท่านเข้าสู่แดนต้องห้ามอันธการ]

[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านหวนสู่วังสวรรค์]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x210221

[บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน เนื่องด้วยคำสาปแช่งของท่าน จิตมารทวีความรุนแรง กลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์]

[เต้าจื้อจุนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังแห่งวังสวรรค์]

[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]

….

หืม?

ไม่ใช่ว่าเจียงอี้ไปแสวงโชคหรอกหรือ ไปถูกทุบตีได้อย่างไรกัน

เป็นเพียงจักรพรรดิเซียนกลับทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้เชียวหรือ

หานเจวี๋ยลอบเหยียดหยามอยู่ในใจ โชคดีที่เขาไม่ได้ตามไปด้วย

หวนคืนแดนเซียนอันใดกัน ดูอันตรายยิ่งนัก

สหาย หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปนะ วันหน้ามาติดตามข้าเถิด อย่างน้อยก็ไม่ถูกทุบตีแน่

ความประทับใจที่หานเจวี๋ยมีต่อเจียงอี้ยังคงยอดเยี่ยมนัก ถึงอย่างไรเพื่อเขาแล้ว เจียงอี้ก็เคยถูกจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตีจนบาดเจ็บสาหัส

สหายดีๆ เช่นนี้ หานเจวี๋ยไม่อยากให้เขาตาย

อีกอย่าง บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก็กลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์เช่นกัน

หานเจวี๋ยไม่เข้าใจเลย

เหตุใดจึงมีผู้ฝ่าเคราะห์มากมายเช่นนี้

จี้เซียนเสินเอย จักรพรรดิปีศาจเอย ต้วนหงเฉินเอย

ขอเพียงเข้าสู่เคราะห์กรรมก็เป็นได้หรือ

ทว่าเหตุใดจักรพรรดิสวรรค์และพวกยอดแม่ทัพเทพถึงไม่ได้เป็นเล่า

หานเจวี๋ยคิดว่าผู้ฝ่าเคราะห์คือตัวเอกแห่งมหาเคราะห์

รอดูต่อไปเถิด

ศัตรูตัวฉกาจทั้งสองล้วนกลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์ก็ไม่เลวเลย อย่างน้อยโอกาสที่พวกเขาจะสิ้นชีพก็เพิ่มขึ้นอีกมาก

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นจดหมายฉบับหนึ่ง

หลี่เต้าคงเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิปีศาจ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่บาดเจ็บเลย

คนผู้นี้ก็มีฝีมืออยู่บ้าง

ไม่แปลกใจเลยที่ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิสวรรค์ปานนี้

ระดับครึ่งต้าหลัวก็สามารถต่อกรกับยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ได้แล้ว มีบารมีแบบข้าอยู่บ้าง!

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หนึ่งปีต่อมา หานเจวี๋ยยกระดับมรรคกระบี่ของเขาให้ถึงขีดสูงสุด

เขาเริ่มศึกษาค้นคว้าบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรที่อยู่ในร่าง

หากไปยังแดนชำระบาปเก้าขุม ต้องมีแรงกรรมพัวพันกาย มิเช่นนั้นหากเข้าสู่แดนชำระบาปเก้าขุม จะต้องถูกผีร้ายเหล่านั้นรุมหน้าล้อมหลัง ฉีกทึ้งทั้งเป็น

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าถึงแม้แดนชำระบาปเก้าขุมจะอันตราย แต่สงบสุขแน่นอน ไม่อย่างนั้นต้วนหงเฉินจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังไม่สามารถควบคุมแรงกรรมได้ ทำได้เพียงดูดซับเท่านั้น

ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏแล้ว เขาอยากลองดูว่าตนจะสามารถควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้หรือไม่

ดูดซับมานานหลายปีเช่นนี้ บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรคุ้นเคยกับกลิ่นอายของเขาแล้ว อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าไม่ได้อันตรายถึงเพียงนั้น

จักรวาลโลกดาราที่อยู่ในส่วนลึกของวิญญาณอุดมไปด้วยปราณอนธการ หมอกม่วงมากมายไร้ที่สิ้นสุดแผ่ขยายอยู่ระหว่างหมู่ดาว แม้แต่โลกเขย่าพิภพก็ถูกห่อหุ้มไว้เช่นกัน

เคยมีผู้บำเพ็ญโบยบินออกมาจากโลกเขย่าพิภพ คิดจะออกจากโลกเขย่าพิภพ ผลก็คือถูกปราณอนธการทำให้ตกใจจนล่าถอยไป หากหานเจวี๋ยไม่ได้ขัดขวางไว้ พวกเขาจะถูกปราณอนธการกลืนกิน กายสิ้นจิตสูญ สลายเป็นเถ้าธุลีปลิดปลิว

ความแข็งแกร่งของปราณอนธการเชื่อมโยงกับตบะของหานเจวี๋ย เทียบเท่ากับพลังเวทของหานเจวี๋ย

พลังเวทระดับจักรพรรดิเซียนมิใช่สิ่งที่วิญญาณธรรมดาจะแตะต้องได้

หนึ่งปีผ่านไป

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็พบหนทาง

ก่อนหน้านี้บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรถูกสะกดไว้ในดวงดารามาโดยตลอด ไม่ได้สัมผัสกับปราณอนธการ ตอนนี้เมื่อปราณอนธการเข้าทับถมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร กลีบดอกของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรซีดจางลง ถึงแม้ระดับความเร็วที่ซีดจางลงจะเชื่องช้ายิ่งนัก แต่ก็ซีดจางลงจริงๆ

หานเจวี๋ยสอดแทรกพลังจิตเข้าไปผ่านบริเวณที่ซีดจางลงได้

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นส่วนที่เล็กน้อยกว่าเมล็ดงาหลายต่อหลายเท่าก็ยังเจือปนด้วยแรงกรรมมหาศาล หานเจวี๋ยควบคุมมัน ปล่อยออกมา ให้โอบพันร่างกายไว้

แต่ก็ทำได้เพียงปลดปล่อยออกมาเท่านั้น เขาไม่สามารถใช้แรงกรรมโจมตีศัตรูได้

หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าจะใช้ปราณอนธการชำระล้างบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร ในเมื่อเขาไม่สามารถขับบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรออกมาจากร่างได้ เช่นนั้นก็จะสยบมันให้ได้แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

อย่างน้อยก็ไม่สามารถปล่อยให้มันกลายเป็นสิ่งอันตรายก่อความไม่เสถียรได้

กระบวนการแช่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรด้วยปราณอนธการไม่จำเป็นต้องจับตามองตลอดเวลา เขาสามารถฝึกบำเพ็ญไปอย่างสบายใจได้

ขอเพียงให้เวลาสักหน่อย ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้แน่

ตู้ม ครืน….

พลันมีเสียงดังสนั่นแว่วขึ้น แม่น้ำปรโลกรอบเกาะสำนักซ่อนเร้นเริ่มมีคลื่นปั่นป่วนซัดโถม

อำนาจกดดันทรงพลังน่าหวาดหวันอย่างหนึ่งเข้าปกคลุมพื้นที่ในรัศมีหลายพันหลายหมื่นลี้

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 329 ผู้แข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ ผู้ฝ่าเคราะห์อีกคน

เมื่อพูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์อยู่พักหนึ่ง หานเจวี๋ยก็ตัดการเชื่อมพลังจิต

เขาปักใจกับแดนชำระบาปเก้าขุม

ทะลวงขั้นก่อน จากนั้นค่อยสร้างหุ่นเชิดแห่งสวรรค์หรือแบ่งร่างแยกไปสำรวจแดนชำระบาปเก้าขุม

หากสามารถซ่อนตัวในแดนชำระบาปเก้าขุมได้ เช่นนั้นหานเจวี๋ยก็หลีกหนีจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตได้อย่างง่ายดายจริงๆ

อย่างไรเสียแดนชำระบาปเก้าขุมก็เทียบเท่ากับสุดปลายขอบของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต

การทะลวงขั้นทั้งเก้าวัฏของระดับจักรพรรดิเซียนคล้ายคลึงกันยิ่งนัก จุดสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของวิญญาณ หานเจวี๋ยเข้าสู่สภาวะทะลวงขั้นอย่างเชี่ยวชาญคุ้นชิน

สามปีผ่านไป

เขาฝืนทะลวงขั้นถึงระดับจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏแล้ว!

พลังเวทเพิ่มพูน วิญญาณเปลี่ยนแปลง!

หานเจวี๋ยควบรวมตบะพลางเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาตรวจสอบ

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 4,111 / 1,300,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์เซียน (กายดาราอนธการ)]

[ตบะ: จักรพรรดิเซียนวัฏจักรเจ็ดวัฏ]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

….

อายุขัยหนึ่งพันสามร้อยล้านล้านปี แม้แต่เศษทศนิยมก็เพิ่มคืนมา

หานเจวี๋ยพลันรู้สึกอ้างว้างขึ้นมา

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อายุขัยของเขาจะยืนยาวมากล้นเกินไปถึงเพียงใดกัน

ไร้ที่สิ้นสุด ก็คือเป็นอมตะนิจนิรันดร์!

ใช้เวลาอยู่หนึ่งปีถึงควบรวมตบะเสร็จสิ้น เทียบกับก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยใช้เวลาน้อยลง ที่สำคัญคือเขาคุ้นเคยกับทุกอย่างในระดับจักรพรดิเซียนแล้ว

‘เพิ่งทะลวงขั้นมา ต้องฉลองกันหน่อย’

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ เขาไม่คิดจะสาปแช่งศัตรูต่อ สถานการณ์ในตอนนี้ยอดเยี่ยมนัก ทำให้เขามีเวลาฝึกบำเพ็ญมากขึ้น หากสาปแช่งบรรพชนมรรคาสวรรค์หรือจักรพรรดิปีศาจให้ตาย สมดุลจะถูกทำลาย มหาเคราะห์ทวีความรุนแรง ไม่แน่ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการบำเพ็ญของเขา

ขอเพียงรับประกันได้ว่าจักรพรรดิสวรรค์จะไม่ตายก็พอ!

หานเจวี๋ยตัดสินใจที่จะใช้ความสามารถวิวัฒนาการเพื่อฉลอง

ครั้งก่อนเขาเลือกตัดใจจากคำถาม ทว่าอายุขัยในครั้งนี้มากมายล้นเหลือ ถามได้แล้ว!

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ ‘ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดแข็งแกร่งที่สุดในมหาเคราะห์ครั้งนี้’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

เด็ดเดี่ยวหน่อย!

หลังจากหานเจวี๋ยยืนยันเรียบร้อย ในสมองพลันมีเงาร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมา

เป็นบุรุษชุดขาวคนหนึ่ง หานเจวี๋ยไม่เคยเห็นมาก่อน

เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน

หานเจวี๋ยสงสัย

ในขณะเดียวกัน เขารู้สึกว่าระบบขี้โกง ข้าจ่ายอายุขัยไปพันล้านปี เจ้าให้ข้าเห็นแค่ภาพหรือ

ไม่มีข้อความประกอบหน่อยหรืออย่างไร

หานเจวี๋ยเพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา เบื้องหน้าก็มีอักขระแถวหนึ่งปรากฏขึ้น

[จู่ถู: ไม่ทราบตบะ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ดวงจิตกำเนิดฟ้า เคยเป็นรองเจ้านิกายเจี๋ย ผู้ฝ่าเคราะห์สองสมัย พลิกเปลี่ยนชะตาฟ้าลิขิต เปลี่ยนสถานะตัวตนใหม่ ก่อตั้งวังเทพ มุ่งหมายครอบครองมหาเคราะห์ ผันตัวเป็นเจ้าแห่งมหาเคราะห์]

หืม?

ผู้ก่อตั้งวังเทพหรือ

อดีตรองเจ้านิกายแห่งนิกายเจี๋ย

ไอ้หนุ่มสองหน้าอีกคนแล้ว!

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

เขาไม่คิดเลยว่าวังเทพจะซุกซ่อนตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิสวรรค์ บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์และจักรพรรดิปีศาจเอาไว้

เห็นทีว่าต่อไปนี้จะมองเมินวังเทพไม่ได้แล้ว!

หานเจวี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังไม่คิดสาปแช่งจู่ถู

จู่ถูไม่ได้มาหาเรื่องเขา เขาย่อมไม่สาปแช่ง วังเทพจะมีชัยในมหาเคราะห์ก็ได้ แต่ขอเพียงไม่โค่นล้มวังสวรรค์ก็พอ

วังสวรรค์ผ่านเคราะห์กรรมมามากมาย ไม่เคยมีชัยเลยสักครั้ง ดังนั้นจักรพรรดิจึงไม่คาดหวังจะมีชัยในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต เพียงอยู่รอดได้ก็พอ

กลุ่มอิทธิพลมรรคาสวรรค์เฉกเช่นวังสวรรค์ ไม่สามารถเอาชีวิตรอดไปวันๆ ได้ จำเป็นต้องช่วงชิงโชคชะตา ทำให้ผู้มีชัยครั่นคร้าม ไม่กล้าโค่นล้ม ถึงจะรักษาฐานไว้ได้

จากนั้น หานเจวี๋ยก็เริ่มสาปแช่งศัตรู หนึ่งคนห้าวัน ไม่มากไปกว่านั้น

เขาสาปแช่งพลางตรวจดูจดหมายไปด้วย

[ซูฉีศิษย์ของท่านเข้าสู่แดนต้องห้ามอันธการ]

[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านหวนสู่วังสวรรค์]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x210221

[บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน เนื่องด้วยคำสาปแช่งของท่าน จิตมารทวีความรุนแรง กลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์]

[เต้าจื้อจุนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังแห่งวังสวรรค์]

[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]

….

หืม?

ไม่ใช่ว่าเจียงอี้ไปแสวงโชคหรอกหรือ ไปถูกทุบตีได้อย่างไรกัน

เป็นเพียงจักรพรรดิเซียนกลับทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้เชียวหรือ

หานเจวี๋ยลอบเหยียดหยามอยู่ในใจ โชคดีที่เขาไม่ได้ตามไปด้วย

หวนคืนแดนเซียนอันใดกัน ดูอันตรายยิ่งนัก

สหาย หวังว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปนะ วันหน้ามาติดตามข้าเถิด อย่างน้อยก็ไม่ถูกทุบตีแน่

ความประทับใจที่หานเจวี๋ยมีต่อเจียงอี้ยังคงยอดเยี่ยมนัก ถึงอย่างไรเพื่อเขาแล้ว เจียงอี้ก็เคยถูกจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตตีจนบาดเจ็บสาหัส

สหายดีๆ เช่นนี้ หานเจวี๋ยไม่อยากให้เขาตาย

อีกอย่าง บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก็กลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์เช่นกัน

หานเจวี๋ยไม่เข้าใจเลย

เหตุใดจึงมีผู้ฝ่าเคราะห์มากมายเช่นนี้

จี้เซียนเสินเอย จักรพรรดิปีศาจเอย ต้วนหงเฉินเอย

ขอเพียงเข้าสู่เคราะห์กรรมก็เป็นได้หรือ

ทว่าเหตุใดจักรพรรดิสวรรค์และพวกยอดแม่ทัพเทพถึงไม่ได้เป็นเล่า

หานเจวี๋ยคิดว่าผู้ฝ่าเคราะห์คือตัวเอกแห่งมหาเคราะห์

รอดูต่อไปเถิด

ศัตรูตัวฉกาจทั้งสองล้วนกลายเป็นผู้ฝ่าเคราะห์ก็ไม่เลวเลย อย่างน้อยโอกาสที่พวกเขาจะสิ้นชีพก็เพิ่มขึ้นอีกมาก

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นจดหมายฉบับหนึ่ง

หลี่เต้าคงเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิปีศาจ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่บาดเจ็บเลย

คนผู้นี้ก็มีฝีมืออยู่บ้าง

ไม่แปลกใจเลยที่ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิสวรรค์ปานนี้

ระดับครึ่งต้าหลัวก็สามารถต่อกรกับยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ได้แล้ว มีบารมีแบบข้าอยู่บ้าง!

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

หนึ่งปีต่อมา หานเจวี๋ยยกระดับมรรคกระบี่ของเขาให้ถึงขีดสูงสุด

เขาเริ่มศึกษาค้นคว้าบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรที่อยู่ในร่าง

หากไปยังแดนชำระบาปเก้าขุม ต้องมีแรงกรรมพัวพันกาย มิเช่นนั้นหากเข้าสู่แดนชำระบาปเก้าขุม จะต้องถูกผีร้ายเหล่านั้นรุมหน้าล้อมหลัง ฉีกทึ้งทั้งเป็น

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าถึงแม้แดนชำระบาปเก้าขุมจะอันตราย แต่สงบสุขแน่นอน ไม่อย่างนั้นต้วนหงเฉินจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไร

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังไม่สามารถควบคุมแรงกรรมได้ ทำได้เพียงดูดซับเท่านั้น

ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏแล้ว เขาอยากลองดูว่าตนจะสามารถควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้หรือไม่

ดูดซับมานานหลายปีเช่นนี้ บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรคุ้นเคยกับกลิ่นอายของเขาแล้ว อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าไม่ได้อันตรายถึงเพียงนั้น

จักรวาลโลกดาราที่อยู่ในส่วนลึกของวิญญาณอุดมไปด้วยปราณอนธการ หมอกม่วงมากมายไร้ที่สิ้นสุดแผ่ขยายอยู่ระหว่างหมู่ดาว แม้แต่โลกเขย่าพิภพก็ถูกห่อหุ้มไว้เช่นกัน

เคยมีผู้บำเพ็ญโบยบินออกมาจากโลกเขย่าพิภพ คิดจะออกจากโลกเขย่าพิภพ ผลก็คือถูกปราณอนธการทำให้ตกใจจนล่าถอยไป หากหานเจวี๋ยไม่ได้ขัดขวางไว้ พวกเขาจะถูกปราณอนธการกลืนกิน กายสิ้นจิตสูญ สลายเป็นเถ้าธุลีปลิดปลิว

ความแข็งแกร่งของปราณอนธการเชื่อมโยงกับตบะของหานเจวี๋ย เทียบเท่ากับพลังเวทของหานเจวี๋ย

พลังเวทระดับจักรพรรดิเซียนมิใช่สิ่งที่วิญญาณธรรมดาจะแตะต้องได้

หนึ่งปีผ่านไป

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็พบหนทาง

ก่อนหน้านี้บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรถูกสะกดไว้ในดวงดารามาโดยตลอด ไม่ได้สัมผัสกับปราณอนธการ ตอนนี้เมื่อปราณอนธการเข้าทับถมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร กลีบดอกของบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรซีดจางลง ถึงแม้ระดับความเร็วที่ซีดจางลงจะเชื่องช้ายิ่งนัก แต่ก็ซีดจางลงจริงๆ

หานเจวี๋ยสอดแทรกพลังจิตเข้าไปผ่านบริเวณที่ซีดจางลงได้

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นส่วนที่เล็กน้อยกว่าเมล็ดงาหลายต่อหลายเท่าก็ยังเจือปนด้วยแรงกรรมมหาศาล หานเจวี๋ยควบคุมมัน ปล่อยออกมา ให้โอบพันร่างกายไว้

แต่ก็ทำได้เพียงปลดปล่อยออกมาเท่านั้น เขาไม่สามารถใช้แรงกรรมโจมตีศัตรูได้

หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าจะใช้ปราณอนธการชำระล้างบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร ในเมื่อเขาไม่สามารถขับบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรออกมาจากร่างได้ เช่นนั้นก็จะสยบมันให้ได้แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์

อย่างน้อยก็ไม่สามารถปล่อยให้มันกลายเป็นสิ่งอันตรายก่อความไม่เสถียรได้

กระบวนการแช่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรด้วยปราณอนธการไม่จำเป็นต้องจับตามองตลอดเวลา เขาสามารถฝึกบำเพ็ญไปอย่างสบายใจได้

ขอเพียงให้เวลาสักหน่อย ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้แน่

ตู้ม ครืน….

พลันมีเสียงดังสนั่นแว่วขึ้น แม่น้ำปรโลกรอบเกาะสำนักซ่อนเร้นเริ่มมีคลื่นปั่นป่วนซัดโถม

อำนาจกดดันทรงพลังน่าหวาดหวันอย่างหนึ่งเข้าปกคลุมพื้นที่ในรัศมีหลายพันหลายหมื่นลี้

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+