ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 358 สิ้นจักรพรรดิปีศาจ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นใหญ่

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 358 สิ้นจักรพรรดิปีศาจ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยิ่งนานท่าทางของจักรพรรดิปีศาจก็ยิ่งผิดปกติ โลหิตเริ่มหลั่งออกมาจากผิวหนัง อีกทั้งกลิ่นอายอันตรายสุดขีดที่แผ่ซ่านออกมาทำเอาหลงเฮ่าที่สังเกตการณ์อยู่รู้สึกหวาดกลัวจนตัวแข็งทื่อ

“มีใครกำลังสาปแช่งเขา อย่างที่เราเคยเผชิญมาก่อน!” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของหลงเฮ่า

หลงเฮ่าพึมพำกับตนเอง “เจ้าน่ะสมควรแล้ว ใครใช้ให้เจ้าสับเปลี่ยนวิญญาณข้าล่ะ”

ที่แท้เสียงนี้ก็เป็นเสียงของเฮ่าเทียน

จิตวิญญาณของเฮ่าเทียนหดตัวอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณหลงเฮ่า ไม่อาจแยกออกมาได้

เฮ่าเทียนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าลูกหมา เราช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นไม่ดีหรือไง ตอนนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เรากับเจ้าถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอะไรนั่นหมายหัว ต่อไปคงจะอยู่ยาก”

หลงเฮ่าลอบถามอย่างฉงนใจ “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเก่งกาจขึ้นถึงขั้นนี้จริงหรือ แม้แต่จักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเจ้าก็ไม่อาจต่อกรได้เชียวหรือ”

“หากเราได้ฟื้นฟูตบะ ย่อมไม่มีทางพ่ายแพ้เขาแน่ แต่น่าเสียดาย…”

“จะเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิปีศาจ จะก้าวซ้ำรอยเดิมกับบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์หรือไม่”

“เป็นไปได้อย่างมาก”

น้ำเสียงของเฮ่าเทียนเคร่งขรึมลง ดูเกรงกลัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างเห็นได้ชัด

ตู้ม!

กายเนื้อของจักรพรรดิปีศาจระเบิดเป็นจุณ โลหิตสาดกระเซ็น ดวงวิญญาณสีดำที่ดูคล้ายคลึงกับวิหคปีศาจบิดเร่าอย่างรุนแรง น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

พลังเวทอันน่าสยดสยองโหมกระหน่ำไปทั่วตำหนัก ตะเกียงน้ำมันของหลงเฮ่าสั่นไหวอย่างรุนแรงตามไปด้วย ข้าวของทุกชิ้นในท้องพระโรงล้วนสั่นสะเทือนอย่างแรง ราวกับถูกแผ่นดินไหวจู่โจม

กลิ่นอายสังหารของจักรพรรดิปีศาจระเบิดไปทั่ว ทำให้หลงเฮ่ารู้สึกหวาดผวา

“นี่น่ะหรือต้าหลัว”

หลงเฮ่าแอบรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับเซียนทองไท่อี่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับต้าหลัว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเล็กกระจ้อยร้อยไม่ต่างจากสัตว์เลื้อยคลาน

จู่ๆ เฮ่าเทียนก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ระวัง เขาใกล้จะรับพลังเวทที่ปั่นป่วนของตนเองไม่ไหว กำลังจะระเบิดแล้ว!”

ระเบิดงั้นหรือ

หลงเฮ่าตกใจจนหน้าถอดสี

ทันใดนั้นจักรพรรดิปีศาจก็คำรามออกมาอย่างเคียดแค้น “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ! เราไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! ตราบใดที่ยังมีความหวังแม้เพียงริบหรี่ เราจะกลับมาปลิดชีพเจ้าให้จงได้! เผ่าปีศาจจงฟัง! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการทำลายดวงชะตาแห่งเผ่าปีศาจ ถือเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าปีศาจตราบนิจนิรันดร์! ตามล่ามันจนถึงที่สุด อย่าหยุดยั้งจนกว่ามันจะสิ้นลม!”

เสียงดังกล่าวดังกึกก้องไปทั่วหมื่นแดนใต้หล้า!

แม้แต่สำนักซ่อนเร้นในแดนชำระบาปเก้าขุมก็ยังได้ยิน

บรรดาศิษย์สำนักซ่อนเร้นต่างพูดไม่ออก

“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย แม้แต่จักรพรรดิปีศาจก็ยังสังหารได้!” จอมปีศาจคุกรัตติกาลกล่าวด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ

เขารู้ดีว่าจักรพรรดิปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหน

ในวังปีศาจ คำพูดของจักรพรรดิปีศาจถือเป็นประกาศิต มีอำนาจสูงสุดไม่สีสิ่งใดเทียบเคียงได้ เทพปีศาจและจอมปีศาจอย่างพวกเขาราวกับถูกกำราบให้ศิโรราบ

จินกังนู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความทอดถอนใจ “ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นเทพฝ่ายใดกันแน่”

ศิษย์ทุกคนต่างก็สงสัยใคร่รู้ในตัวของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

พวกเขาต่างคิดว่าผู้ที่ทรงพลังที่สุดในมหาเคราะห์ครั้งนี้คือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

อู้เต้าเจี้ยนครุ่นคิดอย่างรอบคอบ สายตาทอดมองไปยังถ้ำเทวาฟ้าประทาน

ในขณะเดียวกัน ภายในถ้ำเทวา

หานเจวี๋ยโลหิตไหลอาบหน้า ทั้งยังมีเลือดหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

เขาได้หักอายุขัยของตนไปกว่าหนึ่งหมื่นสามพันล้านปี

ทำไมเจ้านี่ยังไม่ตายอีก!

[จักรพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่าน มารในใจก่อการขัดขืนเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน พลังเวทปะทุ เมื่อแบกรับความโกลาหลไม่ได้ แรงกรรมมหันต์ในกายก็ก่อหายนะ ดวงวิญญาณระเบิด ตัวตายมรรคผลสลาย]

ภาพประจำตัวของจักรพรรดิปีศาจหายไปอย่างฉับพลัน!

หานเจวี๋ยหยุดทันที

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ตายสักที

โชคดีที่จักรพรรดิปีศาจเข่นฆ่าผู้คนมามากมาย แรงกรรมพัวพันกาย มิฉะนั้นหานเจวี๋ยคงไม่มีทางสังหารเขาได้ ดูเหมือนว่าสำหรับผู้ที่ก้าวสู่เคราะห์กรรมนั้น แรงกรรมช่างอันตรายเหลือแสน

หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและเริ่มพักฟื้น ปรับสภาพของตน

ทันทีที่จักรพรรดิปีศาจสิ้นชีพ วังปีศาจก็ต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ นี่ถือเป็นโอกาสของวังสวรรค์ ต่อไปก็ต้องขึ้นอยู่กับวังสวรรค์แล้ว

หนึ่งเดือนต่อมา หานเจวี๋ยสาปแช่งศัตรูคนอื่นจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็ฝึกบำเพ็ญต่อ

แม้ว่าหนังสือแห่งความโชคร้ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ควรพึ่งพามันมากจนเกินไป

เขายังต้องพยายามทำให้ตัวเองแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

วังสวรรค์ พระราชวังเทียมเมฆา เหล่าทวยเทพต่างมารวมตัวกัน

ไม่ว่าจะเป็นเทพเซียนหรือผู้บำเพ็ญแห่งสำนักเต๋าล้วนแต่ตื่นเต้นกันยกใหญ่ ในที่สุดจักรพรรดิปีศาจก็สิ้นชีพเสียที!

แม่ทัพเทพยุทธ์กล่าวอย่างหดหู่ “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการชักจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาจะกลายเป็นศัตรูของวังสวรรค์หรือไม่”

จิ่งเทียนกงกล่าว “ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น หากเขาคิดจะช่วงชิงดวงชะตา ก็ควรก้าวสู่เคราะห์กรรม มิฉะนั้นการสาปแช่งผู้อื่นในมุมมืด ก็เป็นการมอบดวงชะตาให้แก่ผู้อื่น ซึ่งนับเป็นการพยายามที่สูญเปล่า ในความคิดของข้าเขาต้องมีเป้าหมายที่สูงส่งกว่านี้ อาจจะไม่ได้เรียบง่ายอย่างแค่การชิงอำนาจเท่านั้น”

เทพเซียนอดกลอกตามองบนไม่ได้

พวกเขาคบค้าสมาคมกันมาสักพัก ล้วนแต่ทราบดีว่าจิ่งเทียนกงนั้นเทิดทูนเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจนหมดหนทางเยียวยาแล้ว

ในขณะนี้เอง ทหารสวรรค์นายหนึ่งก็รีบร้อนเข้ามาและป่าวประกาศด้วยเสียงดังลั่น “รายงาน…กองทัพวังปีศาจแตกพ่ายแล้ว!”

จักรพรรดิสวรรค์ลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตรัสพลางสรวล “ดีมาก! เทพเซียนทั้งหลายจงฟัง ยกทัพไปปราบปีศาจ!”

“เราต้องการทำลายวังปีศาจให้สิ้นซากภายในหนึ่งร้อยปี!”

อีกด้านหนึ่ง

ปัจฉิมสวรรค์

ภายในวิหารอันโอ่อ่างดงาม บรรพชนพุทธเทวัญ พร้อมด้วยพระพุทธองค์ โพธิสัตว์ และอรหันต์มารวมตัวกัน

“ยังไม่พบเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอีกหรือ”

แม้การสิ้นชีพของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์จะนำความโกรธแค้นมาสู่สำนักพุทธ ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแก้แค้นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เพราะบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์คือร่างแปลงของบรรพชนมาร ถือว่าเป็นผู้ทรยศ เรื่องนี้ทำให้สำนักพุทธอับอายจนไม่กล้าสืบสาวราวเรื่อง

ทั่วทั้งแดนเซียนต่างหัวเราะเยาะ และตั้งคำถามกับพวกเขา!

พระพุทธองค์ท่านหนึ่งกล่าวว่า “นอกจากจู่ถูจากวังเทพที่แอบอ้างเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว ยังมีพวกลัทธิอันธการ เผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์อีก หากมองในแง่ดีคือน่าจะมีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ต่ำกว่าร้อยคน แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่อาจจำแนกพวกเขาได้”

มีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการมากเหลือเกิน!

นับตั้งแต่การตายของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เป็นต้นมา ก็มีผู้ศรัทธาในเจ้าแดนต้องห้ามอันธการผุดขึ้นมาทั่วแดนเซียนราวกับไผ่ที่แตกหน่อหลังฝนพรำ การขยายตัวของพวกเขาจนกระจายไปทั่วแดนเซียน เป็นสัญญาณของความสำเร็จที่เยี่ยมยอด

บรรพชนพุทธเทวัญเอ่ยถาม “วังสวรรค์ได้รับผลกระทบจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการบ้างหรือไม่”

“ได้รับ จักรพรรดิสวรรค์ก็ถูกสาปแช่งบ่อยครั้ง ทว่าไม่สามารถบอกได้ว่าถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการตัวจริงสาปแช่งหรือไม่” โพธิสัตว์ตอบ

บรรพชนพุทธเทวัญถอนหายใจ

สถานการณ์ชักจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ ก่อนหน้านี้ปิดด่านฝึกฝนมานานหลายปี ไม่ค่อยคุ้นเคยกับโครงสร้างของแดนเซียนนัก ยิ่งเวลานี้มีบุคคลลึกลับคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้เขารู้สึกปวดหัวยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ได้ ต้องเรียกบรรพชนพุทธคนอื่นมารวมตัวกันแล้ว”

บรรพชนพุทธเทวัญครุ่นคิดกับตนเอง

สิบปีต่อมา

หลังจากหานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญจนเสร็จสิ้น เขาก็หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาสาปแช่ง และอ่านจดหมายไปพลางๆ

[หลงเฮ่าสหายของท่านได้รับวิชาสืบทอดจากผู้ทรงพลังลึกลับ ฝึกฝนจนได้รับพลังวิเศษมรรคาสวรรค์ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x407

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเอาชนะจักรพรรดิปีศาจหวงหยวน พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านพิชิตยอดสมบัติจักรพรรดิปีศาจ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]

[เต้าจื้อจุนสหายของท่านพบกับอริยบุคคลในนิทรา ได้รับการชี้ทางสว่าง พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จักรพรรดินีผืนพิภพสหายของท่านไปจากยมโลก]

[ไท่ซู่เทียนสหายของท่านกระโจนสู่แม่น้ำโชคชะตา กลับชาติมาเกิดใหม่]

หลงเฮ่าได้พบกับผู้ทรงพลัง เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นเฮ่าเทียน

หากลองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ความสัมพันธ์ของหลงเฮ่ากับเฮ่าเทียนแอบคล้ายคลึงกับตัวเอกในนิยายแอ็กชันแฟนตาซีและตาเฒ่า หากแยกจากกันไม่ได้ บางทีเฮ่าเทียนอาจจะเป็นโอกาสวาสนาของหลงเฮ่าก็เป็นได้

จี้เซียนเสินกับฟางเหลียงยึดติดกันอีกแล้วหรือ ทำไมชอบพัวกันกันตลอดนะ!

คนที่หานเจวี๋ยเป็นห่วงที่สุดคือเต้าจื้อจุน

คำว่าอริยบุคคลมันช่างบาดตาเสียนี่กระไร

‘ไหนบอกว่าอริยบุคคลไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตอย่างไรเล่า’ หานเจวี๋ยอดรู้สึกกังวลไม่ได้

มหาเคราะห์ที่มีอริยบุคคลเข้าร่วมด้วยเรียกได้ว่าเป็นหายนะ ก่อนหน้านี้ที่สองแดนหยินหยางกลับตาลปัตรกัน ก็เป็นฝีมือของอริยบุคคลเช่นกัน

หานเจวี๋ยไล่สายตาลงไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันใด

เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและแผ่พลังจิตออกไป

พื้นที่แห่งหนึ่งในแดนชำระบาปเก้าขุมมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมหาศาลปรากฏตัวอยู่ในที่นั่น สิ่งมีชีวิตที่ว่าคล้ายจะมีทั้งมนุษย์ทั้งจอมเวท มีทั้งชายและหญิง กระจุกตัวรวมกัน ส่งเสียงโวยวายอื้ออึง

……………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 358 สิ้นจักรพรรดิปีศาจ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นใหญ่

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 358 สิ้นจักรพรรดิปีศาจ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยิ่งนานท่าทางของจักรพรรดิปีศาจก็ยิ่งผิดปกติ โลหิตเริ่มหลั่งออกมาจากผิวหนัง อีกทั้งกลิ่นอายอันตรายสุดขีดที่แผ่ซ่านออกมาทำเอาหลงเฮ่าที่สังเกตการณ์อยู่รู้สึกหวาดกลัวจนตัวแข็งทื่อ

“มีใครกำลังสาปแช่งเขา อย่างที่เราเคยเผชิญมาก่อน!” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของหลงเฮ่า

หลงเฮ่าพึมพำกับตนเอง “เจ้าน่ะสมควรแล้ว ใครใช้ให้เจ้าสับเปลี่ยนวิญญาณข้าล่ะ”

ที่แท้เสียงนี้ก็เป็นเสียงของเฮ่าเทียน

จิตวิญญาณของเฮ่าเทียนหดตัวอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณหลงเฮ่า ไม่อาจแยกออกมาได้

เฮ่าเทียนกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าลูกหมา เราช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นไม่ดีหรือไง ตอนนี้ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เรากับเจ้าถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอะไรนั่นหมายหัว ต่อไปคงจะอยู่ยาก”

หลงเฮ่าลอบถามอย่างฉงนใจ “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเก่งกาจขึ้นถึงขั้นนี้จริงหรือ แม้แต่จักรพรรดิสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเจ้าก็ไม่อาจต่อกรได้เชียวหรือ”

“หากเราได้ฟื้นฟูตบะ ย่อมไม่มีทางพ่ายแพ้เขาแน่ แต่น่าเสียดาย…”

“จะเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิปีศาจ จะก้าวซ้ำรอยเดิมกับบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์หรือไม่”

“เป็นไปได้อย่างมาก”

น้ำเสียงของเฮ่าเทียนเคร่งขรึมลง ดูเกรงกลัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างเห็นได้ชัด

ตู้ม!

กายเนื้อของจักรพรรดิปีศาจระเบิดเป็นจุณ โลหิตสาดกระเซ็น ดวงวิญญาณสีดำที่ดูคล้ายคลึงกับวิหคปีศาจบิดเร่าอย่างรุนแรง น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

พลังเวทอันน่าสยดสยองโหมกระหน่ำไปทั่วตำหนัก ตะเกียงน้ำมันของหลงเฮ่าสั่นไหวอย่างรุนแรงตามไปด้วย ข้าวของทุกชิ้นในท้องพระโรงล้วนสั่นสะเทือนอย่างแรง ราวกับถูกแผ่นดินไหวจู่โจม

กลิ่นอายสังหารของจักรพรรดิปีศาจระเบิดไปทั่ว ทำให้หลงเฮ่ารู้สึกหวาดผวา

“นี่น่ะหรือต้าหลัว”

หลงเฮ่าแอบรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับเซียนทองไท่อี่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับต้าหลัว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเล็กกระจ้อยร้อยไม่ต่างจากสัตว์เลื้อยคลาน

จู่ๆ เฮ่าเทียนก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ระวัง เขาใกล้จะรับพลังเวทที่ปั่นป่วนของตนเองไม่ไหว กำลังจะระเบิดแล้ว!”

ระเบิดงั้นหรือ

หลงเฮ่าตกใจจนหน้าถอดสี

ทันใดนั้นจักรพรรดิปีศาจก็คำรามออกมาอย่างเคียดแค้น “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ! เราไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! ตราบใดที่ยังมีความหวังแม้เพียงริบหรี่ เราจะกลับมาปลิดชีพเจ้าให้จงได้! เผ่าปีศาจจงฟัง! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการทำลายดวงชะตาแห่งเผ่าปีศาจ ถือเป็นปฏิปักษ์กับเผ่าปีศาจตราบนิจนิรันดร์! ตามล่ามันจนถึงที่สุด อย่าหยุดยั้งจนกว่ามันจะสิ้นลม!”

เสียงดังกล่าวดังกึกก้องไปทั่วหมื่นแดนใต้หล้า!

แม้แต่สำนักซ่อนเร้นในแดนชำระบาปเก้าขุมก็ยังได้ยิน

บรรดาศิษย์สำนักซ่อนเร้นต่างพูดไม่ออก

“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย แม้แต่จักรพรรดิปีศาจก็ยังสังหารได้!” จอมปีศาจคุกรัตติกาลกล่าวด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ

เขารู้ดีว่าจักรพรรดิปีศาจแข็งแกร่งแค่ไหน

ในวังปีศาจ คำพูดของจักรพรรดิปีศาจถือเป็นประกาศิต มีอำนาจสูงสุดไม่สีสิ่งใดเทียบเคียงได้ เทพปีศาจและจอมปีศาจอย่างพวกเขาราวกับถูกกำราบให้ศิโรราบ

จินกังนู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความทอดถอนใจ “ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นเทพฝ่ายใดกันแน่”

ศิษย์ทุกคนต่างก็สงสัยใคร่รู้ในตัวของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

พวกเขาต่างคิดว่าผู้ที่ทรงพลังที่สุดในมหาเคราะห์ครั้งนี้คือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

อู้เต้าเจี้ยนครุ่นคิดอย่างรอบคอบ สายตาทอดมองไปยังถ้ำเทวาฟ้าประทาน

ในขณะเดียวกัน ภายในถ้ำเทวา

หานเจวี๋ยโลหิตไหลอาบหน้า ทั้งยังมีเลือดหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

เขาได้หักอายุขัยของตนไปกว่าหนึ่งหมื่นสามพันล้านปี

ทำไมเจ้านี่ยังไม่ตายอีก!

[จักรพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่าน มารในใจก่อการขัดขืนเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน พลังเวทปะทุ เมื่อแบกรับความโกลาหลไม่ได้ แรงกรรมมหันต์ในกายก็ก่อหายนะ ดวงวิญญาณระเบิด ตัวตายมรรคผลสลาย]

ภาพประจำตัวของจักรพรรดิปีศาจหายไปอย่างฉับพลัน!

หานเจวี๋ยหยุดทันที

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ตายสักที

โชคดีที่จักรพรรดิปีศาจเข่นฆ่าผู้คนมามากมาย แรงกรรมพัวพันกาย มิฉะนั้นหานเจวี๋ยคงไม่มีทางสังหารเขาได้ ดูเหมือนว่าสำหรับผู้ที่ก้าวสู่เคราะห์กรรมนั้น แรงกรรมช่างอันตรายเหลือแสน

หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและเริ่มพักฟื้น ปรับสภาพของตน

ทันทีที่จักรพรรดิปีศาจสิ้นชีพ วังปีศาจก็ต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ นี่ถือเป็นโอกาสของวังสวรรค์ ต่อไปก็ต้องขึ้นอยู่กับวังสวรรค์แล้ว

หนึ่งเดือนต่อมา หานเจวี๋ยสาปแช่งศัตรูคนอื่นจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็ฝึกบำเพ็ญต่อ

แม้ว่าหนังสือแห่งความโชคร้ายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ควรพึ่งพามันมากจนเกินไป

เขายังต้องพยายามทำให้ตัวเองแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

วังสวรรค์ พระราชวังเทียมเมฆา เหล่าทวยเทพต่างมารวมตัวกัน

ไม่ว่าจะเป็นเทพเซียนหรือผู้บำเพ็ญแห่งสำนักเต๋าล้วนแต่ตื่นเต้นกันยกใหญ่ ในที่สุดจักรพรรดิปีศาจก็สิ้นชีพเสียที!

แม่ทัพเทพยุทธ์กล่าวอย่างหดหู่ “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการชักจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาจะกลายเป็นศัตรูของวังสวรรค์หรือไม่”

จิ่งเทียนกงกล่าว “ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น หากเขาคิดจะช่วงชิงดวงชะตา ก็ควรก้าวสู่เคราะห์กรรม มิฉะนั้นการสาปแช่งผู้อื่นในมุมมืด ก็เป็นการมอบดวงชะตาให้แก่ผู้อื่น ซึ่งนับเป็นการพยายามที่สูญเปล่า ในความคิดของข้าเขาต้องมีเป้าหมายที่สูงส่งกว่านี้ อาจจะไม่ได้เรียบง่ายอย่างแค่การชิงอำนาจเท่านั้น”

เทพเซียนอดกลอกตามองบนไม่ได้

พวกเขาคบค้าสมาคมกันมาสักพัก ล้วนแต่ทราบดีว่าจิ่งเทียนกงนั้นเทิดทูนเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจนหมดหนทางเยียวยาแล้ว

ในขณะนี้เอง ทหารสวรรค์นายหนึ่งก็รีบร้อนเข้ามาและป่าวประกาศด้วยเสียงดังลั่น “รายงาน…กองทัพวังปีศาจแตกพ่ายแล้ว!”

จักรพรรดิสวรรค์ลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตรัสพลางสรวล “ดีมาก! เทพเซียนทั้งหลายจงฟัง ยกทัพไปปราบปีศาจ!”

“เราต้องการทำลายวังปีศาจให้สิ้นซากภายในหนึ่งร้อยปี!”

อีกด้านหนึ่ง

ปัจฉิมสวรรค์

ภายในวิหารอันโอ่อ่างดงาม บรรพชนพุทธเทวัญ พร้อมด้วยพระพุทธองค์ โพธิสัตว์ และอรหันต์มารวมตัวกัน

“ยังไม่พบเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอีกหรือ”

แม้การสิ้นชีพของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์จะนำความโกรธแค้นมาสู่สำนักพุทธ ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแก้แค้นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เพราะบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์คือร่างแปลงของบรรพชนมาร ถือว่าเป็นผู้ทรยศ เรื่องนี้ทำให้สำนักพุทธอับอายจนไม่กล้าสืบสาวราวเรื่อง

ทั่วทั้งแดนเซียนต่างหัวเราะเยาะ และตั้งคำถามกับพวกเขา!

พระพุทธองค์ท่านหนึ่งกล่าวว่า “นอกจากจู่ถูจากวังเทพที่แอบอ้างเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการแล้ว ยังมีพวกลัทธิอันธการ เผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์อีก หากมองในแง่ดีคือน่าจะมีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ต่ำกว่าร้อยคน แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่อาจจำแนกพวกเขาได้”

มีเจ้าแดนต้องห้ามอันธการมากเหลือเกิน!

นับตั้งแต่การตายของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เป็นต้นมา ก็มีผู้ศรัทธาในเจ้าแดนต้องห้ามอันธการผุดขึ้นมาทั่วแดนเซียนราวกับไผ่ที่แตกหน่อหลังฝนพรำ การขยายตัวของพวกเขาจนกระจายไปทั่วแดนเซียน เป็นสัญญาณของความสำเร็จที่เยี่ยมยอด

บรรพชนพุทธเทวัญเอ่ยถาม “วังสวรรค์ได้รับผลกระทบจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการบ้างหรือไม่”

“ได้รับ จักรพรรดิสวรรค์ก็ถูกสาปแช่งบ่อยครั้ง ทว่าไม่สามารถบอกได้ว่าถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการตัวจริงสาปแช่งหรือไม่” โพธิสัตว์ตอบ

บรรพชนพุทธเทวัญถอนหายใจ

สถานการณ์ชักจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ ก่อนหน้านี้ปิดด่านฝึกฝนมานานหลายปี ไม่ค่อยคุ้นเคยกับโครงสร้างของแดนเซียนนัก ยิ่งเวลานี้มีบุคคลลึกลับคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้เขารู้สึกปวดหัวยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ได้ ต้องเรียกบรรพชนพุทธคนอื่นมารวมตัวกันแล้ว”

บรรพชนพุทธเทวัญครุ่นคิดกับตนเอง

สิบปีต่อมา

หลังจากหานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญจนเสร็จสิ้น เขาก็หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาสาปแช่ง และอ่านจดหมายไปพลางๆ

[หลงเฮ่าสหายของท่านได้รับวิชาสืบทอดจากผู้ทรงพลังลึกลับ ฝึกฝนจนได้รับพลังวิเศษมรรคาสวรรค์ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x407

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเอาชนะจักรพรรดิปีศาจหวงหยวน พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านพิชิตยอดสมบัติจักรพรรดิปีศาจ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]

[เต้าจื้อจุนสหายของท่านพบกับอริยบุคคลในนิทรา ได้รับการชี้ทางสว่าง พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]

[จักรพรรดินีผืนพิภพสหายของท่านไปจากยมโลก]

[ไท่ซู่เทียนสหายของท่านกระโจนสู่แม่น้ำโชคชะตา กลับชาติมาเกิดใหม่]

หลงเฮ่าได้พบกับผู้ทรงพลัง เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นเฮ่าเทียน

หากลองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ความสัมพันธ์ของหลงเฮ่ากับเฮ่าเทียนแอบคล้ายคลึงกับตัวเอกในนิยายแอ็กชันแฟนตาซีและตาเฒ่า หากแยกจากกันไม่ได้ บางทีเฮ่าเทียนอาจจะเป็นโอกาสวาสนาของหลงเฮ่าก็เป็นได้

จี้เซียนเสินกับฟางเหลียงยึดติดกันอีกแล้วหรือ ทำไมชอบพัวกันกันตลอดนะ!

คนที่หานเจวี๋ยเป็นห่วงที่สุดคือเต้าจื้อจุน

คำว่าอริยบุคคลมันช่างบาดตาเสียนี่กระไร

‘ไหนบอกว่าอริยบุคคลไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตอย่างไรเล่า’ หานเจวี๋ยอดรู้สึกกังวลไม่ได้

มหาเคราะห์ที่มีอริยบุคคลเข้าร่วมด้วยเรียกได้ว่าเป็นหายนะ ก่อนหน้านี้ที่สองแดนหยินหยางกลับตาลปัตรกัน ก็เป็นฝีมือของอริยบุคคลเช่นกัน

หานเจวี๋ยไล่สายตาลงไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันใด

เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและแผ่พลังจิตออกไป

พื้นที่แห่งหนึ่งในแดนชำระบาปเก้าขุมมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมหาศาลปรากฏตัวอยู่ในที่นั่น สิ่งมีชีวิตที่ว่าคล้ายจะมีทั้งมนุษย์ทั้งจอมเวท มีทั้งชายและหญิง กระจุกตัวรวมกัน ส่งเสียงโวยวายอื้ออึง

……………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+