การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 281 กำลังเสริม

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 281 กำลังเสริม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 281 กำลังเสริม

 

「――ต้องขออภัยด้วยครับ! แต่ดูเหมือนพวกโจรมันจะหนีเข้าไปหลบกันภายในเขามาริสเสียแล้ว!」

 

 

 

พอแอสทริด ได้รับรายงานเช่นนั้นเธอก็ขมวดคิ้วทันที

 

เขามาริสที่ว่าตั้งอยู่ทางตะวันออกของอาณาเขตดรากูนอทซึ่งหากข้ามฟากนั้นไปก็จะเป็นเขตของจักรวรรดิ――ได้อดีตก่อนที่เธอจะเกิด ก็เคยมีการรบกันระหว่างสองประเทศที่เขาลูกนี้แหละ

 

 

 

ทว่าในยุคของเธอตั้งแต่ที่จักรวรรดิได้สร้างถนนแห่งกฎเกณฑ์ขึ้น แนวรบของทั้งสองประเทศก็เลยเคลื่อนไปอยู่ทางเหนือแทน เขามาริสก็เลยไม่ได้มีการรบรากันอีกเลย ทว่าความจริงที่พื้นที่ตรงนั้นมันเป็นเขตก้ำกึ่งระหว่างสองประเทศก็ไม่เปลี่ยน

 

 

แม้จะปราบพวกโจรได้สำเร็จ แต่หากส่งกองกำลังเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ต่างอะไรกับการกระตุ้นให้ทางจักรวรรดิเข้าใจผิดเอาได้

 

 

ดังนั้นหากต้องการเคลื่อนไหวจริงๆ คงไม่พ้นต้องส่งสารไปทางฟากเพื่อขออนุญาตเคลื่อนย้ายกำลังพลตามล่าพวกโจร แต่ในความโชคร้ายนั้นก็ยังดีที่ว่าปัจจุบันทั้งสองประเทศได้มีการสานสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานมาแล้ว คงจะไม่ใช่เรื่องหนักหนามาก

 

ทว่าพอมันเกี่ยวข้องกับกองกำลังทหารการตอบรับก็คงไม่ได้รวดเร็วนักเพราะต้องผ่านการพิจารณามากมาย แอสทริดจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวระหว่างนั้นได้ แต่ระหว่างนั้นพวกโจรมันคงหลุดพ้นไปนานแล้ว

 

 

แอสทริดมองว่าการที่พวกโจรคิดเอาไว้และหนีมาทางเขามาริสแบบนี้ หัวหน้าของพวกมันคงฉลาดไม่น้อย

 

 

 

――ปัญหาก็คือทำไมพวกมันถึงต้องมายังเขตดรากูนอทนี้ด้วย

 

หลังจากบอกให้คนของเธอออกไป เธอก็จมอยู่ภายในความคิดชั่วหนึ่ง

 

พอพิจารณาจากช่วงเวลาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการแต่งงานของทั้งสองประเทศจะต้องเป็นเชื้อไฟในเหตุการณ์นี้แน่

 

 

สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวเธอคือการมีบุคคลที่ 3 มาแทรกแซงระหว่างทั้งสองประเทศ แต่พอคิดว่าเป็นกลุ่มไหนกันล่ะที่ไม่ต้องการให้ทั้งสองประเทศสานสัมพันธ์กัน ก็โผล่มานับไม่ถ้วน

 

 

อย่างรัชทายาทริชาร์ดของจักรวรรดิเองก็เป็นไปได้

 

ฝ่ายต่อต้านจักรวรรดิของคานาเรียก็อาจจะ

 

 

แม้แต่ประเทศใกล้เคียงก็มีหลายฝ่ายไม่พอใจในการแต่งงานคราวนี้ พวกเขาอาจจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังพวกโจรก็ได้

 

 

ไม่สิบางทีอาจจะเป็นแค่คนที่เป็นตระกูลกับดยุกดรากูนอทก็ได้ พวกที่ต้องการล้างแค้นไรโคก็ใช่จะไม่มีเลย แล้วเรื่องงานแต่งก็เป็นโอกาสที่เหมาะพอดีในการก่อเรื่อง

 

 

ศัตรูทางการเมืองของตระกูลอย่างมาร์ควิสโครเคียเองก็อาจจะใช้เรื่องนี้ตำหนิความล้มเหลวของตระกูลเธอได้

 

 

หากมองมุมนี้ พวกสนับสนุนจักรวรรดิของคานาเรียเองก็อาจจะเป็นคนร้ายตัวจริง อย่างไรก็ตามหากจะบอกว่าใช้โจรเพื่อบ่อนทำลายประเทศตัวเองมันก็แปลกๆ อยู่ คนอย่างมาร์ควิสไม่น่าจะยอมทำถึงขั้นนี้….

 

 

หลังจากคิดมาได้สักพัก แอสทริดก็ถอนหายใจ

 

 

 

 

「พอคิดว่าอาจจะเป็นใครก็ได้นี่ลำบากใจจริงๆ 」

 

พูดจบเธอก็เดินออกจากที่พัก

 

 

โชคดีที่เขามาริสไม่มีถนนหรือผู้คนอาศัยอยู่ ก็หมายความว่าการตามล่าของพวกเธอไม่น่าจะมีใครได้รับลูกหลงยกเว้นพวกโจร สิ่งเดียวที่ต้องทำตอนนี้คือการล้อมเขาเอาไว้ไม่ให้พวกมันหนีไปจุดอื่น และเพื่อไม่ให้เรื่องวุ่นวายกว่าเดิม ก็ต้องแจ้งให้พ่อของเธอดำเนินการขอกับทางจักรวรรดิในเรื่องการเคลื่อนไหวแถบชายแดน

 

หากต้องการความร่วมมือจากทางนั้นก็คงต้องผ่านกษัตริย์คานาเรียด้วย เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝากมือพ่อของเธอ

 

 

 

ในเวลาเดียวกันคงต้องส่งสารไปให้ทางจักรวรรดิด้วยว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ที่พวกโจรจะหลบหนีผ่านเขานี้เข้าจักรวรรดิ

 

 

หากทำได้ดีคนที่อยู่เบื้องหลังก็อาจจะโผล่หางมาให้เห็นบ้าง เธอมั่นใจเช่นนั้น

 

 

 

「แต่ระหว่างนี้จะปล่อยให้พวกโจรมันทำอะไรตามใจอยากก็ไม่ได้เสียด้วย เห็นทีคงต้องไปขอทางกิลด์นักผจญภัยในมาช่วยแล้วสิ」

 

 

 

หากเป็นกองกำลังของคานาเรียมันจะเป็นเรื่องใหญ่แต่ถ้าเป็นนักผจญภัยเฉยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา

 

 

อย่างไรก็ตามโจรคราวนี้มันมีการทำงานเป็นระบบ ฝีมือก็มากระดับหนึ่ง จึงมีนักผจญภัยไม่มากนักที่จะรับมือไหว แต่การจะรวบรวมจำนวนเข้าแลกแทนก็ต้องใช้เวลามากอีก สุดท้ายพวกโจรก็ลอยนวลอยู่ดี

 

 

 

จะดีแค่ไหนกันนะ หากมีนักผจญภัยมากความสามารถอยู่ใกล้ๆ นี้ คนที่สามารถจัดการพวกโจรจำนวนมากได้――พอแอสทริดนึกมาถึงตรงนี้เธอก็อดยิ้มอย่างขมขื่นออกมาไม่ได้ มันจะไปมีคนแบบนั้นในเวลาแบบนี้ได้อย่างไรกัน

 

 

ทว่าเธอกลับไม่เคยคาดคิดว่าช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น คนที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวทั้งหมดจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ

 

 

 

 

「รู้สึกเหมือนคนที่ท่านต้องการจะเป็นผมพอดีเลยนะ」

 

 

 

 

โซระที่ได้พบแอสทริดอีกครั้งก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลทันทีที่ได้ยินเรื่องราวฝั่งเธอ

 

 

พอได้ยินแบบนี้แอสทริดเองก็พูดอะไรไม่ออก

 

 

 

ก็จริงว่าหากเป็นคนที่ฆ่าพวกแฟนท่อมได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่สำคัญหรอกว่าจะมีโจรสักกี่ร้อยคน แค่พวกบนเขานั่นคงจะถูกโซระจัดการหมดแน่

 

 

แต่ตัวแอสทริดเองก็ไม่สามารถบอกไปเฉยๆ ว่า งั้นขอขอบคุณมากงั้นก็ช่วยไปจัดการกวาดพวกโจรบนเขาให้หมดด้วยตัวคนเดียวเลยนะ กับคนที่ช่วยชีวิตน้องสาวของเธอได้ง่ายๆ

 

 

นอกจากนี้แอสทริดรู้ดีว่าโซระไม่ค่อยมีความรู้สึกที่ดีกับทางขุนนางและราชวงศ์คานาเรียนัก แม้ว่าปัจจุบันเขาจะแสดงความเป็นมิตรต่อตระกูลเธอแต่การที่พวกเธอใช้ประโยชน์จากน้ำใจนั้นเอาตามสะดวกมันคงไม่ใช่เรื่องดี สุดท้ายโซระอาจจะตัดสินใจตัดสัมพันธ์กับตระกูลเธอด้วยก็ได้

 

ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอมีด้านแบบนั้นอยู่จริงๆ พอคิดได้แบบนี้เธอก็เลยหนักใจว่าจะพูดยังไงกับโซระดี

 

 

คงจะดีไม่น้อยหากแอสทริดสามารถตามไปช่วยได้ แต่การที่เธอเคลื่อนไหวก็ไม่ต่างอะไรกับการพากองกำลังของคานาเรียเคลื่อนไหว มันคงจะสร้างความตื่นตระหนกให้จักรวรรดิเป็นแน่ แม้จะไม่มีเจตนาร้ายอะไรแต่การที่คนระดับรองหัวหน้าภาคีอัศวินมังกรเคลื่อนไหวพร้อมกับดราก้อนสเลเยอร์แถบชายแดน มองจากมุมไหนก็รู้ว่าแปลก

 

 

 

พอเห็นแอสทริดหนักใจกับการตัดสินใจ โซระก็ยิ้มออกมาราวกับจะปัดเป่าความลังเลในใจอีกฝ่าย

 

 

 

「ท่านแอสทริดไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกครับ อันที่จริงทางผมเองก็มีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือทางพวกท่านด้วยสิ」

 

 

 

「ขอความช่วยเหลือ จากฉันกับท่านพ่อเหรอคะ? คนแบบท่านโซระน่ะหรือ? 」

 

 

 

「ครับ ดังนั้นก็ใช้ผมได้ตามสะดวกเลย ยิ่งคำขอยากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งจะขอเรื่องยากๆ ในอนาคตได้สะดวกใจขึ้นด้วยสิ」

 

 

 

โซระมองแอสทริดด้วยสายตาที่ซุกซน เหตุผลที่เขาบอกเป็นเชิงว่าคำขอของเขาอาจจะยุ่งยากมากๆ อาจจะเป็นเพราะเขาอาจจะทำให้แอสทริดไม่ต้องคิดมากในการขอร้องเขาด้วยก็ได้

 

 

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างเหมือนแอสทริดจะไม่สามารถมองโซระตรงๆ ได้เธอจึงเบือนหน้าไปทางอื่นแทน

 

แต่พอเธอรู้สึกตัว เธอก็รีบตั้งสติและกลับมาจ้องมองโซระอีกครั้งแล้วพยักหน้าให้ด้วยความขอบคุณ

 

 

 

「เข้าใจแล้วค่ะ หากเป็นเช่นนั้น คงต้องขอยืมมือท่านโซระหน่อยแล้ว ในทางกลับกันฉันก็จะรับฟังคำขอของทางท่านเป็นการตอบแทนค่ะ」

 

 

แอสทริดตอบด้วยความจริงใจโดยไม่ถามเลยสักนิดว่าสิ่งที่โซระจะขอคืออะไร เพราะเธอเชื่อว่าโซระคงไม่ขออะไรที่มันไร้เหตุผลหรือคิดร้ายกับทางตระกูลเธอแน่

 

 

 

ต่อมาพอแอสทริดได้ยินถึงเรื่องราวที่โซระได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิและการอพยพของพวกคิจิน หัวของเธอก็หมุนไปหมดด้วยความมึนงง แต่สุดท้ายโซระก็ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินขึ้นเขาไป

 

ดราก้อนสเลเยอร์ที่ห่างหายจากคานาเรียไปนานและไม่ได้เข้าร่วมพิธีแต่งงานได้กลับมาแล้ว สถานการณ์ในเขตของเธอคงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่

 

 

「……คลอว」

 

 

 

「มีอะไรเหรอคะ ท่านพี่? 」

 

 

「เกี่ยวกับท่านโซระน่ะ…รู้สึกว่าบรรยากาศของเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อยหรือเปล่า? หากเทียบครั้งล่าสุดที่พี่พบเขา เหมือนเขาจะดูสุขุมก็เดิมอีกนะ….」

 

 

 

「เอ๋ ท่านพี่ก็คิดเหมือนกันใช่ไหมคะ? คุณโซระน่ะ รู้สึกว่าจะดูดีกว่าเดิมเยอะเลยค่ะตั้งแต่ที่กลับมาจากจักรวรรดิ! คุณซีลกับคุณซูซุเมะเองก็คิดแบบฉันเลย!」

 

——-

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด