การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 274 คนที่ 5

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 274 คนที่ 5 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 274 คนที่ 5

 

「ดูจะสนุกกับโซระอยู่พอตัวเลยนะ อย่างที่ข้าคิดนักรบอย่างหมอนั่นแม้จะเป็นมนุษย์ก็คงไม่ต่างกับพวกข้า」

 

 

คาการิที่มองการต่อสู้ของโซระกับชูยะ คุมอนอยู่ไกลๆ กำลังพูดอย่างสนุก

 

 

 

บัดนี้น้องชายคนเล็กสุดของพี่น้องนากายามะ กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนกำแพงเมืองชูโตะซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยสร้างรูขนาดใหญ่เอาไว้ ก่อนพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นการต่อสู้

 

 

สำหรับคาการิแล้ว การได้เจอคู่ต่อสู้ที่ควรค่า แม้อีกฝ่ายจะเป็นมนุษย์ก็นับเป็นเรื่องน่ายินดี

 

 

ูชูยะถูกโซระกดดันมาระยะหนึ่งแล้ว หากมองเผินๆ ก็นับว่ามีความต่างของพลังเป็นอย่างมาก แต่คาการิก็ไม่คิดจะดูถูกความสามารถของชูยะ

 

 

คาการิได้เห็นถึงจุดแข็งของชูยะว่าเขาสามารถป้องการการโจมตีของศัตรูได้อย่างเฉียบคม ก่อนจะสวนกลับไปด้วยพิษร้าย หากอีกฝ่ายยังไม่ยอมเผยช่องว่าง ชูยะก็แค่ต้องป้องกันต่อไปจนกว่าโอกาสจะมา

 

 

แล้วเขาก็ใช้วิธีนี้กับโซระ สำหรับตัวชูยะที่ครอบครองหอกพิษแล้ว วิธีต่อสู้ดังกล่าวน่าจะมีประสิทธิภาพที่สุด

 

 

เห็นได้จากการต่อสู้ที่ผ่านมาได้สักพักแล้ว แม้ตัวชูยะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่เขาก็ยังไม่เคยถูกการโจมตีของโซระสร้างบาดแผลให้เลย นับว่าการป้องกันของเขาแข็งแกร่งจริงๆ

 

 

――หากโซระอยู่ในสภาพเต็มร้อย ปราการเหล็กของชูยะก็น่าจะพังไปแล้ว

 

 

คาการิคิดกับตัวเอง

 

เขาไม่รู้ว่าพวกมนุษย์มองเห็นแบบไหน แต่จากมุมของคาการิเห็นได้ชัดเลยว่าสภาพโซระตอนนี้ยังไม่เต็มร้อย ผลก็มาจากการต่อสู้กับพ่อของเขาวันก่อน

 

 

นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการใช้『กำเนิด』หนึ่งในสี่กระบวนท่าลับ ถึงจะเป็นตัวคาการิเองหากใช้ท่านี้เข้าไปพักแค่วันสองวันไม่มีทางฟื้นกลับมาเต็มร้อยได้แน่

 

 

การเคลื่อนไหวของโซระในตอนนี้ขาดความเฉียบคมที่ปกติจะมี แรงดันของพลังคิก็ไม่เสถียร เหตุผลที่ไม่จัดกระบวนท่าหนักๆ ใส่อีกฝ่ายมาสักพักแล้ว ตัวโซระเองก็คงตระหนักได้ถึงสภาพของตัวเองดี

 

คาการิเลยกะว่าหลังไปตรวจสอบป่าทีทิสเสร็จแล้วนำรายงานกับไปบอกพี่น้องของตัวเอง ก็จะปล่อยให้โซระได้พักผ่อนจนหายดีก่อน แล้วค่อยมาจัดกันสักยก

แค่คิดเขาก็อดยิ้มไม่ได้แล้ว

 

ทันใดนั้นเองเขาก็ถูกคนที่อยู่ข้างๆ เรียก

 

 

 

「ุคุณคาการิคะ」

 

 

 

หญิงสาวที่เรียกคาการิก็คือไคลอา เบิร์ช

 

 

ไคลอาตอนนี้ได้อยู่ข้างๆ คาการิและเฝ้าดูการต่อสู้กับโซระกับชูยะด้วย เห็นได้ชัดว่าเธอแอบกังวลใจถึงสิ่งที่คาการิพูดก่อนหน้านี้

 

 

ถึงจะมั่นใจว่าโซระน่าจะชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ไคลอาก็อยากจะยืนยันถึงข้อสงสัยของตัวเองก่อน

 

 

「คุณพูดว่า อย่างที่ข้าคิด แปลว่าคุณคาการิรู้เรื่องของท่านชูยะมาก่อนแล้วเหรอคะ? 」

 

 

 

คาการิจึงตอบกลับไปอย่างสบายๆ

 

 

 

「อื้อ ก่อนหน้านี้ที่นากายามะมาโจมตีที่นี่ข้าได้แทรกซึมเข้ามาก่อนแล้วน่ะ คนที่ต้องจับตาดูก็มีอยู่ด้วยกัน 5 คน หนึ่งในนั้นก็คือชูยะนี่แหละ」

 

 

 

ไคลอาก็พยักหน้ารับทราบ

 

 

 

ตอนนี้คาการิแทรกซึมเขามาในเกาะ ไคลอาถูกขังไว้ในคุกใต้ดินของตระกูลเบิร์ช ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

 

หากเธอถามโซระ เขาก็น่าจะเล่าเรื่องคาการิให้ฟังหมดแล้ว แต่สำหรับไคลอาที่ใจห่วงแต่จะช่วยคลิมน้องชายของเธอ รายละเอียดของพวกคิจินที่โซระได้เจอหรือสู้ระหว่างอยู่บนเกาะคงไม่สำคัญอะไรสำหรับเธอ

 

 

แน่นอนว่าหลังจากช่วยคลิมมาได้ไคลอาก็ไม่คิดจะถามโซระ

 

ผลก็คือเธอเลยกำลังมารู้ว่าคาการิคือกลุ่มแรกที่เคลื่อนไหวมาโจมตีเกาะ

 

 

「แบบนี้นี่เอง ว่าแต่มีด้วยกัน 5 คนเหรอคะ คุณได้ร่วมท่านโซระเอาไว้ด้วยหรือเปล่า? 」

 

 

 

「อื้อ รวมโซระด้วยสิ」

 

 

 

 

 

พอไคลอาได้ยินแบบนั้น เธอก็หันไปสบตากับเออซูร่า

 

 

 

คนที่คาการิต้องจับตามองนั้นจะต้องเป็นคนที่มีกำลังทางการทหารสูงมากแน่ๆ หากว่านับชูยะเข้าไปแล้ว ไดรอาทก็คงไม่พ้นเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องจับตามอง ส่วนอีกคนก็น่าจะเป็นชิกิบุ

 

 

เมื่อรวม 3 คนนี้กับโซระแล้วก็เป็น 4 ถ้างั้นอีกคนล่ะ

 

ในแง่ลำดับชั้นของตระกูลมิตสึรุกิก็คงจะเป็นโกซุ ชิมะที่เป็นลำดับ 3 ของธงที่ 1

 

อย่างไรก็ตามความต่างชั้นระหว่าง 2 สุดยอด กับโกซุมันก็มีเยอะพอสมควร หากจะนับโกซุเข้าไปด้วย ยังไงพวกเขาก็น่าจะระวังเซน่อนที่เป็นหัวหน้าหน่วยที่ 3 เอาไว้ด้วย ก็จริงว่าไคลอาไม่คิดสงสัยในความสามารถของทั้งสองคน แต่ก็ยากที่เธอจะจินตนาการได้ว่าทั้งสองจะเป็นภัยต่อคาการิ

 

เมื่อคิดเช่นนี้ไคลอาจึงถามว่าได้รวมโซระเอาไว้ด้วยหรือเปล่าเพราะหากไม่รวมโซระ เธอก็จะเดาได้ว่ามี ชิกิบุ ไดรอาท ชูยะ โกซุ และเซน่อน

 

 

ทว่าคาการิกลับรวมโซระเอาไว้แล้ว นั่นก็หมายความว่าโกซุกับเซน่อนย่อมไม่ใช่เป้าหมายที่ 5 ถ้าเช่นนั้นใครกันล่ะที่คาการิต้องเฝ้าระวัง

 

 

เมื่อไคลอาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็เหลือบมองไปยังเหล่าธงแห่งผืนป่าระดับสูงที่ห่างจากพวกเธอไป

 

 

 

「ดูเหมือนว่ารายนั้นจะไม่อยู่แถวนี้นะ นางเป็นธงแห่งผืนป่าที่มีเส้นผมสีดำยาว เหมือนคนรอบตัวจะเรียกเธอว่าอาเซอร์ไรท์นะ」

 

 

 

『อาเซอร์ไรท์? 』

 

 

เสียงของไคลอากับเออซูร่าประสานกัน ก่อนจะสบตากันไปมาอย่างสับสน

 

 

แล้วก็เป็นไคลอาที่เปิดปากถามก่อน

 

 

「อายากะเหรอคะ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเธอเป็นคนที่มีความโดดเด่นในหมู่รุ่นทอง แต่มันก็ยากจะคิดได้จริงๆ ว่าเป็นคนที่คุณคาการิต้องระวัง….」

 

 

「ผมเห็นด้วยกับไคลอานะ หากเป็นตัวอายากะตอนนี้ผมว่าเธอไม่มีทางจะเทียบกับสองสุดยอดได้เลย」

 

 

 

อายากะเป็นลำดับ 3 ของธงที่ 2 และเป็นหนึ่งในรุ่นทอง เธอเป็นคนที่มีโอกาสใกล้กับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยมากที่สุด ว่ากันว่าอีกไม่นานเธอก็คงจะได้กลายเป็นรองหัวหน้าหน่วยแล้วและหากรออีกสักสองสามปีเธอก็น่าจะเป็นหัวหน้าหน่วยได้ไม่ยาก

 

 

 

ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นไม่ว่าจะเป็นไคลอาหรือเออซูร่าก็ต่างสนิทสนมกับอายากะมากกว่าใครๆ และเห็นพรสวรรค์ของเธอรวมไปถึงความพยายามของเธอตลอดเวลา อายากะ อาเซอร์ไรท์จะกลายเป็นสุดยอดนักดาบของโลกในสักวันหนึ่งแน่ อีกทั้งโอกาสที่เธอจะเทียบเคียงกับ 2 สุดยอดได้พวกไคลอาก็มองว่าเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

 

 

 

แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ตัวอายากะในตอนนี้แน่ๆ พวกเธอจึงอดแปลกใจไม่ได้ที่คาการิมีชื่อของอายากะอยู่ในรายการเฝ้าระวังเหมือน 2 สุดยอด

 

 

แน่นอนว่าก็มีความเป็นไปได้ที่คาการิจะประเมินผิดไปเอง

 

 

 

ทว่าตลอด 1 เดือนที่พวกเธออยู่ในคิไค พวกเธอได้เห็นความสามารถของคาการิอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นพวกเธอจึงไม่คิดว่าคาการิจะมองใครผิดไปได้

 

 

หากการประเมินของคาการิถูกต้อง ก็หมายความว่าอายากะได้ซ่อนความสามารถที่แท้จริงจากคนรอบข้างเอาไว้ ว่าแต่ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นล่ะ

 

 

เพราะพวกเธอสัมผัสไม่ได้เลยสักครั้งว่าอายากะเสแสร้งหรือทำอะไรผิดธรรมชาติไป

 

 

ระหว่างที่พวกเธอกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ พลังอันเย็นยะเยือกชวนให้นึกถึงพายุหิมะก็ก่อตัวขึ้น ชูยะที่กำลังสู้กับโซระมองเห็นแล้วว่าจะปล่อยให้ยืดเยื้อกว่านี้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจวัดผลกันไปเลย

 

 

 

『――อาภรณ์แห่งความว่างเปล่า』

 

 

 

ดวงตาของชูยะเบิกกว้างขึ้นขณะยกอาภรณ์วิญญาณไว้เหนือไหล่ของเขาเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งพร้อมคว้างออกไป

 

จากนั้น

 

 

 

 

 

『จงมอบความตาย ราชินีแห่งเงา』

 

 

 

 

เขาตะโกนขึ้นมาจากนั้นก็ปาหอกไปด้วยความเร็วสูงจนสายตาทุกคนตามไม่ทัน

 

หากสีดำถูกปลดปล่อยออกมาพุ่งไปทางโซระอย่างรุนแรง

 

การปาหอกที่เฉียบคมเสียจนคาการิก็อดประหลาดใจไม่ได้ ทางโซระเองก็ไม่รอช้ารีบเตรียมการรับมือ

 

 

 

 

『มายาสังหาร มากากิ (ม่านสกัดโลกา) 』

 

 

 

ครู่ต่อมาหอกสีดำก็ได้ปะทะเข้ากับบาเรียขนาดใหญ่จนเกิดเสียงเสียดสีดังไปทั่ว

 

หอกสีดำได้พยายามทะลวงบาเรียนี้เข้าไปอย่างไม่ลดละ เทคนิคอันทรงพลังทั้งสองกำลังต้านกันและกันอยู่

 

พลังของหอกสีดำนั้นมีมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นบาเรียทั่วไปแม้จะหนาสัก 3 เมตรก็คงไม่เหลือ ยิ่งเคลือบไปด้วยพิษร้ายที่ละลายได้ทุกสิ่งการป้องกันใดก็คงมิอาจต้านทาน

 

 

ทว่าบาเรียที่โซระสร้างขึ้นมานั้นช่างแข็งแกร่งราวกับปราสาทไร้พ่ายที่มิยอมให้ผู้ใดทำลายลงได้

 

 

ท้ายที่สุดแล้วหอกสีดำก็ได้สลายหายไปในจุดที่เกือบจะทะลวงถึงร่างของโซระ

 

หลังจากนั้นชูยะก็ได้ดึงหอกสีดำกลับเข้ามาที่ตัวเอง

 

 

 

ก่อนจะปัดด้ามจับเบาๆ ราวกับจะปลอบอนิม่าของตนที่กลับมาอยู่ในมือ แล้วก็ประการถึงความพ่ายแพ้ของตนที่ได้สู้กับโซระไปให้ทุกคนโดยรอบได้รับรู้

 

 

และแล้วการต่อส้ของโซระกับชูยะ คุมอนก็จบลงที่ชัยชนะของโซระ

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด