การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 186 อมาเดอุสที่ 2

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 186 อมาเดอุสที่ 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 186 อมาเดอุสที่ 2

 

อมาเดอุสที่ 2 จักรพรรดิองค์ที่ 20 แห่งจักรวรรดิแอด แอสเทร่า สาเหตุที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะเขาคือจักรพรรดิองค์ที่สองที่มีชื่อว่าอมาเดอุส

 

 

ก็อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้ ว่าตอนที่ผมยังเป็นเด็กผมได้รับการเทียบเชิญจากจักรพรรดิให้เข้ามาที่งานเลี้ยงของเขาร่วมกับพ่อผม เขาได้ส่งรอยยิ้มซึ่งไม่ค่อยเข้ากับใบหน้าอันเคร่งขรึมมาให้ผมที่กำลังตัวแข็งทื่อและไม่รู้จะทำอย่างไรกับงานเช่นนี้ดี ก่อนจะเอามือมาลูบหัวของผม ก็จะได้ว่าตอนนี้คุยกันไปสักสองสามคำแต่พอผ่านมานานแล้วทุกอย่างก็เลือนรางไปซะหมด

 

 

จักรพรรดิตอนนั้นก็อายุเลยช่วง 50 ไปแล้ว บางทีตอนนี้เขาน่าจะมีอายุประมาณ 60 เฉียด 70 นี่แหละ

 

 

เจ้าชายชิออนก็อาจจะเป็นลูกคนสุดท้ายของอมาเดอุสที่ 2 เนื่องจากจักรพรรดิคงจะสู้งานไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วดูเหมือนความรักที่เขามีต่อเจ้าชายชิออนจะมากเสียด้วย เห็นได้จากการที่เขามักจะไปเยี่ยมหาเจ้าชายบ่อยๆ

 

 

ถึงจะเป็นการพบเจอกันแบบคาดไม่ถึง แต่เดาว่าทางจักรพรรดิก็ไม่น่าจะจำเรื่องราวอะไรของผมได้หรอก การพบกันอีกครั้งในรอบ 10 ปีก็ประมาณนี้แหละนะ

 

――ทว่าสิ่งแรงที่ผมนึกถึงเมื่อเห็นเขาคือเล็ก

 

 

จักรพรรดิในความทรงจำของผมนั้นคือชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเสมอ แต่สภาพของเขาในตอนนี้รูปร่างมีขนาดที่เล็กกว่าผม มือขนาดใหญ่ที่เคยลูบหัวของผมก็เหี่ยวย่นไปเสียหมดแล้ว

 

 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผมเติบโตมา――ทางจักรพรรดิก็แก่ชราขึ้น แต่ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนมีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกคาใจแบบบอกไม่ถูก

 

 

ทางจักรพรรดิที่สังเกตเห็นคนแปลกหน้ายืนอยู่ที่ห้องของลูกชายตนก็มองไปทางบารอนจีทด้วยความสงสัย

 

 

 

 

「บารอน ชายผู้นี้คือใครกัน? ข้าว่าข้าไม่เคยเห็นเขาในวังมาก่อนนะ」

 

 

 

「ฮ่ะ เขาผู้นี้คือผู้ส่งสารจากท่านซากุยะซึ่งเดินทางมาจากคานาเรียพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

「จากซากุยะงั้นหรือ? 」

 

 

 

เสียงทุ้มของเขาตอบรับเหมือนจมอยู่ในความคิด จากนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองมายังผม

 

 

 

ความมั่นคงภายในตาขวาและความชัดเจนภายในดวงตาซ้าย เขายังคงไม่สิ้นศักดิ์ศรีและอำนาจแห่งองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแอด แอสเทร่า

 

ผมจึงทำการแสดงความเคารพต่อเขา ระหว่างที่ผมก้มศีรษะเหมือนจะมีอยู่ครู่หนึ่งที่สังเกตได้ว่าดวงตาของจักรพรรดิเบิกกว้างขึ้นเมื่อสังเกตร่างของผมดีๆ

 

 

 

 

 

「――หื้ม หากเจ้าเป็นคนที่ซากุยะส่งมาทำไมถึงไม่เข้าพบข้าตั้งแต่แรกล่ะ เด็กสาวแก่นแก้วที่ขอให้ข้านำกองทหารของจักรวรรดิไปส่งแต่ดันทิ้งพวกเขาไว้ที่ชายแดนจนทำให้นายพลจูดิสที่รับผิดชอบต้องวุ่นวาย」

 

 

 

ทั้งที่เหมือนจะเป็นการบ่น ทว่าอารมณ์ของเขาเหมือนจะสนุกที่ได้เห็นกการกระทำของลูกสาวตนซึ่งเดาอะไรไม่ออก

 

 

 

จากนั้นก็เป็นทางเจ้าชายชิออนที่พูด

 

 

「ฝ่าบาท กระหม่อมต้องขออภัยด้วย เนื่องจากกระหม่อมอยากจะได้ยินเรื่องราวของท่านพี่ จึงขอร้องให้ท่านบารอนพาตัวเขามาพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

「อย่าพูดแบบนั้นเลยชิออน ถึงจะเป็นที่สาธารณะข้าก็อยากให้เจ้าเรียกว่าท่านพ่อนะ」

 

 

 

「เอ่อ….ขอโทษครับ ท่านพ่อ」

 

 

 

「อื้มๆ ต้องแบบนี้สิ」

 

 

 

จักรพรรดิแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา ทางผมที่เห็นก็เงยหน้าขึ้น

 

จากนั้นเขาก็เริ่มถามเรื่องราวเขาผม

 

 

 

 

「เอาล่ะ งั้นข้าขอถามเจ้าอีกครั้งแล้วกัน เจ้าเป็นใคร? ถึงจะบอกว่าเป็นผู้ส่งสารจากซากุยะ แต่ข้าก็จำไม่เห็นได้เลยนะว่าซากุยะมีข้ารับใช้เช่นเจ้าอยู่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมซากุยะถึงแต่งตั้งผู้ส่งสารคนใหม่กัน」

 

 

 

「ฝ่าบาท เรื่องนั้น――」

 

 

บารอนจีทก้าวออกมาข้างหน้าหมายจะอธิบายถึงจดหมายที่เจ้าหญิงส่งมาให้ตน

 

ทว่าทางจักรพรรดิก็ใช้มือขวาโบกเบาๆ เพื่อหยุดการกระทำของเขาไว้

 

 

 

 

「บารอน ข้ากำลังถามชายผู้นี้อยู่นะ」

 

 

 

แม้มันจะไม่ใช่คำดุด่า แต่บารอนก็แน่นิ่งไปราวกับว่าถูกสายฟ้าฟาด ก่อนจะยืนหลังตรงเฉยๆ

 

 

 

จากนั้นเขาก็พูดต่อโดยไม่ได้สนใจบารอน

 

 

 

 

 

「ข้าไม่เคยเห็นเจ้าภายในวังมาก่อน แล้วเจ้าก็ไม่น่าจะใช่ข้ารับใช้ของซากุยะด้วย ทว่าใบหน้าของเจ้าช่างคุ้นชิน เอาล่ะไหนลองบอกชื่อของเจ้ามาซิ」

 

 

 

สายตาของจักรพรรดิจ้องมาที่ผม

 

ในขณะนั้นผมรู้สึกราวกับไหล่ทั้งสองข้างถูกลูกเหล็กมาทับเอาไว้

 

มันไม่ใช่จิตสังหารณ์ ที่แสดงถึงความเป็นปรปักษ์ แล้วก็ไม่ใช่เวทมนตร์ด้วย

 

 

 

มันเป็นเหมือนกับออร่าของชายผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของประเทศมาตั้งแต่อดีต บางสิ่งที่หนักหนาราวกับน้ำหนักของคนทั้งคนกำลังหล่นทับร่าง

 

นี่สินะที่เค้าบอกว่ากันอำนาจแห่งจักรพรรดิ พวกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับชายคนนี้คงรู้สึกแบบนี้กันหมด

 

――เอาซะอดประทับใจไม่ได้เลยจริงๆ ที่เห็นถึงความแข็งแกร่งแบบนี้

 

 

มันเป็นความรู้สึกที่แม้จะเป็นพ่อของผม ผมก็ไม่เคยสัมผัสมันได้จากเขาเลย ว่าแล้วผมก็ตอบคำถามของจักรพรรดิ

 

「ฮ่ะ กระหม่อมมีชื่อว่าโซระ แม้ว่าจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลแล้วจึงไม่สามารถใช้สกุลได้―― แต่ในอดีตกระหม่อมเคยมีชื่อว่า มิตสึรุกิ โซระพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

 

ก็จริงว่าผมสามารถบอกเขาต่อได้ว่าเคยเจอกันที่งานเลี้ยงในอดีต แต่การใช้คำว่ามิตสึรุกิ มันก็น่าจะเพียงพอแล้วจึงหยุดพูดแล้วดูการตอบโต้จากฝั่งเขาแทน

 

 

ลูกชายคนโตแห่งตระกูลมิตสึรุกิที่ถูกขับไล่ออกมา กลายมาเป็นผู้ส่งสารของเจ้าหญิงซากุยะ จักรพรรดิคงจะอยากรู้แน่ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

 

ทว่าใบหน้าของจักรพรรดิกลับสงบนิ่งอย่างคาดไม่ถึง ราวกับรู้ถึงสิ่งที่ผมจะพูดอยู่แล้ว

 

 

 

ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แต่แล้วเสียงแห่งความประหลาดใจกลับดังมาจากฝั่งของเจ้าชายชิออนแทน

 

 

 

 

 

「เอ๋ มิตสึรุกิ? อ่ะ เอ๋ หือ แต่ว่า เอ๋ทำไมท่านพี่ถึง…เหหหหห?!」

 

 

「ชิออน ในฐานะคนของราชวงศ์แล้วเจ้าไม่ควรแสดงความประหลาดใจเช่นนี้ออกมานะ จงเก็บความรู้สึกไว้ในใจและรักษาความสงบนิ่งของตัวเองไว้ให้ดี นั่นคือสิ่งที่ราชวงศ์ควรจะเป็น」

 

 

 

「ค-ครับท่านพ่อ! ขออภัยด้วย!」

 

 

 

「อื้มๆ ก็พยายามเข้าล่ะ」

 

 

 

 

จักรพรรดิพยักหน้าให้ชิออนและเรียกบารอนจีทที่อยู่ข้างๆ เขา

 

 

 

 

「เอาล่ะ บารอน งั้นทางเจ้าก็น่าจะมีุดหมายจากซากุยะอยู่สินะ」

 

 

 

「ฮ่ะ ฝ่าบาท! นี่พ่ะย่ะค่ะ!」

 

 

 

หลังจากรับจดหมายจากทางบารอน จักรพรรดิก็แกะผนึกและเริ่มอ่านเนื้อหา

 

 

ดูเหมือนว่าจะเขียนมายาวพอสมควร จักรพรรดิจึงใช้เวลานานในการอ่านจนจบ

 

พอเขาอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นและพูดพบผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 

 

 

 

「ก็คือเจ้าต้องการให้ข้าอนุญาตในการผ่านประตูปีศาจสินะ โซระ เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าอะไรที่อยู่ข้างหลังประตูนั้น? 」

 

 

 

 

ผมรู้สึกสับสนเมื่อถูกถามด้วยคำถามนี้ เพราะตอนแรกคิดว่าจะโดนเล่นเรื่องตระกูลมิตสึรุกิซะก่อน

 

ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกไปตามตรง การจะมาเล่นลิ้นอะไรกับคนระดับนี้คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี

 

 

 

「กระหม่อมรู้ว่าข้างในนั้นมีเทพปีศาจที่ถูกผนึกอยู่」

 

 

 

พอได้ยินคำตอบของผม จักรพรรดิก็หรี่ตาลงและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

 

 

 

 

จากนั้นมานานนัก จักรพรรดิก็หันหลังและเดินไปทางประตูห้อง

 

ในระหว่างที่คนทั้งห้องกำลังคิดว่าเขาทำอะไรอยู่ จักรพรรดิก็หันหน้ามาหาผมแล้วพูด

 

――ตามข้ามา โซระ

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 186 อมาเดอุสที่ 2

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 186 อมาเดอุสที่ 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 186 อมาเดอุสที่ 2

 

อมาเดอุสที่ 2 จักรพรรดิองค์ที่ 20 แห่งจักรวรรดิแอด แอสเทร่า สาเหตุที่ได้ชื่อนี้มาก็เพราะเขาคือจักรพรรดิองค์ที่สองที่มีชื่อว่าอมาเดอุส

 

 

ก็อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้ ว่าตอนที่ผมยังเป็นเด็กผมได้รับการเทียบเชิญจากจักรพรรดิให้เข้ามาที่งานเลี้ยงของเขาร่วมกับพ่อผม เขาได้ส่งรอยยิ้มซึ่งไม่ค่อยเข้ากับใบหน้าอันเคร่งขรึมมาให้ผมที่กำลังตัวแข็งทื่อและไม่รู้จะทำอย่างไรกับงานเช่นนี้ดี ก่อนจะเอามือมาลูบหัวของผม ก็จะได้ว่าตอนนี้คุยกันไปสักสองสามคำแต่พอผ่านมานานแล้วทุกอย่างก็เลือนรางไปซะหมด

 

 

จักรพรรดิตอนนั้นก็อายุเลยช่วง 50 ไปแล้ว บางทีตอนนี้เขาน่าจะมีอายุประมาณ 60 เฉียด 70 นี่แหละ

 

 

เจ้าชายชิออนก็อาจจะเป็นลูกคนสุดท้ายของอมาเดอุสที่ 2 เนื่องจากจักรพรรดิคงจะสู้งานไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วดูเหมือนความรักที่เขามีต่อเจ้าชายชิออนจะมากเสียด้วย เห็นได้จากการที่เขามักจะไปเยี่ยมหาเจ้าชายบ่อยๆ

 

 

ถึงจะเป็นการพบเจอกันแบบคาดไม่ถึง แต่เดาว่าทางจักรพรรดิก็ไม่น่าจะจำเรื่องราวอะไรของผมได้หรอก การพบกันอีกครั้งในรอบ 10 ปีก็ประมาณนี้แหละนะ

 

――ทว่าสิ่งแรงที่ผมนึกถึงเมื่อเห็นเขาคือเล็ก

 

 

จักรพรรดิในความทรงจำของผมนั้นคือชายผู้ยิ่งใหญ่ที่ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเสมอ แต่สภาพของเขาในตอนนี้รูปร่างมีขนาดที่เล็กกว่าผม มือขนาดใหญ่ที่เคยลูบหัวของผมก็เหี่ยวย่นไปเสียหมดแล้ว

 

 

ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผมเติบโตมา――ทางจักรพรรดิก็แก่ชราขึ้น แต่ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนมีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกคาใจแบบบอกไม่ถูก

 

 

ทางจักรพรรดิที่สังเกตเห็นคนแปลกหน้ายืนอยู่ที่ห้องของลูกชายตนก็มองไปทางบารอนจีทด้วยความสงสัย

 

 

 

 

「บารอน ชายผู้นี้คือใครกัน? ข้าว่าข้าไม่เคยเห็นเขาในวังมาก่อนนะ」

 

 

 

「ฮ่ะ เขาผู้นี้คือผู้ส่งสารจากท่านซากุยะซึ่งเดินทางมาจากคานาเรียพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

「จากซากุยะงั้นหรือ? 」

 

 

 

เสียงทุ้มของเขาตอบรับเหมือนจมอยู่ในความคิด จากนั้นสายตาของเขาก็จ้องมองมายังผม

 

 

 

ความมั่นคงภายในตาขวาและความชัดเจนภายในดวงตาซ้าย เขายังคงไม่สิ้นศักดิ์ศรีและอำนาจแห่งองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแอด แอสเทร่า

 

ผมจึงทำการแสดงความเคารพต่อเขา ระหว่างที่ผมก้มศีรษะเหมือนจะมีอยู่ครู่หนึ่งที่สังเกตได้ว่าดวงตาของจักรพรรดิเบิกกว้างขึ้นเมื่อสังเกตร่างของผมดีๆ

 

 

 

 

 

「――หื้ม หากเจ้าเป็นคนที่ซากุยะส่งมาทำไมถึงไม่เข้าพบข้าตั้งแต่แรกล่ะ เด็กสาวแก่นแก้วที่ขอให้ข้านำกองทหารของจักรวรรดิไปส่งแต่ดันทิ้งพวกเขาไว้ที่ชายแดนจนทำให้นายพลจูดิสที่รับผิดชอบต้องวุ่นวาย」

 

 

 

ทั้งที่เหมือนจะเป็นการบ่น ทว่าอารมณ์ของเขาเหมือนจะสนุกที่ได้เห็นกการกระทำของลูกสาวตนซึ่งเดาอะไรไม่ออก

 

 

 

จากนั้นก็เป็นทางเจ้าชายชิออนที่พูด

 

 

「ฝ่าบาท กระหม่อมต้องขออภัยด้วย เนื่องจากกระหม่อมอยากจะได้ยินเรื่องราวของท่านพี่ จึงขอร้องให้ท่านบารอนพาตัวเขามาพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

「อย่าพูดแบบนั้นเลยชิออน ถึงจะเป็นที่สาธารณะข้าก็อยากให้เจ้าเรียกว่าท่านพ่อนะ」

 

 

 

「เอ่อ….ขอโทษครับ ท่านพ่อ」

 

 

 

「อื้มๆ ต้องแบบนี้สิ」

 

 

 

จักรพรรดิแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา ทางผมที่เห็นก็เงยหน้าขึ้น

 

จากนั้นเขาก็เริ่มถามเรื่องราวเขาผม

 

 

 

 

「เอาล่ะ งั้นข้าขอถามเจ้าอีกครั้งแล้วกัน เจ้าเป็นใคร? ถึงจะบอกว่าเป็นผู้ส่งสารจากซากุยะ แต่ข้าก็จำไม่เห็นได้เลยนะว่าซากุยะมีข้ารับใช้เช่นเจ้าอยู่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมซากุยะถึงแต่งตั้งผู้ส่งสารคนใหม่กัน」

 

 

 

「ฝ่าบาท เรื่องนั้น――」

 

 

บารอนจีทก้าวออกมาข้างหน้าหมายจะอธิบายถึงจดหมายที่เจ้าหญิงส่งมาให้ตน

 

ทว่าทางจักรพรรดิก็ใช้มือขวาโบกเบาๆ เพื่อหยุดการกระทำของเขาไว้

 

 

 

 

「บารอน ข้ากำลังถามชายผู้นี้อยู่นะ」

 

 

 

แม้มันจะไม่ใช่คำดุด่า แต่บารอนก็แน่นิ่งไปราวกับว่าถูกสายฟ้าฟาด ก่อนจะยืนหลังตรงเฉยๆ

 

 

 

จากนั้นเขาก็พูดต่อโดยไม่ได้สนใจบารอน

 

 

 

 

 

「ข้าไม่เคยเห็นเจ้าภายในวังมาก่อน แล้วเจ้าก็ไม่น่าจะใช่ข้ารับใช้ของซากุยะด้วย ทว่าใบหน้าของเจ้าช่างคุ้นชิน เอาล่ะไหนลองบอกชื่อของเจ้ามาซิ」

 

 

 

สายตาของจักรพรรดิจ้องมาที่ผม

 

ในขณะนั้นผมรู้สึกราวกับไหล่ทั้งสองข้างถูกลูกเหล็กมาทับเอาไว้

 

มันไม่ใช่จิตสังหารณ์ ที่แสดงถึงความเป็นปรปักษ์ แล้วก็ไม่ใช่เวทมนตร์ด้วย

 

 

 

มันเป็นเหมือนกับออร่าของชายผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของประเทศมาตั้งแต่อดีต บางสิ่งที่หนักหนาราวกับน้ำหนักของคนทั้งคนกำลังหล่นทับร่าง

 

นี่สินะที่เค้าบอกว่ากันอำนาจแห่งจักรพรรดิ พวกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับชายคนนี้คงรู้สึกแบบนี้กันหมด

 

――เอาซะอดประทับใจไม่ได้เลยจริงๆ ที่เห็นถึงความแข็งแกร่งแบบนี้

 

 

มันเป็นความรู้สึกที่แม้จะเป็นพ่อของผม ผมก็ไม่เคยสัมผัสมันได้จากเขาเลย ว่าแล้วผมก็ตอบคำถามของจักรพรรดิ

 

「ฮ่ะ กระหม่อมมีชื่อว่าโซระ แม้ว่าจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลแล้วจึงไม่สามารถใช้สกุลได้―― แต่ในอดีตกระหม่อมเคยมีชื่อว่า มิตสึรุกิ โซระพ่ะย่ะค่ะ」

 

 

 

ก็จริงว่าผมสามารถบอกเขาต่อได้ว่าเคยเจอกันที่งานเลี้ยงในอดีต แต่การใช้คำว่ามิตสึรุกิ มันก็น่าจะเพียงพอแล้วจึงหยุดพูดแล้วดูการตอบโต้จากฝั่งเขาแทน

 

 

ลูกชายคนโตแห่งตระกูลมิตสึรุกิที่ถูกขับไล่ออกมา กลายมาเป็นผู้ส่งสารของเจ้าหญิงซากุยะ จักรพรรดิคงจะอยากรู้แน่ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมคิด

 

ทว่าใบหน้าของจักรพรรดิกลับสงบนิ่งอย่างคาดไม่ถึง ราวกับรู้ถึงสิ่งที่ผมจะพูดอยู่แล้ว

 

 

 

ผมไม่สามารถเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แต่แล้วเสียงแห่งความประหลาดใจกลับดังมาจากฝั่งของเจ้าชายชิออนแทน

 

 

 

 

 

「เอ๋ มิตสึรุกิ? อ่ะ เอ๋ หือ แต่ว่า เอ๋ทำไมท่านพี่ถึง…เหหหหห?!」

 

 

「ชิออน ในฐานะคนของราชวงศ์แล้วเจ้าไม่ควรแสดงความประหลาดใจเช่นนี้ออกมานะ จงเก็บความรู้สึกไว้ในใจและรักษาความสงบนิ่งของตัวเองไว้ให้ดี นั่นคือสิ่งที่ราชวงศ์ควรจะเป็น」

 

 

 

「ค-ครับท่านพ่อ! ขออภัยด้วย!」

 

 

 

「อื้มๆ ก็พยายามเข้าล่ะ」

 

 

 

 

จักรพรรดิพยักหน้าให้ชิออนและเรียกบารอนจีทที่อยู่ข้างๆ เขา

 

 

 

 

「เอาล่ะ บารอน งั้นทางเจ้าก็น่าจะมีุดหมายจากซากุยะอยู่สินะ」

 

 

 

「ฮ่ะ ฝ่าบาท! นี่พ่ะย่ะค่ะ!」

 

 

 

หลังจากรับจดหมายจากทางบารอน จักรพรรดิก็แกะผนึกและเริ่มอ่านเนื้อหา

 

 

ดูเหมือนว่าจะเขียนมายาวพอสมควร จักรพรรดิจึงใช้เวลานานในการอ่านจนจบ

 

พอเขาอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นและพูดพบผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

 

 

 

 

「ก็คือเจ้าต้องการให้ข้าอนุญาตในการผ่านประตูปีศาจสินะ โซระ เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าอะไรที่อยู่ข้างหลังประตูนั้น? 」

 

 

 

 

ผมรู้สึกสับสนเมื่อถูกถามด้วยคำถามนี้ เพราะตอนแรกคิดว่าจะโดนเล่นเรื่องตระกูลมิตสึรุกิซะก่อน

 

ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกไปตามตรง การจะมาเล่นลิ้นอะไรกับคนระดับนี้คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี

 

 

 

「กระหม่อมรู้ว่าข้างในนั้นมีเทพปีศาจที่ถูกผนึกอยู่」

 

 

 

พอได้ยินคำตอบของผม จักรพรรดิก็หรี่ตาลงและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

 

 

 

 

จากนั้นมานานนัก จักรพรรดิก็หันหลังและเดินไปทางประตูห้อง

 

ในระหว่างที่คนทั้งห้องกำลังคิดว่าเขาทำอะไรอยู่ จักรพรรดิก็หันหน้ามาหาผมแล้วพูด

 

――ตามข้ามา โซระ

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+