การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 147 พลาด

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 147 พลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 147 พลาด

 

 

เวทมนตร์ของชารามอนซึ่งปล่อยออกมาเพื่อหวังจะส่งพระสันตะปาปาไปพบพระเจ้า ได้เปลี่ยนส่วนหนึ่งของป่าทีทิสให้กลายเป็นแผ่นดินที่ลุกไหม้

 

ความรุนแรงของมันนั้น สามารถสร้างผลกระทบไปจนทำให้แม้แต่คนนอกป่าก็สามารถรับรู้ได้

 

 

เสียงสนันกึกก้อง ฝุ่นฟุ้งกระจาย แผ่นดินสั่นสะเทือน ราวกับเผชิญภัยพิบัติหรือลางบอกเหตุแห่งการจุติอีกครั้งของเผ่านพันธุ์ในตำนาน พวกที่อยู่ในแนวป้องกันที่ 4 ต่างก็ตกอยู่ในความวุ่นวายวันยิ่งกว่าเดิมหลังต้องรับมือกับกูลทมิฬ

 

 

ท่ามกลางความสับสนนั้น โซระได้ตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปในป่า แต่เขาไม่ได้พาชีลและซูซูเมะมาด้วย นอกจากนี้เขายังทิ้งคราว โซราสให้อยู่กับพวกเธอเผื่อในสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

 

 

ก็จริงว่าโดยปกติคงเป็นเรื่องยากมากหากจะตามหาตัวคนไม่ถึง 10 คนในป่าที่กว้างใหญ่จนจุคนทั้งประเทศได้

 

 

 

แต่ก็ต้องขอขอบคุณเวทมนตร์ของชารามอน ที่สามารถทำให้โซระสามารถตามมาหามิโรสลาฟและคนอื่นๆ จนเจอ

 

 

โซระจึงได้ฟันร่างของศัตรูทิ้งในทันที

 

 

 

ทว่า――

 

 

 

ใบดาบสีดำผ่าครึ่งร่างของชารามอนในคราวเดียว ทำให้เสื้อคลุมของชารามอนแตกกระจายออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

จนเผยให้เห็นถึงร่างโครงกระดูกภายใต้เสื้อคลุม หากดูรูปร่างเฉยๆ ก็คงไม่ต่างอะไรกับสเกลตันทั่วไปนัก

 

 

ร่างโครงกระดูกนั้นได้ถูกผ่าครึ่งตั้งแต่ส่วนหัวไปจนถึงส่วนล่าง ค่อยๆ แยกออกจากกันเป็นสองส่วน ในเวลาเดียวกันเวทที่กำลังโจมตีบาเรียอยู่ก็หายไป

 

 

หลังจากยืนยันผลลัพธ์ที่ได้แล้ว โซระก็หันหลังให้กับชารามอนและมองไปยังพวกมิโรสลาฟกับคนอื่นๆ

 

 

 

 

 

「――มะ–มาสเตอร์!!」

 

 

 

มิโรสลาฟและลูนามาเรียตะโกนออกมาพร้อมกัน มันไม่ใช่เสียงแห่งความยินดีที่เขามาช่วยพวกเธอ แต่เป็นเสียงเตือนว่าให้เขาระวังตัว

 

 

 

โดยสายตาของพวกเธอจ้องมองไปยัง โครงกระดูกที่ถูกผ่าครึ่งร่างออกไปกำลังกลับมาประกอบกันในสภาพเดิมราวกับนาฬิกาถูกหมุนย้อนกลับ

 

 

 

『คนที่โง่เง่า มันเจ้าต่างหาก』

 

 

ชารามอนหัวเราะเยาะออกมา ก่อนจะใช้มือของตนแทงไปยังร่างของโซระอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เป้าหมายคือการทะลวงหัวใจของอีกใจอีกฝ่ายแล้วทำการส่งพลังเวทเข้าไปอีกครั้งเพื่อระเบิดร่างอีกฝ่ายจากภายใน

 

ทว่านิ้วโครงกระดูกที่เรียวยาวนั้นกลับไม่สามารถแตะต้องร่างของโซระได้

 

 

 

 

『คึ』

 

 

 

เพราะร่างของโซระได้จางหายไปจากสายตาของชารามอนในชั่วพริบตา――ก่อนที่โซระจะปรากฏร่างของตนขึ้นมาอีกครั้งในสภาพที่หันมายืนจ้องหน้ากับชารามอน

 

 

เขาก็แค่หันกลับมาด้วยความรวดเร็ว

 

 

หากจะให้อธิบายถึงสิ่งที่โซระทำก็คงจะมีเพียงแค่นั้น แน่นอนว่าแค่การหันตัวกลับมาเฉยๆ มันไม่มีทางจะหลบการโจมตีที่รวดเร็วของลิชชารามอนตนนี้ได้

 

 

สิ่งที่โซระใช้นั้นถูกเรียกว่า ย่างก้าว เป็นหนึ่งในเทคนิคพื้นฐานของมายาดาบเดียว ที่ไม่ใช่เทคนิคดาบ มันเป็นเทคนิคที่ใช้ล่าถอยในชั่วพริบตาเพื่อป้องกันร่างของตนจากการโดนอีกฝ่ายลอบโจมตีจากข้างหลังด้วยพลังคิ แน่นอนว่ามันสามารถประยุกต์ไปใช้แบบอื่นได้ด้วย

 

แล้วก็อย่างที่เห็น โซระได้ใช้มันได้การล่ออีกฝ่ายให้เข้ามาโจมตี

 

「มายาสังหาร――คลื่นอัคคี」

 

 

 

 

โซระทำการโจมตีด้วยคลื่นแห่งเปลวไฟที่พุ่งออกไปราวกับกระแสน้ำหลาก

 

 

เพียงชั่วพริบตาเดียว เปลวไฟนั้นก็ได้กลืนกินร่างของชารามอนในทันที หากไม่ใช่เพราะเวทมนตร์ของชารามอนในตอนแรกที่เผาผลาญป่าไปจนสิ้น ก็คงจะเป็นสิ่งนี้แหละที่จะทำการเผาป่าจนสิ้นแทน

 

 

หลังจากการโจมตีสิ้นสุดลง นอกจากโซระและก็ไม่ได้เห็นสิ่งอื่นตรงหน้าเขา ภาพตรงหน้ามีเพียงผืนดินที่ไหม้เกรียมกับอากาศที่เต็มไปด้วยไอร้อนซึ่งสามารถแผดเผาอากาศจนไม่สามารถหายใจได้สะดวก จากนั้นโซระก็ทำการตั้งท่าอีกครั้งราวกับเตรียมปกป้องมิโรสลาฟและคนอื่นๆ

 

 

เสียงพึมพำอันแผ่วเบาได้ออกมาจากปากของเขา ก่อนจะมองไปยังจุดที่ชารามอนหายตัวไปอย่างไม่ละสายตา

 

 

 

「ก็คิดว่าหากเป็นอันเดธ ไฟก็น่าจะใช้ได้ผลดี….พลาดไปสินะ」

 

 

 

 

พอพูดจบเขาก็เหลือบมองไปยังอาวุธของตน

 

 

ตอนนี้สิ่งที่โซระถืออยู่ไม่ใช่อาภรณ์วิญญาณ แต่เป็นคาตานะสีดำที่เขามักใช้แทนอาภรณ์วิญญาณ หากเขาเลือกจะใช้อาภรณ์วิญญาณตั้งแต่แรก การต่อสู้ก็คงจะจบลงในดาบเดียวไปแล้ว เขาก็เลยบ่นออกมาว่าตนทำพลาดไป

 

 

มีเหตุผลสองประการด้วยกันที่ทำให้โซระไม่ได้นำอาภรณ์วิญญาณออกมาตั้งแต่แรก

 

อย่างแรกคือตอนที่แนวป้องกันที่ 4 ถูกโจมตีโดยพวกกูลทมิฬ โซระไม่ต้องการจะเอาอาภรณ์วิญญาณออกมาให้คนจำนวนมากเห็น นอกจากนี้คู่ต่อสู้ก็เป็นเพียงกูลทมิฬ เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาภรณ์วิญญาณเลยสักนิด

 

เลเวลของโซระตอนนี้คือ 30 แน่นอนว่าคงเอาไปเทียบกับ 30 ของคนอื่นไม่ได้ ถึงเขาจะไม่ใช้อาภรณ์วิญญาณเขาก็มั่นใจว่าตนสามารถจัดการพวกอันเดธส่วนใหญ่ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว จากการเสริมพลังคิเข้าไปที่ดาบ

 

 

ก็เป็นไปตามที่คาดพวกกูลทมิฬที่เข้ามาโจมตีแนวป้องกันที่ 4 ถูกจัดการอย่างง่ายดาย

 

 

อย่างที่สองก็คือ เขาก็รีบมุ่งหน้าเข้าไปในป่าอย่างรีบร้อนเพราะได้ยินเสียงการปะทะกันอย่างรุนแรงจนไม่ทันได้นำมันออกมา เพระเขารู้สึกตัวเลยว่าศัตรูที่พวกมิโรสลาฟเจอไม่ใช่แค่เนโครแมนเซอร์แน่นอน

 

 

ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น เมื่อโซระเดินทางมาถึงแล้วเห็นกลุ่มประมาณสิบกว่าคนกำลังอยู่ภายในบาเรียที่ส่องแสงจ้าออกมา เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็น 2 คนนั้นอยู่ข้างใน….พวกเธอยังปลอดภัย

 

 

 

 

「เสริมแกร่งอาภรณ์วิญญาณ――จงกลืนกิน โซลอีทเตอร์」

 

 

 

ตอนนี้เขาจำเป็นต้องงัดไม้เด็ดออกมาแล้ว

 

 

 

 

「โบราณว่าไว้ หากรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วไม่แก้ไขนั่นต่างหากถือว่าพลาดของจริง ดังนั้นถ้ายังแก้ไขทันก็ถือว่าไม่ผิดสินะ」

 

 

 

ระหว่างที่พูดถึงสิ่งที่เขาพลาดไป โซระก็เหวี่ยงดาบของเขาไปมา หากดูจากไกลๆ ก็คงจะเหมือนกับเขากำลังฟันความว่างเปล่า

 

 

ทว่าการเหวี่ยงพวกนั้นแหละที่ได้ปัดป้องกระสุนแสงซึ่งเป็นโจมตีจากระยะไกลของลิช พลังทำลายล้างของมันควรจะระเบิดพื้นที่โดยรอบให้หายไปไม่เหลือซากด้วยซ้ำ

 

หลังจากนั้นชารามอนก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังโซระทำการรับกระสุนแสงนั่นไปกว่าสิบนัด ร่างที่ปรากฏออกมานั้นยังคงเป็นโครงกระดูกเช่นเดิม แต่ออร่าและความกดดันนั้นช่างแตกต่างจนร่างก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด

 

 

สายตาของมันจ้องมองไปยังโซระด้วยความเฉียบคม

 

 

 

『เจ้าคนเขลา แกเป็นใครกันแน่? ตอนแรกข้าก็คิดว่าเป็นครูเซเดอร์ แต่…พลังนั้นไม่ใช่พลังของพวกนักบวช』

 

 

 

「ฉันคือคนที่กำลังจะฆ่าแกไง รู้แค่นั้นก็พอแล้วมั้งไอ้สวะ」

 

 

 

ดราก้อนสเลเยอร์ตอบคำถามของราชาอมตะด้วยการเยาะเย้ย

 

 

และแล้วการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 1 วินาที

 

——–

Note 1 : นึกว่าจะจอดเลย เคร ยกสองๆ

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 147 พลาด

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 147 พลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 147 พลาด

 

 

เวทมนตร์ของชารามอนซึ่งปล่อยออกมาเพื่อหวังจะส่งพระสันตะปาปาไปพบพระเจ้า ได้เปลี่ยนส่วนหนึ่งของป่าทีทิสให้กลายเป็นแผ่นดินที่ลุกไหม้

 

ความรุนแรงของมันนั้น สามารถสร้างผลกระทบไปจนทำให้แม้แต่คนนอกป่าก็สามารถรับรู้ได้

 

 

เสียงสนันกึกก้อง ฝุ่นฟุ้งกระจาย แผ่นดินสั่นสะเทือน ราวกับเผชิญภัยพิบัติหรือลางบอกเหตุแห่งการจุติอีกครั้งของเผ่านพันธุ์ในตำนาน พวกที่อยู่ในแนวป้องกันที่ 4 ต่างก็ตกอยู่ในความวุ่นวายวันยิ่งกว่าเดิมหลังต้องรับมือกับกูลทมิฬ

 

 

ท่ามกลางความสับสนนั้น โซระได้ตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปในป่า แต่เขาไม่ได้พาชีลและซูซูเมะมาด้วย นอกจากนี้เขายังทิ้งคราว โซราสให้อยู่กับพวกเธอเผื่อในสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

 

 

ก็จริงว่าโดยปกติคงเป็นเรื่องยากมากหากจะตามหาตัวคนไม่ถึง 10 คนในป่าที่กว้างใหญ่จนจุคนทั้งประเทศได้

 

 

 

แต่ก็ต้องขอขอบคุณเวทมนตร์ของชารามอน ที่สามารถทำให้โซระสามารถตามมาหามิโรสลาฟและคนอื่นๆ จนเจอ

 

 

โซระจึงได้ฟันร่างของศัตรูทิ้งในทันที

 

 

 

ทว่า――

 

 

 

ใบดาบสีดำผ่าครึ่งร่างของชารามอนในคราวเดียว ทำให้เสื้อคลุมของชารามอนแตกกระจายออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

จนเผยให้เห็นถึงร่างโครงกระดูกภายใต้เสื้อคลุม หากดูรูปร่างเฉยๆ ก็คงไม่ต่างอะไรกับสเกลตันทั่วไปนัก

 

 

ร่างโครงกระดูกนั้นได้ถูกผ่าครึ่งตั้งแต่ส่วนหัวไปจนถึงส่วนล่าง ค่อยๆ แยกออกจากกันเป็นสองส่วน ในเวลาเดียวกันเวทที่กำลังโจมตีบาเรียอยู่ก็หายไป

 

 

หลังจากยืนยันผลลัพธ์ที่ได้แล้ว โซระก็หันหลังให้กับชารามอนและมองไปยังพวกมิโรสลาฟกับคนอื่นๆ

 

 

 

 

 

「――มะ–มาสเตอร์!!」

 

 

 

มิโรสลาฟและลูนามาเรียตะโกนออกมาพร้อมกัน มันไม่ใช่เสียงแห่งความยินดีที่เขามาช่วยพวกเธอ แต่เป็นเสียงเตือนว่าให้เขาระวังตัว

 

 

 

โดยสายตาของพวกเธอจ้องมองไปยัง โครงกระดูกที่ถูกผ่าครึ่งร่างออกไปกำลังกลับมาประกอบกันในสภาพเดิมราวกับนาฬิกาถูกหมุนย้อนกลับ

 

 

 

『คนที่โง่เง่า มันเจ้าต่างหาก』

 

 

ชารามอนหัวเราะเยาะออกมา ก่อนจะใช้มือของตนแทงไปยังร่างของโซระอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เป้าหมายคือการทะลวงหัวใจของอีกใจอีกฝ่ายแล้วทำการส่งพลังเวทเข้าไปอีกครั้งเพื่อระเบิดร่างอีกฝ่ายจากภายใน

 

ทว่านิ้วโครงกระดูกที่เรียวยาวนั้นกลับไม่สามารถแตะต้องร่างของโซระได้

 

 

 

 

『คึ』

 

 

 

เพราะร่างของโซระได้จางหายไปจากสายตาของชารามอนในชั่วพริบตา――ก่อนที่โซระจะปรากฏร่างของตนขึ้นมาอีกครั้งในสภาพที่หันมายืนจ้องหน้ากับชารามอน

 

 

เขาก็แค่หันกลับมาด้วยความรวดเร็ว

 

 

หากจะให้อธิบายถึงสิ่งที่โซระทำก็คงจะมีเพียงแค่นั้น แน่นอนว่าแค่การหันตัวกลับมาเฉยๆ มันไม่มีทางจะหลบการโจมตีที่รวดเร็วของลิชชารามอนตนนี้ได้

 

 

สิ่งที่โซระใช้นั้นถูกเรียกว่า ย่างก้าว เป็นหนึ่งในเทคนิคพื้นฐานของมายาดาบเดียว ที่ไม่ใช่เทคนิคดาบ มันเป็นเทคนิคที่ใช้ล่าถอยในชั่วพริบตาเพื่อป้องกันร่างของตนจากการโดนอีกฝ่ายลอบโจมตีจากข้างหลังด้วยพลังคิ แน่นอนว่ามันสามารถประยุกต์ไปใช้แบบอื่นได้ด้วย

 

แล้วก็อย่างที่เห็น โซระได้ใช้มันได้การล่ออีกฝ่ายให้เข้ามาโจมตี

 

「มายาสังหาร――คลื่นอัคคี」

 

 

 

 

โซระทำการโจมตีด้วยคลื่นแห่งเปลวไฟที่พุ่งออกไปราวกับกระแสน้ำหลาก

 

 

เพียงชั่วพริบตาเดียว เปลวไฟนั้นก็ได้กลืนกินร่างของชารามอนในทันที หากไม่ใช่เพราะเวทมนตร์ของชารามอนในตอนแรกที่เผาผลาญป่าไปจนสิ้น ก็คงจะเป็นสิ่งนี้แหละที่จะทำการเผาป่าจนสิ้นแทน

 

 

หลังจากการโจมตีสิ้นสุดลง นอกจากโซระและก็ไม่ได้เห็นสิ่งอื่นตรงหน้าเขา ภาพตรงหน้ามีเพียงผืนดินที่ไหม้เกรียมกับอากาศที่เต็มไปด้วยไอร้อนซึ่งสามารถแผดเผาอากาศจนไม่สามารถหายใจได้สะดวก จากนั้นโซระก็ทำการตั้งท่าอีกครั้งราวกับเตรียมปกป้องมิโรสลาฟและคนอื่นๆ

 

 

เสียงพึมพำอันแผ่วเบาได้ออกมาจากปากของเขา ก่อนจะมองไปยังจุดที่ชารามอนหายตัวไปอย่างไม่ละสายตา

 

 

 

「ก็คิดว่าหากเป็นอันเดธ ไฟก็น่าจะใช้ได้ผลดี….พลาดไปสินะ」

 

 

 

 

พอพูดจบเขาก็เหลือบมองไปยังอาวุธของตน

 

 

ตอนนี้สิ่งที่โซระถืออยู่ไม่ใช่อาภรณ์วิญญาณ แต่เป็นคาตานะสีดำที่เขามักใช้แทนอาภรณ์วิญญาณ หากเขาเลือกจะใช้อาภรณ์วิญญาณตั้งแต่แรก การต่อสู้ก็คงจะจบลงในดาบเดียวไปแล้ว เขาก็เลยบ่นออกมาว่าตนทำพลาดไป

 

 

มีเหตุผลสองประการด้วยกันที่ทำให้โซระไม่ได้นำอาภรณ์วิญญาณออกมาตั้งแต่แรก

 

อย่างแรกคือตอนที่แนวป้องกันที่ 4 ถูกโจมตีโดยพวกกูลทมิฬ โซระไม่ต้องการจะเอาอาภรณ์วิญญาณออกมาให้คนจำนวนมากเห็น นอกจากนี้คู่ต่อสู้ก็เป็นเพียงกูลทมิฬ เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาภรณ์วิญญาณเลยสักนิด

 

เลเวลของโซระตอนนี้คือ 30 แน่นอนว่าคงเอาไปเทียบกับ 30 ของคนอื่นไม่ได้ ถึงเขาจะไม่ใช้อาภรณ์วิญญาณเขาก็มั่นใจว่าตนสามารถจัดการพวกอันเดธส่วนใหญ่ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว จากการเสริมพลังคิเข้าไปที่ดาบ

 

 

ก็เป็นไปตามที่คาดพวกกูลทมิฬที่เข้ามาโจมตีแนวป้องกันที่ 4 ถูกจัดการอย่างง่ายดาย

 

 

อย่างที่สองก็คือ เขาก็รีบมุ่งหน้าเข้าไปในป่าอย่างรีบร้อนเพราะได้ยินเสียงการปะทะกันอย่างรุนแรงจนไม่ทันได้นำมันออกมา เพระเขารู้สึกตัวเลยว่าศัตรูที่พวกมิโรสลาฟเจอไม่ใช่แค่เนโครแมนเซอร์แน่นอน

 

 

ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น เมื่อโซระเดินทางมาถึงแล้วเห็นกลุ่มประมาณสิบกว่าคนกำลังอยู่ภายในบาเรียที่ส่องแสงจ้าออกมา เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็น 2 คนนั้นอยู่ข้างใน….พวกเธอยังปลอดภัย

 

 

 

 

「เสริมแกร่งอาภรณ์วิญญาณ――จงกลืนกิน โซลอีทเตอร์」

 

 

 

ตอนนี้เขาจำเป็นต้องงัดไม้เด็ดออกมาแล้ว

 

 

 

 

「โบราณว่าไว้ หากรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วไม่แก้ไขนั่นต่างหากถือว่าพลาดของจริง ดังนั้นถ้ายังแก้ไขทันก็ถือว่าไม่ผิดสินะ」

 

 

 

ระหว่างที่พูดถึงสิ่งที่เขาพลาดไป โซระก็เหวี่ยงดาบของเขาไปมา หากดูจากไกลๆ ก็คงจะเหมือนกับเขากำลังฟันความว่างเปล่า

 

 

ทว่าการเหวี่ยงพวกนั้นแหละที่ได้ปัดป้องกระสุนแสงซึ่งเป็นโจมตีจากระยะไกลของลิช พลังทำลายล้างของมันควรจะระเบิดพื้นที่โดยรอบให้หายไปไม่เหลือซากด้วยซ้ำ

 

หลังจากนั้นชารามอนก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังโซระทำการรับกระสุนแสงนั่นไปกว่าสิบนัด ร่างที่ปรากฏออกมานั้นยังคงเป็นโครงกระดูกเช่นเดิม แต่ออร่าและความกดดันนั้นช่างแตกต่างจนร่างก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด

 

 

สายตาของมันจ้องมองไปยังโซระด้วยความเฉียบคม

 

 

 

『เจ้าคนเขลา แกเป็นใครกันแน่? ตอนแรกข้าก็คิดว่าเป็นครูเซเดอร์ แต่…พลังนั้นไม่ใช่พลังของพวกนักบวช』

 

 

 

「ฉันคือคนที่กำลังจะฆ่าแกไง รู้แค่นั้นก็พอแล้วมั้งไอ้สวะ」

 

 

 

ดราก้อนสเลเยอร์ตอบคำถามของราชาอมตะด้วยการเยาะเย้ย

 

 

และแล้วการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 1 วินาที

 

——–

Note 1 : นึกว่าจะจอดเลย เคร ยกสองๆ

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+