การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

 

「จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่านะที่พวกเราเจอกันนับตั้งแต่การดวลของนายกับราส นายดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ โซระ」

 

 

 

เอลการ์ด ควิส นักผจญภัยระดับ 1 ผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกิดล์นักผจญภัยสาขาอิชกะ กล่าวออกมาและยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

 

 

ไม่สัมผัสไม่ได้ถึงความขัดแย้งทางสีหน้ากับการกระทำของเขา กลิ่นน้ำหอมจางๆ ออกมาจากตัวเขา ผมสีเงินที่ถูกเซตมาเป็นอย่างดี เขายังคงเป็นผู้ชายสำอางเช่นเดิมไม่เปลี่ยน

 

 

และผมก็ตอบกลับเอลการ์ดไปอย่างเย็นชา

 

 

 

 

 

「ฉันได้ยินมาว่านายอยากจะได้ข้อมูลจากป่าทีทิสสินะ? 」

 

 

 

ผมข้ามเรื่องการทักทายไร้สาระไปและตรงเข้าประเด็นทันที เพื่อชี้ให้เห็นว่าผมไม่ได้มาเป็นเพื่อนคุยเล่นกับเขา

 

 

 

พอเอลการ์ดได้ยิน ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

 

ลิดเดลที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็จ้องผมเขม็งเลย แต่ผมก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไปและเมินเธอ

 

 

พูดในสิ่งที่จำเป็นและฟังในสิ่งที่จำเป็น นั่นคือทั้งหมดที่ควรทำในตอนนี้

 

 

 

「อ้อ ใช่แล้ว งั้นฉันเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ฉันมีความกังวลเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์ที่กำลังอาละวาดอยู่ หากจะสรุปพวกมันน่าจะ――อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง」

 

 

และเมื่อเอลการ์ดข้ามเรื่องไร้สาระตรงเข้าสู่ประเด็นหลัก ผมก็เลยตอบกลับเขาไปด้วยท่าทีแบบเดียวกัน

 

「งั้นฉันก็จะเข้าประเด็นที่ได้ข้อมูลมาเลยนะ สภาพของป่าลึกในตอนนี้พวกมอนสเตอร์กำลังคลั่งกันได้ที่เลย จากนี้ไปก็น่าจะขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าเมื่อไหร่พวกมันจะออกมายังส่วนนอกของป่า」

 

 

 

และหากเป็นเช่นนั้น พวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบนอกก็จะถูกไล่ต้อนออกมาอีกที

 

 

เอลการ์ดก็พยักหน้าราวกับอยากจะพูดว่า “ว่าแล้วเชียว”

 

 

「จากที่นายบอกคือเป็นเรื่องของเวลาแล้วสินะ ก็แปลว่าอีกไม่นานมอนเตอร์พวกนั้นก็จะทะลักออกมาจากป่าแล้วใช่ไหม? 」

 

 

 

「ตามที่พูด และท้ายที่สุด พวกมอนสเตอร์จากส่วนลึกของป่าก็จะตามออกมาด้วย」

 

 

 

อิชกะจะต้องรับมือกับมอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตีในระดับที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน――นั่นคือข้อสรุปของผมที่เห็นสภาพภายในป่าด้วยตาตัวเอง

 

 

มอนสเตอร์คลุ้มคลั่ง ข้อสรุปของเอลการ์ดกับผมเป็นอันเดียวกัน

 

จากนั้นเอลการ์ดก็มองขึ้นไปยังเพดานด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองก่อนจะพึมพำออกมา

 

 

 

「..ไอ้แบบนี้มันก็จะเหมือนกับฝันร้ายเมื่อ 20 ปีก่อนเลยสิน้า…」

 

 

 

「20 ปีก่อน? 」

 

 

 

พอผมตอบสนองต่อคำพูดของเขา กิลด์มาสเตอร์ก็ถอนหายใจก่อนจะบอกผม

 

 

「ประเทศของเราเคยเจอเรื่องนี้มาก่อนเมื่ออดีตน่ะ น่าจะช่วง 20 ปีก่อนได้ตอนนั้นฉันอายุน้อยกว่านายด้วยซ้ำ แต่ความต่างของเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือมอนสเตอร์มันมาจากเขาสกิมไม่ใช่ป่าทีทิส」

 

 

และเพราะเหตุมอนสเตอร์คลุ้มคลั่งนั้นทำให้หมู่บ้านและเมืองจำนวนมากถูกมอนสเตอร์ทำลายล้างไป เอลการ์ดอธิบาย

 

 

ในเหตุการณ์ครั้งนี้เอลการ์ดก็ได้เข้าไปรับมือกับมอนสเตอร์และทำให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเขาเสียชีวิตไปถึง 2 คน

 

 

แน่นอนว่าเมืองอิชกะก็ได้รับผลกระทบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกำแพงเมืองอิชกะในตอนนี้ถึงแข็งแกร่งนัก นี่คือบทเรียนจากในอดีต

 

 

 

ผมขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อ

 

 

 

 

 

「แล้วหาสาเหตุของเหตุการณ์นั้นเจอไหม? 」

 

「ทางเราสันนิษฐานว่าเป็นเพราะภูเขาไฟเริ่มปะทุ ทำให้ระบบนิเวศของพวกมอนสเตอร์มันเปลี่ยนไป」

 

 

 

…จะบอกว่าเป็นเพราะภัยธรรมชาติงั้นเหรอ?

 

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงก็คงจะดีกว่าเกิดจากฝีมือของมนุษย์หรือใครบางคนที่ตั้งใจสร้างสถานการณ์ขึ้น แต่ไม่ว่าจะแบบไหนมันก็เป็นเรื่องที่เลวร้ายอยู่ดี

 

 

 

นอกจากนี้นี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงอดีตมากแล้วด้วย

 

 

จากข้อสรุปที่เอลการ์ดบอกมันก็หมายความว่าตอนนี้ป่าทีทิสกำลังเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นซึ่งมันมีความรุนแรงเทียบเท่ากับภูเขาไฟปะทุ

 

 

 

 

ไอ้นี่แหละปัญหาของจริง

 

 

ส่วนหนึ่งที่ผมตอบรับคำเชิญของกิลด์ก็เพราะอยากได้ข้อมูลจากพวกเขาด้วย เพราะข้อมูลและเส้นสายที่แคลนพวกผมมียังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับกิลด์นักผจญภัยเลย นั่นคือเรื่องที่ผมต้องยอมรับ

 

 

….ถ้างั้น หากพวกเขารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเขาก็คงไม่เสียเวลามาคุยกับผมหรอก นั่นก็หมายความว่าพวกเขายังไม่แน่ใจจริงๆ ว่าสาเหตุการเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่จริง มันมาจากอะไรกันแน่

 

 

เอาเป็นว่าผมก็ลองฟังข้อมูลที่พวกเขามีไปก่อนแล้วกันเผื่อมันจะเชื่อมโยงอะไรเข้ากับข้อมูลที่ผมมีได้

 

 

 

จากนั้นเอลการ์ดก็เริ่มพูดต่อ เพื่อชี้แจงถึงข้อมูลต่างๆ ที่ตนมี

 

 

「ถึงจะยังไม่ชัดเจนนักว่าเกี่ยวข้องกันไหม แต่ฉันมีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่อีกอย่าง ดูเหมือนว่าโรคระบาดมันจะกลับมาอีกรอบบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตอนต้นของแม่น้ำเคล」

 

 

 

「มาสเตอร์?! ข้อมูลนั้นเรายังไม่ได้รับการยืนยันเลยนะคะ」

 

 

 

ลิดเดลที่ได้ยินเอลการ์ดพูดถึงเรื่องนี้ก็ต้องแสดงอาการตกใจปนไม่พ่อใจออกมา

 

 

กลับกันเอลการ์ดก็ตอบกลับเธอไปด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

 

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า ลิดเดลคุง นี่มันการแบ่งปันข้อมูลนี่นา」

 

 

 

 

「ข-เข้าใจแล้วค่ะ ขออภัยที่ขัด…」

 

 

 

ลิดเดลก้มศีรษะลงและปิดปากของเธอเอาไว้ ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเลย

 

 

ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนใน แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ผมเคยบอกไปแล้วมั้งว่า แหล่งน้ำอย่างแม่น้ำเคลน่ะมันไหล่ผ่านจากป่าทีทิส ดังนั้นหมู่บ้านที่เป็นต้นสายของแม่น้ำเคลก็คงเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับป่าทีทิสมากกว่าเมืองอิชกะ

 

 

 

และการที่เขาบอกว่าเกิดโรคระบาดขึ้นอีกรอบที่หมู่บ้านนั้น

 

 

ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเกิดการปรากฏตัวของบาซิลิสก์ขึ้นและมีฟุไคซึ่งเป็นผลกระทบที่มาจากมอนสเตอร์นั่นก็ได้

 

 

แต่โรคระบาดนั่นก็สามารถแก้ไขได้ด้วยผลจิไรอาโอคุส ดังนั้นหากยังเกิดการระบาดขึ้นอีกก็หมายความว่า――

 

 

 

「ยารักษาไม่ได้ผลแล้วงั้นเหรอ? 」

 

 

「เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าพิษนั้นมันรุนแรงเกินไปจนยาแก้ไม่เกิดผลหรือถอนพิษออกไปไม่ได้หมดหรือเปล่า แต่ข้อมูลนี้พวกเราก็กำลังมาถึงกิลด์เมื่อเช้านี้เอง นอกจากนี้ ทางเราก็กำลังส่งคนของกิลด์เพื่อไปยืนยันอยู่ด้วย」

 

 

 

「……งั้นเหรอ」

 

 

「ถึงจะไม่ต้องบอก แต่นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเข้าล่ะ เพราะมันอาจจะสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมได้อีก 」

 

 

 

ผมพยักหน้ารับคำ ถึงพวกเขาจะไม่บอกผม ผมก็ไม่คิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอยู่แล้ว อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่แนวทางการแก้แค้นกิลด์ที่ตรงกับแนวทางผมด้วย

 

 

 

พอกลับมาคิดดูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

 

เพราะตอนที่ผมไปยังส่วนลึกของป่าพร้อมกับซูซูเมะ ผมก็ไม่เห็นสัญญาณของฟุไคเลยสักนิด ดังนั้นการจะสรุปไปว่าเป็นบาซิลิกส์อีกตัวก็มีโอกาสต่ำมาก

 

 

แล้วทำไมโรคระบาดถึงกลับมาอีกกันล่ะ? แล้วทำไมผลจิไรอาโอคุสถึงไม่ได้ผลแล้วกัน?

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องพิษที่ปะปนจนเจือจางจากน้ำในแม่น้ำแล้วอีก

 

 

แน่นอนว่าตัวพิษที่ยังไม่ถูกเจือจางนั้นย่อมรุนแรงกว่าเป็นไหนๆ แน่

 

 

หากเหตุการณ์ที่ผิดปกติทั้งหมดนี้มันเกิดมาจากพิษนั่นล่ะ….

 

 

ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่

 

 

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูถูกเคาะอย่างรุนแรง แล้วก็มีเสียงของหญิงสาวดังออกมาจากข้างนอกห้อง

 

 

「ขออภัยที่รบกวนค่ะมาสเตอร์! ฉันมีรายงานด่วนมาแจ้งค่ะ!」

 

 

 

「เข้ามาสิ」

 

 

ประตูห้องถูกเปิดออกทันทีที่สิ้นเสียงของเอลการ์ด และคนที่เข้ามาในห้องก็คือพาร์เฟต

 

 

 

สีหน้าของเธอนั้นจริงจังเป็นอย่างมากจนทำให้ผมไม่แน่ใจว่าคือคนเดียวกันกับที่เห็นก่อนหน้านี้ไหม

 

 

 

「มีสัญญาณไฟส่งมาจากทางป่าทีทิสค่ะ โดยสีของมันคือ ขาว ดำ และ แดงค่ะ!」

 

 

 

ทันทีที่เขาได้ยิน สายตาของเอลการ์ดก็เปลี่ยนไปคมกริบราวกับใบมีด ลิดเดลก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

 

 

เอลการ์ดอาจจะส่งนักผจญภัยหรือพนักงานกิลด์ไปสำรวจป่าด้วยก็ได้

 

 

 

และคนพวกนั้นก็ส่งสัญญาณไฟออกมาให้พวกเขาทราบ

 

 

 

จากการแสดงออกของพวกเขา 3 คนเห็นได้ชัดว่ามันคือข่าวร้ายในระดับที่แย่สุดๆ แน่

 

———
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

 

「จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่านะที่พวกเราเจอกันนับตั้งแต่การดวลของนายกับราส นายดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ โซระ」

 

 

 

เอลการ์ด ควิส นักผจญภัยระดับ 1 ผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกิดล์นักผจญภัยสาขาอิชกะ กล่าวออกมาและยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

 

 

ไม่สัมผัสไม่ได้ถึงความขัดแย้งทางสีหน้ากับการกระทำของเขา กลิ่นน้ำหอมจางๆ ออกมาจากตัวเขา ผมสีเงินที่ถูกเซตมาเป็นอย่างดี เขายังคงเป็นผู้ชายสำอางเช่นเดิมไม่เปลี่ยน

 

 

และผมก็ตอบกลับเอลการ์ดไปอย่างเย็นชา

 

 

 

 

 

「ฉันได้ยินมาว่านายอยากจะได้ข้อมูลจากป่าทีทิสสินะ? 」

 

 

 

ผมข้ามเรื่องการทักทายไร้สาระไปและตรงเข้าประเด็นทันที เพื่อชี้ให้เห็นว่าผมไม่ได้มาเป็นเพื่อนคุยเล่นกับเขา

 

 

 

พอเอลการ์ดได้ยิน ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

 

ลิดเดลที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็จ้องผมเขม็งเลย แต่ผมก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไปและเมินเธอ

 

 

พูดในสิ่งที่จำเป็นและฟังในสิ่งที่จำเป็น นั่นคือทั้งหมดที่ควรทำในตอนนี้

 

 

 

「อ้อ ใช่แล้ว งั้นฉันเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ฉันมีความกังวลเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์ที่กำลังอาละวาดอยู่ หากจะสรุปพวกมันน่าจะ――อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง」

 

 

และเมื่อเอลการ์ดข้ามเรื่องไร้สาระตรงเข้าสู่ประเด็นหลัก ผมก็เลยตอบกลับเขาไปด้วยท่าทีแบบเดียวกัน

 

「งั้นฉันก็จะเข้าประเด็นที่ได้ข้อมูลมาเลยนะ สภาพของป่าลึกในตอนนี้พวกมอนสเตอร์กำลังคลั่งกันได้ที่เลย จากนี้ไปก็น่าจะขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าเมื่อไหร่พวกมันจะออกมายังส่วนนอกของป่า」

 

 

 

และหากเป็นเช่นนั้น พวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบนอกก็จะถูกไล่ต้อนออกมาอีกที

 

 

เอลการ์ดก็พยักหน้าราวกับอยากจะพูดว่า “ว่าแล้วเชียว”

 

 

「จากที่นายบอกคือเป็นเรื่องของเวลาแล้วสินะ ก็แปลว่าอีกไม่นานมอนเตอร์พวกนั้นก็จะทะลักออกมาจากป่าแล้วใช่ไหม? 」

 

 

 

「ตามที่พูด และท้ายที่สุด พวกมอนสเตอร์จากส่วนลึกของป่าก็จะตามออกมาด้วย」

 

 

 

อิชกะจะต้องรับมือกับมอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตีในระดับที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน――นั่นคือข้อสรุปของผมที่เห็นสภาพภายในป่าด้วยตาตัวเอง

 

 

มอนสเตอร์คลุ้มคลั่ง ข้อสรุปของเอลการ์ดกับผมเป็นอันเดียวกัน

 

จากนั้นเอลการ์ดก็มองขึ้นไปยังเพดานด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองก่อนจะพึมพำออกมา

 

 

 

「..ไอ้แบบนี้มันก็จะเหมือนกับฝันร้ายเมื่อ 20 ปีก่อนเลยสิน้า…」

 

 

 

「20 ปีก่อน? 」

 

 

 

พอผมตอบสนองต่อคำพูดของเขา กิลด์มาสเตอร์ก็ถอนหายใจก่อนจะบอกผม

 

 

「ประเทศของเราเคยเจอเรื่องนี้มาก่อนเมื่ออดีตน่ะ น่าจะช่วง 20 ปีก่อนได้ตอนนั้นฉันอายุน้อยกว่านายด้วยซ้ำ แต่ความต่างของเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือมอนสเตอร์มันมาจากเขาสกิมไม่ใช่ป่าทีทิส」

 

 

และเพราะเหตุมอนสเตอร์คลุ้มคลั่งนั้นทำให้หมู่บ้านและเมืองจำนวนมากถูกมอนสเตอร์ทำลายล้างไป เอลการ์ดอธิบาย

 

 

ในเหตุการณ์ครั้งนี้เอลการ์ดก็ได้เข้าไปรับมือกับมอนสเตอร์และทำให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเขาเสียชีวิตไปถึง 2 คน

 

 

แน่นอนว่าเมืองอิชกะก็ได้รับผลกระทบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกำแพงเมืองอิชกะในตอนนี้ถึงแข็งแกร่งนัก นี่คือบทเรียนจากในอดีต

 

 

 

ผมขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อ

 

 

 

 

 

「แล้วหาสาเหตุของเหตุการณ์นั้นเจอไหม? 」

 

「ทางเราสันนิษฐานว่าเป็นเพราะภูเขาไฟเริ่มปะทุ ทำให้ระบบนิเวศของพวกมอนสเตอร์มันเปลี่ยนไป」

 

 

 

…จะบอกว่าเป็นเพราะภัยธรรมชาติงั้นเหรอ?

 

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงก็คงจะดีกว่าเกิดจากฝีมือของมนุษย์หรือใครบางคนที่ตั้งใจสร้างสถานการณ์ขึ้น แต่ไม่ว่าจะแบบไหนมันก็เป็นเรื่องที่เลวร้ายอยู่ดี

 

 

 

นอกจากนี้นี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงอดีตมากแล้วด้วย

 

 

จากข้อสรุปที่เอลการ์ดบอกมันก็หมายความว่าตอนนี้ป่าทีทิสกำลังเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นซึ่งมันมีความรุนแรงเทียบเท่ากับภูเขาไฟปะทุ

 

 

 

 

ไอ้นี่แหละปัญหาของจริง

 

 

ส่วนหนึ่งที่ผมตอบรับคำเชิญของกิลด์ก็เพราะอยากได้ข้อมูลจากพวกเขาด้วย เพราะข้อมูลและเส้นสายที่แคลนพวกผมมียังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับกิลด์นักผจญภัยเลย นั่นคือเรื่องที่ผมต้องยอมรับ

 

 

….ถ้างั้น หากพวกเขารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเขาก็คงไม่เสียเวลามาคุยกับผมหรอก นั่นก็หมายความว่าพวกเขายังไม่แน่ใจจริงๆ ว่าสาเหตุการเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่จริง มันมาจากอะไรกันแน่

 

 

เอาเป็นว่าผมก็ลองฟังข้อมูลที่พวกเขามีไปก่อนแล้วกันเผื่อมันจะเชื่อมโยงอะไรเข้ากับข้อมูลที่ผมมีได้

 

 

 

จากนั้นเอลการ์ดก็เริ่มพูดต่อ เพื่อชี้แจงถึงข้อมูลต่างๆ ที่ตนมี

 

 

「ถึงจะยังไม่ชัดเจนนักว่าเกี่ยวข้องกันไหม แต่ฉันมีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่อีกอย่าง ดูเหมือนว่าโรคระบาดมันจะกลับมาอีกรอบบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตอนต้นของแม่น้ำเคล」

 

 

 

「มาสเตอร์?! ข้อมูลนั้นเรายังไม่ได้รับการยืนยันเลยนะคะ」

 

 

 

ลิดเดลที่ได้ยินเอลการ์ดพูดถึงเรื่องนี้ก็ต้องแสดงอาการตกใจปนไม่พ่อใจออกมา

 

 

กลับกันเอลการ์ดก็ตอบกลับเธอไปด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

 

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า ลิดเดลคุง นี่มันการแบ่งปันข้อมูลนี่นา」

 

 

 

 

「ข-เข้าใจแล้วค่ะ ขออภัยที่ขัด…」

 

 

 

ลิดเดลก้มศีรษะลงและปิดปากของเธอเอาไว้ ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเลย

 

 

ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนใน แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ผมเคยบอกไปแล้วมั้งว่า แหล่งน้ำอย่างแม่น้ำเคลน่ะมันไหล่ผ่านจากป่าทีทิส ดังนั้นหมู่บ้านที่เป็นต้นสายของแม่น้ำเคลก็คงเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับป่าทีทิสมากกว่าเมืองอิชกะ

 

 

 

และการที่เขาบอกว่าเกิดโรคระบาดขึ้นอีกรอบที่หมู่บ้านนั้น

 

 

ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเกิดการปรากฏตัวของบาซิลิสก์ขึ้นและมีฟุไคซึ่งเป็นผลกระทบที่มาจากมอนสเตอร์นั่นก็ได้

 

 

แต่โรคระบาดนั่นก็สามารถแก้ไขได้ด้วยผลจิไรอาโอคุส ดังนั้นหากยังเกิดการระบาดขึ้นอีกก็หมายความว่า――

 

 

 

「ยารักษาไม่ได้ผลแล้วงั้นเหรอ? 」

 

 

「เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าพิษนั้นมันรุนแรงเกินไปจนยาแก้ไม่เกิดผลหรือถอนพิษออกไปไม่ได้หมดหรือเปล่า แต่ข้อมูลนี้พวกเราก็กำลังมาถึงกิลด์เมื่อเช้านี้เอง นอกจากนี้ ทางเราก็กำลังส่งคนของกิลด์เพื่อไปยืนยันอยู่ด้วย」

 

 

 

「……งั้นเหรอ」

 

 

「ถึงจะไม่ต้องบอก แต่นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเข้าล่ะ เพราะมันอาจจะสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมได้อีก 」

 

 

 

ผมพยักหน้ารับคำ ถึงพวกเขาจะไม่บอกผม ผมก็ไม่คิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอยู่แล้ว อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่แนวทางการแก้แค้นกิลด์ที่ตรงกับแนวทางผมด้วย

 

 

 

พอกลับมาคิดดูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

 

เพราะตอนที่ผมไปยังส่วนลึกของป่าพร้อมกับซูซูเมะ ผมก็ไม่เห็นสัญญาณของฟุไคเลยสักนิด ดังนั้นการจะสรุปไปว่าเป็นบาซิลิกส์อีกตัวก็มีโอกาสต่ำมาก

 

 

แล้วทำไมโรคระบาดถึงกลับมาอีกกันล่ะ? แล้วทำไมผลจิไรอาโอคุสถึงไม่ได้ผลแล้วกัน?

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องพิษที่ปะปนจนเจือจางจากน้ำในแม่น้ำแล้วอีก

 

 

แน่นอนว่าตัวพิษที่ยังไม่ถูกเจือจางนั้นย่อมรุนแรงกว่าเป็นไหนๆ แน่

 

 

หากเหตุการณ์ที่ผิดปกติทั้งหมดนี้มันเกิดมาจากพิษนั่นล่ะ….

 

 

ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่

 

 

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูถูกเคาะอย่างรุนแรง แล้วก็มีเสียงของหญิงสาวดังออกมาจากข้างนอกห้อง

 

 

「ขออภัยที่รบกวนค่ะมาสเตอร์! ฉันมีรายงานด่วนมาแจ้งค่ะ!」

 

 

 

「เข้ามาสิ」

 

 

ประตูห้องถูกเปิดออกทันทีที่สิ้นเสียงของเอลการ์ด และคนที่เข้ามาในห้องก็คือพาร์เฟต

 

 

 

สีหน้าของเธอนั้นจริงจังเป็นอย่างมากจนทำให้ผมไม่แน่ใจว่าคือคนเดียวกันกับที่เห็นก่อนหน้านี้ไหม

 

 

 

「มีสัญญาณไฟส่งมาจากทางป่าทีทิสค่ะ โดยสีของมันคือ ขาว ดำ และ แดงค่ะ!」

 

 

 

ทันทีที่เขาได้ยิน สายตาของเอลการ์ดก็เปลี่ยนไปคมกริบราวกับใบมีด ลิดเดลก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

 

 

เอลการ์ดอาจจะส่งนักผจญภัยหรือพนักงานกิลด์ไปสำรวจป่าด้วยก็ได้

 

 

 

และคนพวกนั้นก็ส่งสัญญาณไฟออกมาให้พวกเขาทราบ

 

 

 

จากการแสดงออกของพวกเขา 3 คนเห็นได้ชัดว่ามันคือข่าวร้ายในระดับที่แย่สุดๆ แน่

 

———
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 74 จุดเริ่มต้นของกลียุค

 

「จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่านะที่พวกเราเจอกันนับตั้งแต่การดวลของนายกับราส นายดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ โซระ」

 

 

 

เอลการ์ด ควิส นักผจญภัยระดับ 1 ผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกิดล์นักผจญภัยสาขาอิชกะ กล่าวออกมาและยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

 

 

ไม่สัมผัสไม่ได้ถึงความขัดแย้งทางสีหน้ากับการกระทำของเขา กลิ่นน้ำหอมจางๆ ออกมาจากตัวเขา ผมสีเงินที่ถูกเซตมาเป็นอย่างดี เขายังคงเป็นผู้ชายสำอางเช่นเดิมไม่เปลี่ยน

 

 

และผมก็ตอบกลับเอลการ์ดไปอย่างเย็นชา

 

 

 

 

 

「ฉันได้ยินมาว่านายอยากจะได้ข้อมูลจากป่าทีทิสสินะ? 」

 

 

 

ผมข้ามเรื่องการทักทายไร้สาระไปและตรงเข้าประเด็นทันที เพื่อชี้ให้เห็นว่าผมไม่ได้มาเป็นเพื่อนคุยเล่นกับเขา

 

 

 

พอเอลการ์ดได้ยิน ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

 

ลิดเดลที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็จ้องผมเขม็งเลย แต่ผมก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไปและเมินเธอ

 

 

พูดในสิ่งที่จำเป็นและฟังในสิ่งที่จำเป็น นั่นคือทั้งหมดที่ควรทำในตอนนี้

 

 

 

「อ้อ ใช่แล้ว งั้นฉันเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ ฉันมีความกังวลเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์ที่กำลังอาละวาดอยู่ หากจะสรุปพวกมันน่าจะ――อยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง」

 

 

และเมื่อเอลการ์ดข้ามเรื่องไร้สาระตรงเข้าสู่ประเด็นหลัก ผมก็เลยตอบกลับเขาไปด้วยท่าทีแบบเดียวกัน

 

「งั้นฉันก็จะเข้าประเด็นที่ได้ข้อมูลมาเลยนะ สภาพของป่าลึกในตอนนี้พวกมอนสเตอร์กำลังคลั่งกันได้ที่เลย จากนี้ไปก็น่าจะขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าเมื่อไหร่พวกมันจะออกมายังส่วนนอกของป่า」

 

 

 

และหากเป็นเช่นนั้น พวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบนอกก็จะถูกไล่ต้อนออกมาอีกที

 

 

เอลการ์ดก็พยักหน้าราวกับอยากจะพูดว่า “ว่าแล้วเชียว”

 

 

「จากที่นายบอกคือเป็นเรื่องของเวลาแล้วสินะ ก็แปลว่าอีกไม่นานมอนเตอร์พวกนั้นก็จะทะลักออกมาจากป่าแล้วใช่ไหม? 」

 

 

 

「ตามที่พูด และท้ายที่สุด พวกมอนสเตอร์จากส่วนลึกของป่าก็จะตามออกมาด้วย」

 

 

 

อิชกะจะต้องรับมือกับมอนสเตอร์ที่เข้ามาโจมตีในระดับที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน――นั่นคือข้อสรุปของผมที่เห็นสภาพภายในป่าด้วยตาตัวเอง

 

 

มอนสเตอร์คลุ้มคลั่ง ข้อสรุปของเอลการ์ดกับผมเป็นอันเดียวกัน

 

จากนั้นเอลการ์ดก็มองขึ้นไปยังเพดานด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองก่อนจะพึมพำออกมา

 

 

 

「..ไอ้แบบนี้มันก็จะเหมือนกับฝันร้ายเมื่อ 20 ปีก่อนเลยสิน้า…」

 

 

 

「20 ปีก่อน? 」

 

 

 

พอผมตอบสนองต่อคำพูดของเขา กิลด์มาสเตอร์ก็ถอนหายใจก่อนจะบอกผม

 

 

「ประเทศของเราเคยเจอเรื่องนี้มาก่อนเมื่ออดีตน่ะ น่าจะช่วง 20 ปีก่อนได้ตอนนั้นฉันอายุน้อยกว่านายด้วยซ้ำ แต่ความต่างของเรื่องที่เกิดขึ้นก็คือมอนสเตอร์มันมาจากเขาสกิมไม่ใช่ป่าทีทิส」

 

 

และเพราะเหตุมอนสเตอร์คลุ้มคลั่งนั้นทำให้หมู่บ้านและเมืองจำนวนมากถูกมอนสเตอร์ทำลายล้างไป เอลการ์ดอธิบาย

 

 

ในเหตุการณ์ครั้งนี้เอลการ์ดก็ได้เข้าไปรับมือกับมอนสเตอร์และทำให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเขาเสียชีวิตไปถึง 2 คน

 

 

แน่นอนว่าเมืองอิชกะก็ได้รับผลกระทบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกำแพงเมืองอิชกะในตอนนี้ถึงแข็งแกร่งนัก นี่คือบทเรียนจากในอดีต

 

 

 

ผมขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อ

 

 

 

 

 

「แล้วหาสาเหตุของเหตุการณ์นั้นเจอไหม? 」

 

「ทางเราสันนิษฐานว่าเป็นเพราะภูเขาไฟเริ่มปะทุ ทำให้ระบบนิเวศของพวกมอนสเตอร์มันเปลี่ยนไป」

 

 

 

…จะบอกว่าเป็นเพราะภัยธรรมชาติงั้นเหรอ?

 

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงก็คงจะดีกว่าเกิดจากฝีมือของมนุษย์หรือใครบางคนที่ตั้งใจสร้างสถานการณ์ขึ้น แต่ไม่ว่าจะแบบไหนมันก็เป็นเรื่องที่เลวร้ายอยู่ดี

 

 

 

นอกจากนี้นี่ไม่ใช่เวลามานึกถึงอดีตมากแล้วด้วย

 

 

จากข้อสรุปที่เอลการ์ดบอกมันก็หมายความว่าตอนนี้ป่าทีทิสกำลังเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นซึ่งมันมีความรุนแรงเทียบเท่ากับภูเขาไฟปะทุ

 

 

 

 

ไอ้นี่แหละปัญหาของจริง

 

 

ส่วนหนึ่งที่ผมตอบรับคำเชิญของกิลด์ก็เพราะอยากได้ข้อมูลจากพวกเขาด้วย เพราะข้อมูลและเส้นสายที่แคลนพวกผมมียังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับกิลด์นักผจญภัยเลย นั่นคือเรื่องที่ผมต้องยอมรับ

 

 

….ถ้างั้น หากพวกเขารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเขาก็คงไม่เสียเวลามาคุยกับผมหรอก นั่นก็หมายความว่าพวกเขายังไม่แน่ใจจริงๆ ว่าสาเหตุการเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่จริง มันมาจากอะไรกันแน่

 

 

เอาเป็นว่าผมก็ลองฟังข้อมูลที่พวกเขามีไปก่อนแล้วกันเผื่อมันจะเชื่อมโยงอะไรเข้ากับข้อมูลที่ผมมีได้

 

 

 

จากนั้นเอลการ์ดก็เริ่มพูดต่อ เพื่อชี้แจงถึงข้อมูลต่างๆ ที่ตนมี

 

 

「ถึงจะยังไม่ชัดเจนนักว่าเกี่ยวข้องกันไหม แต่ฉันมีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่อีกอย่าง ดูเหมือนว่าโรคระบาดมันจะกลับมาอีกรอบบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตอนต้นของแม่น้ำเคล」

 

 

 

「มาสเตอร์?! ข้อมูลนั้นเรายังไม่ได้รับการยืนยันเลยนะคะ」

 

 

 

ลิดเดลที่ได้ยินเอลการ์ดพูดถึงเรื่องนี้ก็ต้องแสดงอาการตกใจปนไม่พ่อใจออกมา

 

 

กลับกันเอลการ์ดก็ตอบกลับเธอไปด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

 

 

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า ลิดเดลคุง นี่มันการแบ่งปันข้อมูลนี่นา」

 

 

 

 

「ข-เข้าใจแล้วค่ะ ขออภัยที่ขัด…」

 

 

 

ลิดเดลก้มศีรษะลงและปิดปากของเธอเอาไว้ ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเลย

 

 

ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนใน แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ผมเคยบอกไปแล้วมั้งว่า แหล่งน้ำอย่างแม่น้ำเคลน่ะมันไหล่ผ่านจากป่าทีทิส ดังนั้นหมู่บ้านที่เป็นต้นสายของแม่น้ำเคลก็คงเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับป่าทีทิสมากกว่าเมืองอิชกะ

 

 

 

และการที่เขาบอกว่าเกิดโรคระบาดขึ้นอีกรอบที่หมู่บ้านนั้น

 

 

ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเกิดการปรากฏตัวของบาซิลิสก์ขึ้นและมีฟุไคซึ่งเป็นผลกระทบที่มาจากมอนสเตอร์นั่นก็ได้

 

 

แต่โรคระบาดนั่นก็สามารถแก้ไขได้ด้วยผลจิไรอาโอคุส ดังนั้นหากยังเกิดการระบาดขึ้นอีกก็หมายความว่า――

 

 

 

「ยารักษาไม่ได้ผลแล้วงั้นเหรอ? 」

 

 

「เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าพิษนั้นมันรุนแรงเกินไปจนยาแก้ไม่เกิดผลหรือถอนพิษออกไปไม่ได้หมดหรือเปล่า แต่ข้อมูลนี้พวกเราก็กำลังมาถึงกิลด์เมื่อเช้านี้เอง นอกจากนี้ ทางเราก็กำลังส่งคนของกิลด์เพื่อไปยืนยันอยู่ด้วย」

 

 

 

「……งั้นเหรอ」

 

 

「ถึงจะไม่ต้องบอก แต่นายอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเข้าล่ะ เพราะมันอาจจะสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมได้อีก 」

 

 

 

ผมพยักหน้ารับคำ ถึงพวกเขาจะไม่บอกผม ผมก็ไม่คิดจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอยู่แล้ว อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่แนวทางการแก้แค้นกิลด์ที่ตรงกับแนวทางผมด้วย

 

 

 

พอกลับมาคิดดูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีแฮะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

 

เพราะตอนที่ผมไปยังส่วนลึกของป่าพร้อมกับซูซูเมะ ผมก็ไม่เห็นสัญญาณของฟุไคเลยสักนิด ดังนั้นการจะสรุปไปว่าเป็นบาซิลิกส์อีกตัวก็มีโอกาสต่ำมาก

 

 

แล้วทำไมโรคระบาดถึงกลับมาอีกกันล่ะ? แล้วทำไมผลจิไรอาโอคุสถึงไม่ได้ผลแล้วกัน?

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องพิษที่ปะปนจนเจือจางจากน้ำในแม่น้ำแล้วอีก

 

 

แน่นอนว่าตัวพิษที่ยังไม่ถูกเจือจางนั้นย่อมรุนแรงกว่าเป็นไหนๆ แน่

 

 

หากเหตุการณ์ที่ผิดปกติทั้งหมดนี้มันเกิดมาจากพิษนั่นล่ะ….

 

 

ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่

 

 

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงประตูถูกเคาะอย่างรุนแรง แล้วก็มีเสียงของหญิงสาวดังออกมาจากข้างนอกห้อง

 

 

「ขออภัยที่รบกวนค่ะมาสเตอร์! ฉันมีรายงานด่วนมาแจ้งค่ะ!」

 

 

 

「เข้ามาสิ」

 

 

ประตูห้องถูกเปิดออกทันทีที่สิ้นเสียงของเอลการ์ด และคนที่เข้ามาในห้องก็คือพาร์เฟต

 

 

 

สีหน้าของเธอนั้นจริงจังเป็นอย่างมากจนทำให้ผมไม่แน่ใจว่าคือคนเดียวกันกับที่เห็นก่อนหน้านี้ไหม

 

 

 

「มีสัญญาณไฟส่งมาจากทางป่าทีทิสค่ะ โดยสีของมันคือ ขาว ดำ และ แดงค่ะ!」

 

 

 

ทันทีที่เขาได้ยิน สายตาของเอลการ์ดก็เปลี่ยนไปคมกริบราวกับใบมีด ลิดเดลก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

 

 

เอลการ์ดอาจจะส่งนักผจญภัยหรือพนักงานกิลด์ไปสำรวจป่าด้วยก็ได้

 

 

 

และคนพวกนั้นก็ส่งสัญญาณไฟออกมาให้พวกเขาทราบ

 

 

 

จากการแสดงออกของพวกเขา 3 คนเห็นได้ชัดว่ามันคือข่าวร้ายในระดับที่แย่สุดๆ แน่

 

———
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+