การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 60 ถ่ายวิญญาณ

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 60 ถ่ายวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 60 ถ่ายวิญญาณ

 

 

ทันทีที่เปิดประตูและสัมผัสกับบรรยากาศภายในห้อง คิ้วของผมก็ขมวดขึ้น

 

มันเป็นกลิ่นที่แสนจะหอมหวานจนแทบสำลักออกมา

 

ผมรู้ดีว่านี่คือกลิ่นของนิทรามรณา ทานาเซียจากการที่ได้สัมผัสกลิ่นของมันบนเกาะอสูรยักษ์มาหลายครั้ง

 

คลอเดียกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้อง กลิ่นของทานาเซียมันอบอวลไปทั่วผนังห้อง

 

 

เธอกำลังนอนหลับอย่างสงบโดยที่ลมหายใจไม่แสดงออกถึงความทรมานเลย หากเห็นเธอในสภาพนี้โดยไม่รู้อะไรก็คงไม่คิดหรอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังถูกโจมตีด้วยคำสาปอยู่

 

แต่สภาพของวิญญาณคลอเดียในตอนนี้ที่ผมเห็นต้องบอกว่าสิ้นหวัง

 

วิญญาณของเธอลดลงอย่างเห็นได้ชัดถ้าเทียบกับวันที่ผมคุยกับเธอตรงคอกมังกร

 

 

ที่จริงผมควรต้องเหลือเวลากลับไปเมืองอิชกะสักหน่อยแท้ๆ แต่พออาการของเธอแย่ลงมันก็ไม่เหลือเวลาจะทำแบบนั้นอีกแล้ว หากปล่อยไว้วิญญาณของเธอคงได้หมดตัวคืนนี้ไม่ก็พรุ่งนี้แน่

 

 

และเพราะผมจำเป็นต้องถ่ายวิญญาณให้กับเธอที่อยู่ในสภาพนี้ผมก็เลยต้องระมัดระวังยิ่งกว่าตอนลูนามาเรีย

 

 

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนี้ ดวงตาของคลอเดียก็โพลงขึ้นมา

 

บางทีเธอน่าจะสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาในห้องของเธอ

 

ลูกสาวดยุกจ้องมายังผมด้วยดวงตาที่เปิดกว้างเพราะความประหลาดใจ

 

 

 

 

「…คุณโซระ…ทำไม คุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน…? 」

 

 

 

「ท่านคลอเดีย ฉันมาเพื่อช่วยท่านยังไงล่ะ ขอไปนั่งข้างๆ เตียงได้ไหม? 」

 

 

 

「ไม่นะคะ….อย่าเลย…อากาศในห้องตอนนี้มัน–」

 

 

 

「ฉันไม่สนหรอกน่า」

 

 

แล้วผมก็เข้าไปหาเธอโดยไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย

 

 

จากนั้นผมก็สัมผัสไปยังแก้มของเธอเบาๆ ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง

 

 

 

「หื้ม ดูเหมือนจะไม่มีไข้นะ」

 

 

 

「ฟุฟุ…ถ้าไม่คิดจะฟังกันตั้งแต่แรก…ก็อย่ามาขออนุญาตกันสิคะ」

 

 

「เดี๋ยวสิท่านคลอเดีย ที่ท่านบอกกับฉันมันคนละเรื่องเลยนะ ท่านไม่ได้บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ แต่ท่านพยายามบอกฉันว่าในห้องนี้มันมีพิษที่ส่งผลเสียต่อคนธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน? 」

 

 

แถมถ้าห่วงเรื่องนั้นจริงก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะถ้าผมจอดกับเรื่องแค่นี้ก็คงไม่มาหาแต่แรกหรอก

 

 

ผมก็ตั้งใจจะอธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟังก่อนหรอกนะ แต่ดูจากสภาพของเธอแล้วผมว่าคงเหลือเวลาไม่พออธิบายอะไรเยอะ เอาเป็นว่าส่วนที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ ไว้หลังเสร็จงานก่อนแล้วกัน

 

ผมรีบตัดบททันทีแล้วบอกไปตรงๆ เลยว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไร

 

 

พอเธอได้ฟังสิ่งที่ผมพูดเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับแสดงถึงสีหน้าของผู้ที่ยอมแพ้ไปแล้ว บางทีเธออาจจะคิดว่าที่ผมมาพูดกับเธอก็เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นก็ได้

 

 

 

「…แล้วก็เพื่อช่วยฉันเอาไว้ ริมฝีปากของเราทั้งสองจึงต้องสัมผัสกันสินะคะ」

 

 

 

「ก็ใช่หรอก แต่เดี๋ยวนะที่บอกไปมันก็เหมือนกับช่วยคนจมน้ำด้วยการผายปอดไง ริมฝีปากของท่านยังบริสุทธิ์เช่นเดิมแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง」

 

 

 

「…ว่าแต่ท่านพ่อเขาอนุญาตแล้วเหรอคะ? 」

 

 

 

「ตอนบอกไปก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกันนะ」

 

 

พอผมตอบเธอไปแบบจริงจัง เธอก็ยิ้มให้ผมอีกครั้งด้วยความจริงใจแทน

 

 

「ฟุฟุฟุ อยากจะเห็นจังเลย…..สุดท้ายก็วิญญาณของท่านสินะคะ…ทำไม…ท่านถึงต้องพยายามขนาดนี้…เพื่อฉันด้วยคะ? 」

 

 

「สาวน้อยกำลังเจ็บปวดอยู่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ชายหนุ่มคนนี้ต้องช่วยเหลือไหม แถมเจ้าคราว โซราสก็มาขอฉันด้วยสิ」

 

 

 

「คราว โซราส…เหรอคะ? 」

 

 

 

「ก็ใช่น่ะสิ หมอนั่นบอกว่าอยากจะช่วยเพื่อนที่มีชื่อคล้ายกับตัวเองเอาไว้น่ะ」

 

นั่นเป็นเรื่องที่คลอเดียได้พูดคุยกับคราว โซราสตอนอยู่ที่คอกมังกร

 

 

เธอก็คงจะสังเกตเห็นแล้วว่าผมต้องการจะสื่ออะไร หลังจากแสดงสีหน้าประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขออกมาอีกครั้ง

 

 

 

「ฮ่าๆ …แบบนี้ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วสิคะ」

 

 

 

「งั้นก็มาเริ่มกันเลย」

 

 

 

「เดี๋ยว-เอาเลยระ-อึก-?!」

 

 

หลังจากผมได้รับคำอนุญาตแล้วผมก็ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับเธออย่างไม่ลังเล

 

หากผมใช้เวลาในการทำเรื่องนี้นานเกินไป บางทีอารมณ์ด้านแปลกๆ ของผมมันจะผุดขึ้นมาแทนน่ะสิ ดังนั้นทางที่ดีก็รีบๆ จัดการให้เสร็จเลยดีกว่า

 

 

และในวินาทีนั้นเองผมก็เริ่มถ่ายวิญญาณของผมเข้าไปในร่างเธอผ่านริมฝีปาก

 

 

 

「――อึกอือออ?!」

 

 

ร่างกายของเธอสะดุ้งจนสั่นไปมา

 

ตอนนี้คลอเดียน่าจะรู้สึกเหมือนกับตอนที่ผมได้เริ่มฆ่าพวกหนอนเป็นครั้งแรกด้วยอาภรณ์วิญญาณ ไม่สิหากพิจารณาจากวิญญาณที่ผมถ่ายให้เป็นจำนวนมากความรู้สึกของมันก็น่าจะรุนแรงกว่านั้นหลายเท่าตัวเลย

 

 

ตามที่ลูนามาเรียบอกกับผมระหว่างการทดลอง หากปล่อยให้รู้สึกดีมากจนเกินไปสุดท้ายมันจะกลายเป็นความเจ็บปวดแทนด้วย

 

คลอเดียได้เอามือกดลงไปที่หน้าอกของผม บางทีเธออาจจะอยากผลักผมออกไปโดยสัญชาตญาณ เพราะความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยถาโถมเข้ามาหาเธอ

 

 

 

ดวงตาสีม่วงนั้นเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนกเมื่อจ้องมองมายังผม

 

 

 

 

ทว่าผมคงทำตามที่เธอขอไม่ได้หรอกนะ

 

 

เพราะหากผมหยุดระหว่างที่กำลังเริ่มการถ่ายวิญญาณ เลเวลของผมอาจจะลดลงแล้วการถ่ายวิญญาณไม่สำเร็จด้วย แถมถ้าจะเริ่มใหม่ก็เสี่ยงเลเวลลดไปอีก แถมอาจจะมีอะไรผิดพลาดได้ด้วย

 

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง ผมก็เลยจับเอวของเธอไว้ด้วยมือขวาและล็อกกรามของเธอไว้ด้วยมือซ้ายก่อนจะฝืนถ่ายวิญญาณต่อ

 

 

ผมยังคงจูบเธอต่อไปเรื่อยๆ ขณะประคองร่างที่กระตุกไปมาของเธอที่อยู่ภายในอ้อมแขนผม

 

 

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

 

 

แต่บางทีอาจจะเพราะเธอยอมแพ้ไม่ก็หมดแรงที่จะต่อต้านแล้ว คลอเดียจึงแน่นิ่งไปภายในอ้อมแขนของผมและยอมให้ผมทำตามที่ตัวเองต้องการ

 

ระหว่างที่ผมกำลังถ่ายวิญญาณต่อไป คลอเดียก็เริ่มมี “ปฏิกิริยา” นั้นขึ้นมา

 

 

มันเป็นสิ่งที่ลูนามาเรียสัมผัสได้เช่นเดียวกัน ดูเหมือนคลอเดียก็รู้สึกเหมือนเธอ เพราะเปลือกตาที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่งของเธอได้เปิดขึ้นมา

 

 

–ตอนนี้โดยปกติแล้วมันน่าจะหมายถึงผมเสร็จงานแล้ว แต่เพราะบางอย่างมันทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้สิ เลเวลที่เพิ่มขึ้นมาแค่ 1 จะช่วยให้เธอต่อต้านคำสาปได้จริงหรือ? ผมห่วงเรื่องนี้แหละ

 

 

 

เพราะงั้นผมก็เลยตัดสินใจว่าจะถ่ายวิญญาณให้เธออีกรอบ และทำมันจนกว่าเธอจะมีปฏิกิริยานั้นอีกรอบ

 

 

 

พอยืนยันได้แล้วว่าเสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็ผละริมฝีปากของตนออกจากเธอ

 

 

 

 

「ฮู้ว…ก็เอาประมาณนี้แล้วกัน」

 

 

 

「เอาประมาณนี้แล้วกัน อะไรกันคะ!!」

 

 

พอผมพึมพำออกมาด้วยความโล่งใจ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็ตะโกนใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด

 

 

「ฉะ-ฉันเคยบอกว่าคุณสามารถจูบฉันได้หรือไงกันคะ!…แถมพอทำไปแล้ว!…คุณก็ควรจะอ่อนโยนไม่ก็ใจดีให้มากกว่านี้หน่อยสิคะ!」

 

 

คลอเดียที่หน้าแดงก่ำพูดออกมาด้วยความโกรธขณะเอามือขวาป้องปากของตนไปด้วย

 

ขณะที่เธอจ้องมองผมแล้วพยายามปรับลมหายใจไปด้วย บางทีสิ่งที่ผมทำไปเธอน่าจะโกรธจริงๆ แฮะ

 

 

เอาเถอะ หากจะโกรธก็คงช่วยไม่ได้ แต่ระหว่างที่คิดแบบนั้นผมก็ถามเธอเพื่อยืนยันสถานการณ์

 

 

 

「ท่านจะโกรธก็ไม่ผิดหรอก ฉันก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่อยากจะยืนยันสักหน่อยน่ะ」

 

 

「มีอะไรที่ต้องยืนยะ–อ๋อเรื่องนั้นสินะคะ ก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเลเวลจะเพิ่มไหม แต่เพราะการกระทำของใครบางคน เรื่องชวนน่าปวดหัวมันก็ดันปลิวออกจากหัวไปหมดแล้วนี่สิ」

 

 

ระหว่างที่เธอจ้องมาที่ผม เธอก็เปิดหน้าต่างเลเวลตัวเองดู

 

 

 

จากนั้นลูกสาวของดยุกก็ร้องออกมา

 

 

 

 

「โห…ล-เลเวลขึ้นฉันเพิ่มขึ้น…แถมยังตั้ง 2 เลเวลด้วย!? 」

 

 

 

「เยี่ยมไปเลย แล้วท่านรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?! แต่ดูจากที่เหลือแรงเอาไว้โกรธขนาดนี้อาการก็น่าจะดีขึ้นเยอะแล้วนะ」

 

 

「ด-ด-เดี๋ยวก่อนนะคะ…เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันจะมีเยอะเกินไปแล้วค่ะ…เอ่อ…เอาเป็นว่าอย่างแรกคือแขนขาของฉันเริ่มรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้น ส่วนอาการชาแปลกๆ ตามร่างกายก็หายไปแล้วด้วยค่ะ」

 

 

 

「หืมมม แล้วนอกหนือจากนี้ล่ะ?? 」

 

 

「อ้อ ส่วนหัวก็ด้วยค่ะ รู้สึกเหมือนมันสดชื่นและปลอดโปร่งโล่งไปหมดเลย แล้วก็..」

 

 

 

「แล้วก็? 」

 

 

 

「อ๊ะ..ช่างมันเถอะค่ะ…」

 

 

คลอเดียเหมือนลังเลจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่พอเธอโบกมือไปมาให้กับผมเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล ผมก็ได้ยินเสียงแว่วเข้ามาภายในหู

 

 

จะอธิบายไงดีล่ะ เสียงโคร๊กที่แน่นๆ ทำนองนั้นแหละ เอาเป็นว่าผมบอกได้แค่นี้แล้วกัน

 

 

ผมก็รู้สึกแย่หรอกนะที่ต้องเห็นคลอเดียอับอายแบบนี้ แต่สุดท้ายเสียงที่ผมได้ยินมันก็ทำให้ผมโล่งใจว่าเธอไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว

 

ความอยากอาหารของเธอมันเริ่มกลับมาจนทำให้ท้องร้องก็แปลว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อฟื้นตัวแล้วนั่นเอง ไม่มีอะไรบอกได้ชัดกว่านี้แล้วว่าเธอผ่านช่วงที่เลวร้ายสุดๆ ไปแล้ว

 

 

วิญญาณของเธอก็ถูกเติมเต็มเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคำสาปนั้นจะยังมีผลกับเธอไหมสุดท้ายก็ต้องตามดูผลจากนี้อีกที แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่น่าจะมีอาการอะไรแย่ลงไปอีกสักพักเลย

 

 

ผมรู้สึกโล่งใจกับสิ่งที่เห็นจริงๆ

 

 

 

และในวินาทีนั้นเอง ร่างของผมก็ร่วงลงไปกับพื้น

 

 

 

ผลข้างเคียงจากการถ่ายวิญญาณมันได้พุ่งเข้ามาจู่โจมผมในคราวเดียว

 

 

 

ถึงผมจะเคยมีประสบการณ์กับตอนถ่ายวิญญาณให้ลูนามาเรียแล้วก็เถอะ แต่ไอ้รอบนี้มันหนักกว่าเดิม 2 เท่าเนี่ยสิ ก็คงไม่แปลกเพราะผมถ่ายวิญญาณไปจนเลเวลของคลอเดียเพิ่มมา 2 เลเวล ผลที่ได้ก็คงจะประมาณนี้แหละ

 

 

 

คลอเดียตะโกนเรียกชื่อผมด้วยความตกใจ แต่ผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะตอบกลับเธอไปได้อีกแล้ว

 

 

 

รู้สึกเหมือนร่างของผมกำลังร่วงหลงไปยังผาลึกเลยแฮะ จากนั้นสติของผมก็จมลงไปในความมืดพร้อมกับดวงตาที่ปิดลง

 

 

 

———

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 60 ถ่ายวิญญาณ

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 60 ถ่ายวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 60 ถ่ายวิญญาณ

 

 

ทันทีที่เปิดประตูและสัมผัสกับบรรยากาศภายในห้อง คิ้วของผมก็ขมวดขึ้น

 

มันเป็นกลิ่นที่แสนจะหอมหวานจนแทบสำลักออกมา

 

ผมรู้ดีว่านี่คือกลิ่นของนิทรามรณา ทานาเซียจากการที่ได้สัมผัสกลิ่นของมันบนเกาะอสูรยักษ์มาหลายครั้ง

 

คลอเดียกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้อง กลิ่นของทานาเซียมันอบอวลไปทั่วผนังห้อง

 

 

เธอกำลังนอนหลับอย่างสงบโดยที่ลมหายใจไม่แสดงออกถึงความทรมานเลย หากเห็นเธอในสภาพนี้โดยไม่รู้อะไรก็คงไม่คิดหรอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังถูกโจมตีด้วยคำสาปอยู่

 

แต่สภาพของวิญญาณคลอเดียในตอนนี้ที่ผมเห็นต้องบอกว่าสิ้นหวัง

 

วิญญาณของเธอลดลงอย่างเห็นได้ชัดถ้าเทียบกับวันที่ผมคุยกับเธอตรงคอกมังกร

 

 

ที่จริงผมควรต้องเหลือเวลากลับไปเมืองอิชกะสักหน่อยแท้ๆ แต่พออาการของเธอแย่ลงมันก็ไม่เหลือเวลาจะทำแบบนั้นอีกแล้ว หากปล่อยไว้วิญญาณของเธอคงได้หมดตัวคืนนี้ไม่ก็พรุ่งนี้แน่

 

 

และเพราะผมจำเป็นต้องถ่ายวิญญาณให้กับเธอที่อยู่ในสภาพนี้ผมก็เลยต้องระมัดระวังยิ่งกว่าตอนลูนามาเรีย

 

 

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนี้ ดวงตาของคลอเดียก็โพลงขึ้นมา

 

บางทีเธอน่าจะสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาในห้องของเธอ

 

ลูกสาวดยุกจ้องมายังผมด้วยดวงตาที่เปิดกว้างเพราะความประหลาดใจ

 

 

 

 

「…คุณโซระ…ทำไม คุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน…? 」

 

 

 

「ท่านคลอเดีย ฉันมาเพื่อช่วยท่านยังไงล่ะ ขอไปนั่งข้างๆ เตียงได้ไหม? 」

 

 

 

「ไม่นะคะ….อย่าเลย…อากาศในห้องตอนนี้มัน–」

 

 

 

「ฉันไม่สนหรอกน่า」

 

 

แล้วผมก็เข้าไปหาเธอโดยไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย

 

 

จากนั้นผมก็สัมผัสไปยังแก้มของเธอเบาๆ ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง

 

 

 

「หื้ม ดูเหมือนจะไม่มีไข้นะ」

 

 

 

「ฟุฟุ…ถ้าไม่คิดจะฟังกันตั้งแต่แรก…ก็อย่ามาขออนุญาตกันสิคะ」

 

 

「เดี๋ยวสิท่านคลอเดีย ที่ท่านบอกกับฉันมันคนละเรื่องเลยนะ ท่านไม่ได้บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ แต่ท่านพยายามบอกฉันว่าในห้องนี้มันมีพิษที่ส่งผลเสียต่อคนธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน? 」

 

 

แถมถ้าห่วงเรื่องนั้นจริงก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะถ้าผมจอดกับเรื่องแค่นี้ก็คงไม่มาหาแต่แรกหรอก

 

 

ผมก็ตั้งใจจะอธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟังก่อนหรอกนะ แต่ดูจากสภาพของเธอแล้วผมว่าคงเหลือเวลาไม่พออธิบายอะไรเยอะ เอาเป็นว่าส่วนที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ ไว้หลังเสร็จงานก่อนแล้วกัน

 

ผมรีบตัดบททันทีแล้วบอกไปตรงๆ เลยว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไร

 

 

พอเธอได้ฟังสิ่งที่ผมพูดเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับแสดงถึงสีหน้าของผู้ที่ยอมแพ้ไปแล้ว บางทีเธออาจจะคิดว่าที่ผมมาพูดกับเธอก็เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นก็ได้

 

 

 

「…แล้วก็เพื่อช่วยฉันเอาไว้ ริมฝีปากของเราทั้งสองจึงต้องสัมผัสกันสินะคะ」

 

 

 

「ก็ใช่หรอก แต่เดี๋ยวนะที่บอกไปมันก็เหมือนกับช่วยคนจมน้ำด้วยการผายปอดไง ริมฝีปากของท่านยังบริสุทธิ์เช่นเดิมแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง」

 

 

 

「…ว่าแต่ท่านพ่อเขาอนุญาตแล้วเหรอคะ? 」

 

 

 

「ตอนบอกไปก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกันนะ」

 

 

พอผมตอบเธอไปแบบจริงจัง เธอก็ยิ้มให้ผมอีกครั้งด้วยความจริงใจแทน

 

 

「ฟุฟุฟุ อยากจะเห็นจังเลย…..สุดท้ายก็วิญญาณของท่านสินะคะ…ทำไม…ท่านถึงต้องพยายามขนาดนี้…เพื่อฉันด้วยคะ? 」

 

 

「สาวน้อยกำลังเจ็บปวดอยู่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ชายหนุ่มคนนี้ต้องช่วยเหลือไหม แถมเจ้าคราว โซราสก็มาขอฉันด้วยสิ」

 

 

 

「คราว โซราส…เหรอคะ? 」

 

 

 

「ก็ใช่น่ะสิ หมอนั่นบอกว่าอยากจะช่วยเพื่อนที่มีชื่อคล้ายกับตัวเองเอาไว้น่ะ」

 

นั่นเป็นเรื่องที่คลอเดียได้พูดคุยกับคราว โซราสตอนอยู่ที่คอกมังกร

 

 

เธอก็คงจะสังเกตเห็นแล้วว่าผมต้องการจะสื่ออะไร หลังจากแสดงสีหน้าประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขออกมาอีกครั้ง

 

 

 

「ฮ่าๆ …แบบนี้ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วสิคะ」

 

 

 

「งั้นก็มาเริ่มกันเลย」

 

 

 

「เดี๋ยว-เอาเลยระ-อึก-?!」

 

 

หลังจากผมได้รับคำอนุญาตแล้วผมก็ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับเธออย่างไม่ลังเล

 

หากผมใช้เวลาในการทำเรื่องนี้นานเกินไป บางทีอารมณ์ด้านแปลกๆ ของผมมันจะผุดขึ้นมาแทนน่ะสิ ดังนั้นทางที่ดีก็รีบๆ จัดการให้เสร็จเลยดีกว่า

 

 

และในวินาทีนั้นเองผมก็เริ่มถ่ายวิญญาณของผมเข้าไปในร่างเธอผ่านริมฝีปาก

 

 

 

「――อึกอือออ?!」

 

 

ร่างกายของเธอสะดุ้งจนสั่นไปมา

 

ตอนนี้คลอเดียน่าจะรู้สึกเหมือนกับตอนที่ผมได้เริ่มฆ่าพวกหนอนเป็นครั้งแรกด้วยอาภรณ์วิญญาณ ไม่สิหากพิจารณาจากวิญญาณที่ผมถ่ายให้เป็นจำนวนมากความรู้สึกของมันก็น่าจะรุนแรงกว่านั้นหลายเท่าตัวเลย

 

 

ตามที่ลูนามาเรียบอกกับผมระหว่างการทดลอง หากปล่อยให้รู้สึกดีมากจนเกินไปสุดท้ายมันจะกลายเป็นความเจ็บปวดแทนด้วย

 

คลอเดียได้เอามือกดลงไปที่หน้าอกของผม บางทีเธออาจจะอยากผลักผมออกไปโดยสัญชาตญาณ เพราะความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยถาโถมเข้ามาหาเธอ

 

 

 

ดวงตาสีม่วงนั้นเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนกเมื่อจ้องมองมายังผม

 

 

 

 

ทว่าผมคงทำตามที่เธอขอไม่ได้หรอกนะ

 

 

เพราะหากผมหยุดระหว่างที่กำลังเริ่มการถ่ายวิญญาณ เลเวลของผมอาจจะลดลงแล้วการถ่ายวิญญาณไม่สำเร็จด้วย แถมถ้าจะเริ่มใหม่ก็เสี่ยงเลเวลลดไปอีก แถมอาจจะมีอะไรผิดพลาดได้ด้วย

 

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง ผมก็เลยจับเอวของเธอไว้ด้วยมือขวาและล็อกกรามของเธอไว้ด้วยมือซ้ายก่อนจะฝืนถ่ายวิญญาณต่อ

 

 

ผมยังคงจูบเธอต่อไปเรื่อยๆ ขณะประคองร่างที่กระตุกไปมาของเธอที่อยู่ภายในอ้อมแขนผม

 

 

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

 

 

แต่บางทีอาจจะเพราะเธอยอมแพ้ไม่ก็หมดแรงที่จะต่อต้านแล้ว คลอเดียจึงแน่นิ่งไปภายในอ้อมแขนของผมและยอมให้ผมทำตามที่ตัวเองต้องการ

 

ระหว่างที่ผมกำลังถ่ายวิญญาณต่อไป คลอเดียก็เริ่มมี “ปฏิกิริยา” นั้นขึ้นมา

 

 

มันเป็นสิ่งที่ลูนามาเรียสัมผัสได้เช่นเดียวกัน ดูเหมือนคลอเดียก็รู้สึกเหมือนเธอ เพราะเปลือกตาที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่งของเธอได้เปิดขึ้นมา

 

 

–ตอนนี้โดยปกติแล้วมันน่าจะหมายถึงผมเสร็จงานแล้ว แต่เพราะบางอย่างมันทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้สิ เลเวลที่เพิ่มขึ้นมาแค่ 1 จะช่วยให้เธอต่อต้านคำสาปได้จริงหรือ? ผมห่วงเรื่องนี้แหละ

 

 

 

เพราะงั้นผมก็เลยตัดสินใจว่าจะถ่ายวิญญาณให้เธออีกรอบ และทำมันจนกว่าเธอจะมีปฏิกิริยานั้นอีกรอบ

 

 

 

พอยืนยันได้แล้วว่าเสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็ผละริมฝีปากของตนออกจากเธอ

 

 

 

 

「ฮู้ว…ก็เอาประมาณนี้แล้วกัน」

 

 

 

「เอาประมาณนี้แล้วกัน อะไรกันคะ!!」

 

 

พอผมพึมพำออกมาด้วยความโล่งใจ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็ตะโกนใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด

 

 

「ฉะ-ฉันเคยบอกว่าคุณสามารถจูบฉันได้หรือไงกันคะ!…แถมพอทำไปแล้ว!…คุณก็ควรจะอ่อนโยนไม่ก็ใจดีให้มากกว่านี้หน่อยสิคะ!」

 

 

คลอเดียที่หน้าแดงก่ำพูดออกมาด้วยความโกรธขณะเอามือขวาป้องปากของตนไปด้วย

 

ขณะที่เธอจ้องมองผมแล้วพยายามปรับลมหายใจไปด้วย บางทีสิ่งที่ผมทำไปเธอน่าจะโกรธจริงๆ แฮะ

 

 

เอาเถอะ หากจะโกรธก็คงช่วยไม่ได้ แต่ระหว่างที่คิดแบบนั้นผมก็ถามเธอเพื่อยืนยันสถานการณ์

 

 

 

「ท่านจะโกรธก็ไม่ผิดหรอก ฉันก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่อยากจะยืนยันสักหน่อยน่ะ」

 

 

「มีอะไรที่ต้องยืนยะ–อ๋อเรื่องนั้นสินะคะ ก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเลเวลจะเพิ่มไหม แต่เพราะการกระทำของใครบางคน เรื่องชวนน่าปวดหัวมันก็ดันปลิวออกจากหัวไปหมดแล้วนี่สิ」

 

 

ระหว่างที่เธอจ้องมาที่ผม เธอก็เปิดหน้าต่างเลเวลตัวเองดู

 

 

 

จากนั้นลูกสาวของดยุกก็ร้องออกมา

 

 

 

 

「โห…ล-เลเวลขึ้นฉันเพิ่มขึ้น…แถมยังตั้ง 2 เลเวลด้วย!? 」

 

 

 

「เยี่ยมไปเลย แล้วท่านรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?! แต่ดูจากที่เหลือแรงเอาไว้โกรธขนาดนี้อาการก็น่าจะดีขึ้นเยอะแล้วนะ」

 

 

「ด-ด-เดี๋ยวก่อนนะคะ…เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันจะมีเยอะเกินไปแล้วค่ะ…เอ่อ…เอาเป็นว่าอย่างแรกคือแขนขาของฉันเริ่มรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้น ส่วนอาการชาแปลกๆ ตามร่างกายก็หายไปแล้วด้วยค่ะ」

 

 

 

「หืมมม แล้วนอกหนือจากนี้ล่ะ?? 」

 

 

「อ้อ ส่วนหัวก็ด้วยค่ะ รู้สึกเหมือนมันสดชื่นและปลอดโปร่งโล่งไปหมดเลย แล้วก็..」

 

 

 

「แล้วก็? 」

 

 

 

「อ๊ะ..ช่างมันเถอะค่ะ…」

 

 

คลอเดียเหมือนลังเลจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่พอเธอโบกมือไปมาให้กับผมเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล ผมก็ได้ยินเสียงแว่วเข้ามาภายในหู

 

 

จะอธิบายไงดีล่ะ เสียงโคร๊กที่แน่นๆ ทำนองนั้นแหละ เอาเป็นว่าผมบอกได้แค่นี้แล้วกัน

 

 

ผมก็รู้สึกแย่หรอกนะที่ต้องเห็นคลอเดียอับอายแบบนี้ แต่สุดท้ายเสียงที่ผมได้ยินมันก็ทำให้ผมโล่งใจว่าเธอไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว

 

ความอยากอาหารของเธอมันเริ่มกลับมาจนทำให้ท้องร้องก็แปลว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อฟื้นตัวแล้วนั่นเอง ไม่มีอะไรบอกได้ชัดกว่านี้แล้วว่าเธอผ่านช่วงที่เลวร้ายสุดๆ ไปแล้ว

 

 

วิญญาณของเธอก็ถูกเติมเต็มเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคำสาปนั้นจะยังมีผลกับเธอไหมสุดท้ายก็ต้องตามดูผลจากนี้อีกที แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่น่าจะมีอาการอะไรแย่ลงไปอีกสักพักเลย

 

 

ผมรู้สึกโล่งใจกับสิ่งที่เห็นจริงๆ

 

 

 

และในวินาทีนั้นเอง ร่างของผมก็ร่วงลงไปกับพื้น

 

 

 

ผลข้างเคียงจากการถ่ายวิญญาณมันได้พุ่งเข้ามาจู่โจมผมในคราวเดียว

 

 

 

ถึงผมจะเคยมีประสบการณ์กับตอนถ่ายวิญญาณให้ลูนามาเรียแล้วก็เถอะ แต่ไอ้รอบนี้มันหนักกว่าเดิม 2 เท่าเนี่ยสิ ก็คงไม่แปลกเพราะผมถ่ายวิญญาณไปจนเลเวลของคลอเดียเพิ่มมา 2 เลเวล ผลที่ได้ก็คงจะประมาณนี้แหละ

 

 

 

คลอเดียตะโกนเรียกชื่อผมด้วยความตกใจ แต่ผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะตอบกลับเธอไปได้อีกแล้ว

 

 

 

รู้สึกเหมือนร่างของผมกำลังร่วงหลงไปยังผาลึกเลยแฮะ จากนั้นสติของผมก็จมลงไปในความมืดพร้อมกับดวงตาที่ปิดลง

 

 

 

———

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 60 ถ่ายวิญญาณ

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 60 ถ่ายวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 60 ถ่ายวิญญาณ

 

 

ทันทีที่เปิดประตูและสัมผัสกับบรรยากาศภายในห้อง คิ้วของผมก็ขมวดขึ้น

 

มันเป็นกลิ่นที่แสนจะหอมหวานจนแทบสำลักออกมา

 

ผมรู้ดีว่านี่คือกลิ่นของนิทรามรณา ทานาเซียจากการที่ได้สัมผัสกลิ่นของมันบนเกาะอสูรยักษ์มาหลายครั้ง

 

คลอเดียกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในห้อง กลิ่นของทานาเซียมันอบอวลไปทั่วผนังห้อง

 

 

เธอกำลังนอนหลับอย่างสงบโดยที่ลมหายใจไม่แสดงออกถึงความทรมานเลย หากเห็นเธอในสภาพนี้โดยไม่รู้อะไรก็คงไม่คิดหรอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังถูกโจมตีด้วยคำสาปอยู่

 

แต่สภาพของวิญญาณคลอเดียในตอนนี้ที่ผมเห็นต้องบอกว่าสิ้นหวัง

 

วิญญาณของเธอลดลงอย่างเห็นได้ชัดถ้าเทียบกับวันที่ผมคุยกับเธอตรงคอกมังกร

 

 

ที่จริงผมควรต้องเหลือเวลากลับไปเมืองอิชกะสักหน่อยแท้ๆ แต่พออาการของเธอแย่ลงมันก็ไม่เหลือเวลาจะทำแบบนั้นอีกแล้ว หากปล่อยไว้วิญญาณของเธอคงได้หมดตัวคืนนี้ไม่ก็พรุ่งนี้แน่

 

 

และเพราะผมจำเป็นต้องถ่ายวิญญาณให้กับเธอที่อยู่ในสภาพนี้ผมก็เลยต้องระมัดระวังยิ่งกว่าตอนลูนามาเรีย

 

 

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนี้ ดวงตาของคลอเดียก็โพลงขึ้นมา

 

บางทีเธอน่าจะสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาในห้องของเธอ

 

ลูกสาวดยุกจ้องมายังผมด้วยดวงตาที่เปิดกว้างเพราะความประหลาดใจ

 

 

 

 

「…คุณโซระ…ทำไม คุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน…? 」

 

 

 

「ท่านคลอเดีย ฉันมาเพื่อช่วยท่านยังไงล่ะ ขอไปนั่งข้างๆ เตียงได้ไหม? 」

 

 

 

「ไม่นะคะ….อย่าเลย…อากาศในห้องตอนนี้มัน–」

 

 

 

「ฉันไม่สนหรอกน่า」

 

 

แล้วผมก็เข้าไปหาเธอโดยไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย

 

 

จากนั้นผมก็สัมผัสไปยังแก้มของเธอเบาๆ ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง

 

 

 

「หื้ม ดูเหมือนจะไม่มีไข้นะ」

 

 

 

「ฟุฟุ…ถ้าไม่คิดจะฟังกันตั้งแต่แรก…ก็อย่ามาขออนุญาตกันสิคะ」

 

 

「เดี๋ยวสิท่านคลอเดีย ที่ท่านบอกกับฉันมันคนละเรื่องเลยนะ ท่านไม่ได้บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ แต่ท่านพยายามบอกฉันว่าในห้องนี้มันมีพิษที่ส่งผลเสียต่อคนธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน? 」

 

 

แถมถ้าห่วงเรื่องนั้นจริงก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพราะถ้าผมจอดกับเรื่องแค่นี้ก็คงไม่มาหาแต่แรกหรอก

 

 

ผมก็ตั้งใจจะอธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟังก่อนหรอกนะ แต่ดูจากสภาพของเธอแล้วผมว่าคงเหลือเวลาไม่พออธิบายอะไรเยอะ เอาเป็นว่าส่วนที่เหลือเล็กๆ น้อยๆ ไว้หลังเสร็จงานก่อนแล้วกัน

 

ผมรีบตัดบททันทีแล้วบอกไปตรงๆ เลยว่าผมมาที่นี่เพื่ออะไร

 

 

พอเธอได้ฟังสิ่งที่ผมพูดเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับแสดงถึงสีหน้าของผู้ที่ยอมแพ้ไปแล้ว บางทีเธออาจจะคิดว่าที่ผมมาพูดกับเธอก็เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้นก็ได้

 

 

 

「…แล้วก็เพื่อช่วยฉันเอาไว้ ริมฝีปากของเราทั้งสองจึงต้องสัมผัสกันสินะคะ」

 

 

 

「ก็ใช่หรอก แต่เดี๋ยวนะที่บอกไปมันก็เหมือนกับช่วยคนจมน้ำด้วยการผายปอดไง ริมฝีปากของท่านยังบริสุทธิ์เช่นเดิมแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง」

 

 

 

「…ว่าแต่ท่านพ่อเขาอนุญาตแล้วเหรอคะ? 」

 

 

 

「ตอนบอกไปก็เกือบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกันนะ」

 

 

พอผมตอบเธอไปแบบจริงจัง เธอก็ยิ้มให้ผมอีกครั้งด้วยความจริงใจแทน

 

 

「ฟุฟุฟุ อยากจะเห็นจังเลย…..สุดท้ายก็วิญญาณของท่านสินะคะ…ทำไม…ท่านถึงต้องพยายามขนาดนี้…เพื่อฉันด้วยคะ? 」

 

 

「สาวน้อยกำลังเจ็บปวดอยู่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ชายหนุ่มคนนี้ต้องช่วยเหลือไหม แถมเจ้าคราว โซราสก็มาขอฉันด้วยสิ」

 

 

 

「คราว โซราส…เหรอคะ? 」

 

 

 

「ก็ใช่น่ะสิ หมอนั่นบอกว่าอยากจะช่วยเพื่อนที่มีชื่อคล้ายกับตัวเองเอาไว้น่ะ」

 

นั่นเป็นเรื่องที่คลอเดียได้พูดคุยกับคราว โซราสตอนอยู่ที่คอกมังกร

 

 

เธอก็คงจะสังเกตเห็นแล้วว่าผมต้องการจะสื่ออะไร หลังจากแสดงสีหน้าประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขออกมาอีกครั้ง

 

 

 

「ฮ่าๆ …แบบนี้ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วสิคะ」

 

 

 

「งั้นก็มาเริ่มกันเลย」

 

 

 

「เดี๋ยว-เอาเลยระ-อึก-?!」

 

 

หลังจากผมได้รับคำอนุญาตแล้วผมก็ประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับเธออย่างไม่ลังเล

 

หากผมใช้เวลาในการทำเรื่องนี้นานเกินไป บางทีอารมณ์ด้านแปลกๆ ของผมมันจะผุดขึ้นมาแทนน่ะสิ ดังนั้นทางที่ดีก็รีบๆ จัดการให้เสร็จเลยดีกว่า

 

 

และในวินาทีนั้นเองผมก็เริ่มถ่ายวิญญาณของผมเข้าไปในร่างเธอผ่านริมฝีปาก

 

 

 

「――อึกอือออ?!」

 

 

ร่างกายของเธอสะดุ้งจนสั่นไปมา

 

ตอนนี้คลอเดียน่าจะรู้สึกเหมือนกับตอนที่ผมได้เริ่มฆ่าพวกหนอนเป็นครั้งแรกด้วยอาภรณ์วิญญาณ ไม่สิหากพิจารณาจากวิญญาณที่ผมถ่ายให้เป็นจำนวนมากความรู้สึกของมันก็น่าจะรุนแรงกว่านั้นหลายเท่าตัวเลย

 

 

ตามที่ลูนามาเรียบอกกับผมระหว่างการทดลอง หากปล่อยให้รู้สึกดีมากจนเกินไปสุดท้ายมันจะกลายเป็นความเจ็บปวดแทนด้วย

 

คลอเดียได้เอามือกดลงไปที่หน้าอกของผม บางทีเธออาจจะอยากผลักผมออกไปโดยสัญชาตญาณ เพราะความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยถาโถมเข้ามาหาเธอ

 

 

 

ดวงตาสีม่วงนั้นเต็มไปด้วยความสับสนและตื่นตระหนกเมื่อจ้องมองมายังผม

 

 

 

 

ทว่าผมคงทำตามที่เธอขอไม่ได้หรอกนะ

 

 

เพราะหากผมหยุดระหว่างที่กำลังเริ่มการถ่ายวิญญาณ เลเวลของผมอาจจะลดลงแล้วการถ่ายวิญญาณไม่สำเร็จด้วย แถมถ้าจะเริ่มใหม่ก็เสี่ยงเลเวลลดไปอีก แถมอาจจะมีอะไรผิดพลาดได้ด้วย

 

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง ผมก็เลยจับเอวของเธอไว้ด้วยมือขวาและล็อกกรามของเธอไว้ด้วยมือซ้ายก่อนจะฝืนถ่ายวิญญาณต่อ

 

 

ผมยังคงจูบเธอต่อไปเรื่อยๆ ขณะประคองร่างที่กระตุกไปมาของเธอที่อยู่ภายในอ้อมแขนผม

 

 

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว

 

 

แต่บางทีอาจจะเพราะเธอยอมแพ้ไม่ก็หมดแรงที่จะต่อต้านแล้ว คลอเดียจึงแน่นิ่งไปภายในอ้อมแขนของผมและยอมให้ผมทำตามที่ตัวเองต้องการ

 

ระหว่างที่ผมกำลังถ่ายวิญญาณต่อไป คลอเดียก็เริ่มมี “ปฏิกิริยา” นั้นขึ้นมา

 

 

มันเป็นสิ่งที่ลูนามาเรียสัมผัสได้เช่นเดียวกัน ดูเหมือนคลอเดียก็รู้สึกเหมือนเธอ เพราะเปลือกตาที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่งของเธอได้เปิดขึ้นมา

 

 

–ตอนนี้โดยปกติแล้วมันน่าจะหมายถึงผมเสร็จงานแล้ว แต่เพราะบางอย่างมันทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้สิ เลเวลที่เพิ่มขึ้นมาแค่ 1 จะช่วยให้เธอต่อต้านคำสาปได้จริงหรือ? ผมห่วงเรื่องนี้แหละ

 

 

 

เพราะงั้นผมก็เลยตัดสินใจว่าจะถ่ายวิญญาณให้เธออีกรอบ และทำมันจนกว่าเธอจะมีปฏิกิริยานั้นอีกรอบ

 

 

 

พอยืนยันได้แล้วว่าเสร็จสิ้นภารกิจ ผมก็ผละริมฝีปากของตนออกจากเธอ

 

 

 

 

「ฮู้ว…ก็เอาประมาณนี้แล้วกัน」

 

 

 

「เอาประมาณนี้แล้วกัน อะไรกันคะ!!」

 

 

พอผมพึมพำออกมาด้วยความโล่งใจ เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็ตะโกนใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด

 

 

「ฉะ-ฉันเคยบอกว่าคุณสามารถจูบฉันได้หรือไงกันคะ!…แถมพอทำไปแล้ว!…คุณก็ควรจะอ่อนโยนไม่ก็ใจดีให้มากกว่านี้หน่อยสิคะ!」

 

 

คลอเดียที่หน้าแดงก่ำพูดออกมาด้วยความโกรธขณะเอามือขวาป้องปากของตนไปด้วย

 

ขณะที่เธอจ้องมองผมแล้วพยายามปรับลมหายใจไปด้วย บางทีสิ่งที่ผมทำไปเธอน่าจะโกรธจริงๆ แฮะ

 

 

เอาเถอะ หากจะโกรธก็คงช่วยไม่ได้ แต่ระหว่างที่คิดแบบนั้นผมก็ถามเธอเพื่อยืนยันสถานการณ์

 

 

 

「ท่านจะโกรธก็ไม่ผิดหรอก ฉันก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่อยากจะยืนยันสักหน่อยน่ะ」

 

 

「มีอะไรที่ต้องยืนยะ–อ๋อเรื่องนั้นสินะคะ ก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเลเวลจะเพิ่มไหม แต่เพราะการกระทำของใครบางคน เรื่องชวนน่าปวดหัวมันก็ดันปลิวออกจากหัวไปหมดแล้วนี่สิ」

 

 

ระหว่างที่เธอจ้องมาที่ผม เธอก็เปิดหน้าต่างเลเวลตัวเองดู

 

 

 

จากนั้นลูกสาวของดยุกก็ร้องออกมา

 

 

 

 

「โห…ล-เลเวลขึ้นฉันเพิ่มขึ้น…แถมยังตั้ง 2 เลเวลด้วย!? 」

 

 

 

「เยี่ยมไปเลย แล้วท่านรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?! แต่ดูจากที่เหลือแรงเอาไว้โกรธขนาดนี้อาการก็น่าจะดีขึ้นเยอะแล้วนะ」

 

 

「ด-ด-เดี๋ยวก่อนนะคะ…เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันจะมีเยอะเกินไปแล้วค่ะ…เอ่อ…เอาเป็นว่าอย่างแรกคือแขนขาของฉันเริ่มรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้น ส่วนอาการชาแปลกๆ ตามร่างกายก็หายไปแล้วด้วยค่ะ」

 

 

 

「หืมมม แล้วนอกหนือจากนี้ล่ะ?? 」

 

 

「อ้อ ส่วนหัวก็ด้วยค่ะ รู้สึกเหมือนมันสดชื่นและปลอดโปร่งโล่งไปหมดเลย แล้วก็..」

 

 

 

「แล้วก็? 」

 

 

 

「อ๊ะ..ช่างมันเถอะค่ะ…」

 

 

คลอเดียเหมือนลังเลจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่พอเธอโบกมือไปมาให้กับผมเพื่อบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล ผมก็ได้ยินเสียงแว่วเข้ามาภายในหู

 

 

จะอธิบายไงดีล่ะ เสียงโคร๊กที่แน่นๆ ทำนองนั้นแหละ เอาเป็นว่าผมบอกได้แค่นี้แล้วกัน

 

 

ผมก็รู้สึกแย่หรอกนะที่ต้องเห็นคลอเดียอับอายแบบนี้ แต่สุดท้ายเสียงที่ผมได้ยินมันก็ทำให้ผมโล่งใจว่าเธอไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว

 

ความอยากอาหารของเธอมันเริ่มกลับมาจนทำให้ท้องร้องก็แปลว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อฟื้นตัวแล้วนั่นเอง ไม่มีอะไรบอกได้ชัดกว่านี้แล้วว่าเธอผ่านช่วงที่เลวร้ายสุดๆ ไปแล้ว

 

 

วิญญาณของเธอก็ถูกเติมเต็มเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าคำสาปนั้นจะยังมีผลกับเธอไหมสุดท้ายก็ต้องตามดูผลจากนี้อีกที แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่น่าจะมีอาการอะไรแย่ลงไปอีกสักพักเลย

 

 

ผมรู้สึกโล่งใจกับสิ่งที่เห็นจริงๆ

 

 

 

และในวินาทีนั้นเอง ร่างของผมก็ร่วงลงไปกับพื้น

 

 

 

ผลข้างเคียงจากการถ่ายวิญญาณมันได้พุ่งเข้ามาจู่โจมผมในคราวเดียว

 

 

 

ถึงผมจะเคยมีประสบการณ์กับตอนถ่ายวิญญาณให้ลูนามาเรียแล้วก็เถอะ แต่ไอ้รอบนี้มันหนักกว่าเดิม 2 เท่าเนี่ยสิ ก็คงไม่แปลกเพราะผมถ่ายวิญญาณไปจนเลเวลของคลอเดียเพิ่มมา 2 เลเวล ผลที่ได้ก็คงจะประมาณนี้แหละ

 

 

 

คลอเดียตะโกนเรียกชื่อผมด้วยความตกใจ แต่ผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอจะตอบกลับเธอไปได้อีกแล้ว

 

 

 

รู้สึกเหมือนร่างของผมกำลังร่วงหลงไปยังผาลึกเลยแฮะ จากนั้นสติของผมก็จมลงไปในความมืดพร้อมกับดวงตาที่ปิดลง

 

 

 

———

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+