การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ

 

วันนี้ซูซูเมะได้ตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้อง

 

ก่อนเธอจะผลักผ้าห่มไปด้านข้างแล้วถอนหายใจออกมา แล้วยกเอาร่างกายส่วนบนขึ้นมาจากเตียง ชุดนอนบางๆ ของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อชื้น เธอมั่นใจแน่นอนว่าเธอฝันร้าย แต่ความฝันนั้นก็ช่างเลือนรางเมื่อยามตื่น

 

 

พอผ่านไปได้สักพัก ซูซูเมะก็ทำการสงบสติอารมณ์อีกครั้งแล้วปลดกระดุมชุดนอนออกด้วยปลายนิ้วของเะอ ดูเหมือนว่าฝันร้ายนี้จะยาวนานจนทำให้ชุดนอนของเธอเปียกโชกเพราะเหงื่อ

 

 

หากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ เธอก็อาจจะเป็นหวัดเอาไว้ หลังจากเปลี่ยนชุดนอนเสร็จแล้ว ซูซูเมะก็เดินไปที่หน้าต่างของห้องโดยอัตโนมัติ

 

 

เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าฟ้าเริ่มสว่างแล้ว อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็คงจะโผล่ขึ้นมาเหนือฟากฟ้า

 

 

ขณะนี้ เธอได้เห็นร่างทั้งสองอยู่ในระยะสายตาของเธอ ตรงมุมหนึ่งของลานบ้าน สองร่างนั้นกำลังเคลื่อนไหวไปมาด้วยความรวดเร็ว

 

 

 

「――ฮึบ!」

 

 

 

「――」

 

 

 

 

เงาสีดำและเงาสีขาวพุ่งตัดกันไปมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือชื่อ ทั้งสองคนนั้นก็คือโซระและไคลอา

 

 

 

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะเห็นทั้งสองในตอนนี้ ภาพที่เธอเห็นนี้มันก็เป็นภาพที่คุ้นเคยในช่วงเช้าของทุกวัน ทำให้รู้ว่าทั้งสองสนิทกันมากแค่ไหน

 

 

โดยปกติแล้วพวกเขาก็จะปะทะดาบกัน บางครั้งที่สู้กันด้วยมือเปล่า แต่ความรุนแรงของมันช่างห่างไกลกับคำว่าการฝึกซ้อมเหลือเกิน ซูซูเมะไม่สามารถมองตามพวกเขาทันได้เลย

 

 

 

 

 

 

「…………เฮ้อ」

 

 

 

เธอถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

นี่ก็ผ่านไปได้ครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่มีเหตุการณ์ต่อสู้กันคราวก่อน หัวใจของซูซูเมะก็ยังไม่ได้กว้างพอจะยอมรับคนที่พยายามฆ่าเธอกับชีลอย่างเปิดเผย ยิ่งพอได้เห็นไคลอากับโซระตัวติดกัน ก็ยิ่งทำให้ซูซูเมะเกิดความรู้สึกขุ่นมั่วอยู่ภายในอก

 

 

เธอก็เข้าใจดีอยู่หรอกว่านั่นเป็นหนึ่งในการเฝ้าระวังไคลอาของโซระ เพื่อไม่ให้ไคลอาทำอะไรนอกลู่นอกทางอย่างการมาทำร้ายพวกเธออีก

 

 

 

ถึงจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่พอได้มองทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป――

 

 

 

 

 

「โซระดูเหมือนจะสนุกจริงๆ ….」

 

 

 

เมื่อโซระทำการฝึกซ้อมกับไคลอา เขาได้แสดงสีหน้าที่ซูซูเมะไม่เคยเห็นมาก่อน ใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาและมีความสุขราวกับเด็กได้ของเล่น เพราะสำหรับโซระที่ครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่ไว้ในตัว คงจะเป็นเรื่องยากในการหาใครสักคนมาสู้ด้วยโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องยั้งมือ

 

 

พอนึกขึ้นได้แบบนี้หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้น

 

『นี่มัน!』

 

 

ภาพฉายขึ้นมาภายในความคิดของเธอก็คือ ตัวตนในอดีตที่กำลังโกรธเกรี้ยว ชีลถูกฟันเพราะปกป้องเธอ――ส่วนเธอก็ไม่สามารถทำอะไรไคลอาได้เลยราวกับเด็กทารก

 

 

 

 

ตั้งแต่มาที่เมืองอิชกะ เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถในแบบของเธอเอง ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นการย้ำเตือนเธอว่า ต่อให้เธอจะพยายามอีกสัก 10 หรือ 20 ปี ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างจากเดิม ความแตกต่างของพลังระหว่างเธอกับไคลอาช่างยิ่งใหญ่

 

ไม่สิ ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูนามาเรียหรือมิโรสลาฟที่เก่งกว่าซูซูเมะ ก็คงไม่สามารถเอื้อมไปถึงระดับของไคลอาได้หรอก

 

 

 

ช่างเป็นความเหนือชั้นที่ไร้เหตุผล

 

 

เธอไม่เคยสงสัยในตัวของโซระและพยายามอย่างหนักเพื่อจะทำให้ตัวเองมีประโยชน์กับเขา

 

 

หากมองในอีกมุมหนึ่ง จุดยืนของไคลอาที่สามารถเคียงข้างโซระได้ก็ไม่ต่างอะไรเลยกับสิ่งที่ซูซูเมะวาดฝัน

 

 

 

 

「…เฮ้อ เห็นแล้วก็อิจฉาเธอคนนั้นจริงๆ 」

 

 

 

 

ก็จริงว่าเธอได้ไม่รู้สึกดีแถมยังแอบแค้นใจคนที่มาทำร้ายเธอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออยากจะไปเป็นคนยืนอยู่ตรงนั้นแทน ทว่าถึงเธอจะพยายามสักแค่ไหนมันก็คงไม่มีวันเป็นจริง และมันทำให้เธอไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้เลย

 

 

เธอรู้ดีว่าไม่ว่าเธอจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่งโซระก็ไม่มีวันทอดทิ้งหรือรังเกียจเธอ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างเธอกับโซระ มันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับการที่เธอเอาแต่พึ่งพาเขาอยู่ฝ่ายเดียว เธอที่เอาแต่อาศัยอยู่ภายในป่าเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์แบบนั้นก็เมื่อไม่นานมานี้

 

 

 

นั่นเลยเกิดทำให้เธอสงสัยขึ้นมาว่าหากตัวเองยังเอาแต่พึ่งพาโซระอยู่แบบนี้ เกิดอยู่มาวันหนึ่งเธอต้องสูญเสียมันไปล่ะเธอจะเป็นเช่นไร หนทางข้างหน้าของเธอจะจบลงตรงไหน

 

 

วิธีการเดียวที่จะทำให้มันไม่เกิดขึ้นก็คือต้องพยายามอย่างหนัก ถ้าหากยังไม่สามารถบรรลุสิ่งที่ต้องการได้ ก็แค่ต้องพยายามมากขึ้นไปอีก

 

 

แต่ถ้าสุดท้ายมันก็ยังไปไม่ถึงล่ะ――เมื่อเกิดคำถามนี้ขึ้นภายในใจ หัวใจของเธอก็เต้นรัวราวกับอยากจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา

 

 

ชั่วขณะนั้นเอง ภาพใบหน้าของคนที่มีดวงตาสีแดงผ่านเข้ามาภายในความคิดของเธอ มันคือคนเดียวกันกับที่อยู่ภายในความฝัน เธอพยายามจะนึกถึงใบหน้าของคนคนนั้นให้ออก ทว่ายิ่งพยายามนึกมากสักเท่าไร ความทรงจำและภาพภายในฝันก็ยิ่งพร่ามัว

 

 

สุดท้ายก็จบลงที่เธอไม่สามารถนึกถึงเรื่องตอนฝันออกได้

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 141.1 เฝ้ามองอย่างห่างๆ

 

วันนี้ซูซูเมะได้ตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้อง

 

ก่อนเธอจะผลักผ้าห่มไปด้านข้างแล้วถอนหายใจออกมา แล้วยกเอาร่างกายส่วนบนขึ้นมาจากเตียง ชุดนอนบางๆ ของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อชื้น เธอมั่นใจแน่นอนว่าเธอฝันร้าย แต่ความฝันนั้นก็ช่างเลือนรางเมื่อยามตื่น

 

 

พอผ่านไปได้สักพัก ซูซูเมะก็ทำการสงบสติอารมณ์อีกครั้งแล้วปลดกระดุมชุดนอนออกด้วยปลายนิ้วของเะอ ดูเหมือนว่าฝันร้ายนี้จะยาวนานจนทำให้ชุดนอนของเธอเปียกโชกเพราะเหงื่อ

 

 

หากยังปล่อยเอาไว้แบบนี้ เธอก็อาจจะเป็นหวัดเอาไว้ หลังจากเปลี่ยนชุดนอนเสร็จแล้ว ซูซูเมะก็เดินไปที่หน้าต่างของห้องโดยอัตโนมัติ

 

 

เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าฟ้าเริ่มสว่างแล้ว อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็คงจะโผล่ขึ้นมาเหนือฟากฟ้า

 

 

ขณะนี้ เธอได้เห็นร่างทั้งสองอยู่ในระยะสายตาของเธอ ตรงมุมหนึ่งของลานบ้าน สองร่างนั้นกำลังเคลื่อนไหวไปมาด้วยความรวดเร็ว

 

 

 

「――ฮึบ!」

 

 

 

「――」

 

 

 

 

เงาสีดำและเงาสีขาวพุ่งตัดกันไปมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือชื่อ ทั้งสองคนนั้นก็คือโซระและไคลอา

 

 

 

ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากจะเห็นทั้งสองในตอนนี้ ภาพที่เธอเห็นนี้มันก็เป็นภาพที่คุ้นเคยในช่วงเช้าของทุกวัน ทำให้รู้ว่าทั้งสองสนิทกันมากแค่ไหน

 

 

โดยปกติแล้วพวกเขาก็จะปะทะดาบกัน บางครั้งที่สู้กันด้วยมือเปล่า แต่ความรุนแรงของมันช่างห่างไกลกับคำว่าการฝึกซ้อมเหลือเกิน ซูซูเมะไม่สามารถมองตามพวกเขาทันได้เลย

 

 

 

 

 

 

「…………เฮ้อ」

 

 

 

เธอถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

นี่ก็ผ่านไปได้ครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่มีเหตุการณ์ต่อสู้กันคราวก่อน หัวใจของซูซูเมะก็ยังไม่ได้กว้างพอจะยอมรับคนที่พยายามฆ่าเธอกับชีลอย่างเปิดเผย ยิ่งพอได้เห็นไคลอากับโซระตัวติดกัน ก็ยิ่งทำให้ซูซูเมะเกิดความรู้สึกขุ่นมั่วอยู่ภายในอก

 

 

เธอก็เข้าใจดีอยู่หรอกว่านั่นเป็นหนึ่งในการเฝ้าระวังไคลอาของโซระ เพื่อไม่ให้ไคลอาทำอะไรนอกลู่นอกทางอย่างการมาทำร้ายพวกเธออีก

 

 

 

ถึงจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่พอได้มองทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป――

 

 

 

 

 

「โซระดูเหมือนจะสนุกจริงๆ ….」

 

 

 

เมื่อโซระทำการฝึกซ้อมกับไคลอา เขาได้แสดงสีหน้าที่ซูซูเมะไม่เคยเห็นมาก่อน ใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาและมีความสุขราวกับเด็กได้ของเล่น เพราะสำหรับโซระที่ครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่ไว้ในตัว คงจะเป็นเรื่องยากในการหาใครสักคนมาสู้ด้วยโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องยั้งมือ

 

 

พอนึกขึ้นได้แบบนี้หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้น

 

『นี่มัน!』

 

 

ภาพฉายขึ้นมาภายในความคิดของเธอก็คือ ตัวตนในอดีตที่กำลังโกรธเกรี้ยว ชีลถูกฟันเพราะปกป้องเธอ――ส่วนเธอก็ไม่สามารถทำอะไรไคลอาได้เลยราวกับเด็กทารก

 

 

 

 

ตั้งแต่มาที่เมืองอิชกะ เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถในแบบของเธอเอง ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นการย้ำเตือนเธอว่า ต่อให้เธอจะพยายามอีกสัก 10 หรือ 20 ปี ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างจากเดิม ความแตกต่างของพลังระหว่างเธอกับไคลอาช่างยิ่งใหญ่

 

ไม่สิ ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูนามาเรียหรือมิโรสลาฟที่เก่งกว่าซูซูเมะ ก็คงไม่สามารถเอื้อมไปถึงระดับของไคลอาได้หรอก

 

 

 

ช่างเป็นความเหนือชั้นที่ไร้เหตุผล

 

 

เธอไม่เคยสงสัยในตัวของโซระและพยายามอย่างหนักเพื่อจะทำให้ตัวเองมีประโยชน์กับเขา

 

 

หากมองในอีกมุมหนึ่ง จุดยืนของไคลอาที่สามารถเคียงข้างโซระได้ก็ไม่ต่างอะไรเลยกับสิ่งที่ซูซูเมะวาดฝัน

 

 

 

 

「…เฮ้อ เห็นแล้วก็อิจฉาเธอคนนั้นจริงๆ 」

 

 

 

 

ก็จริงว่าเธอได้ไม่รู้สึกดีแถมยังแอบแค้นใจคนที่มาทำร้ายเธอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธออยากจะไปเป็นคนยืนอยู่ตรงนั้นแทน ทว่าถึงเธอจะพยายามสักแค่ไหนมันก็คงไม่มีวันเป็นจริง และมันทำให้เธอไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้เลย

 

 

เธอรู้ดีว่าไม่ว่าเธอจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่งโซระก็ไม่มีวันทอดทิ้งหรือรังเกียจเธอ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างเธอกับโซระ มันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับการที่เธอเอาแต่พึ่งพาเขาอยู่ฝ่ายเดียว เธอที่เอาแต่อาศัยอยู่ภายในป่าเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์แบบนั้นก็เมื่อไม่นานมานี้

 

 

 

นั่นเลยเกิดทำให้เธอสงสัยขึ้นมาว่าหากตัวเองยังเอาแต่พึ่งพาโซระอยู่แบบนี้ เกิดอยู่มาวันหนึ่งเธอต้องสูญเสียมันไปล่ะเธอจะเป็นเช่นไร หนทางข้างหน้าของเธอจะจบลงตรงไหน

 

 

วิธีการเดียวที่จะทำให้มันไม่เกิดขึ้นก็คือต้องพยายามอย่างหนัก ถ้าหากยังไม่สามารถบรรลุสิ่งที่ต้องการได้ ก็แค่ต้องพยายามมากขึ้นไปอีก

 

 

แต่ถ้าสุดท้ายมันก็ยังไปไม่ถึงล่ะ――เมื่อเกิดคำถามนี้ขึ้นภายในใจ หัวใจของเธอก็เต้นรัวราวกับอยากจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา

 

 

ชั่วขณะนั้นเอง ภาพใบหน้าของคนที่มีดวงตาสีแดงผ่านเข้ามาภายในความคิดของเธอ มันคือคนเดียวกันกับที่อยู่ภายในความฝัน เธอพยายามจะนึกถึงใบหน้าของคนคนนั้นให้ออก ทว่ายิ่งพยายามนึกมากสักเท่าไร ความทรงจำและภาพภายในฝันก็ยิ่งพร่ามัว

 

 

สุดท้ายก็จบลงที่เธอไม่สามารถนึกถึงเรื่องตอนฝันออกได้

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+