การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 112.5 ช่วงคั่น ณ ????

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 112.5 ช่วงคั่น ณ ???? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 112-5 ช่วงคั่น ณ ????

 

 

สงครามได้ดำเนินมาถึงจุดเดือดสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงสนิม เหล่ากองทัพที่สวมชุดเกราะสีดำกำลังเข้าเผชิญหน้ากับฝั่งศัตรูที่สวมชุดเกราะสีแดง โมเมนตัมของฝ่ายสีดำในขณะนี้ช่างดูท่วมท้นจนไม่สามารถเห็นภาพที่ฝั่งสีแดงจะเอาชนะได้เลย

 

ทว่า กองทัพฝ่ายแดงก็ไม่ได้ยอมแพ้และวิ่งหนีไปด้วยความอัปยศ พวกเขาพยายามเข้าต่อสู้กับศัตรูของตนอย่างเอาเป็นเอาตายแม้ฝั่งตนจะเสียเปรียบ

 

หากพวกเขาหนีไปจากจุดนี้ บ้านเกิดของพวกเขาก็จะถูกศัตรูเหยียบย่ำ ความหวาดกลัวนั้นคือแรงผลักดันพวกเขาให้สู้ต่อไป

 

ด้วยเหตุนี้เองกองทัพฝ่ายดำจึงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเมื่อผู้บัญชาการหนุ่มของฝ่ายดำตระหนักได้เช่นนี้ เขาก็เดาะลิ้นออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

「ชิ เจ้าพวกผู้ดีแห่งคาซาน ช่างดื้อดึงกันเสียจริง」

 

คิจินผมสีเทาและผิวสีน้ำตาลแดง ซึ่งมีเขาที่แหลมคมเขาหนึ่งยื่นออกมาจากหน้าผาก ซึ่งฉายแววความเยาว์วัยและแข็งแกร่งออกมาจากใบหน้า เขาได้ถอดชุดเกราะสำหรับการออกรบจนเผยให้เห็นถึงร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบน ร่างกายของเขาเหมือนถูกเจียระไนมาเหมือนเหล็กกล้า รอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนสามารถเห็นได้บนร่างกายส่วนด้านหน้าของเขา ทว่าบริเวณส่วนหลังกลับไม่เห็นแม้กระทั่งรอยข่วนสักรอย

 

คิจินหนุ่มผู้นี้คือนักรบผู้น่ายำเกรงซึ่งมีหน้าที่ในการออกค้นหาล่าตัวผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรู เพราะพวกทหารฝั่งแดงคงไม่มีทางหยุดสู้จนตัวตายแน่หากยังมีผู้บัญชาการคอยมอบคำสั่งให้ ทหารของอีกฝ่ายก็คงจะมีคนตายกันมากกว่านี้ ดังนั้นการเด็ดหัวผู้บัญชาการของศัตรูให้ได้โดยเร็วจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น

 

ในความเป็นจริงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะต้องจบสงครามนี้โดยเร็วหรือรู้สึกแย่ที่ต้องสังหารทหารของฝ่ายแดงอะไรหรอก

 

เพราะหากเขาพ่ายแพ้ เขาก็จะตายเช่นเดียวกัน นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าสงคราม บ้านเกิดจะถูกเผา คนในครอบครัวจะถูกฆ่า นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มก็เคยเผชิญมาในอดีต พอของเขาก็ถูกฝ่ายแดงฆ่า เขาเสียทั้งบ้านเกิดและอีกหลายชีวิต ซึ่งในตอนนั้นชายหนุ่มยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่เขากำลังงอก

 

ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้คือบันไดขั้นสุดท้ายในการแก้แค้นของเขา พอเขานึกได้ว่าในที่สุดการแก้แค้นของตนก็จะเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา

 

 

ทว่า–

 

 

「 “แบบนี้ไม่ดีแน่”….ท่านพี่เคยพูดไว้สินะ」

 

การบุกรุก การถูกรุกราน การปล้นและถูกปล้น การฆ่าและถูกฆ่า ยิ่งพวกคิจินสู้กันเช่นนี้ต่อไปมากเท่าไหร่ พวกมนุษย์ก็ยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้น

 

ชายหนุ่มได้เดินสำรวจพื้นที่สนามรบที่กลายเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าไปแล้ว

 

ไม่มีสัญญาณว่าหญ้าจะขึ้นมาสักต้นเดียว ไม่มีแม่น้ำสักสายที่ไหลผ่าน ผืนดินก็แห้งแล้งเหลือแต่หินและดินที่แห้ง

 

 

ฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสีสนิมนั้นก็มีกลิ่นของเหล็กติดมาด้วย ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์อันใดกับผืนดินแห่งนี้เลย

 

ในที่แห่งนี้ แม้แต่ข้าวสาลีก็ยังปลูกไม่ขึ้นเลยนับประสาอะไรกับพืชชนิดอื่น และความแห้งแล้งนี้ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่จุดที่พวกชายหนุ่มต่อสู้กันด้วย

 

ในโลกใบนี้ การจะปลูกอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยากมาก และผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ก็ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชากรทั้งหมดของชาวคิจินได้ ด้วยเหตุนี้เองพวกคิจินจึงเริ่มรวมกลุ่มและแย่งชิงพื้นที่เพาะปลูกที่มีอย่างจำกัดจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและเหล่าสหาย

 

ถึงบางครั้งจะมีคิจินที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษซึ่งสามารถรวมเหล่าคิจินให้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วพยายามออกไปยัง “ภายนอก” ก็เถอะ

 

 

ทว่าการกระทำดังกล่าวกก็จะถูกขัดขวางไว้โดยผู้พิทักษ์ประตู กลุ่มผู้ทรยศที่ครั้งหนึ่งในอดีตได้จับเหล่าคิจินเข้ามากักขังในโลกที่แห้งแล้งนี้ เพื่อพลังอำนาจของพวกตน และก็คอยเหยียบย่ำเหล่าคิจินที่อยากจะหลุดพ้นไปจากโลกที่พังพินาศนี้

 

พอนึกถึงเรื่องนี้ กำปั้นของชายหนุ่มก็สั่นขึ้น มันเกิดจากความหงุดหงิดของเรื่องในอดีตงั้นหรือ เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอกแต่มันไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งที่ชายหนุ่มคิดคือเรื่องอนาคตต่างหาก เขาต้องการสะสางความแค้นที่มีมากว่า 300 ปีด้วยมือของเขาเอง นั่นจึงทำให้กำปั้นของชายหนุ่มสั่นขึ้น

 

จากนั้นชายหนุ่มก็ได้วางเท้าลงไปบนพื้นอย่างมั่นคงและเริ่มวิ่งออกไปข้างหน้าหากลุ่มทหารฝ่ายแดงที่ยังคงยืนหยัดสู้แม้จะเสียเปรียบ ท่ามกลางเหล่าศัตรูที่ราายล้อมเขาอยู่ชายหนุ่มได้ทำการใช้เทคนิคคิของเขาเข้ารับมือ มือเปล่าที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยพลังคินั้นสามารถทำลายวงล้อมของเหล่าทหารฝ่ายแดงได้โดยง่าย ก่อนที่เขาจะประกาศชื่อของตนออกมาด้วยเสียงที่ดังลั่น

 

「ข้าคาการิ นักรบแห่งนากายามะน้องชายของกษัตริย์อาซึมะ! ข้าไม่ได้ต้องการจะเหยียบย่ำเหล่าทหารเลว! ข้าต้องการเพียงแค่ยอดนักรบผู้มากฝีมือซึ่งไม่เกรงกลัวต่อนามแห่งข้า!」

 

「โฮ่ เจ้าเองสินะ น้องชายคนเล็กสุดของ 4 พี่น้องนากายามะ! ช่างรีบร้อนสมเป็นวัยรุ่นจริงๆ! ข้าอิซากิ หนึ่งในหอกทั้งสิบหกแห่งคาซาน! จงมาสู้กับข้าอย่างยุติธรรมเสีย!」

 

ต่อหน้าชายหนุ่ม――อย่างคาการิ นักรบที่สวมชุดเกราะอันหรูหราและถือหอกไว้ในมือนี้น่าคงจะเป็นผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรู เมื่อเทียบจากรูปร่างที่ราวกับหมีของเขาแล้ว คาการิดูเป็นเด็กน้อยไปเลยและคือไม่น่าจะมีอะไปรับมือกับหอกนั้นได้

 

ทว่า…

 

「อะไรกัน?!」

 

ทันทีที่สัญญาณการต่อสู้เริ่มขึ้น คาการิก็พุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความรวดเร็วและชกเข้าไปยังใบหน้าของผู้บัญชาการฝั่งนั้นอย่างรุนแรง ความเร็วที่เคลือบร่างกายไว้ด้วยพลังคินั้นมันมากพอที่จะทำให้ฝ่ายศัตรูไม่ทันรับมือคาการิได้ทัน จนทำให้เลือดไหลออกมาจากจมูกของอีกฝ่าย%0

 

หากคาการิต้องการเขาก็สามารถดึงมีดออกมาตัดหัวของอีกฝ่ายได้ทันที แต่เขาไม่คิดที่จะทำ ถึงจะบอกว่าไม่คิดจะเอาให้ถึงตาย แต่การที่ถูกหมัดอันรุนแรงนั้นชกเข้าไป สติของอีกฝ่ายก็คงไม่กลับมาโดยง่ายหรอก

 

การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรูที่ชื่อว่าอิซากิจะเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงของฝั่งนั้นจริงๆ เพราะเหล่าทหารฝั่งคาซานต่างแสดงสีหน้าที่ตกใจกันออกมา

 

「ท่านอิซากิ…เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว..?!」

 

「เจ้าหมาป่าทมิฬคาการิ…กล้าดียังไง!」

 

เหล่าทหารของคาซานเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันหมายจะช่วยเหลือพวกพ้องและแก้แค้นให้กับคาการิ ทว่าในวินาทีนั้นเอง เสียงอันทุ้มลึกของบางสิ่งที่มีอำนาจในการควบคุมทั้งสองฝ่ายได้อยู่หมัดก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ

 

「หยุด!」

 

เมื่อสิ้นเสียงนั้น ร่างขนาดใหญ่ที่เดินผ่านแนวทหารของฝั่งคาซานก็ปรากฏขึ้น ร่างที่พวกเขาเห็นนั้นมันใหญ่เสียจนอิซากิดูเล็กไปเลย

 

คาการิก็รู้ดีว่าชายในร่างยักษ์ที่สวมชุดเกราะที่เต็มไปด้วยร่องรอยนี้คือกษัตรย์แห่งคาซาน กิเอน ชายผู้สังหารพ่อของคาการิในอดีต

 

「เจ้าสินะ บุตรชายแห่งนากายามะ โตขึ้นเยอะเลยนี่」

 

「กลับกันเจ้าดูแก่ขึ้นเยอะเลยนะ กษัตริย์แห่งคาซาน」

 

「หื้ม พอพวกเด็กๆ โตขึ้น ผู้ใหญ่อย่างข้าย่อมแก่ตัวลงเป็นเรื่องธรรมดา」

 

จากนั้นพอกิเอนยื่นมือขวาออกไป หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็หยิบขวานขนาดใหญ่มาวางไว้บนมือนั้นอย่างช่ำชอง

 

「การไม่ฆ่าเจ้ากับพวกพี่ๆ ไปพร้อมกับพ่อของเจ้าถือว่าเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตข้าจริงๆ ดังนั้นข้าคงต้องแก้ไขมันด้วยการฆ่าเจ้าลงที่นี่เสีย」

 

「…ข้าก็หวังให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่เจ้าจะยังสู้ไหวอยู่หรือด้วยร่างกายแบบนั้น

 

ร่างกายของกิเอน ตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีจุดใดเลยบนชุดเกราะและเสื้อผ้าของเขาที่ไม่ได้รับความเสียหาย ร่างของเขาถูกฟันมาแล้วหลายจุดอีกทั้งยังมีลูกธนูถึง 3 ดอกที่ฝั่งบนไหล่ของเขา

 

นอกจากนี้ทั้งแขนและขาของเขาก็ถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลหลายชั้น แต่ทั้งหมดก็กลายเป็นสีดำค้ำไปแล้ว พูดกันตามตรงว่าเขาไม่น่าจะลุกขึ้นยืนได้ด้วยซ้ำด้วยอาการที่ว่ามา

 

และก็เกราะอาการบาดเจ็บดังกล่าว กิเอนเลยไม่น่าจะใช้อาภรณ์วิญญาณได้ นั่นคือสิ่งที่คาการิคิด ทว่ากิเอนก็ไม่ได้คิดสนใจเรื่องพวกนั้นเลยแล้วหัวเราะออกมาจนร่างของเขาสั่นไปหมด

 

 

「การเผชิญหน้ากับเด็กเวรเช่นเจ้าอุปสรรคแค่นี้แหละกำลังดี มาเริ่มกันเลย!」

 

กิเอนได้เตะพื้นพุ่งออกไปโจมตีคาการิพร้อมเสียงตะโกนที่ดังลั่น

 

คาการิทำการหลบการโจมตีดังกล่าวด้วยการตีลังกากลับหลังและเริ่มสวนกลับทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น

 

แม้จะเป็นเพียงแมลงตัวเล็กสำหรับใครก็ตาาม แต่คาการิก็มีความกล้าที่จะเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับกษัตริย์กิเอน นักรบร่างยักษ์ที่ต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อและไม่ยอมให้คาการิมีเวลาพักหายใจ

 

ทว่าก็อย่างที่คิดเอาไว้ การเคลื่อนไหวของกิเอนเริ่มทื่อลงไปเรื่อยๆ จากบาดแผลที่เขาได้รับ จนเขาเริ่มค่อยๆ ถูกทางคาการิเป็นฝ่ายต้อนแทน

 

ไม่นานนัก-

 

「อึก!」

 

ในที่สุด หมัดของคาการิก็ทะลวงเข้าไปยังไหล่ของคิเอน ด้วยเทคนิคการใช้คิของคาการิมันทำให้หมัดของเขาสามารถทะลวงเข้าไปยังร่างของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย แม้จะมีชุดเกราะคอยป้องกันไว้อยู่ พลังโจมตีของมันก็ไม่ได้ลดลงเลย ไหล่ของกิเอนได้ถูกทำลายหายวับไปในชั่วพริบตา

 

ใบหน้าของกิเอนเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด จากนั้นคาการิก็เตะเข้าไปยังหน้าอกของอีกฝ่ายซ้ำ

 

 

กิเอนได้กระเด็นออกไปโดยไม่ทันส่งเสียงร้องใดๆ ออกมา อันที่จริงคาการิสามารถตามไปโจมตีซ้ำได้อีกจากจุดนี้ แต่เขาไม่ทำ ไม่สิเขาคิดว่าไม่จำเป็นแล้วมากกว่า

 

 

「…ฮ่าๆๆ ช่างน่าประทับใจเสียจริง ด้วยอายุเพียงเท่านี้หากให้เทียบแล้วพลังของเจ้าช่างน่าทึ่งมากจริงๆ ในที่สุดเจ้าก็ก้าวข้ามพ่อของเจ้าไปได้แล้วสินะ」

 

แม้ใบหน้าของกิเอนจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงชมคาการิด้วยรอยยิ้ม

 

เมื่อเห็นว่าคาการิเงียบไม่ตอบอะไรเขา กษัตริย์ก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

 

「ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไม เจ้าและพี่น้องคนอื่นถึงต้องอยู่ภายใต้อาซึมะ แม้จะมีความสามารถถึงขนาดนี้ หากเจ้าต้องการแล้วกะอีแค่หนึ่งในเขาทั้ง5 เจ้าคงสามารถยึดมาครองได้อย่างง่ายดาย」

 

「หึ ก็จริงอยู่ว่าหากข้ากับท่านพี่อาซึมะสู้กัน ข้าคงชนะเข้าได้ 90 จาก 100 ครั้ง ส่วนโดกะ ก็คงจะชนะได้ 100 ทั้ง 100 แต่สุดท้ายมันก็เท่านั้นแหละ พวกข้าไม่มีความสามารถที่จะฟื้นฟูนากายามะ ซึ่งอ่อนแอที่สุดในเขาทั้ง 5 ลงได้ด้วยตัวของพวกข้าเอง และพวกข้าก็คงไม่สามารถจะยึดครองเขาลูกอื่นและจัดการเจ้าได้แบบนี้หรอกหากขาดเขาไป」

 

「ข้าไม่เข้าใจ….คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ควรปกครองผู้อ่อนแอกว่าสิ ดินแดนแห่งนี้มันเป็นเช่นนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?」

 

「เพราะแบบนั้นไง ท่านพี่อาซึมะถึงเป็นกษัตรย์แห่งนากายามะ ความแข็งแกร่งของข้ากับเจ้า มันต่างจากความแข็งแกร่งของท่านพี่อาซึมะ」

 

 

「อึก อย่างไรข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แต่เอาเถอะแพ้ก็คือแพ้ ไปเสียสิ ฆ่าพวกเราแล้วก็คนของเขาคาซาน รวมเขาทั้ง 5 ให้กลายเป็น 1 ภายใต้นามแห่งนากายามะ แล้วทำลายประตูต้องสาปนั่น นำบ้านเกิดของพวกเรากลับมาจากพวกผู้ทรยศที่แสนโสมมม」

 

นั่นคือหน้าที่ของผู้ที่ได้รับชัยชนะ กิเอนหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด

 

คาการิที่เห็นแบบนั้นก็ทำได้เพียงเม้มริมฝีปาก

 

「ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็จะทวงบ้านเกิดของพวกเราคืนมาอยู่แล้ว」

 

 

「ตอบได้ดี ตรงจุดนี้แหละที่ข้าคิดว่าเจ้าเหมือนกับพ่อเจ้ามากที่สุด」

 

กิเอนพูดก่อนจะเอามือจับไปยังเขาของตัวเอง

 

ทหารคาซานที่อยู่รอบๆ ต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาทันทีที่เห็นภาพนั้น แต่เมื่อกิเอนหันไปมองพวกเขาเมื่อกับจะบอกความตั้งใจของตัวเอง ทหารทุกคนก็รับรู้และก้มศีรษะลงทันที

 

หลังจากนั้น

 

 

「อ๊ากกก!!」

 

กษัตริย์แห่งคาซานได้ทำการหักเขาของตัวเองทิ้งและตะโกนออกมา เศษชิ้นส่วนที่กระเด็นออกมานั้นได้เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนกับคริสทัลที่ร่ายรำอยู่ในอากาศ

 

จากนั้นเลือดจำนวนมากก็ทะลักออกมาจากบาดแผลดังกล่าว

 

สำหรับคิจินแล้ว เขานั้นคือแหล่งกำลังเวทมนตร์และพลังชีวิต การหักสิ่งนั้นออกไปด้วยมือตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับการคว้านท้องของผู้คนบนเกาะอสูรยักษ์

 

 

แสงในดวงตาของกิเอนได้จางหายไปเหมือนน้ำที่เหือดแห้ง แต่ก่อนที่แสงทั้งหมดจะสูญสิ้น กิเอนได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้

 

 

「ข้าขอร้อง….ทหารของข้า….คนของข้า…เมตตาพวกเขา…」

 

「พวกข้าก็ไม่คิดจะทำอะไรผู้ที่ยอมจำนนอยู่แล้ว นี่คือกฏเหล็กแห่งกองทัพนากายามะ」

 

「คึก…เช่นนั้นหรือ…」

 

กิเอนได้ยื่นเขาของตัวเองมาให้คาการิอย่างเชื่องช้า

 

เมื่อคาการิรับมันเอาไว้แสงในดวงตาของกษัตริย์แห่งคาซานก็สูญสิ้นไปและมือของเขาก็ร่วงลงสู่พื้นดิน

 

 

ทหารของคาซานที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ร้องไห้คร่ำครวญกันออกมาให้กับการสูญเสียเจ้านายของตน นี่คือการล่มสลายของคาซานแล้ว แต่ในเวลาเดียวกันมันก็คือเสียงร้องแห่งการกำเนิดขึ้นของสมาพันธ์คิจินที่ไม่ได้ถูกก่อตั้งมานานกว่า 50 ปีแล้ว

 

ด้วยชัยชนะในการรบครั้งนี้ กองทัพนากายามะได้ทำการผนวกรวมเอาคาซานเข้ามาด้วย และเริ่มทำการโจมตีประตูนั้นด้วยพลังของพวกเขาที่รวมเป็นหนึ่ง

 

นี่คือสิ่งที่พวกเขารอคอยมาตลอดเวลา 300 ปี ที่ต้องทนใช้ชีวิตกันอย่างแร้นแค้น

 

การต่อสู้ครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

 

——–

Note 1 : แปลว่าคนบนเกาะนี่ขโมยวิชาเขามาไม่พอ ไล่เขาไปอยู่ในประตูปีศาจอีกสินะ ละเป็นจังหวะที่เชิญโซระมาเกาะอีก เรื่องเยอะแน่พาร์ท 2

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ 112.5 ช่วงคั่น ณ ????

Now you are reading การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ Chapter 112.5 ช่วงคั่น ณ ???? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 112-5 ช่วงคั่น ณ ????

 

 

สงครามได้ดำเนินมาถึงจุดเดือดสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงสนิม เหล่ากองทัพที่สวมชุดเกราะสีดำกำลังเข้าเผชิญหน้ากับฝั่งศัตรูที่สวมชุดเกราะสีแดง โมเมนตัมของฝ่ายสีดำในขณะนี้ช่างดูท่วมท้นจนไม่สามารถเห็นภาพที่ฝั่งสีแดงจะเอาชนะได้เลย

 

ทว่า กองทัพฝ่ายแดงก็ไม่ได้ยอมแพ้และวิ่งหนีไปด้วยความอัปยศ พวกเขาพยายามเข้าต่อสู้กับศัตรูของตนอย่างเอาเป็นเอาตายแม้ฝั่งตนจะเสียเปรียบ

 

หากพวกเขาหนีไปจากจุดนี้ บ้านเกิดของพวกเขาก็จะถูกศัตรูเหยียบย่ำ ความหวาดกลัวนั้นคือแรงผลักดันพวกเขาให้สู้ต่อไป

 

ด้วยเหตุนี้เองกองทัพฝ่ายดำจึงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และเมื่อผู้บัญชาการหนุ่มของฝ่ายดำตระหนักได้เช่นนี้ เขาก็เดาะลิ้นออกมาด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

「ชิ เจ้าพวกผู้ดีแห่งคาซาน ช่างดื้อดึงกันเสียจริง」

 

คิจินผมสีเทาและผิวสีน้ำตาลแดง ซึ่งมีเขาที่แหลมคมเขาหนึ่งยื่นออกมาจากหน้าผาก ซึ่งฉายแววความเยาว์วัยและแข็งแกร่งออกมาจากใบหน้า เขาได้ถอดชุดเกราะสำหรับการออกรบจนเผยให้เห็นถึงร่างที่เปลือยเปล่าท่อนบน ร่างกายของเขาเหมือนถูกเจียระไนมาเหมือนเหล็กกล้า รอยแผลเป็นนับไม่ถ้วนสามารถเห็นได้บนร่างกายส่วนด้านหน้าของเขา ทว่าบริเวณส่วนหลังกลับไม่เห็นแม้กระทั่งรอยข่วนสักรอย

 

คิจินหนุ่มผู้นี้คือนักรบผู้น่ายำเกรงซึ่งมีหน้าที่ในการออกค้นหาล่าตัวผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรู เพราะพวกทหารฝั่งแดงคงไม่มีทางหยุดสู้จนตัวตายแน่หากยังมีผู้บัญชาการคอยมอบคำสั่งให้ ทหารของอีกฝ่ายก็คงจะมีคนตายกันมากกว่านี้ ดังนั้นการเด็ดหัวผู้บัญชาการของศัตรูให้ได้โดยเร็วจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น

 

ในความเป็นจริงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะต้องจบสงครามนี้โดยเร็วหรือรู้สึกแย่ที่ต้องสังหารทหารของฝ่ายแดงอะไรหรอก

 

เพราะหากเขาพ่ายแพ้ เขาก็จะตายเช่นเดียวกัน นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าสงคราม บ้านเกิดจะถูกเผา คนในครอบครัวจะถูกฆ่า นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มก็เคยเผชิญมาในอดีต พอของเขาก็ถูกฝ่ายแดงฆ่า เขาเสียทั้งบ้านเกิดและอีกหลายชีวิต ซึ่งในตอนนั้นชายหนุ่มยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่เขากำลังงอก

 

ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้คือบันไดขั้นสุดท้ายในการแก้แค้นของเขา พอเขานึกได้ว่าในที่สุดการแก้แค้นของตนก็จะเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา

 

 

ทว่า–

 

 

「 “แบบนี้ไม่ดีแน่”….ท่านพี่เคยพูดไว้สินะ」

 

การบุกรุก การถูกรุกราน การปล้นและถูกปล้น การฆ่าและถูกฆ่า ยิ่งพวกคิจินสู้กันเช่นนี้ต่อไปมากเท่าไหร่ พวกมนุษย์ก็ยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้น

 

ชายหนุ่มได้เดินสำรวจพื้นที่สนามรบที่กลายเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าไปแล้ว

 

ไม่มีสัญญาณว่าหญ้าจะขึ้นมาสักต้นเดียว ไม่มีแม่น้ำสักสายที่ไหลผ่าน ผืนดินก็แห้งแล้งเหลือแต่หินและดินที่แห้ง

 

 

ฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสีสนิมนั้นก็มีกลิ่นของเหล็กติดมาด้วย ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์อันใดกับผืนดินแห่งนี้เลย

 

ในที่แห่งนี้ แม้แต่ข้าวสาลีก็ยังปลูกไม่ขึ้นเลยนับประสาอะไรกับพืชชนิดอื่น และความแห้งแล้งนี้ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่จุดที่พวกชายหนุ่มต่อสู้กันด้วย

 

ในโลกใบนี้ การจะปลูกอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยากมาก และผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ก็ไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชากรทั้งหมดของชาวคิจินได้ ด้วยเหตุนี้เองพวกคิจินจึงเริ่มรวมกลุ่มและแย่งชิงพื้นที่เพาะปลูกที่มีอย่างจำกัดจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและเหล่าสหาย

 

ถึงบางครั้งจะมีคิจินที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษซึ่งสามารถรวมเหล่าคิจินให้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้วพยายามออกไปยัง “ภายนอก” ก็เถอะ

 

 

ทว่าการกระทำดังกล่าวกก็จะถูกขัดขวางไว้โดยผู้พิทักษ์ประตู กลุ่มผู้ทรยศที่ครั้งหนึ่งในอดีตได้จับเหล่าคิจินเข้ามากักขังในโลกที่แห้งแล้งนี้ เพื่อพลังอำนาจของพวกตน และก็คอยเหยียบย่ำเหล่าคิจินที่อยากจะหลุดพ้นไปจากโลกที่พังพินาศนี้

 

พอนึกถึงเรื่องนี้ กำปั้นของชายหนุ่มก็สั่นขึ้น มันเกิดจากความหงุดหงิดของเรื่องในอดีตงั้นหรือ เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอกแต่มันไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งที่ชายหนุ่มคิดคือเรื่องอนาคตต่างหาก เขาต้องการสะสางความแค้นที่มีมากว่า 300 ปีด้วยมือของเขาเอง นั่นจึงทำให้กำปั้นของชายหนุ่มสั่นขึ้น

 

จากนั้นชายหนุ่มก็ได้วางเท้าลงไปบนพื้นอย่างมั่นคงและเริ่มวิ่งออกไปข้างหน้าหากลุ่มทหารฝ่ายแดงที่ยังคงยืนหยัดสู้แม้จะเสียเปรียบ ท่ามกลางเหล่าศัตรูที่ราายล้อมเขาอยู่ชายหนุ่มได้ทำการใช้เทคนิคคิของเขาเข้ารับมือ มือเปล่าที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยพลังคินั้นสามารถทำลายวงล้อมของเหล่าทหารฝ่ายแดงได้โดยง่าย ก่อนที่เขาจะประกาศชื่อของตนออกมาด้วยเสียงที่ดังลั่น

 

「ข้าคาการิ นักรบแห่งนากายามะน้องชายของกษัตริย์อาซึมะ! ข้าไม่ได้ต้องการจะเหยียบย่ำเหล่าทหารเลว! ข้าต้องการเพียงแค่ยอดนักรบผู้มากฝีมือซึ่งไม่เกรงกลัวต่อนามแห่งข้า!」

 

「โฮ่ เจ้าเองสินะ น้องชายคนเล็กสุดของ 4 พี่น้องนากายามะ! ช่างรีบร้อนสมเป็นวัยรุ่นจริงๆ! ข้าอิซากิ หนึ่งในหอกทั้งสิบหกแห่งคาซาน! จงมาสู้กับข้าอย่างยุติธรรมเสีย!」

 

ต่อหน้าชายหนุ่ม――อย่างคาการิ นักรบที่สวมชุดเกราะอันหรูหราและถือหอกไว้ในมือนี้น่าคงจะเป็นผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรู เมื่อเทียบจากรูปร่างที่ราวกับหมีของเขาแล้ว คาการิดูเป็นเด็กน้อยไปเลยและคือไม่น่าจะมีอะไปรับมือกับหอกนั้นได้

 

ทว่า…

 

「อะไรกัน?!」

 

ทันทีที่สัญญาณการต่อสู้เริ่มขึ้น คาการิก็พุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความรวดเร็วและชกเข้าไปยังใบหน้าของผู้บัญชาการฝั่งนั้นอย่างรุนแรง ความเร็วที่เคลือบร่างกายไว้ด้วยพลังคินั้นมันมากพอที่จะทำให้ฝ่ายศัตรูไม่ทันรับมือคาการิได้ทัน จนทำให้เลือดไหลออกมาจากจมูกของอีกฝ่าย%0

 

หากคาการิต้องการเขาก็สามารถดึงมีดออกมาตัดหัวของอีกฝ่ายได้ทันที แต่เขาไม่คิดที่จะทำ ถึงจะบอกว่าไม่คิดจะเอาให้ถึงตาย แต่การที่ถูกหมัดอันรุนแรงนั้นชกเข้าไป สติของอีกฝ่ายก็คงไม่กลับมาโดยง่ายหรอก

 

การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรูที่ชื่อว่าอิซากิจะเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงของฝั่งนั้นจริงๆ เพราะเหล่าทหารฝั่งคาซานต่างแสดงสีหน้าที่ตกใจกันออกมา

 

「ท่านอิซากิ…เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว..?!」

 

「เจ้าหมาป่าทมิฬคาการิ…กล้าดียังไง!」

 

เหล่าทหารของคาซานเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมกันหมายจะช่วยเหลือพวกพ้องและแก้แค้นให้กับคาการิ ทว่าในวินาทีนั้นเอง เสียงอันทุ้มลึกของบางสิ่งที่มีอำนาจในการควบคุมทั้งสองฝ่ายได้อยู่หมัดก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ

 

「หยุด!」

 

เมื่อสิ้นเสียงนั้น ร่างขนาดใหญ่ที่เดินผ่านแนวทหารของฝั่งคาซานก็ปรากฏขึ้น ร่างที่พวกเขาเห็นนั้นมันใหญ่เสียจนอิซากิดูเล็กไปเลย

 

คาการิก็รู้ดีว่าชายในร่างยักษ์ที่สวมชุดเกราะที่เต็มไปด้วยร่องรอยนี้คือกษัตรย์แห่งคาซาน กิเอน ชายผู้สังหารพ่อของคาการิในอดีต

 

「เจ้าสินะ บุตรชายแห่งนากายามะ โตขึ้นเยอะเลยนี่」

 

「กลับกันเจ้าดูแก่ขึ้นเยอะเลยนะ กษัตริย์แห่งคาซาน」

 

「หื้ม พอพวกเด็กๆ โตขึ้น ผู้ใหญ่อย่างข้าย่อมแก่ตัวลงเป็นเรื่องธรรมดา」

 

จากนั้นพอกิเอนยื่นมือขวาออกไป หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็หยิบขวานขนาดใหญ่มาวางไว้บนมือนั้นอย่างช่ำชอง

 

「การไม่ฆ่าเจ้ากับพวกพี่ๆ ไปพร้อมกับพ่อของเจ้าถือว่าเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตข้าจริงๆ ดังนั้นข้าคงต้องแก้ไขมันด้วยการฆ่าเจ้าลงที่นี่เสีย」

 

「…ข้าก็หวังให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่เจ้าจะยังสู้ไหวอยู่หรือด้วยร่างกายแบบนั้น

 

ร่างกายของกิเอน ตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีจุดใดเลยบนชุดเกราะและเสื้อผ้าของเขาที่ไม่ได้รับความเสียหาย ร่างของเขาถูกฟันมาแล้วหลายจุดอีกทั้งยังมีลูกธนูถึง 3 ดอกที่ฝั่งบนไหล่ของเขา

 

นอกจากนี้ทั้งแขนและขาของเขาก็ถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลหลายชั้น แต่ทั้งหมดก็กลายเป็นสีดำค้ำไปแล้ว พูดกันตามตรงว่าเขาไม่น่าจะลุกขึ้นยืนได้ด้วยซ้ำด้วยอาการที่ว่ามา

 

และก็เกราะอาการบาดเจ็บดังกล่าว กิเอนเลยไม่น่าจะใช้อาภรณ์วิญญาณได้ นั่นคือสิ่งที่คาการิคิด ทว่ากิเอนก็ไม่ได้คิดสนใจเรื่องพวกนั้นเลยแล้วหัวเราะออกมาจนร่างของเขาสั่นไปหมด

 

 

「การเผชิญหน้ากับเด็กเวรเช่นเจ้าอุปสรรคแค่นี้แหละกำลังดี มาเริ่มกันเลย!」

 

กิเอนได้เตะพื้นพุ่งออกไปโจมตีคาการิพร้อมเสียงตะโกนที่ดังลั่น

 

คาการิทำการหลบการโจมตีดังกล่าวด้วยการตีลังกากลับหลังและเริ่มสวนกลับทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น

 

แม้จะเป็นเพียงแมลงตัวเล็กสำหรับใครก็ตาาม แต่คาการิก็มีความกล้าที่จะเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับกษัตริย์กิเอน นักรบร่างยักษ์ที่ต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อและไม่ยอมให้คาการิมีเวลาพักหายใจ

 

ทว่าก็อย่างที่คิดเอาไว้ การเคลื่อนไหวของกิเอนเริ่มทื่อลงไปเรื่อยๆ จากบาดแผลที่เขาได้รับ จนเขาเริ่มค่อยๆ ถูกทางคาการิเป็นฝ่ายต้อนแทน

 

ไม่นานนัก-

 

「อึก!」

 

ในที่สุด หมัดของคาการิก็ทะลวงเข้าไปยังไหล่ของคิเอน ด้วยเทคนิคการใช้คิของคาการิมันทำให้หมัดของเขาสามารถทะลวงเข้าไปยังร่างของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย แม้จะมีชุดเกราะคอยป้องกันไว้อยู่ พลังโจมตีของมันก็ไม่ได้ลดลงเลย ไหล่ของกิเอนได้ถูกทำลายหายวับไปในชั่วพริบตา

 

ใบหน้าของกิเอนเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด จากนั้นคาการิก็เตะเข้าไปยังหน้าอกของอีกฝ่ายซ้ำ

 

 

กิเอนได้กระเด็นออกไปโดยไม่ทันส่งเสียงร้องใดๆ ออกมา อันที่จริงคาการิสามารถตามไปโจมตีซ้ำได้อีกจากจุดนี้ แต่เขาไม่ทำ ไม่สิเขาคิดว่าไม่จำเป็นแล้วมากกว่า

 

 

「…ฮ่าๆๆ ช่างน่าประทับใจเสียจริง ด้วยอายุเพียงเท่านี้หากให้เทียบแล้วพลังของเจ้าช่างน่าทึ่งมากจริงๆ ในที่สุดเจ้าก็ก้าวข้ามพ่อของเจ้าไปได้แล้วสินะ」

 

แม้ใบหน้าของกิเอนจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงชมคาการิด้วยรอยยิ้ม

 

เมื่อเห็นว่าคาการิเงียบไม่ตอบอะไรเขา กษัตริย์ก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

 

「ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไม เจ้าและพี่น้องคนอื่นถึงต้องอยู่ภายใต้อาซึมะ แม้จะมีความสามารถถึงขนาดนี้ หากเจ้าต้องการแล้วกะอีแค่หนึ่งในเขาทั้ง5 เจ้าคงสามารถยึดมาครองได้อย่างง่ายดาย」

 

「หึ ก็จริงอยู่ว่าหากข้ากับท่านพี่อาซึมะสู้กัน ข้าคงชนะเข้าได้ 90 จาก 100 ครั้ง ส่วนโดกะ ก็คงจะชนะได้ 100 ทั้ง 100 แต่สุดท้ายมันก็เท่านั้นแหละ พวกข้าไม่มีความสามารถที่จะฟื้นฟูนากายามะ ซึ่งอ่อนแอที่สุดในเขาทั้ง 5 ลงได้ด้วยตัวของพวกข้าเอง และพวกข้าก็คงไม่สามารถจะยึดครองเขาลูกอื่นและจัดการเจ้าได้แบบนี้หรอกหากขาดเขาไป」

 

「ข้าไม่เข้าใจ….คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ควรปกครองผู้อ่อนแอกว่าสิ ดินแดนแห่งนี้มันเป็นเช่นนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?」

 

「เพราะแบบนั้นไง ท่านพี่อาซึมะถึงเป็นกษัตรย์แห่งนากายามะ ความแข็งแกร่งของข้ากับเจ้า มันต่างจากความแข็งแกร่งของท่านพี่อาซึมะ」

 

 

「อึก อย่างไรข้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แต่เอาเถอะแพ้ก็คือแพ้ ไปเสียสิ ฆ่าพวกเราแล้วก็คนของเขาคาซาน รวมเขาทั้ง 5 ให้กลายเป็น 1 ภายใต้นามแห่งนากายามะ แล้วทำลายประตูต้องสาปนั่น นำบ้านเกิดของพวกเรากลับมาจากพวกผู้ทรยศที่แสนโสมมม」

 

นั่นคือหน้าที่ของผู้ที่ได้รับชัยชนะ กิเอนหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด

 

คาการิที่เห็นแบบนั้นก็ทำได้เพียงเม้มริมฝีปาก

 

「ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็จะทวงบ้านเกิดของพวกเราคืนมาอยู่แล้ว」

 

 

「ตอบได้ดี ตรงจุดนี้แหละที่ข้าคิดว่าเจ้าเหมือนกับพ่อเจ้ามากที่สุด」

 

กิเอนพูดก่อนจะเอามือจับไปยังเขาของตัวเอง

 

ทหารคาซานที่อยู่รอบๆ ต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาทันทีที่เห็นภาพนั้น แต่เมื่อกิเอนหันไปมองพวกเขาเมื่อกับจะบอกความตั้งใจของตัวเอง ทหารทุกคนก็รับรู้และก้มศีรษะลงทันที

 

หลังจากนั้น

 

 

「อ๊ากกก!!」

 

กษัตริย์แห่งคาซานได้ทำการหักเขาของตัวเองทิ้งและตะโกนออกมา เศษชิ้นส่วนที่กระเด็นออกมานั้นได้เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนกับคริสทัลที่ร่ายรำอยู่ในอากาศ

 

จากนั้นเลือดจำนวนมากก็ทะลักออกมาจากบาดแผลดังกล่าว

 

สำหรับคิจินแล้ว เขานั้นคือแหล่งกำลังเวทมนตร์และพลังชีวิต การหักสิ่งนั้นออกไปด้วยมือตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับการคว้านท้องของผู้คนบนเกาะอสูรยักษ์

 

 

แสงในดวงตาของกิเอนได้จางหายไปเหมือนน้ำที่เหือดแห้ง แต่ก่อนที่แสงทั้งหมดจะสูญสิ้น กิเอนได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้

 

 

「ข้าขอร้อง….ทหารของข้า….คนของข้า…เมตตาพวกเขา…」

 

「พวกข้าก็ไม่คิดจะทำอะไรผู้ที่ยอมจำนนอยู่แล้ว นี่คือกฏเหล็กแห่งกองทัพนากายามะ」

 

「คึก…เช่นนั้นหรือ…」

 

กิเอนได้ยื่นเขาของตัวเองมาให้คาการิอย่างเชื่องช้า

 

เมื่อคาการิรับมันเอาไว้แสงในดวงตาของกษัตริย์แห่งคาซานก็สูญสิ้นไปและมือของเขาก็ร่วงลงสู่พื้นดิน

 

 

ทหารของคาซานที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ร้องไห้คร่ำครวญกันออกมาให้กับการสูญเสียเจ้านายของตน นี่คือการล่มสลายของคาซานแล้ว แต่ในเวลาเดียวกันมันก็คือเสียงร้องแห่งการกำเนิดขึ้นของสมาพันธ์คิจินที่ไม่ได้ถูกก่อตั้งมานานกว่า 50 ปีแล้ว

 

ด้วยชัยชนะในการรบครั้งนี้ กองทัพนากายามะได้ทำการผนวกรวมเอาคาซานเข้ามาด้วย และเริ่มทำการโจมตีประตูนั้นด้วยพลังของพวกเขาที่รวมเป็นหนึ่ง

 

นี่คือสิ่งที่พวกเขารอคอยมาตลอดเวลา 300 ปี ที่ต้องทนใช้ชีวิตกันอย่างแร้นแค้น

 

การต่อสู้ครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

 

——–

Note 1 : แปลว่าคนบนเกาะนี่ขโมยวิชาเขามาไม่พอ ไล่เขาไปอยู่ในประตูปีศาจอีกสินะ ละเป็นจังหวะที่เชิญโซระมาเกาะอีก เรื่องเยอะแน่พาร์ท 2

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+