ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 148 ลูกของข้า

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 148 ลูกของข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 148 ลูกของข้า

ร้องเพลงหนึ่งเสร็จ เขารู้สึกว่าไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน ในสงครามเหงื่อไหลมากขนาดไหน ก็ไม่ได้ลำบากเท่ากับการปลอบเด็ก

พี่น้องทั้งสองฟังจบก็หัวเราะคึกคักออกมา

เกี๊ยวน้อยขำจนน้ำตาไหลออกมา ซาลาเปาใช้มือปิดท้อง หัวเราะจนพลิกไปพลิกมา

กู้โม่หานเห็นอยู่กับตา มุมปากยิ้มขึ้นมาอย่างปลื้มใจ……

ท่าทีที่เด็กทั้งสองคนมีต่อกู้โม่หานล้วนดีขึ้น ในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

เกี๊ยวน้อยตบขา ยิ้มเห็นฟันสีเงิน”เจ้าก็สนุกจริงๆ!ให้เจ้าร้องเจ้าก็ร้องจริง!”

เสียงหัวเราะราวกับระฆังของซาลาเปาดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่อง”ใช่แล้วพี่สาว ลุงร้ายคนนี้ร้องก๊าบๆเหมือนมากเลยนะ!”

เดิมทีกู้โม่หานยังรู้สึกขายหน้ามาก แต่พอเห็นว่าเด็กๆล้วนมีความสุขมาก ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจก็อบอุ่นขึ้นมาทันที

เขารู้สึกดีใจ แถมยังเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ นั่งยองอยู่ต่อหน้าเกี๊ยวน้อยนวดศีรษะของนาง

“เป็นยังไงบ้าง ข้าไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม?”

เกี๊ยวน้อยขำจนเช็ดน้ำตา พอกู้โม่หานมาถามแบบนี้ นางก็กลั้นหัวเราะและส่ายหน้า

“เชอะ มีคนที่หลงตัวเองแบบนี้ที่ไหนได้!ร้องพอได้ แต่ที่เต้น……”

ซาลาเปาตั้งสติขึ้นมาได้ ก็พูดคล้อยตาม”ยังเต้นไม่เท่าล่าปู๋ล่าเลย!”

เกี๊ยวน้อยพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เลิกคิ้วมองกู้โม่หานที่รู้สึกเสียใจ”เจ้ายังห่างไกลจากพ่อที่ดีเด่นในใจของพวกเราเลย!”

ซาลาเปาทำปากมุ่ย”ใช่ไง!เจ้ายังต้องฝึกอยู่เลย!”

ระหว่างที่พูด เด็กสองคนก็สะบัดตัวลุกขึ้นมา ทำหน้าผีใส่กู้โม่หาน”พวกข้าจะกลับบ้านแล้ว!เจ้าเล่นเองไปต่อนะ!”

กู้โม่หานรู้สึกว่าตัวเองโดนพวกนางแกล้ง ยืนอยู่ที่เดิมไม่ค่อยมีสติ แต่พูดไม่ออกว่าเป็นความรู้สึกอะไร

เวลานี้ ประตูถูกผลักออก ทั้งสามคนเห็นว่าหนานหว่านเยียนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม”เกี๊ยวน้อย ซาลาเปา ทำไมยังไม่เสร็จอีก?”

หนานหว่านเยียนพูดจบ อยู่ๆก็เห็นกู้โม่หานยืนอยู่ข้างหลังของพี่น้องสองคน สีหน้าซับซ้อนมาก

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว อุ้มเด็กสองคนขึ้นมา และปกป้องพวกนางอยู่ในอ้อมอก พร้อมมองไปทางกู้โม่หานอย่างระมัดระวัง

“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ด้วย?”

เมื่อไม่นานที่ผ่านมาทั้งสองคนเพิ่งทะเลาะกันเสร็จ ต่างคนต่างไม่เจริญตากัน

กู้โม่หานตอบแบบโกรธ”เรือนซีเฟิงของข้า เหตุใดข้าถึงอยู่ไม่ได้?”

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาพิงอยู่ในอ้อมอกของหนานหว่านเยียน พูดด้วยเสียงน่ารัก”ท่านแม่!ท่านแม่ไม่เป็นไรจริงๆ!”

“วันนี้แม่พลาดการแสดงที่สนุกๆเลยนะ!”

ทันใดนั้นกู้โม่หานก็รู้สึกแย่แล้ว

เขาเพิ่งคิดจะอ้าปากห้าม หนานหว่านเยียนก็พูดด้วยความรักใคร่”อ้อ?การแสดงอะไรหรือ?”

เกี๊ยวน้อยมองกู้โม่หานทีหนึ่งด้วยความหวังร้าย”ลุงร้ายคนนี้ร้องเพลงเป็ดว่ายน้ำให้พวกเราฟัง!”

ซาลาเปาก็ชูหมัดขึ้นมาพูดว่า”ใช่!เขายังได้เต้นด้วย!เหมือนเป็นนกใหญ่ที่โง่ ไม่ได้งดงามอย่างท่านแม่เลย!”

ดวงตากู้โม่หานมืดไปทันที เหมือนได้รับอัปยศอดสู

แต่ต่อจากนั้นเขาก็กอดอกอย่างใจเย็น

“ข้าแค่เห็นว่าพวกนางอารมณ์ไม่ค่อยดี อยากให้พวกนางดีใจขึ้นมาหน่อย เจ้าในฐานะที่เป็นแม่ หายไปไหนไม่รู้ทั้งวัน ไม่มีความรับผิดชอบเลย!”

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้ว ไม่สนใจว่าเขาจะดูถูกยังไง มองกู้โม่หานอย่างหยอกล้อ แต่กลับถามพี่น้องสองคนว่า

“จริงหรือ?แล้วเขาร้องเพลงเพราะไหม?”

เกี๊ยวน้อยทำหน้ายู่ยี่ สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ไม่เพราะ เหมือนเป็ดร้อง!แม่ร้องเพราะกว่า น้ำเสียงบอบบางและอ่อนโยน เขาในฐานะที่เป็นชายร่างให้ ร้องเพลงก็เหมือนตวาดคนอยู่!”

ซาลาเปาพยักหน้าแสดงความเห็นด้วย อยู่ๆก็ตบมือนึกออก”ใช่!พี่สาวพูดถูกแล้ว!แต่ตลกจริงๆ!”

ในที่สุดหนานหว่านเยียนก็ทนไม่ไหว มีความสุขขึ้นมาทันที แม้กระทั่งความโกรธในเมื่อกี้นี้ ก็หายไปมากมาย

“กู้โม่หาน คิดไม่ถึงเลยนะ เทพสงครามไม่ทำเรื่องหลักๆ แต่กลับร้องเพลงเด็กน้อยอยู่ในจวนอ๋องไปวันๆ อิๆ แปลกจริง!”

“หนานหว่านเยียน ห้ามหัวเราะ!”สีหน้าของกู้โม่หานดำอย่างกับถ่าน

เขารู้สึกว่าเขาเสียหน้าไปหมดแล้ว ยังมาถูกหนานหว่านเยียนดูถูกหยอกล้ออีก?!

กู้โม่หานเอ่ยเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความโมโห”คนเราชำนาญคนละอย่าง ข้าไม่ชำนาญสิ่งเหล่านี้!แต่ร้องเพราะแน่ๆ เด็กสองคนนี้เมื่อกี้ยังหัวเราะเลย!”

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้วโดยไม่เห็นด้วย”ใช่หรือ?งั้นเจ้าร้องอีกรอบหนึ่งสิ?”

สายตาของกู้โม่หานมืดทึบลงทันที”เจ้า!”

เด็กสองคนรีบบังอยู่หน้าหนานหว่านเยียน พูดต่อกู้โม่หานด้วยความก้าวร้าว”เจ้าจะทำอะไร!เจ้าดุว่าท่านแม่อีกแล้วหรือ?!”

พอได้ยินเช่นนี้ กู้โม่หานก็เสมือนลูกบอลที่ไม่มีลม ก็โกรธยังไงก็ไม่ได้

หนานหว่านเยียนหัวเราะอยู่ข้างหลังของเด็กสองคน แต่ถึงจะหัวเราะอยู่นางก็รู้ว่า คนที่มีฐานะสูงศักดิ์อย่างกู้โม่หาน ยอมที่จะทำเรื่องที่ขายหน้าแบบนี้เพื่อเด็กสองคน

หมายความว่า เขารักพี่น้องสองคนนี้จริงๆ

อยู่ๆเกี๊ยวน้อยก็มองไปที่หนานหว่านเยียน และนำหน้าชิดติดกับคางของนางพร้อมถูไปถูมา

“ท่านแม่ ทีหลังอย่าออกจากบ้านนานขนาดนี้แล้วได้ไหม ข้าและซาลาเปาล้วนจะเป็นห่วงนะ!”

ซาลาเปาก็มองไปที่หนานหว่านเยียนด้วยความน้อยใจ เม้มปากไว้”ใช่ไงท่านแม่ ลุงร้ายคนนี้ไม่สนุกเลย แม่อย่าเล่นกับเขาเลย!”

กู้โม่หานไม่สบายใจ เดินไปถึงหน้าแม่ลูกสามคนด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์

“ขเาไม่สนุกตรงไหน?ปกติแม่ของพวกเจ้าก็ไม่อยู่กับพวกเจ้า ยังต้องให้ข้าอยู่กับพวกเจ้าอีก เมื่อกี้ก็เล่นได้ดีเลยนะ เหตุใดถึงพูดแบบนี้”

เมื่อกี้ยังพูดว่าเขาสนุกอยู่เลย ตอนนี้ก็กลับคำแล้ว ใจของผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยจริง!

พี่น้องสองคนขัดจังหวะพร้อมกัน”พวกข้าไม่เอาเจ้า เอาแม่!”

ระหว่างที่พูด เด็กสองคนก็กอดขาของหนานหว่านเยียนไว้อย่างแน่นไม่ยอมปล่อย

กู้โม่หานจนคำพูด จ้องหนานหว่านเยียนอย่างโหดร้าย

ต้องยอมรับว่า เขาเริ่มอิจฉาหนานหว่านเยียนแล้ว

ทำไมนางสามารถสนิทกับเด็กน้อยสองคนขนาดนี้?

ส่วนเขามีแต่ต้องถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา?

ไม่ เขาจะอยากได้!

หนานหว่านเยียนเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นของกู้โม่หาน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวกู้โม่หานจะแย่งเด็กของนางไป

ดวงตาของนางมืดลง และพูดด้วยความหมายลึกซึ้ง”กู้โม่หาน ตอนนี้เจ้ามีครอบครัวที่สมบูรณ์มาก ไม่ขาดอะไรเลย”

“เจ้ายังได้แต่งงานกับหยุนอี่ว์โหรวที่เจ้ารัก อนาคตนางก็จะคลอดลูกให้เจ้า เจ้ามีครอบครัวของตัวเอง ก็อย่ามายุ่งกับลูกสุดที่รักของข้าได้ไหม?”

“อย่ากินในจานแต่มองในหม้อได้ไหม เอาใจใส่กับลูกที่คนรักของเจ้าคลอดให้ไม่ดีกว่าหรือ?”

เกี๊ยวน้อยพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง รู้สึกว่าคำพูดของหนานหว่านเยียนมีเหตุมีผลจริงๆ”ท่านแม่พูดถูกเพคะ!เจ้าไปหาคนที่เจ้าชอบเถอะ!”

กู้โม่หานหายใจเข้าลึกๆ เขาจะมองไม่ออกว่าหนานหว่านเยียนเป็นการเตือนได้อย่างไรล่ะ

แต่เด็กคนนี้ยังคงปกป้องหนานหว่านเยียนอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกหดหู่ใจมาก

กู้โม่หานทำหน้าเย็นชาใส่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเด็ดขาดในอำนาจ

“ในจวนอ๋องของข้า ก็คือเด็กของข้า!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *