ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 477 คนที่หมายปองท่านอ๋อง

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 477 คนที่หมายปองท่านอ๋อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 477 คนที่หมายปองท่านอ๋อง

“อ๋องผิงเซวียน อยากฟังข้าพูดสักสองประโยคหรือไม่?”

องค์ชายสิบกับพระชายาสิบมองหน้ากัน แล้วเป่าปากโล่งอกอยู่ในใจ เมื่อครู่นี้ไม่เห็นหนานหว่านเยียนพูดอะไรเลย พวกเขายังคิดอยู่เลยว่านางถอยแล้ว

คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเช่นนี้

แววตาของชีกุ้ยเฟยกับกู้โม่หานไหวติงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาพิเศษอะไร

ฉินอี้หรานหันหน้าไปมองหนานหว่านเยียน เห็นสีหน้าไม่ใส่ใจบนใบหน้าที่งดงามของนาง สายตาเป็นประกายแหลมคมอย่างยิ่ง เขาอดไม่ได้ทีจะให้ความสนใจ “ข้าจะตั้งใจฟัง”

ฉินมู่ไป๋เองก็มองหนานหว่านเยียน อยากจะดูว่า สตรีที่เป็นพระชายาของเทพสงคราม มีความสามารถมากน้อยเพียงใด และจะพูดจาได้น่าฟังสักเท่าใดกัน

หนานหว่านเยียนเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มตาหยี: “ซีเหย่กับแคว้นเทียนเซิ่งเป็นแคว้นที่สัมพันธ์ทางการทูตดีมาโดยตลอด ประวัติศาสตร์ของทั้งสองแคว้นก็สามารถย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน วันนี้ที่ท่านกับองค์หญิงฮั่นเฉิงมาเยี่ยมเยือน ควรที่จะมีความสุข ชื่นชมดอกไม้แห่งซีเหย่ ดูทิวทัศน์ของซีเหย่ แต่งงานกับสตรีที่ชอบ และแต่งงานกับบุรุษที่ใจปรารถนา”

“แต่หากสิ่งเหล่านี้มาจากการบีบบังคับ เกรงว่าจะกลายเป็นความไม่พอใจ สุดท้ายแล้วก็จะส่งผลกระทบต่อความรักใคร่ปรองดองกันของทั้งสองแคว้น”

“อีกอย่างท่านอ๋องอย่าได้ดูแคลนความขัดแย้งในครอบครัว รวมทั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างสตรี แม้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่เมื่อนานไป ก็จะทำให้ไม่สบายใจไม่มากก็น้อย”

ฉินมู่ไป๋กลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก “มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญอะไรระหว่างสตรีเท่านั้น ขอเพียงแค่ได้อยู่กับคนที่หมายปอง ไม่ว่าอะไรข้าก็อดทนได้ทั้งนั้น!”

ทุกคนเสียงดังโหวกเหวก

องค์หญิงฮั่นเฉิงผู้นี้ใจลุ่มหลงจริงๆ เพื่อกู้โม่หานแล้ว แม้แต่ศักดิ์ศรีกับสถานะของตัวเองก็ไม่ต้องการ?

กู้โม่หานสังเกตสถานการณ์อย่างตั้งใจ แล้วหยิบจอกเหล้าขึ้นมาจิบ หนานหว่านเยียนมองดูฉินมู่ไป๋อย่างประหลาดใจ จากนั้นก็ยิ้มจนตาปิด

“องค์หญิง ที่ซีเหย่ของพวกเรา โดยเฉพาะเหล่าสตรีในวัง จักต้องยิ้มอย่างสุภาพ การเดินต้องก้าวอย่างนิ่งสงบ ไม่ยืนขวางประตูผู้อื่น เมื่อพบเจอผู้สูงศักดิ์ ไม่ว่าจะอายุเท่าใด ล้วนต้องแสดงความเคารพนับถือ และหลักสี่คุณธรรม สามคล้อยตาม ซึ่งประกอบด้วย ประพฤติงดงาม วาจางดงาม หน้าตาและกิริยางดงาม งานฝีมืองดงาม และต้องยอมรับให้ได้ว่าในใจของท่านอ๋องจะไม่หยุดที่ท่านคนเดียว เพราะอาจจะมีคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ตามมา……”

“หยุดๆๆ !” ฉินมู่ไป๋จ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างโหดเหี้ยม ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ประเพณีที่ยึดถือที่ท่านพูดมาข้าก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่า แต่ว่าท่านอ๋องจะชอบคนมากมายถึงเพียงนั้นในเวลาเดียวกันได้อย่างไรเล่า?”

ไหนบอกว่า เทพสงครามรักมั่นคงที่สุดหรือ แล้วยังจะมีคนที่สองที่สามที่สี่……

กู้โม่หานสีหน้าอึมครึมดูไม่ดีเล็กน้อย แม้จะรู้ว่าหนานหว่านเยียนจงใจปั้นเรื่อง แต่เขาก็ไม่สบายใจเล็กน้อย เขาหลายใจอย่างที่หนานหว่านเยียนว่าที่ไหนกัน?!

หนานหว่านเยียนเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา: “องค์หญิงคงยังไม่รู้ ว่าห้าปีมานี้ไท่จื่อหลงรักสตรีอีกผู้หนึ่ง และก็เป็นพระชายารองในตอนนี้ ซึ่งปกติมาก แม้ข้าจะอิจฉา แต่เมื่อท่านอ๋องต้องการแต่งพระชายารอง ต้องการรักผู้ใด ล้วนไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย และยังต้องสนับสนุนท่านอ๋องอีก อันที่จริงนี่คือเอกลักษณ์ของซีเหย่ เราต้องคิดเพื่อท่านอ๋องให้มากๆ”

“ท่านอ๋องก็เป็นบุรุษเช่นนี้ เขามีบุคลิกลักษณะที่โดดเด่น ทั้งยังเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ สำหรับบุรุษที่ดีเลิศเช่นนี้มีสตรีมากมายอยู่รอบตัวเขา ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ข้ากังวลก็คือหากองค์หญิงแต่งงานกับท่านอ๋อง อาจจะอดไม่ได้ที่จะเสียใจ นี่เป็นเพียงการเตือนองค์หญิงเท่านั้น”

กู้โม่หานเกือบสำลัก สีหน้าขององค์ชายสิบกับพรชายาสิบเองก็อยากที่จะอธิบายได้

สีหน้าของฉินมู่ไป๋เปลี่ยนไป

แม้นางจะชอบกู้โม่หาน และสามารถเข้าใจได้ว่ากู้โม่หานมีสตรีหลายคน แต่เก็บเอาไว้ในใจทุกคน มันไม่เกินไปหรือ?

เสด็จพ่อของนางเองก็ไม่ได้เก็บคนมากมายปานนั้นไว้ในใจนะ!

หนานหว่านเยียนเห็นสีหน้าของนาง ก็ไม่ได้พูดไร้สาระอีก และมองตรงไปยังกู้จิ่งซาน “เสด็จพ่อ ดูท่าทางแล้ว องค์หญิงยังแปลกใจอยู่มาก ให้องค์หญิงดูอีกทีจะดีกว่า ว่าบุรุษดีๆ แห่งซีเหย่ของพวกเรานั้นมีถมเถไป ไม่จำเป็นต้องเจาะจงเอาดอก”

กู้จิ่งซานมีความคิดของตัวเองตั้งนานแล้ว ซึ่งโอนอ่อนตามหนานหว่านเยียน “อืม ไท่จื่อเฟยพูดจามีเหตุผล”

“อ๋องผิงเซวียน พวกท่านเดินทางมาซีเหย่ครั้งนี้คงไม่ง่ายนัก สองสามวันนี้ ก็พาองค์หญิงฮั่นเฉิงไปท่องเที่ยวให้ทั่วสักครั้งสิ บางที พอถึงตอนนั้นองค์หญิงอาจจะมีความคิดอื่นก็ได้”

เขาไม่มีทางให้ปีกของกู้โม่หานแข็งแกร่งขึ้น

แรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่เคยคิดที่จะให้ฉินมู่ไป๋แต่งงานกับกู้โม่หานอยู่แล้ว ดังนั้นพอหนานหว่านเยียนพูด เขาก็ฉวยโอกาสในทันที

“ฝ่าบาททรงปรีชาสามารถยิ่งนัก” ฉินอี้หรานไม่ได้โต้แย้งขฌ เพียงแค่มองหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานอย่างน่ากลัว แววตาเปล่งประกายเล็กน้อย

“เพคะ ฝ่าบาท” ไฟอิจฉาและความไม่ยอมในดวงตาของฉินมู่ไป๋แทบจะทะลักออกมาแล้ว รู้สึกว่าถูกหนานหว่านเยียนคิดร้ายแต่ก็แสดงออกมาไม่ได้

รู้สึกว่านหนานหว่านเยียนจงใจขู่ขวัญนาง เพื่อขัดขวางไม่ให้นางแต่งงานกับกู้โม่หาน!

เมื่อเรื่องตัดสินชี้ขาดแล้วจฌ ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

หนานหว่านเยียนแอบเป่าปากโล่งอกเงียบๆญบ การปฏิเสธองค์หญิงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย นางกำลังจะปอกส้มเพื่อปลอบขวัญ แต่ส้มก็ถูกกู้โม่หานแย่งไปเสียแล้ว

เขาปอกส้มด้วยสีหน้าเรียบเฉย จ้องมองหนานหว่านเยียนไม่วางตา แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ “ดูท่าแล้วพระชายาคงจะรู้จักข้าดียิ่งนัก รู้ว่าในใจข้าซ่อนสตรีไว้ตั้งสี่คน”

หนานหว่านเยียนตบแขนเขา เข้าไปใกล้เขาแล้วเอ่ยว่า: “ใจเย็นๆ ข้ารู้ที่ว่าท่านซื่อสัตย์ต่อพระชายารองของท่านไม่แปรเปลี่ยนนั้น ล้วนเป็นข้ออ้าง ท่านดูผลลัพธ์สิดีมากเลยไม่ใช่หรือ”

กู้โม่หานส่งเสียงเฮอะ เขาไม่รู้ว่ากำลังเยาะหยันอะไรอยู่ เขาเก็บความรู้สึกภายในใจของตัวเองไว้ แล้วยื่นส้มที่ปอกเสร็จแล้วให้กับหนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนยิ้มตาหยีแล้วเอ่ยว่า: “ขอบคุณมากท่านอ๋อง”

นางกินส้มไปคำหนึ่ง หวานยิ่งนัก

ฝั่งตรงข้ามพวกเขา ฉินมู่ไป๋มองดูด้วยความอิจฉา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นว่าสถานะของกู้โม่หานนั้นสูงส่งเช่นนี้ แต่กลับปอกส้มให้หนานหว่านเยียนอย่างรักใคร่ญด นางอิจฉาอย่างอดไม่ได้

และยิ่งรู้สึกว่าหนานหว่านเยียนต้องการยึดความรักของกู้โม่หานไว้คนเดียว ดังนั้นเมื่อครู่นี้ถึงได้จงใจพูดเช่นนั้น

ฉินมู่ไป๋ทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงเอ่ยขึ้นในทันที: “ข้าได้ยินมานานแล้ว ว่าพระชายาของเทพสงครามนั้นเป็นภรรยาที่ดีมากๆ ไม่เพียงแต่รูปโฉมงดงามเพริศพริ้ง แต่ยังเชี่ยวชาญทางวิชาแพทย์อีกด้วย เป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งใกล้และไกล”

“วันนี้ได้พูดคุยกันแล้ว รู้สึกว่าพระชายารูปโฉมงดงามจากใจจริงเลย พูดหลักเหตุและผลได้อย่างชัดเจน สมกับเป็นคนที่ท่านอ๋องชอบจริงๆ เพียงแต่ทางด้านวิชาแพทย์ ข้าเองก็อยากจะขอคำชี้แนะจากพระชายาสักหน่อย ก็ถือเสียว่าเป็นการเพิ่มสีสันให้กับงานเลี้ยงฉลองวันนี้ คิดเห็นอย่างไร?”

ฉินมู่ไป๋ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิชาแพทย์กับหนานหว่านเยียน?

ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ

ต้องรู้ก่อนว่าอาจารย์ของฉินมู่ไป๋นั้นเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งใกล้และไกล อยู่ที่แคว้นเทียนเซิ่งเรียกว่าบุคคลที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง

และฉินมู่ไป๋ก็เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายที่โดดเด่นที่สุดของกวนหยวนใต้ซือ เป็นศิษย์ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากอาจารย์แด่ดันเก่งกว่าอาจารย์เสียอีก อยู่ที่แคว้นเทียนเซิ่งมีสมญานามว่าหมอเทวดา

แม้จะบอกว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเคยพบเห็นวิชาแพทย์ของหนานหว่านเยียน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมา

อย่างไรเสียวิชาแพทย์ของหนานหว่านเยียนกับฉินมู่ไป๋ก็ไม่ธรรมดากันทั้งคู่ หากประลองฝีมือกัน ผู้ใดแพ้ผู้ใดชนะ ไม่อาจทราบได้จริงๆ……

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *