ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 607 ความหึงหวงของจักรพรรดิ

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 607 ความหึงหวงของจักรพรรดิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 607
เขาบีบบังคับให้หนานหว่านเยียนนั่งข้างเขา หนานหว่านเยียนไม่ทันได้ต่อต้านแม้แต่นิด กู้โม่หานก็มองไปยังโม่หวิ่นหมิง น้ำเสียงติดจะเย็นชาเต็มไปด้วยการตักเตือน

“ในเมื่อท่านน้ามาแล้วก็นั่งเถอะ”

“แต่ว่าช่วงนี้ร่างกายของหว่านเยียนไม่ค่อยดี ท่านน้าคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน จะยืนก็ไม่เห็นเป็นอะไร”

หนานหว่านเยียนเหลือบตาไปมองกู้โม่หาน ความเย็นชาภายในใจก็พุ่งกระฉูดออกมาทันที

“เจ้าให้ข้าคุยกับท่านน้าไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าพูดแทรกจะได้ไหม?”

ท่านน้าเพิ่งจะมาถึง กู้โม่หานก็ปฏิบัติตัวไม่ต้อนรับแขกแบบนี้เสียแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ตอนนี้นั้นสำคัญ นางจะต้องสอนบทเรียนให้เขาเสียหน่อยแล้ว

กู้โม่หานถูกหนานหว่านเยียนตำหนิก็เม้มปากเข้าหากันแน่น และไม่ได้ส่งเสียงอันใดออกมาอีก

โม่หวิ่นหมิงเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาของเขามืดครึ้มลงเล็กน้อย

แท้ที่จริงแล้วตั้งแต่เขาเข้ามาได้ไม่กี่นาที ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศในตำหนักนี้ไม่ปกติ ไม่ใช่ว่าเป็นศัตรูกัน แต่ดูเหมือนว่าจะแข็งทื่อและเย็นชาจนทำให้ผู้คนรอบข้างหายใจไม่ออกเสียมากกว่า

สีหน้าของหนานหว่านเยียนก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ความซีดเซียวแบบนั้นทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างมากเมื่อได้เห็น ระหว่างที่นางอยู่กับกู้โม่หานมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

หนานหว่านเยียนมองตรงไปยังโม่หวิ่นหมิงและพูดออกมาอย่างสุดความสามารถ “ท่านน้า ข้าได้ยินมาจากอาจี้ ช่วงนี้ท่านดีขึ้นมากแล้วใช่ไหม?”

โม่หวิ่นหมิงได้ฟังคำพูดของหนานหว่านเยียน หัวคิ้วก็กดต่ำลงเล็กน้อย

เรื่องนี้ นางไม่ได้รู้อยู่แล้วหรือ? นางตรวจชีพจรให้เขามาหนึ่งเดือนเต็ม

แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ได้แต่ตอบไปตามที่หนานหว่านเยียนถาม “อืม ดีขึ้นมากจริงๆ ข้ารู้สึกว่าอีกไม่นานก็คงหายเป็นปกติแล้ว ตอนนี้เวลาที่เดินบนถนน นับวันก็ยิ่งเดินได้ไกลมากขึ้น แถมเวลานั่งรถเดินทางนานๆก็ไม่เหนื่อยแล้วด้วย แล้วเจ้า……”

สีหน้าของโม่หวิ่นหมิงทั้งกังวลใจและเจ็บปวดใจ ยังนึกตำหนิตนเอง “ไม่กี่วันมานี้ข้าไม่ได้เจอเจ้าเลย แล้วยังคิดว่าเจ้ายุ่งอยู่ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสลบไสลไม่ได้สติ”

“ข้าไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตอนนี้เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”

ในช่วงเวลานี้เขาและโม่หลีพักอยู่ด้วยกัน ยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญทั้งวัน กำลังคนก็ถอนออกไปจำนวนมาก ไม่ได้ดูแลหนานหว่านเยียนให้ดีเลย บวกกับกู้โม่หานมีเจตนาที่จะปิดบัง จนกระทั่งวันนี้ก่อนจะเข้าวัง เขาเพิ่งจะรู้ว่าหนานหว่านเยียนหมดสติไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ

หนานหว่านเยียนชะงักไป ภายในใจรู้สึกอุ่นซ่านขึ้นมา แต่ทว่าก็ส่ายหน้าและตอบออกไป “ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว แค่ทำงานหนักเกินไปเท่านั้นเอง ท่านไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ”

ความทรงจำของนางฟื้นคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ก่อนหน้านี้นางรู้สึกได้ว่าเขาเป็นท่านน้าของร่างเดิม แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกที่ได้เห็นเขากับตาตัวเองและได้ยินคำพูดเขากับหูตัวเองก็ยังมีผลกับใจนางมากอยู่ดี

เหมือนกับตอนที่อยู่กับกู้โม่หานก็ดี ท่านน้าก็ดี หรือท่านแม่ก็ตาม ทั้งหมดล้วนเป็นคนในแคว้นซีเหย่ที่ดีต่อนางเสมอมา

เพราะว่าความรู้สึกนี้ ทำให้ความใกล้ชิดของนางกับโม่หวิ่นหมิงเพิ่มมากขึ้น

เห็นหนานหว่านเยียนยิ้มกว้างอย่างน่ารักแบบนั้น สายตาของกู้โม่หานก็เต็มไปด้วยเมฆครึ้มและการยับยั้งชั่งใจ

ภายในใจของเขาหึงหวงเป็นอย่างมาก และยิ่งอิจฉาโม่หวิ่นหมิงที่ได้รับรอยยิ้มอบอุ่นจากหนานหว่านเยียนมากขึ้นไปอีก

โม่หวิ่นหมิงเห็นว่าท่าทางการพูดของนางไม่ได้ดูเหมือนโกหก ก็รู้สึกสบายใจไม่น้อย “หากไม่สบายตรงไหน ต้องรีบไปตรวจให้ทันเวลานะ”

“เข้าใจแล้ว” หนานหว่านเยียนตอบรับอย่างเชื่อฟัง บอกใบ้ให้โม่หวิ่นหมิงรับรู้ด้วยการค่อยๆยื่นมือที่ขาวราวกับหัวหอมออกไปจับบนข้อมือของโม่หวิ่นหมิง

“ขาของท่านดีขึ้นไม่น้อยเลยจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ความเย็นขึ้นนิดหน่อยแล้ว”

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าจะเขียนใบสั่งยาที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นให้ท่าน ท่านให้อาจี้พาไปเอายาที่สำนักหมอหลวงนะ ตอนนี้งานในวังก็มีเยอะมาก ข้าเองก็ยุ่ง ข้าจึงไม่อาจดูแลท่านได้บ่อยนัก ท่านต้องรักษาสุขภาพตนเองให้มากๆนะ”

อาการของโม่หวิ่นหมิง หนานหว่านเยียนเพิ่งจะมารู้ตอนนี้ได้อย่างไร ในหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ นางเคยจับชีพจรเพื่อตรวจโรคให้เขาไปแล้ว และก็บอกเขาแล้วด้วย ว่าขาของเขาไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว

ตอนนี้นางกลับมาพูดซ้ำอีกครั้ง เพราะต้องการบอกใบ้ให้โม่หวิ่นหมิงรู้ว่านางถูกกู้โม่หานกักขังไว้ให้อยู่ในวังและไม่สามารถออกไปไหนได้ สถานการณ์ดูท่าจะไม่ดีสุดๆ

โม่หวิ่นหมิงเข้าใจในสิ่งที่หนานหว่านเยียนต้องการจะบอก ดวงตาก็มืดครึ้มลง

เขาหรี่ตาอย่างหนัก ชำเลืองมองไปยังกู้โม่หานที่นั่งหน้าบูดบึ้งอยู่ด้านข้างนาง

เขายังคงยิ้มอย่างอบอุ่นเหมือนเดิมและพูดกับหนานหว่านเยียนว่า “ได้ ข้าจะเชื่อฟังเจ้า”

หลังจากนั้น เขาเอามือไปวางทับไว้ที่บนหลังมือของหนานหว่านเยียนค่อยๆตบลงไปเบาๆ “เจ้าวางใจเถอะ มีอาจี้อยู่ด้วย ร่างกายของข้าจะไม่เป็นอะไร”

“เจ้าจัดการเรื่องในวังให้สบายใจก่อนเถอะ ส่วนอย่างอื่น ไม่ต้องเป็นห่วง”

เขาและโม่หลีกำลังจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่

ก่อนที่กู้โม่หานจะก่อกบฏ แผนการของพวกเขาก็ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว เพียงแค่แคว้นซีเหย่ไม่เหมือนกับแคว้นต้าเซี่ย ดังนั้นจึงจะทอนกำลังบ้างไปจัดการ แต่ว่าตอนนี้……ทุกอย่างเสร็จสิ้นและเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *