ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 550 คุณหนูน้อย

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 550 คุณหนูน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 550 คุณหนูน้อย

“งั้นก็ไม่ใช่เรื่องของท่านแล้ว”

สตรีใต้หมวกผ้าโปร่งมองหนานชิงชิงอย่างเย้ยหยัน “ท่านยังไม่รู้อีกหรือ ฝ่าบาทจะประหารท่านทันที แล้วประกาศให้รู้กันทั่ว เพื่อเอาใจทูตจากแคว้นเทียนเซิ่ง พรุ่งนี้ท่านก็จะกลายเป็นคนตายแล้ว”

อะไรนะ?

ฮ่องเต้ต้องการฆ่านาง?!

จู่ๆ หนานชิงชิงก็รู้สึกกระวนกระวาย แม้ว่าจะเป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ นางรู้แค่ว่า ตัวเองยังตายไม่ได้

นางคิดว่าการที่สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งมาเยี่ยมนักโทษตอนกลางดึก ไม่ได้มาเพื่อคอยซ้ำเติมแน่นอน หากนางทำให้อีกฝ่ายมั่นใจได้ ตนก็อาจมีโอกาสรอดชีวิต

นางอ้อนวอนอย่างกระตือรือร้น โดยไม่สนใจศักดิ์ศรีแล้ว

“การที่ท่านเข้ามาในคุกในคืนนี้ได้ แสดงว่าท่านมีวิธีช่วยข้า แม้ว่าตอนนี้ข้าดูเหมือนไม่มีอะไร แต่นอกวังข้ายังมีคนที่ใช้สอยได้อยู่ ข้ายังมีมูลค่าประโยชน์ใช้สอย ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่ถูกทอดทิ้ง!”

“และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ในวัง ข้าก็ไม่ได้เปิดเผยตัวท่าน นั่นก็แสดงว่าข้ามีความภักดีพอ ขอเพียงท่านยอมช่วยชีวิตข้า ข้าจะช่วยเหลือท่านได้มากอย่างแน่นอน!”

“ท่านมีมูลค่าประโยชน์ใช้สอยหรือ?” สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งหลุบตาลง จ้องมองหนานชิงชิงแล้วยิ้มออกมา “ท่านก็เคยอยู่ในคุก เท่าที่ข้ารู้ พ่อของท่านไม่เคยมาเยี่ยมท่านเลย และไม่มีท่าทีว่าจะช่วยท่านออกไปด้วย”

“มูลค่าประโยชน์ใช้สอยของท่านมาจากไหน?”

หนานชิงชิงกำหมัดแน่น หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ยอมแพ้

นางรู้ว่าสิ่งที่สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งพูดนั้นถูกต้อง

ตั้งแต่การปรากฏตัวของหนานหว่านเยียน ชีวิตของนางได้เปลี่ยนไป กลายเป็นหนานหว่านเยียนที่เหมือนเมื่อก่อน ไม่มีใครเห็นค่า

แม้แต่พ่อที่เคยเห็นความสำคัญของนางมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับทอดทิ้งไม่แยแสนาง

ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่สามารถเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าๆ ได้

ความอัปยศในวันนี้ วันหลังนางจะต้องทำให้หนานหว่านเยียนได้ลิ้มรสชาติ และต้องการทำให้คนที่ทิ้งนางไปได้เสียใจ นางต้องการแก้แค้น เพื่อแม่ และเพื่อตัวนางเอง!

“ท่านอาจไม่เชื่อในคุณค่าของข้า แต่ข้ามีจุดอ่อนของกู้โม่หานและหนานหว่านเยียนอยู่ในมือ ท่านต้องสนใจแน่”

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งแสยะยิ้ม “หากท่านมีจุดอ่อน ทำไมถึงรอมาถึงตอนนี้แล้วค่อยพูด?”

หนานชิงชิงสีหน้าดุดัน

“วันนี้มันเกิดขึ้นกะทันหัน ข้าเลยไม่มีโอกาสพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ข้ารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานนั้นเลวร้ายมาโดยตลอด ภายนอกดูพวกเขารักกัน แต่ความจริงแล้วคือการแสดง”

เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้แต่งเรื่อง นางก็ต้องแต่งให้ดี มิฉะนั้นตัวร้ายอย่างสตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งต้องไม่เชื่อแน่นอน!

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งยิ้มเยาะ “จุดอ่อนที่ท่านบอก มีแค่นี้หรือ? ความไม่ลงรอยกันระหว่างสองสามีภรรยา สำหรับข้าแล้ว มันจะเอามาเป็นการข่มขู่ได้ยังไง?”

“ข่มขู่ได้แน่ ท่านไม่เคยคิดมาก่อนหรือ พวกเขาดูรักกันดีเฉพาะภายนอก แต่กลับแสดงความรักใคร่อาลัยอาวรณ์ต่อกัน มันแปลกมากหรือ?”

หนานชิงชิงกล่าวอย่างเย็นชา “เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังวางแผนก็เหมือนกับที่ท่านวางแผนเช่นกัน แต่พวกเขาเก่งกว่าท่าน ผู้หญิงที่ชื่อหนานหว่านเยียนมีทักษะทางการแพทย์ที่แปลกมาก แต่นางเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการเอาชนะใจผู้คน ทุกคนล้วนถูกนางเกลี้ยกล่อมให้เชื่อมั่น เมื่อมีนางคอยช่วยเหลือ ท่านคิดว่ากู้โม่หานจะถูกถอดจากตำแหน่งไท่จื่อหรือ?!”

“ไม่มีทาง ข้าบอกท่านแล้วไง ต่อให้ท่านฉลาดมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้แย่ จุดจบของข้าวันนี้ คือบทพิสูจน์ที่ดีที่สุด!ท่านอยากให้ลูกของท่าน ต้องจำยอมอยู่ใต้พวกเขาตลอดไปงั้นหรือ?”

ใบหน้าของสตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่จริงจังขึ้นมาทันที

ที่จริงสิ่งที่หนานชิงชิงพูดก็สมเหตุสมผล นางมองลงมาที่หนานชิงชิงที่มีสีหน้าจริงจัง “ข้าจะเชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของท่านได้ยังไง?”

หนานชิงชิงรู้ว่าบุคคลนี้น่าสงสัย แต่ในเมื่อถามไถ่แล้ว แสดงว่ายังห่วงใยอยู่

นางไม่รีบร้อนที่จะปฏิเสธ แต่แสร้งทำเป็นยิ้มบางๆ

“เชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของท่าน แต่หากข้าเป็นท่าน ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้งศาลและแม้แต่ค่ายทหารอยู่ภายใต้การควบคุมของหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน ยอมเชื่อว่าจริง ดีกว่าไม่ยอมเชื่ออะไรเลย”

“และท่านควรรู้ว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน หนานหว่านเยียนเดินเฉียดจวนกั๋วกงมาก ข้าในฐานะพระชายาเฉิง ได้ยินทางอ๋องเฉิงพูดว่า ช่วงนี้กู้โม่หานได้พยายามปราบปรามกองกำลังทุกประเภทที่ไม่ใช่ของเขา”

“สถานการณ์ในปัจจุบันเอนเอียงไปทางด้านเดียว แม้ว่าท่านจะวางแผนปูทางให้ลูกของท่านแล้ว แต่ต่อไปก็ยังต้องถูกคนอื่นข่มเหงอยู่ดี หรือว่าคนฉลาดอย่างท่านจะไม่คิดพลิกสถานการณ์หรือ? การพลิกสถานการณ์หากไม่คิดหาทางลัด แต่พึ่งพาตัวเองขึ้นไป ท่านรู้ไหมว่ามันยากและช้าแค่ไหน? ท่านรอได้หรือ?”

ความหมายในคำพูดของหนานชิงชิงเห็นได้ชัดเจน ว่าต้องการให้นางกบฏ!

มีเพียงการก่อกบฏเท่านั้นจึงจะสามารถเอาชนะกู้โม่หานได้ ไม่เช่นนั้นลูกของนางก็จะถูกกู้โม่หานข่มเหงตลอดไป

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งก็ตกใจเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าหนานชิงชิงจะสุดโต่งขนาดนี้

แต่กลับรู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก

“พูดมาขนาดนี้แล้ว แล้วท่านจะทำอะไรได้อีกล่ะ?”

หนานชิงชิงแสดงท่าทีทันที “ข้าเพิ่งบอกว่า นอกวังยังมีกองกำลังของข้าอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นั้นก็มีกองกำลังมากมายภายใต้การบังคับบัญชาของเขา”

“ถ้าท่านช่วยชีวิตข้า ช่วยข้าออกจากคุกได้ ข้าจะขอให้กองทัพใหญ่ของข้าช่วยเหลือท่าน ให้ท่านได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านให้ข้าไปฆ่าหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานด้วยมือตัวเองก็พอ ข้าจะพาลูกของข้าไปให้พ้นจากสายตาท่านตลอดไป”

ตอนนี้นางไม่สามารถนั่งเฉยๆ รอความตายได้

คนผู้นั้นไม่ได้ติดต่อนางเป็นเวลานานแล้ว นางต้องออกไปเอง อย่างน้อยนางต้องมีชีวิตรอด

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งมองไปที่หนานชิงชิง สีหน้าค่อยๆ ซับซ้อน เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง

“พูดมาเช่นนี้ ท่านก็ถือว่ามีคุณค่าอยู่ ไม่ใช่ไร้ความสามารถอย่างที่ข้าคิด”

“ข้าให้โอกาสท่านได้หนึ่งครั้ง ให้ฮ่องเต้ไว้ชีวิตท่าน ใช้การไปโกนผมบวชชีที่วัดชิงอันเพื่อชดใช้บาปตลอดชีวิตมาบังหน้า เพื่อให้ท่านสามารถติดต่อโลกภายนอกได้ แต่ในขณะเดียวกัน ท่านต้องให้ข้าได้เห็นกองทัพใหญ่ที่ท่านพูดถึงด้วย”

แม้ว่านางจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในสิ่งที่หนานชิงชิงพูด แต่คงจะเป็นเรื่องดีหากมีโอกาสจริงๆ

ฮ่องเต้กอดบัลลังก์ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย กู้โม่หานและหนานหว่านเยียนเป็นตัวร้ายจริงๆ หากไม่เดินไปให้สุดทาง แผนการใหญ่จะไม่มีทางสำเร็จ!

แววตาของหนานชิงชิงเปี่ยมไปด้วยความยินดี “เอาล่ะ ขอให้เราร่วมมือกันด้วยดี ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งหันกลับมา กล่าวประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา “จะผิดหวังหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลงานของท่าน แต่ข้าต้องขอเตือนท่านไว้ก่อน อย่าเก่งแต่ปาก”

“หากท่านออกจากวังไป แล้วข้าพบว่าไม่มี ‘คนที่อยู่ข้างนอก’ อย่างที่พูด เกรงว่าทั้งในและนอกเมืองหลวงจะได้รู้แค่ว่า พระชายาเฉิงเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บในวัดชิงอัน เพราะเป็นกังวลมากเกินไป”

หนานชิงชิงรู้ว่านางเก่งจกาจ ไม่กล้าที่จะดูถูก ตอบกลับไปด้วยเสียงเบาๆ “ข้าเข้าใจแล้ว”

สตรีภายใต้หมวกผ้าโปร่งยิ้มเยาะ แล้วจากไป

สายตาของหนานชิงชิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

นางยืนพิงประตูกำหมัดแน่น “หนานหว่านเยียน รอข้าสะสมกำลังสักระยะหนึ่งก่อน แล้วเจ้าจะไม่มีโอกาสได้พลิกสถานการณ์กลับมาอีกเลย!”

ในค่ำคืนนี้ เกิดความวุ่นวายไปทั่ว

เช้าตรู่ของวันถัดมา ถนนและตรอกซอกซอยในเมืองหลวง หน้าแผ่นป้ายประกาศที่ติดไว้เต็มไปด้วยผู้คนรายล้อมมุงดู

“นักโทษหนานชิงชิง มีความคิดชั่วร้ายลอบสังหารราชวงศ์ มีโทษมหันต์ แต่เมื่อพิจารณาว่ามีเชื้อสายราชวงศ์ จึงจะไว้ชีวิต และถูกส่งไปยังวัดชิงอันของเมืองหลินต่อไป เพื่อไถ่บาปทบทวนตัวเองตลอดชีวิต ห้ามกลับมายังเมืองหลวงอีก…”

มีผู้คนบ่นพึมพำ เกิดความโกลาหลขึ้นมา

พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก พูดคุยกันว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ มีพรสวรรค์ก็ไม่แน่ว่าจะมีคุณธรรม

ท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่าน ชายขาเป๋ร่างอ้วนสวมหมวกไม้ไผ่ได้แตะขอบหมวกไม้ไผ่ของเขา เผยให้เห็นการแสดงออกที่มุ่งร้าย

ภายใต้หมวกไม้ไผ่ ใบหน้าซีดเซียวของพ่อบ้านกาวดูเย็นชา เขาอ่านประกาศ แล้วหันหลังหายไปในฝูงชน

เขาต้องไปพบคุณหนูน้อย เพื่อถามเรื่องจี้หยก หากเขาเข้าใจผิดคุณหนูน้อย เขาจะ…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *