ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่645 ใครอนุญาตให้พวกเจ้าเลือกนางสนม

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่645 ใครอนุญาตให้พวกเจ้าเลือกนางสนม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 645
เสิ่นอี่ว์เดินมาทางพวกเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หยุดยืนอยู่ด้านหน้าของหยุนเหิง

เฟิงยางและหนานหว่านเยียนต่างก็ก้มหน้า ยืนอยู่ด้านหลังของหยุนเหิงด้วยความเคารพ

หยุนเหิงทักทายเสิ่นอี่ว์ด้วยท่าทีที่ปกติของเขา“องครักษ์เสิ่น มีเรื่องอันใดหรือ?”

เสิ่นอี่ว์มองไปที่สาวใช้ทั้งสองที่ด้านหลังของหยุนเหิง รู้สึกคุ้นตา แต่ก็มิคิดสิ่งใด หันไปจับมือกับหยุนเหิงและเอ่ยว่า“ท่านแม่ทัพน้อย มีเรื่องต้องขอความช่วยเหลือจากท่านจริงๆ ขอเชิญท่านตามข้ามา”

หยุนเหิงขมวดคิ้ว แม้เขาจะมิวางใจเรื่องหนานหว่านเยียน แต่บัดนี้กลับทำได้แค่ตามเสิ่นอี่ว์ออกไป

เขาหันกลับไป จงใจใช้น้ำเสียงที่ออกคำสั่งกับหนานหว่านเยียนและเฟิงยาง“ไป๋จื่อ เจ้าก็มิใช่ครั้งแรกที่ตามข้าข้ามาที่วัง เจ้าพาเฟิงยางไปรอข้าที่สระบัวเถิด รอข้าจัดการเรื่องเสร็จ ข้าจะกลับไปหาพวกเจ้า”

“ในวังมิเหมือนด้านนอก พวกเจ้าทั้งสองต้องระวัง อย่าทำเสื้อผ้าพวกนายท่านเลอะเด็ดขาด”

การคัดเลือกนางสนมอยู่ที่อุทยานหลวง สระบัวอยู่ห่างจากอุทยานหลวงอยู่บ้าง คงจะมิเจอกันหรอก

“เพคะ แม่ทัพน้อย”หนานหว่านเยียนและเฟิงยางโค้งลงพร้อมกัน ตอบกลับด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

หยุนเหิงเดินจากไปพร้อมเสิ่นอี่ว์ เมื่อเห็นว่าเสิ่นอี่ว์จำนางมิได้ หนานหว่านเยียนก็วางใจไปได้เยอะ เดินตรงไปที่สระบัวพร้อมกับเฟิงยางอย่างสุดฝีเท้า

นางคิดว่าที่สระบัวนั่นจะมิมีผู้ใด มิคิดว่าจะครึกครื้นถึงเพียงนี้ หญิงสาวที่แต่งตัวสวยงามมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่

ในนั้นมีผู้ที่หน้าตาคุ้นเคยมิน้อย แม้แต่เจียงหรูเยว่ก็อยู่ที่นี่ด้วย

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วอย่างประหม่า เกิดอันใดขึ้น มิใช่ว่าจัดการเลี้ยงชมดอกไม้หรือ ทำไมคนพวกนี้มิไปอยู่ที่อุทยานหลวง มาที่นี่ทำอันใดกัน?

แผ่นดินนี้ช่างแคบเหลือเกิน

นางเอ่ยอย่างเฉียบขาดว่า:“เฟิงยาง ไป”

ทั้งสองต้องการจะเดินออกไปอย่างเงียบๆ แต่จู่ๆ ก็ถูกคนเรียกให้หยุด น้ำเสียงช่างคุ้นเคยเสียจริง

“โยว น้องสาวท่านนั้นอย่าพึ่งไปสิ งานเลี้ยงชมดอกไม้มิได้อยู่ที่อุทยานหลวง มารวมตัวกันที่นี่ต่างหาก เจ้าเป็นคนที่ใดกัน ทำไมไม่เคยเห็น?”

เดิมทีเจียงหรูเยว่กำลังพูดคุยอยู่ จู่ๆ ก็เห็นหนานหว่านเยียนและเฟิงยางที่อยู่มิไกล นางคิดว่าเป็นผู้ที่จะมาเลือกนางสนมเช่นเดียวกัน จึงตั้งใจร้องเรียกเสียงดัง

หายากนักที่จะมีผู้ที่หน้าตาธรรมดาเช่นนี้ แต่อย่าจากไปเลย มิมีใบเขียวจะชูดอกสีแดงที่สวยสดได้เยี่ยงไร

เจียงหรูเยว่ร้องเรียกเสียงดังนั้น ทำให้ผู้คนดึงดูดความสนใจมาที่นาง และทุกสายตาก็จับจ้องไปที่หนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนและเฟิงยางในตอนนี้ จะเดินก็มิได้ จะมิเดินก็มิได้

หนานหว่านเยียนเข้าใจเจียงหรูเยว่เป็นอย่างมาก คนเช่นนี้รักหน้าตนเองโดยแท้ ถ้าหากมิเชื่อฟังนางต่อหน้าผู้คน เกรงว่าจะต้องถูกเพ่งเล็งเป็นแน่

นางและเฟิงยางยังยืนอยู่ที่เดิม มิได้เอ่ยสิ่งใดออกไป บางคนก็หัวเราะเยาะบางคนก็เหยียดหยาม ชี้นิ้วมาและเอ่ย

“พระเจ้า หน้าตาธรรมดาเช่นนี้ ก็กล้าเข้าวังมาเพื่อคัดเลือกนางสนม?”

“นางสวมใส่เพียงหมั่วซาธรรมดา และที่ติดผมที่ใส่ก็ราคาถูกมาก ดูก็รู้ว่ามิใช่ตระกูลมีชื่อเสียง ก็มิรู้ว่าหลุดเข้ามาที่นี่ได้เยี่ยงไร พี่สาวเจียง ท่านสูงส่งเช่นนี้ อย่าไปอยู่ใกล้นางนักเลย”

เจียงหรูเยว่เห็นผู้คนดูแคลนและเหน็บแนมหนานหว่านเยียน กลับกันนางได้รับความยกย่องให้ดูสูงส่ง จิตใจที่ใฝ่สูงของนางก็พึงพอใจมาก

นางเม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่เหยียดหยาม และเอ่ยขึ้น“โธ่ คนสมัยนี้มิรู้จักดูตนเอง ชอบให้ตนเองถูกดูถูก แต่ก็มิเป็นไร เพราะมีผู้ที่ทำให้ข้าเด่นเยี่ยงนี้ ความงามของข้าถึงจะชัดเจนขึ้น”

ทุกคนหัวเราะออกมา เจียงหรูเยว่เล่นผมตนอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมเวลานี้แล้ว ทำไมยังมิมีวี่แววของไทเฮาและไท่เฟยเหนียงเหนียง?”

เฟิงยางที่ได้ยินคนกลุ่มนี้พูดมิดีต่อหนานหว่านเยียน อาวุธที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อก็สั่นทันที นางมองไปที่เจียงหรูเยว่ด้วยสายตาที่เย็นชาและอาฆาต แต่กลับถูกหนานหว่านเยียนเขย่าเบาๆ ที่ข้อมือเสียก่อน

คนกลุ่มนี้แล่นเรือไปตามลม และเห็นได้ชัดว่าเจียงหรูเยว่เป็นพวกแมวมิอยู่ หนูร่าเริง

จุดประสงค์ของนางในวันนี้มิใช่การมีปัญหา แต่เพื่อหาที่อยู่ของเกี๊ยวน้อย มิควรสร้างปัญหาใหม่

เฟิงยางเห็นหนานหว่านเยียนทำเช่นนี้ ทำให้สายตาอาฆาตก็จางหายไป อยู่ข้างกายของหนานหว่านเยียนอย่างเชื่อฟัง

ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีคนร้องออกมาอย่างตกใจ“พวกเจ้าดูตรงนั้นสิ! นั่นคือ คือโหรวเฟยใช่หรือไม่?”

ได้ยินเช่นนั้น ผู้คนก็ต่างมองไปด้วยความสนใจ

พวกนางได้ยินมานานแล้วว่าหยุนอี่ว์โหรวท้องได้สามเดือนแล้ว แต่พึ่งจะได้เข้าวังมาเมื่อวานนี้เอง

แม้ว่าเวลาจะช้านัก แต่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าในใจของกู้โม่หานยังมีหยุนอี่ว์โหรวอยู่

ผู้ที่พวกนางต้องประจบในวันนี้ มิใช่เพียงแค่ไทเฮาและไท่เฟยเหนียงเหนียงเพียงสองคนเท่านั้น

หนานหว่านเยียนและเฟิงยางก็ได้หันไปดูเช่นกัน เห็นปี้หยุนพยุงหยุนอี่ว์โหรวเดินมาทางพวกนาง ด้านหลังยังมีคนในวังเดินตามมาอีก

หยุนอี่ว์โหรวหน้าตาดูมีราศี ริมฝีปากมีสีเล็กน้อย สวมชุดกระโปรงสีเขียว นางมีเสน่ห์และดูบริสุทธิ์กว่าดอกไม้ข้างทางเสียอีก

การปรากฏตัวของนาง ทำให้หญิงสาวอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นมืดดับลงไปหลายส่วน

ทุกคนโค้งคำนับให้กับหยุนอี่ว์โหรว“หม่อมฉันขอต้อนรับโหรวเฟยเหนียงเหนียง!”

ดวงตาของหนานหว่านเยียนมองไปที่ท้องกลมของหยุนอี่ว์โหรวที่กำลังตั้งครรภ์ ดวงตาของนางมีน้ำสั่นไหว โค้งตัวก้มลงไปพร้อมกับหญิงสาวกลุ่มนั้นอย่างเงียบๆ

เมื่อนับดูแล้ว นางกับหยุนอี่ว์โหรวก็มิได้เจอกันมาสามเดือนแล้ว มิคิดเลยว่าหยุนอี่ว์โหรวจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีเช่นนี้ ผิวของนางเปล่งปลั่งและมีเลือดฝาด

หยุนอี่ว์โหรวในเมื่อก่อนชื่นชอบความรู้สึกที่ถูกคนล้อมรอบมองเหมือนดวงดาว แต่ในตอนนี้ นางทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ และเอ่ยกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม

“ทุกคนมิต้องพิธีรีตองเช่นนี้ งานเลี้ยงชมดอกไม้ในวันนี้ ไทเฮาและไท่เฟยเหนียงเหนียงมิได้มา ให้ข้าเป็นเจ้าภาพงานนี้แทน”

หลังจากนั้น นางก็ถูกปี้หยุนพยุงให้ไปนั่งบนที่นั่ง หลังจากเห็นทุกคนลุกขึ้นมา จึงเอ่ยต่อว่า“แม้วันนี้จะบอกว่าเป็นงานชมดอกไม้ แต่จุดประสงค์จริงๆ ของมันนั้น คาดว่าทุกคนคงรู้ดีแก่ใจ”

“ในวันนี้ข้าจะคัดเลือกนางสนมที่อยู่ในงานวันนี้มาห้าคน เมื่อถึงเวลา ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้งห้าคนนั้นก็ไปแสดงฝีไม้ลายมือต่อหน้าฮ่องเต้ได้ หากทำให้ฮ่องเต้สนใจได้ นั่นก็เป็นพรอันประเสริฐของพวกเจ้า”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนก็มีชีวิตชีวาและตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที

มีหญิงสาวนับมิถ้วนที่กระตือรือร้น และดวงตาเป็นประกาย

ใครจะมิอยากแต่งงานกับเทพสงคราม อีกทั้งเทพสงครามในบัดนี้เป็นถึงฮ่องเต้ที่มีเกียรติมากและอายุยังน้อย ทำให้ยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก

หนานหว่านเยียนจ้องไปที่หยุนอี่ว์โหรวที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง ดวงตานางกะพริบอย่างมีความหมายลึกซึ้ง

คิดมิถึงว่าเวลาเพียงแค่สามเดือน หยุนอี่ว์โหรวดูมั่นคงและล้ำลึกมากขึ้น

หากว่ากันตามเหตุผล เมื่อก่อนหากนางเจอเหตุการณ์เช่นนี้ หยุนอี่ว์โหรวจะต้องเข้ามาขัดขวางอย่างหึงหวงเป็นแน่

แต่ในวันนี้ หยุนอี่ว์โหรวทั้งอ่อนโยนและใจกว้าง ช่างเหมาะสมเสียจริง

เจียงหรูเยว่กลับมิได้สงบเยี่ยงนั้น นางเดินไปอยู่ต่อหน้าหยุนอี่ว์โหรวเพียงมิกี่ก้าว จับมือของหยุนอี่ว์โหรวไว้ เค้นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นและสอพลอออกมา จงใจเอ่ยออกมาว่า“โหรวเฟยเหนียงเหนียง มิเจอกันนาน ท่านดูท่านสิ ในตอนนี้สวยและมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมอีก”

“ว่ากันว่าพระเจ้าโปรดปรานคนงาม ท่านก็คือตัวอย่างหญิงงามที่ดีที่สุด บัดนี้พระชายาเฉิงฆ่าตัวตายโดยมิมีเหตุผล ฮองเฮายังเสียไปโดยมิคาดคิดอีก มีเพียงท่านที่ยังอยู่ข้างกายฮ่องเต้ อีกทั้งยังตั้งท้องทายาทมังกร ช่างเป็นความโชคดีและเป็นเกียรติยศเสียนี่กระไร!”

“ท่านและหม่อมฉันก็นับว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน นิสัยของหม่อมฉันท่านก็รู้ดี หากได้ดูแลฮ่องเต้ไปพร้อมกับท่านโหรวเฟยนั้น หม่อมฉันจะรู้สึกขอบคุณอย่างท่วมท้น!”

หนานชิงชิงตายแล้ว หนานหว่านเยียนก็ตายแล้ว หยุนอี่ว์โหรวช่างมีความสามารถอย่างแท้จริง

แต่ว่า นางก็มิได้แย่กว่า นางสามารถเรียกหยุนอี่ว์โหรวว่าพี่สาวได้ แต่เมื่อเข้าวังมาแล้ว ก็ต้องพึ่งความสามารถของตนเองในการแย่งคนมาให้ได้

หยุนอี่ว์โหรวยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา ค่อยๆ ถอนมือออก“แม่นางเจียง เรื่องแบบนี้เจ้าน้องอาศัยความสามารถของตนเองในการต่อสู้”

ขณะที่เอ่ยนั้น นางมองไปที่ฝูงชน น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่กลับดุดันเอ่ยขึ้น“พวกเจ้าก็อย่าเก็บซ่อนอยู่เลย พึ่งพาความสามารถของตนเพื่อให้ได้รับเกียรตินี้ ในวันนี้ ก็ประกวดแต่งกลอนให้หัวข้อดอกไม้เถิด ใครที่เป็นผู้นำและเบียดไปสู่ห้าอันดับแรกได้นั้น คนผู้นั้นก็จะได้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่วังในคืนนี้”

“เช่นนั้น เริ่มได้ ณ บัดนี้——”

หยุนอี่ว์โหรวยังมิทันเอ่ยจบ กลับเห็นหัวเกี๊ยวกลมๆ โผล่มา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียงเด็กที่ดุร้ายว่า——

“ช้าก่อน ใครอนุญาตให้พวกเจ้ามาเลือกนางสนมที่นี่ หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *