ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 612 หมอหลวงตรวจอาการ

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 612 หมอหลวงตรวจอาการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 612
เมื่อเห็นเกี๊ยวน้อยกำลังจะโพล่งทุกอย่างออกมา หนานหว่านเยียนก็รีบจับและตัดบทเกี๊ยวน้อยทันที

“เสด็จย่า ข้ามีอาการวิงเวียนศีรษะและมีไข้ จับชีพจรแล้ว แค่เหนื่อยนิดหน่อย ทำให้ข้าเป็นไข้หวัด ท้องอืดท้องเฟ้อ ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

ไทเฮาเคยมีลูกมาก่อน หากให้เกี๊ยวน้อยบอกอาการของนางจริงๆ เกรงว่าไทเฮาจะคาดเดาได้ว่านางตั้งครรภ์ เมื่อถึงเวลานั้นหากเชิญหมอหลวงมา นางจะปิดไม่อยู่

เกี๊ยวน้อยกะพริบดวงตาสดใส มองไปที่หนานหว่านเยียน สงสัยว่าทำไมท่านแม่ถึงโกหก ช่วงนี้ท่านแม่ยังมีอาการขี้เซามากเป็นพิเศษอีกด้วย

แต่นางคิดว่ามารดาคงไม่อยากให้เสด็จย่าทวดเป็นกังวล “อืมๆ ใช่แล้ว ท่านแม่พูดถูก”

ความยินดีในหัวใจของไทเฮาเหือดหายลงครึ่งหนึ่งในทันใด ความสงสัยฉายผ่านแววตา “จริงหรือ? มีอาการง่วงนอนไหม?”

เมื่อครู่นางรู้สึกว่าปฏิกิริยาของหนานหว่านเยียน ไม่ต่างจากการตั้งครรภ์มากนัก

แต่เมื่อได้ยินหนานหว่านเยียนพูดเช่นนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นอาการป่วยมากกว่า

หนานหว่านเยียนเย่อหยิ่งอยู่ในใจ ส่ายหน้ากล่าวว่า “นอนหลับเป็นปกติเพคะ”

ไทเฮาทอดถอนใจ ยังนึกว่าจะได้อุ้มหลานจ้ำม่ำแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างก็ควรเอาอาหารพวกนี้ออกไป แล้วเอาอาหารอ่อนๆ มาแทน เหลือขนมพวกนั้นไว้ ดวงใจน้อยๆ ทั้งสองของข้าชอบกิน”

“เพคะ” สาวใช้ในวังที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ รีบตอบ หลังจากทำความสะอาดคราบสกปรกบนพื้นแล้ว ก็รีบเก็บอาหารที่นำมาถวายออกไปทั้งหมด

เพียงครู่เดียว สาวใช้ในวังก็ถืออาหารอ่อนๆ ที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ เข้ามา หนานหว่านเยียนฉวยโอกาสที่ไม่มีใครสนใจ แอบอมมะขามเปรี้ยวไว้ในปาก ให้ทนต่ออาการคลื่นไส้แล้วรีบกินอาหารเข้าไป

ตั้งแต่ต้นจนจบนางพยายามหลีกเลี่ยงการพูด

เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ พยายามคีบอาหารให้ไทเฮา เอาอกเอาใจให้ไทเฮามีความสุข

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน หนานหว่านเยียนก็ไม่อยากอยู่ต่อ ด้วยเกรงว่าจะเปิดเผยความจริงที่นางกำลังตั้งครรภ์

นางดึงเด็กหญิงทั้งสอง ทำความเคารพไทเฮา “เสด็จย่า เยียนเอ๋อยังรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก อยากพาเด็กทั้งสองกลับไปพักผ่อนก่อน”

“รอให้เยียนเอ๋อร์พักฟื้นจนหายดีแล้ว ค่อยพาพวกนางมาพบท่านใหม่”

แม้ว่าไทเฮาจะไม่อยากแยกกับสามแม่ลูก แต่ก็ไม่ได้บังคับให้อยู่ต่อ

“ไม่เป็นไร รีบกลับไปพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงเถอะ อีกสองวันก็จะถึงพิธีมอบบรรดาศักดิ์ของเจ้ากับฮ่องเต้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ต้องแต่งตัวให้งดงามนะ”

เมื่อพูดถึงพิธีมอบบรรดาศักดิ์ในอีกสองวันข้างหน้า ดวงตาของหนานหว่านเยียนก็มืดมนลงอย่างไร้ร่องรอย สีหน้ายังคงเป็นปกติ “เพคะ หลานสะใภ้ทราบแล้ว”

เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยเดินตามหนานหว่านเยียนอย่างเชื่อฟัง ยิ้มหวานให้ไทเฮา “แล้วพบกันเพคะเสด็จย่าทวด วันหลังพวกข้าจะมาเล่นกับท่านใหม่!”

“รีบกลับเถอะ” ไทเฮายิ้มตาหยีมองตามสามแม่ลูกไป หลังจากที่ตำหนักหลวนเฟิ่งสงบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว รอยยิ้มบนริมฝีปากของนางก็ค่อยๆ หุบลง พลางตะโกนเรียกอย่างมีความคิด “หลี่หมัวมัว!”

หลี่หมัวมัวเดินขึ้นมาจากทางด้านข้าง ก้มหน้าด้วยความเคารพ “บ่าวอยู่นี่แล้วเพคะ”

ไทเฮาถามอย่างระแวงสงสัย “เมื่อครู่เจ้าเห็นปฏิกิริยาของเยียนเอ๋อร์แล้วใช่ไหม เจ้าว่า เหมือนตั้งครรภ์ไหม?”

หลี่หมัวมัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ “บ่าวคิดว่าเป็นเช่นนั้น แต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็บอกไม่ใช่หรือว่า นางแค่เป็นหวัดและมีอาการท้องอืด?”

หรือว่า ไทเฮาจะไม่เชื่อคำพูดของฮองเฮา?

ไทเฮาส่ายศีรษะไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น “ข้าไม่คิดเช่นนั้น”

ทักษะทางการแพทย์ของเยียนเอ๋อร์นั้นหาตัวจับยาก นางมีความชัดเจนในอาการป่วยของผู้อื่น แต่มักจะสับสนเรื่องตัวเอง บางทีนางอาจจะไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกไม่สบายกายเลย ข้าคิดว่านางตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว”

หลี่หมัวมัวเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “เอ่อ…ไม่น่าเป็นไปได้นะเพคะ?”

“เยียนเอ๋อร์เป็นคนไม่สนใจไยดีอะไร มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีกล่ะ” ไทเฮาหลุบตาลง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้ารีบไปที่ตำหนักหย่างซิน เตือนสติฮ่องเต้เสียหน่อย ไม่ว่ากิจในวังจะยุ่งเพียงใด ก็ห้ามลืมภรรยาหลวงของตัวเอง ควรให้หมอหลวงไปจับชีพจรดู รีบจัดการให้เร็วที่สุด”

หลี่หมัวมัวเข้าใจความหมายในคำพูดของไทเฮาทันที…

ไทเฮาไม่แน่ใจว่าหนานหว่านเยียนตั้งครรภ์หรือไม่ จึงขอให้กู้โม่หานเชิญหมอหลวงมาตรวจดู ทุกอย่างก็จะกระจ่าง…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *