ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 573 จากไป

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 573 จากไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 573 จากไป

หนานหว่านเยียนมองบุตรสาวทั้งสองคนน่ารักน่าเอ็นดูเช่นนี้ ด้วยสายตาโล่งใจ อดลูบหัวน้อยๆ ของพวกนางไม่ได้

หยีเฟยยิ่งอดตาแดงก่ำไม่ได้ อบอุ่นในใจสุดแสนจะพรรณนา

นางมองดูเด็กน้อยทั้งสองด้วยความเอ็นดู รักใคร่อย่างมาก

“ช่าง เป็น แก้วตา ดวงใจ ของ ย่า จริงๆ”

“ทั้ง รู้ความ ทั้ง น่ารัก น่าเอ็นดู มา เข้ามา ใกล้ ย่า หน่อย”

มีหลานสาวตัวน้อยอ่อนโยนสองคนขนาดนี้ ช่างตัดใจปล่อยมือไม่ลงจริงๆ!

เมื่อหวางหมัวมัวเห็นหยีเฟยมีความสุขเช่นนี้ ก็มีความสุขในใจมากเช่นกัน

ต้องบอกว่า พระชายาอบรมสั่งสอนลูกดีมากจริงๆ เช่นเดียวกับทักษะทางการแพทย์ ช่างน่าชื่นชม

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยสบตากัน ก็รู้ว่าหยีเฟยมีความสุขมาก

สองคนพี่น้องจึงย้ายเก้าอี้สองตัวมาอย่างเชื่อฟัง เหยียบขึ้นไป ก่ายตัวข้างหมอนหยีเฟย

เกี๊ยวน้อยจ้องมองหยีเฟยด้วยสายตาสดใส เอ่ยเสียงอ้อนแอ้นว่า “เสด็จย่า รอท่านดีขึ้นแล้ว ข้าจะพาท่านไปดูล่ากับปู๋ล่าพวกมันคือเพื่อนรักของพวกข้า เชื่องมาก! ท่านจะต้องชอบแน่นอน!”

ซาลาเปาน้อยก็พยักหน้าอย่างขยันขันแข็ง “อื้อ และก็ บ้านของโม่เซียนเซิงมีขนมหวานๆอร่อยมาก มีโอกาสเมื่อใด ข้ากับพี่สาวจะพาเสด็จย่าไปกินขนมหวานๆ!”

หยีเฟยกะพริบตาอย่างปลื้มใจ ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

โม่เซียนเซิงที่ซาลาเปาน้อยเอ่ยถึง น่าจะเป็นยวนหลี ส่วนขนมหวานๆนั้น ในความประทับใจของนาง มีเพียงขนมแห้วของแคว้นต้าเซี่ย มีกลิ่นหอมหวาน และนุ่มมาก

ดูท่า ยวนหลีเข้ากับเด็กน้อยสองคน ได้ไม่เลวนะ

แต่นางไม่ได้แสดงออกไป เพียงเอ่ยว่า “ดี ย่า เชื่อ พวกเจ้า”

หนานหว่านเยียนเห็นสามคนย่าหลานเข้ากันได้อย่างกลมกลืนและอบอุ่น ความกังวลของหนานหว่านเยียนก่อนหน้านี้ก็หายไป

พวกนางเข้ากันได้ดี นางก็สบายใจขึ้นมาก ถือเป็นการเก็บความทรงจำดีๆ ก่อนจากกัน…

เมื่อกู้โม่หานกลับถึงจวนอ๋อง ก็ตรงดิ่งไปเรือนเซียงหลิน แต่กลับไม่เจอหนานหว่านเยียน

เซียงอวี้บอกว่านางไปพบเสด็จแม่ เขาก็นึกถึงคำพูดที่เสด็จแม่เอ่ยวันนี้ รีบไปเรือนหยีเฟยทันที

แต่ยังไม่ทันถึงหน้าประตูเรือน เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยดังมาจากในเรือน

ทั้งยังมีเสียงหัวเราะเด็กทั้งสองคน

ชายหนุ่มชะงักเท้าทันที สายตาอ่อนลงไม่น้อย

เขาเดินเข้าไปในเรือน ก็เห็นหนานหว่านเยียนกับ หวางหมัวมัวกำลังดันเสด็จแม่ให้เดินเล่นในเรือน ข้างกายพวกนาง มีเด็กสองคนหัวเราะตาหยี มีความสุขมาก

เขาเคยเห็นฉากกลมกลืนรักใคร่นี้ หลายครั้งในความฝัน คาดไม่ถึงว่าวันหนึ่ง ฉากนี้จะอยู่ใกล้ แค่เอื้อมเท่านั้น

ทันใดนั้น กู้โม่หานมีความคิดมากมายถาโถมเข้าใส่ในใจ ริมฝีปากบางเผยอออก พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน

“เสด็จแม่ หว่านเยียน เกี๊ยวน้อย ซาลาเปาน้อย ข้ากลับมาแล้ว”

เมื่อได้ยิน เสียงหัวเราะของทุกคนพลันหยุดลง ทยอยมองไปทางกู้โม่หาน

เห็นกู้โม่หานที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดิน ดวงตาหนานหว่านเยียนสั่นไหว แต่กลับไม่พูดอะไร

หยีเฟยก็ไม่ได้ดุร้ายกับกู้โม่หานเหมือนก่อนหน้านี้ สีหน้าอ่อนโยน เกี๊ยวน้อยก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เพราะก่อนหน้านี้กู้โม่หานพาพวกนางออกไปเที่ยวเล่น

“ท่านพ่อกลับมาแล้ว! พวกข้ากำลังเล่นกับเสด็จย่าอยู่เลย!”

หวางหมัวมัวก็ต้อนรับอย่างกระตือรือร้น “ท่านอ๋อง พระชายาพาเสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสองมาเยือนเหนียงเหนียง เหนียงเหนียงมีความสุขมากเพคะ!”

“ท่านรีบนั่งเถอะ บ่าวจะไปเตรียมของว่างมาให้เพคะ”

กู้โม่หานมองหวางหมัวมัว พยักหน้าเล็กน้อย “อืม ลำบากเจ้าแล้ว”

เขาเดินไปตรงหน้าหยีเฟย ทำความเคารพหยีเฟยนางอย่างนอบน้อมก่อน แล้วย่อกายลง ใช้นิ้วมือเรียวยาวหยิกหน้าเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยเบาๆ

“พวกเจ้ากำลังเล่นอะไรกับเสด็จย่าอยู่รึ”

เกี๊ยวน้อยครุ่นคิด แล้วตอบด้วยรอยยิ้ม “ความลับ!”

ซาลาเปาน้อยก็พยักหน้าด้วย “เป็นความลับระหว่างสตรี!”

เสด็จย่าน่าสนใจจริงๆ!

ชอบอ่านหนังสือน่าอัศจรรย์พวกนั้น เหมือนกับท่านแม่ เรื่องที่พวกนางพูด เสด็จย่าล้วนเข้าใจ!

กู้โม่หานนึกฉงนเล็กน้อย เพียงครู่เดียวบุตรสาวก็มีความลับกับเขาแล้วรึ

เขาไปค่ายเสินเชื่อ เพียงแค่หนึ่งชั่วยามเองกระมัง

หนานหว่านเยียนไม่อยากให้เขาถามมาก เกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม ที่จะพูดผิดหูต่อหน้าหยีเฟย จึงเอ่ยว่า “ตอนนี้ตกเย็นอากาศเริ่มหนาวแล้ว พาเสด็จแม่กลับห้องกันก่อนเถอะ”

เมื่อหยีเฟยได้ยิน ก็จับมือหนานหว่านเยียนทันที

“มะ ไม่กลับ ขะ ข้าอยาก ครื้นเครง กิน อาหารเย็น ด้วยกัน กับ พวกเจ้า”

“คะ แค่อยู่ นะ ในเรือน ข้า ไม่หนาว”

วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะรวมตัวอยู่ด้วยกัน และมีความสุขมากขนาดนี้ วันหน้าพวกเขาต่างต้องยุ่งวุ่นวาย อยากจะครื้นเครงเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะอีกกี่ปีกี่เดือน

นอกจากนี้ หนานหว่านเยียนกับเด็กทั้งสองคนจะจากไปแล้ว…

ไม่สู้ฉวยโอกาสครั้งนี้ร่วมมื้ออาหาร ถือว่าเป็นมื้อจากลาก่อนที่จะแยกทางกัน

หยีเฟยเอ่ยต้องการให้ทั้งครอบครัวร่วมมื้ออาหารด้วยกัน กู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนต่างผงะพร้อมกัน

ทั้งสองคนสบสายตา ไม่มีใครอยากทำให้หยีเฟยเสียอารมณ์

กู้โม่หานโค้งริมฝีปาก “ได้พ่ะย่ะค่ะ ลูกจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

หนานหว่านเยียนก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “งั้นข้าพาท่านกลับห้องไปสวมเสื้อผ้าเพิ่ม ท่านจะได้ไม่เป็นหวัด”

เด็กทั้งสองคนก็พูดพร้อมกันว่า “พวกข้าจะไปกับเสด็จย่าด้วย!”

หยีเฟยรู้สึกซาบซึ้งอบอุ่นในใจ “ดะ ได้”

เมื่อหนานหว่านเยียนพาหยีเฟยเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และเด็กทั้งสองกลับเรือนมาอีกครั้ง ก็พบว่ามีโต๊ะเก้าอี้ตั้งอยู่ในเรือนเรียบร้อยแล้ว

ภายในเรือน แม้แต่เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงต่างก็มาช่วย

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงเจอหยีเฟยหลังจากฟื้นขึ้นมา

ทั้งสองคนรีบทำความเคารพทันที “บ่าวถวายพระพรหยีเฟยเหนียงเหนียงเพคะ”

“ข้าน้อยน้อมคำนับเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ”

ตั้งแต่หยีเฟยฟื้นขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ยู่กับคนมากมายขนาดนี้

“ไม่ต้อง มากความ”

จากนั้น นางก็ตบหลังมือหนานหว่านเยียนเบาๆ “ไป นั่ง เถอะ”

“เพคะ” หนานหว่านเยียนพยักหน้า ประคองหยีเฟยไปที่โต๊ะ

เด็กทั้งสองคนตามหลังมาไปที่โต๊ะ อย่างเชื่อฟัง “เสด็จย่านั่งก่อน!”

หยีเฟยดีใจทันที “เด็กดี”

นางนั่งตรงข้ามกับกู้โม่หานเด็กทั้งสองคนก็นั่งลงขนานนาบนางอย่างรวดเร็ว แกว่งเท้าเล็กๆ ไปมารอเริ่มมื้ออาหาร

นางมีความสุขอยู่ในใจ ก็เห็นหนานหว่านเยียนคิดจะนั่งข้างเกี๊ยวน้อย ซึ่งระหว่างกู้โม่หานยังมีที่นั่งว่างอยู่

หยีเฟยเอ่ยปากขึ้นมาทันที “ลูกสะใภ้ นะ นั่ง ข้าง โม่หาน สิ”

“เก้าอี้ ที่ ไม่ใช้ ก็ เอา ออกไป ให้หมด ทุกคน อยู่ใกล้ชิด จะได้ ครื้นเครง อบอุ่น”

เมื่อได้ยิน เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงสบตามองกัน อดแอบปลื้มปริ่มในใจไม่ได้

เดิมพวกเขายังกังวลว่าหยีเฟยจะไม่ชอบหนานหว่านเยียน ดูท่าตอนนี้ หยีเฟยไม่เพียงรักใคร่หนานหว่านเยียนมากขึ้น ยังเต็มใจเห็นหนานหว่านเยียนไปกันด้วยดีกับกู้โม่หานเหมือนพวกเขาด้วย

“เพคะเหนียงเหนียง!”

เขาทั้งสองคนเอาเก้าอี้ส่วนเกินออกด้วยความกระตือรือร้น

หนานหว่านเยียนไม่ได้คัดค้านอะไร แม้จะต้องหย่าร้าง แต่นางกับกู้โม่หานก็ไม่ถึงขั้นต้องตายกันไปข้าง ไม่มีปัญหาที่จะต้องนั่งร่วมกัน

แต่กู้โม่หานกลับผงะ เขายังนึกว่าเสด็จแม่จะช่วยหนานหว่านเยียนหย่าร้างกับเขา คาดไม่ถึงว่าจะปากร้าย แต่ความเป็นจริงกลับช่วยเขา

ใบหน้าหล่อเหลาของเขาประดับรอยยิ้มขึ้นมาหลายส่วน คิ้วงามละออดูนุ่มนวล นั่งติดกับหนานหว่านเยียน

หยีเฟยเห็นหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานก็รู้สึกปลงเล็กน้อย

สุดท้ายหว่านเยียนก็ต้องจากไป ถึงอย่างไรจัดการราชวงศ์แคว้นต้าเซี่ยแล้ว ก็ไม่อาจเก็บเอาไว้ได้

แต่เจ้าเด็กน้อยโม่หานนี่ก็เป็นลูกของนาง นางจะช่วยได้เท่าที่จะทำได้ละกัน

หวังเพียงว่าเมื่อวันนั้นมาถึง เจ้าเด็กโง่นี่ จะไม่เสียใจเกินไปก็คงจะดี…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *