ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 423 ท่านอ๋องแก้แค้นให้พระชายา

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 423 ท่านอ๋องแก้แค้นให้พระชายา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 423 ท่านอ๋องแก้แค้นให้พระชายา

ขณะเดียวกัน หลังกู้โม่หานกลับถึงเรือนซีเฟิงก็ไปหาเสิ่นอี่ว์ก่อน แต่ก็น่าเสียดายที่เสิ่นอี่ว์ยังไม่ฟื้นขึ้นมา

เขาขมวดคิ้ว กลับไปที่ห้องของตนเอง ถอดเสื่อคลุมบนร่างกายออก และเริ่มเปลี่ยนยาเอง

บาดแผลที่หน้าอกใกล้หายแล้ว แต่ด้านหลัง ยังคงน่าหวาดผวาอยู่

รอยแผลเป็นสีน้ำตาลแดง หลายจุดหายเป็นปกติแล้ว ส่วนที่เหลือตก ตกสะเก็ด และฉีกขาดอีกครั้ง

สีหน้าบนใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานเป็นปกติ อดทนต่อความเจ็บปวดพันผ้าพันแผลให้ตนเอง

ในขณะนั้นเอง อวี๋เฟิงก็กลับมา แล้วเห็นกู้โม่หานกำลังใส่ยา “ท่านอ๋อง ให้ข้าน้อยทำเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

ตอนเขารีบกลับมาที่จวน ก็ได้ยินว่าท่านอ๋องถูกคุณหนูทั้งสองเพิกเฉย เลยกลับเรือนด้วยความหดหู่เศร้าใจ เพราะงั้นเขาจึงรีบกลับมาโดยเร็ว

กู้โม่หานเหลือบตามองเขา ประหลาดใจเล็กน้อย “หน้าเจ้าไปโดนอะไรมา”

บนแก้มของอวี๋เฟิงมีรอยฝ่ามือสีแดงฉานประทับไว้

อวี๋เฟิงเกาหัวด้วยความลำบากใจเล็กน้อย เดินเข้าไปในห้อง “คือ…เมื่อครู่แม่นางเซียงอวี้ให้ไว้ บอกว่า ชายหญิงมิควรถูกเนื้อต้องตัวกันพ่ะย่ะค่ะ”

กู้โม่หานหน้านิ่ง “คนที่หนานหว่านเยียนอบรมเลี้ยงดูออกมา ช่างนิสัยเหมือนนางเสียจริง!”

ดื้อรั้นและเจ้าอารมณ์ ปฏิบัติต่อคนที่ไม่ชอบ มักมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนเสมอ

“ท่านอ๋อง ข้าน้อยใส่ยาให้ท่านเอง” อวี๋เฟิงยิ้มอย่างเฝื่อนฝาด ไม่กล้าพูดมาก เมื่อเขาเห็นบาดแผลด้านหลังของกู้โม่หานดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

บาดแผลด้านหลังนี่ไม่ใช่บาดแผลถูกแทง เห็นได้ชัดว่าเป็นทัณฑ์จากไม้กระบอง ผิวหนังเหวอะหวะ บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ท่านอ๋องก็ไม่ร้องเลยสักแอะ

คิ้วอวี๋เฟิงขมวดมุ่นขึ้นมา พันผ้าพันแผลและใส่ยาให้กู้โม่หานอย่างระมัดระวัง

หลังพันผ้าพันแผลเรียบร้อย กู้โม่หานเปลี่ยนมาใส่เสื้อคลุมสะอาด ใบหน้าเคร่งขรึมไม่แสดงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย เพียงแต่หน้าตา อ้างว้างโดดเดี่ยวเลือนราง

ขณะอวี๋เฟิงมอง ก็อดรู้สึกปวดใจแทนกู้โม่หานไม่ได้

เห็นอยู่ว่าท่านอ๋องห่วงใยพระชายา มิเช่นนั้นคงไม่ไปคุ้มครองพระชายาที่จวนกั๋วกง เพราะกลัวว่าพระชายาจะถูกรังแก

ตอนนี้กลับตัวใครตัวมันกับพระชายา แม้แต่แผลที่หลังก็ไม่มีใครรักษาให้…

และแน่นอนว่า เรื่องนี้โทษพระชายาไม่ได้ เพราะพระชายาแยกความรักความแค้นชัดเจน ก่อนหน้านี้เรื่องที่ท่านอ๋องให้นางรักษาพระชายารองย่อมทำให้พระชายาไม่พอพระทัย

แต่เขาไม่อยากเห็นกิ่งทองใบหยกคู่นี้ยิ่งห่างไกลกันขึ้นเรื่อยๆ อดเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมไม่ได้

“ท่านอ๋อง โปรดอภัยที่ข้าน้อยปากมาก หากท่านกับพระชายาเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าคงยากที่จะหวนกลับคืนมาได้ ทำไมท่านไม่ยอมถอย คืนดีกับพระชายาเล่าพ่ะย่ะค่ะ”

คืนดี?

หนานหว่านเยียนไม่มีทางให้โอกาสเขา

เขาก็ไม่มีทางหน้าหนา ปล่อยหนานหว่านเยียนเหยียบย่ำศักดิ์ศรี เขาคืออ๋อง เป็นเทพสงครามที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ หากมีข่าวแพร่สะพัดออกไปว่าถูกสตรีทำให้อัปยศอดสู แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ทว่าเด็กทั้งสองคนนั้น…

กู้โม่หานเริ่มปวดหัว และเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตอนหนานหว่านเยียนอยู่ที่จวนกั๋วกงปรากฏขึ้นในหัว สีหน้าพลันอึมครึมขึ้นมาทันที

หนานหว่านเยียนเกือบตกหลุมพราง ทั้งใช้กลอุบายชั่วร้ายขนาดนี้ เขาไม่มีทางปล่อยฮูหยินเฉิงเซี่ยงกับเจ้าเดรัจฉาน นั้นที่พยายามทำให้หนานหว่านเยียนด่างพร้อย

กล้าปองร้าย และรำพึงถึงสตรีของเขา เตรียมตัวตายได้เลย

“อวี๋เฟิง”

“พ่ะย่ะค่ะ!” อวี๋เฟิงรีบคุกเข่าลงบนพื้น กำมือประสานฟังด้วยความนอบน้อม

นิ้วเรียวของกู้โม่หานเคาะบนโต๊ะ อย่างเย็นยะเยือกน่าสะพรึงกลัว แผ่รังสีสังหารออกมา

“เจ้าช่วยไปสืบเรื่องบุตรชายของท่านมหาบัณฑิตที่ลักลอบสมสู่กันในจวนกั๋วกงวันนี้ บุรุษที่ไม่ควรค่าแก่การเอาออกมาให้ชมนั้นให้ข้าที”

“หากเจอหลักฐานทำผิดของเขา ไม่ต้องรายงานข้า ให้เอาหลักฐานไปที่จวนเฉินเป่าฉวนโดยตรง จากนั้น…”

เขากำชับอวี๋เฟิงสองสามคำ อวี๋เฟิงก็รับฟังอย่างเงียบๆ สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนจากเคร่งขรึมเป็นตกใจระคนดีใจ

ท้ายที่สุด เขาก็พยักหน้าตอบทันที “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว! ข้าน้อยจะไปสืบมาเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

เขารู้อยู่แล้วว่าท่านอ๋องห่วงใยพระชายา จึงทำเช่นนี้ เห็นอยู่ทนโท่ว่ากำลังระบายความโกรธและหนุนหลังให้พระชายา!

อวี๋เฟิงตื่นเต้นมาก จนไม่กล้าลีลาชักช้า หันกายออกจวนอ๋องไป

อวี๋เฟิงรวบรวมข้อมูลต่างๆ ในเมืองหลวงจำนวนไม่น้อย หลังสืบพบข้อมูลแล้ว ทั้งตกใจ และขมวดคิ้วด้วยความโกรธเกลียด

หากไม่สืบคงไม่รู้ เมื่อสืบแล้วก็ค้นพบว่า เฉินชิงเยี่ยนผู้นี้เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ย่ำยีสตรีสูงศักดิ์มากมาย ทั้งยังเคยฆ่าคนตาย

มหันตภัยเช่นนี้ เก็บเอาไว้ไม่ได้!

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือภารกิจที่ท่านอ๋องให้เขา รอเขาจัดการเรียบร้อยแล้วกลับจวนไป จะต้องรายงานท่านอ๋อง เรื่องเลวทรามที่เจ้าเดรัจฉานนี่ทำมาสารพัด

เก็บเขาไว้ไม่ได้!

ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า อวี๋เฟิงลอบเข้าไปในจวนของมหาบัณฑิต

เฉินเป่าฉวนกำลังเช็ดน้ำตาบนโต๊ะ ตอนบุตรชายของตนเองถูกจวนกั๋วกงโยนกลับมาวันนี้ มีบาดแผลนับไม่ถ้วน หมดสติ และใบหน้าก็ไร้สีเลือดแล้ว

หมอมาดูอาการเขาแล้ว แต่สถานการณ์ไม่สู้ดี จึงสลบไสลไม่ได้สติโดยตลอด

เขาโกรธ โกรธที่เจ้าลูกชายนี่ไร้ประโยชน์ ทั้งรู้สึกปวดใจที่บุตรชายคนเดียวของเขาได้รับอัปยศอดสู แม้แต่กระทั่งกับฮูหยินเฉิงเซี่ยง…

ปกติก่อเรื่องวุ่นวายก็แล้วไป แต่ครานี้กลับทำเช่นนั้นกับฮูหยินเฉิงเซี่ยง…ช่างไม่รักชีวิตเสียจริง!

เฉินเป่าฉวนถอนหายใจ จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวที่คอ กริชประกายเย็นเฉียบพาดอยู่บนคอของเขา เย็นยะเยือก

เขาเหงื่อแตกพลั่ก แต่ก็พยายามกลั้นหายใจเอาไว้ “ขอบังอาจถามว่าท่านเป็นผู้ใด”

หรือเฉิงเซี่ยงรู้สึกอับอายขายขี้หน้า จึงส่งคนมาฆ่าคนปิดปาก?

อวี๋เฟิงโยนกองจดหมายลงบนโต๊ะ เอ่ยเสียงเย็น เข้าตรงประเด็น

“ท่านมหาบัณฑิตบุตรชายของเจ้าทำเรื่องไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีมากมาย เจ้าก็น่าจะรู้กระมัง”

เฉินเป่าฉวนตกใจ กวาดสายตามองจดหมายบนโต๊ะ ทั้งหมดล้วนเป็นหลักฐานกระทำผิดที่บุตรชายเขาทำเรื่องเลวร้าย

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “เจ้าเป็นคนของใคร ถึงเอาของพวกนี้มาหลอกลวงข้า ต้องการเงินหรืออะไร”

เรื่องพวกนี้ เขาช่วยชิงเยี่ยนเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ

อวี๋เฟิงก็ไม่เล่นตัว เอ่ยเย้ยหยัน

“อ๋องอี้ไม่สนใจเงินสกปรกพวกนั้นของเจ้า ข้ามาเพื่อบอกเจ้าว่า อีกเดี๋ยวให้เจ้าเข้าวังไปฟ้องร้อง บอกว่าหนานเฉิงเซี่ยงขายตำแหน่งขุนนาง บังคับให้บุตรชายเจ้าวางแผนกระทำมิดีมิร้ายกับพระชายา…”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *