ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้บทที่ 756 ขอเพียงเขากลับมา

Now you are reading ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ Chapter บทที่ 756 ขอเพียงเขากลับมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 756
หยุนอี่ว์โหรวช่างไร้ยางอายถึงเพียงนี้ ทำให้ผู้คนในเหตุการณ์ต่างล้วนพากันเดือดดาลจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เซียงอวี้และเซียงเหลียนแทบอดกลั้นไว้ไม่ได้ ที่จะเดินหน้าเข้าไปตบหน้าหยุนอี่ว์โหรวสักหลายฉาด อีกทั้งภายในดวงตาของเฟิงยางก็เปล่งประกายสำนึกฆ่าฟันขึ้นมาบ้างแล้ว

เสิ่นอี่ว์นั้นคลั่งแค้นเดือดดาลที่สุดแล้ว กัดฟันกรอดถลึงตาจ้องมองหยุนอี่ว์โหรว กำลังกำนิ้วมือแนบแน่นจนเกิดเสียงดังกึกๆ

สีหน้ากู้โม่หานและหนานหว่านเยียนหมองคล้ำลงพร้อมกันวูบ สองสามมีภรรยาก่นด่าด้วยความโกรธเคืองขึ้นพร้อมกัน “หยุนอี่ว์โหรว จงหุบปาก!”

ณ เวลานี้ จุดประสงค์ที่ไทเฮารีบเร่งรุดมานั้นชัดเจนอย่างยิ่งแล้ว นางรุดมาเพราะลูกน้อยภายในท้องของหยุนอี่ว์โหรวนั่นเอง

และมิต้องพูดถึงในอนาคตหยุนอี่ว์โหรวจะสามารถมีชีวิตรอดหรือไม่ แต่ไทเฮาต้องการออกหน้าปกปัองนางอย่างแน่นอน เพื่อให้นางกำเนิดลูกน้อยอย่างราบรื่น

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาได้กระทำในวันนี้ ทั้งหมดก็ต้องมาล้มเหลวลงในขั้นตอนสุดท้ายอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นแล้ว!

หยุนอี่ว์โหรวทำเหมือนกับไม่ได้ยินก็ปาน ดึงแขนเสื้อของไทเฮาเอาไว้ หลั่งน้ำตานองหน้าร่ำไห้สะอึกสะอื้นรำพันไม่หยุดปาก

ไทเฮาจ้องมองนางอย่างขุ่นข้องรังเกียจ สลัดมือของนางออกอย่างเกลียดชังรำคาญใจ อีกทั้งพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีเย้ยหยันและก็ขุ่นข้องโกรธเคืองว่า

“หยุนอี่ว์โหรว ข้าเคยพูดไว้แต่แรกแล้วว่า เจ้านั้นมิใช่ตัวดีอันใดผู้หนึ่ง”

“แต่ข้าคิดมิถึงเลยจริงๆ ว่า เจ้ากลับชั่วร้ายเลวทรามจนมิอาจเยียวยาแล้ว ชั่วร้ายเลวทรามจนแม้กระทั่งกระดูกและหัวใจก็ยังเป็นสีดำแล้ว! คนลักษณะอย่างเจ้านี้ ตอนแรกเริ่มข้าก็มิสมควรรั้งเจ้าเอาไว้แล้วจริงๆ!”

พูดจบ นางก็กัดฟันอย่างไม่ยินยอมเคียดแค้นสำนึกเสียใจอย่างยิ่งเช่นกัน “แต่เวลานี้ เจ้ากำลังตั้งครรภ์บุตรขององค์ฮ่องเต้แล้ว ข้าก็มิอาจใจคอโหดร้ายเช่นนั้นจริงๆ ที่จะสังหารเหลนในอนาคตของข้าเสียชีวิตลง”

ตอนที่รุดมานั้น นางก็ได้ยินอะไรบางอย่างมาบ้างแล้ว เกี่ยวกับโทษฐานความผิดของหยุนอี่ว์โหรวนางก็รับทราบแล้วส่วนหนึ่งเช่นกัน นางรู้สึกโกรธเคืองจริงๆ แต่นั่นสืบเนื่องเพียงเพราะกู้โม่หานหุนหันพลันแล่นเลินเล่อมากเกินไป มิใช่เนื่องเพราะหยุนอี่ว์โหรวที่สมควรได้รับการลงทัณฑ์สำหรับการทำเรื่องราวชั่วร้ายทั้งหมด!

หยุนอี่ว์โหรวได้ยินคำพูด นางรู้สึกก้อนหินที่ทับอยู่ภายในใจลดน้อยลงไปมากกว่าครึ่งแล้ว “ขอบ ขอบพระทัยไทเฮาอย่างยิ่ง ขอบพระทัยไทเฮาอย่างยิ่ง!”

ขอเพียงให้นางมีชีวิตรอดอยู่ เช่นนั้นนางก็ยังมีความหวัง

แต่องค์ไทเฮาเพียงแค่เหลือบมองหยุนอี่ว์โหรวอย่างมิพอใจคราหนึ่ง จากนั้นนางก็หันมาพูดอย่างโกรธเคืองกับกู้โม่หานว่า “เจ้ามองดูซิ! เจ้าเพียงเพื่อสิ่งที่เป็นตัวอะไรผู้นี้แล้ว กลับต้องการมอบชีวิตให้นาง!”

“แล้วยังประกาศพูดสิ่งใด มิต้องการแม่น้ำสายธารภูเขาบรรพต(หมายถึงแผ่นดินแว่นแคว้น) และก็มิต้องการองค์ชายน้อยในอนาคตแล้วเช่นกัน เจ้าพูดมาซิว่า ตัวเจ้าเองนั้นเหลวไหลเลอะเลือนหรือไม่กันแน่ล่ะ!”

กู้โม่หานกัดฟันกรอด สีหน้าช่างดูยากอย่างยิ่ง เขาข่มเพลิงโทสะเอาไว้ พูดกับองค์ไทเฮาว่า “เสด็จย่า ข้าเป็นคนนะ มีทั้งเลือดเนื้อจิตวิญญาณและอารมณ์ นอกจากนี้หยุนอี่ว์โหรวก็ช่างชั่วร้ายอำมหิตจริงๆ อธิบายว่าจิตใจชั่วร้ายดุจอสรพิษดั่งแมงป่องก็ยังมิเกินเลยด้วยซ้ำ!”

“ทว่าประจวบกับข้าก็เคยติดค้างน้ำใจนางอยู่ ข้ามิต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับนางอีกแล้ว นี่คือวิธีการที่ประเสริฐที่สุด ขอให้ท่านโปรดอย่าได้สอดมือยุ่งเกี่ยวแล้ว!”

หนานหว่านเยียนก็ขมวดคิ้วแนบแน่นแล้วเช่นกัน “เสด็จย่า โทษฐานความผิดของหยุนอี่ว์โหรวช่างสุดแสนชั่วร้ายใหญ่หลวงยิ่งนัก ขนาดนางกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ยังคอยคำนวณคิดการวางแผน เพื่อลอบทำร้ายสังหารผู้อื่น ทั้งมิใช่ทรัพยากรบุคคลและไร้คุณธรรม! เด็กน้อยที่ถือกำเนิดออกมาจากคนประเภทนี้ ไม่ช้าก็เร็วจะถูกนางอบรมสั่งสอนให้เสียผู้เสียคน! หลานสะใภ้มิสามารถรับปากท่านละเว้นชีวิตนาง!”

ต่อหน้าความผิดชอบชั่วดีอันใหญ่หลวง นางไม่สามารถที่จะถอยอ่อนข้อให้!

หากหยุนอี่ว์โหรวไม่ตาย นางช่างยากคลี่คลายความเคียดแค้นเกลียดชังภายในใจจริงๆ!

องค์ไทเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าก็ซับซ้อนผสมผสานกันจนพูดไม่กระจ่างเช่นกัน

หยุนอี่ว์โหรวนึกในใจว่าไม่ได้การ จึงร่ำไห้อย่างน่าสมเพชเวทนามากยิ่งขึ้นแล้ว “หาใช่ไม่ หาใช่เป็นเช่นนี้ไม่!”

“ไทเฮา หม่อมฉัน หม่อมฉันทราบความผิดแล้วจริงๆ หม่อมฉันได้กระทำเรื่องราวขาดคุณธรรมมากมายถึงเพียงนั้น ตายก็ไม่น่าเสียดายจริงๆ แต่วันนี้หม่อมฉันยังคงต้องการขอร้องท่าน ขอร้องท่านโปรดเห็นแก่ที่หม่อมฉันกำลังตั้งครรภ์ทายาทมังกรขององค์ฮ่องเต้ ละเว้นไว้ชีวิตหม่อมฉันสักครั้งเถิดเพคะ!”

“หม่อมฉันรับปากยืนยันกับท่านว่า รอจนหลังจากทารกถือกำเนิดลืมตาดูโลกแล้ว หม่อมฉันจะไม่ติดต่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอย่างเด็ดขาด เกี่ยวกับการสั่งสอนเลี้ยงดูทั้งหมด ล้วนให้ท่านและคนในวังมารับผิดชอบเพคะ!”

นางทราบว่าวันนี้ หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานต่างล้วนต้องไม่ละเว้นนางอย่างง่ายดายเช่นนี้ แม้แต่คำพูดการลงทัณฑ์หลิงฉือก็ยังเอ่ยปากพูดออกมาแล้ว เพียงพอจะพิสูจน์แล้วว่านางสมควรตายมากเพียงใด

แต่นางมิอาจล้มลงในสถานที่นี้อย่างเด็ดขาด!

อย่างน้อย อย่างน้อยก็ให้นางช่วงชิงเวลาเพิ่มขึ้นมากขึ้นอีกหน่อย ล่วงเลยผ่านมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว คนผู้นั้นก็สมควรติดต่อกับนางแล้ว ขอเพียงเขากลับมา เขาจะต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยนางอย่างแน่นอน……

ปี้หยุนที่ถูกทำให้ตกใจจนมึนงงแต่แรกนั้น ในที่สุดเวลานี้ก็ตั้งสติกลับคืนมาแล้ว

แม้ว่าทุกอย่างในวันนี้ล้วนทำให้นางรู้สึกเหลือเชื่อมากเกินไปแล้ว แต่นางทราบว่า ตั้งแต่ต้นจนปลายหยุนอี่ว์โหรวคือเจ้านายของตน ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับหยุนอี่ว์โหรวในตอนนี้แล้วละก็ จุดจบบทสรุปของบ่าวสาวใช้อย่างนางคนนี้ จะอเนจอนาถยิ่งกว่าสุนัขตัวหนึ่งด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ นางยังได้แอบลอบช่วยเหลือหยุนอี่ว์โหรวกระทำเรื่องราวต่างๆ มากมายแล้วถึงเพียงนั้น……

คิดเสร็จสิ้นแล้ว ปี้หยุนก็รีบเร่งคลานเข้ามา โขกศีรษะต่อองค์ไทเฮาอย่างต่อเนื่อง โขกจนศีรษะเป็นแผลหลั่งเลือดแล้วก็ยังมิหยุดลง “ขอร้องไทเฮา โปรดช่วยเหลือเหนียงเหนียงของเรือนหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!”

“แม้ว่าเหนียงเหนียงนางได้กระทำความผิดอย่างใหญ่หลวง แต่ก็มิอาจไม่สนใจใยดีต่อชีวิตของนางเช่นนี้แล้ว! นอกจากนี้ นอกจากนี้ล้วนสืบเนื่องมาจากเพราะเหนียงเหนียงรักองค์ฮ่องเต้มากเกินไปแล้ว จึงได้กระทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”

“ท่านมีเมตตาธรรมอันใหญ่หลวง ขอได้ทรงโปรดกรุณาไว้ชีวิตเหนียงเหนียงด้วย!”

ยามกะทันหัน เสียงร้องขอความช่วยเหลือในตำหนักหยูซินก็ดังขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุดทันใด หนวกหูจนทำให้องค์ไทเฮาก็ยังปวดศีรษะแล้ว

เห็นหยุนอี่ว์โหรวนายและบ่าวสองคนบังอาจโอหังเช่นนี้ เซียงอวี้ก็ยังรู้สึกโมโหแทบตายแล้ว “เจ้าสอดปากอะไรด้วย!”

“เหนียงเหนียงของเรือนเจ้าชั่วร้ายมากเพียงใด หรือว่าเจ้ายังไม่รู้อยู่แก่ใจอีกหรือ? วันนี้ฮองเฮาและฮ่องเต้ต้องการลงโทษนาง เจ้าไฉนจึงมีคุณสมบัติมาขออภัยโทษด้วย!”

“พอได้แล้ว!” ทันใดนั้น เสียงพิโรธโกรธกริ้วของกู้โม่หานก็ดังขึ้น ขัดจังหวะสภาพแวดล้อมเสียงดังเซ็งแซ่จนอื้ออึงเมื่อครู่นี้ลงแล้ว

ทันทีที่เสียงเขาดังขึ้น ทุกคนล้วนเงียบสงบปากคำมิกล้าพูดอะไรอีก มองดูกู้โม่หานที่สีหน้าช่างเขียวคล้ำหม่นหมองอย่างตื่นตะลึงตกใจ

ดวงตาสวยงามเรียวยาวของเขาเย็นเฉียบดุจดั่งหล่มน้ำแข็ง ท่วมท้นเต็มเปี่ยมด้วยเพลิงโทสะความเคียดแค้นเกลียดชังเทียมฟ้า

“วันนี้ใครก็ไม่สามารถช่วยนางได้!”

“ผู้ใดขัดขวาง ข้าจะลงโทษประหารชีวิต——”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *