คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์บทที่ 1927
คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1927
โดน็อกนั้นอยู่ที่เวสต์ริงตันมานานจนเขาคุ้นเคยกับธรรมเนียมของที่นี่ เขาเดาได้ทันทีว่าพวกเสนาบดีต้องตั้งให้แดร์ริลขึ้นเป็นจักรพรรดิตอนที่เขาหลบหนีมา หนึ่งวันก่อนหน้าเขายังเป็นจักรพรรดิที่สูงส่งและทรงอำนาจ เพียงพริบตาเขาก็กลายเป็นนักโทษหลบหนีขณะที่ศัตรูคู่แค้นอย่างแดร์ริลยึดบัลลังก์ของเขาและกลายเป็นจักรพรรดิ
เรื่องที่ทำให้โดน็อกยิ่งโมโหก็คือพวกที่ไล่ตามเขาอยู่นี่เคยเป็นคนที่เคารพเขามาก่อน พวกนี้เริ่มไล่ล่าเขาทันทีที่เขานั้นหมดอำนาจ
โดน็อกไม่สามารถรับชะตาชีวิตที่พลิกผันหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ได้
‘ไอ้เวรแดร์ริล แกรอก่อนเถอะ ฉันจะต้องกลับมาจัดการกับแกแน่ถ้าฉันได้มีอำนาจอีกครั้ง’
โดน็อกกัดฟันกรอดขณะที่คิดเช่นนั้นและรีบเร่งฝีเท้า
พวกผู้บ่มเพาะที่กวดตามเขามาต่างก็หัวเสียเมื่อได้เห็นเช่นนั้น
“แกยังกล้าหนีอีกเหรอ?”
“เวร แกไม่มีที่ไหนให้หนีไปอีกแล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมแพ้อีกโดน็อก? แกคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสรอดไปได้เหรอ?”
“เลิกพูดพล่ามไร้สาระแล้วไล่ตามมันไป”
บรรดาผู้บ่มเพาะต่างก็ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวและเร่งฝีเท้าไล่ตามโดน็อกไป
ก่อนหน้านี้โดน็อกโดนแดร์ริลทำให้บาดเจ็บและก็โดนฟลอเรียนโจมตีซ้ำตอนอยู่ในพระราชวัง เขานั้นต้องหนีเอาชีวิตรอดแถมตอนนี้ก็เหนื่อยแทบขาดใจ ตอนนั้นเขาหลงทิศและวิ่งสะเปะสะปะไปด้วยความตื่นตระหนกและโมโห สุดท้ายเขาก็ไปหยุดที่หน้าผาโดยไม่รู้ตัวและมีบรรดาผู้บ่มเพาะกลุ่มหนึ่งยังไล่ตามมา
“โอ้”
โดน็อกไม่รู้ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปไหนเพราะว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้วตอนที่เขามาถึงหน้าผา เขาก้าวพรวดไปสู่ความว่างเปล่า ไม่สามารถทำอะไรได้ทันก่อนที่จะโผร่วงลงไปจากหน้าผา
‘บ้าเอ๊ย’
โดน็อกตกใจและโมโหมากขณะที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ เขาจับขวานแยกนภาไว้แน่นพร้อมปัดป่ายมืออีกข้างไม่หยุด พยายามที่จะคว้าจับอะไรก็ได้ไว้ แต่ว่าผนังของหน้าผาที่เขารู้สึกนั้นราบเรียบเหมือนแผ่นกระจก
‘ฉันจบสิ้นแล้ว ตกมาจากความสูงขนาดนี้ฉันไม่มีทางรอดแน่’
โดน็อกนั้นสิ้นหวังจนเกินบรรยายขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกได้ว่าหน้าผานั้นสูงมาก หากว่าเขาไม่สามารถหยุดยั้งการตกนี้ได้ เขาก็ต้องตายแน่ ๆ เพราะว่าพลังภายในของเขานั้นยังไม่ฟื้นตัว
“โอ้”
เวลาเดียวกันนั้น กลุ่มผู้บ่มเพาะบนหน้าผาก็ต่างมองหน้ากัน
“เขาร่วงลงไปสูงขนาดนี้ต้องตายแน่”
“ใช่ เขาบาดเจ็บหนักอยู่แล้วและต้องไม่มีทางรอดจากการตกนี้ไปได้แน่”
“เรากลับไปรายงานฝ่าบาทกันเถอะ”
พวกผู้บ่มเพาะปรึกษากันก่อนที่จะกลับไปตามทางที่มา มุ่งสู่เมืองหลวง
…
ขณะเดียวกันที่หุบเขาง้อไบ๊ในจักรวาลโลก
เมแกนนั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมสีหน้าชั่วร้าย เธอใส่ชุดยาวสีม่วง ดูราวกับเป็นเทพธิดาน้ำแข็ง กลิ่นอายที่เธอแผ่ออกมาก็น่าหวาดหวั่น
วัตสันคุกเขาอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมหลั่งเหงื่อเย็นไม่หยุด ทั้งมือและขาของเขาสั่นเทา
“นายบอกว่าเห็นลิลี่ ลินดันกลับมาแล้วเหรอ?” เมแกนมองวัตสันอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “นายอยากพาเธอมาที่สำนักง้อไบ๊เพื่อสอบสวนเรื่องที่อยู่ของแดร์ริลแต่ว่าสู้ชายสองคนที่อยู่กับเธอไม่ได้งั้นเหรอ? นายเป็นประมุขนิกายทักเกอร์แต่ก็ยังทำเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ไม่ได้ แล้วนายจะมีประโยชน์อะไรกับฉัน?”
“ท่านหัวหน้าพันธมิตร”
วัตสันกลืนน้ำลายและตอบอย่างประหม่าเสียงสั่นว่า “ผมพยายามเต็มที่แล้ว แต่ว่าชายสองคนที่อยู่กับลิลี่นั้นแข็งแกร่งมากเกินไป คนหนึ่งก็คือดีไวน์ ฟาร์มเมอร์ส่วนอีกคนคือซู่หรง ผมไม่ใช่คู่มือพวกเขา”
‘อะไรนะ?’
เมแกนสั่นสะท้านเมื่อได้ยินและมองวัตสันอย่างตกตะลึง เธอตกใจมาก
เธอตะใจจนพูดไม่ออก
ซู่หรง? ดีไวน์ ฟาร์มเมอร์?
ทั้งสองคนนี้เป็นบุคคลแข็งแกร่งที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ แล้วทำไมถึงอยู่กับลิลี่ได้?
ลิลี่ทำอะไรถึงมีค่าให้ชายสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดปกป้องเธอ?
เมแกนมองวัตสันขณะที่คิดและเธอบอกว่า “นี่นายพูดเรื่องจริงเหรอ?”
“ครับ จริงแท้แน่นอน” วัตสันพยักหน้ารัวก่อนที่จะรีบตอบว่า “แม้ว่าผมจะใจกล้า แต่ก็ไม่กล้าโกหกคุณหรอกท่านหัวหน้าพันธมิตร คนของผมสองสามคนโดนซู่หรงเผาเป็นเถ้าจนไม่เหลือซากด้วยซ้ำ”
วัตสันนั้นใจสลายเมื่อคิดถึงคนของตนที่ตายไป
Comments